สวัสดีค่ะเพื่อนพ้องน้องพี่ทั้งบุรุษและชะนีทั้งหลาย วันนี้อิชั้นนางสาวสยามจะมาเล่าประสบการณ์เที่ยวเกาะเสม็ดที่เขาว่าไปแล้วจะเสร็จทุกรายให้ทุกท่านได้เสพกันถ้วนหน้า แต่เนื่องจากไม่ได้ตั้งใจจะมารีวิวในตอนแรกจึงขออภัยหากรูปไม่ครบ ถือซะว่าเป็นการอ่านไดอะรี่ของชะนีไปแล้วกันนะคะ รีวิวครั้งนี้อิชั้นจะใช้รูปสดที่ถ่ายจากกล้องไอโฟน4 5 6 และกล้องฟูจิxa2นะคะ จะไม่มีการปรับสีใดๆทั้งสิ้นเพื่อความสมจริงมากที่สุดนะคะ
เริ่มแรกก่อนเดินทางจขกท.และเพื่อนๆได้มีการนัดแนะกันในกลุ่มไลน์ว่าจะไปทะเลกัน ละมีเพื่อนคนหนึ่งขอเรียกว่าซ่าละกันนะคะ คือไอซ่าเนี่ยมันก็ได้เสนอมาว่าเสม็ดไหมเสม็ดไหมเสม็ดเย่! ก็เถียงกันอยู่นานสุดท้ายเสม็ดค่ะ
เมื่อได้สถานที่แล้วก็เข้าไปหาข้อมูลที่พักกันค่ะ โดยตกลงกันว่าจะไปหาดวงเดือน ก็เปิดเว็บไซต์แอดไลน์ไปคุยกันเรียบร้อย โดยตกลงค่าห้องพัก3000บาท+เตียงเสริม500บาท+2คืน=7000บาท นี่ค่ะภาพที่พักที่ทางรีสอร์ทส่งมา
จากนั้นชะนีก็ปลื้มปริ่มค่ะ ยอมรับว่าดีใจมากที่หาที่พักที่เสม็ดได้ในราคาถูกขนาดนี้ได้ จากนั้นอิชั้นก็ไปอ่านรีวิวในพันทิพเลยค่ะ ต่างคนก็ชมอาหารไม่แพง ที่พักโอเค มีสระว่ายน้ำ ก็ยิ่งดีใจค่ะได้ที่พักถูกและดีขนาดนี้ แต่เดี๋ยวค่ะ จุดพีคมันอยู่ตรงนี้ ในรีวิวบอกไว้ว่าวงเดือนรีสอร์ท แต่ในไลน์ที่คุยกันชื่อวงเดือนวิลล่า เอาแล้วไงล่ะท่านผู้ชมขาาา สรุปมี2ที่ใช้ชื่อวงเดือนต่างแต่รีสอร์ทกับวิลล่า แต่กระนั้นอิชั้นก็ยังมีความเชื่อมั่นว่าที่ของเราจะมีสระว่ายน้ำ จึงบอกเพื่อนๆให้เตรียมชุดว่ายน้ำไปให้พร้อม อ้าวสามสี่พร้อม!!
ก่อนเดินทางเรานัดกันว่าจะนั่งรถตู้จากหน้าม.ศิลปากรไปลงอนุสาวรีย์ละต่อรถตู้ไประยอง แต่พอถึงวันเดินทางพ่อของน้องซ่าคนเดิมเพิ่มเติมเดี๋ยวบอกเนี่ยก็เกิดอาการสงสารเด็กน้อยตาดำๆอย่างพวกเรา จึงให้รถประจำตำแหน่งพร้อมคนขับมา1คน คือพี่ชายของซ่าเองคือพี่บีม แถมพี่บีมเนี่ยก็เอาบอดี้การ์ดคู่ใจมาอีก1คนคือน้องไนซ์ ทำให้ทริปนี้มีเพื่อนร่วมเดินทางทั้งหมด9คน ความทรหดได้เริ่มต้นที่ตรงนี้ค่ะ นี่คือโฉมหน้าพระเอกที่จะพาเราไปเสม็ดกันค่ะ
หลายคนเห็นแล้วอาจตกใจ เฮ้ยจะไปยังไงกันหมด ไม่ต้องห่วงค่ะจากที่คำนวนดูแล้วหารค่าน้ำมันกันจะถูกกว่าค่ารถตู้ไปกลับค่ะ ดังนั้น ชะนียอมทุกวิถีทางค่ะ ลุย!
เราเริ่มต้นออกเดินทางกันจากนครชัยศรีตอน7โมงเช้ากว่าๆหน่อย ตอนนี้บนรถก็จะมีทั้งหมด8คน คือจะมีเพื่อนอีก1คนที่นัดขึ้นระหว่างทางที่เมกะบางนา โดยในรถเราจะจัดที่นั่งดังนี้ค่ะ พี่บีมเป็นคนขับ ส่วนน้องไนซ์เป็นผู้ชาย พวกเราก็ให้เกลียดนางค่ะ อุ้ยขออภัยเกียรติค่ะให้นางได้นั่งหน้าคู่คนขับไป ส่วนผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเราก็อัดกันไปข้างหลังค่ะ พอใกล้ถึงบางนาก็ให้เพื่อนโทรตามเพื่อนค่ะ สรุปน้องนางอยู่หอจ้ากำลังจะรีบมา เมื่อได้ฟังดังนั้นในใจเพื่อนๆคงอยากบอกว่า Eเบียร์นี่เมิงสายอีกแล้วเหรอฮ๊าา! แต่ไม่ค่ะวันนี้ฤกษ์ดีใจต้องร่มๆค่ะ555 พวกเรา6คนเลยเดินไปเรื่อยๆหาอะไรกินกัน สรุปได้โจ๊กแมคค่ะ
อันนี้ขอนอกเรื่องนะคะ ไหนๆก็มารีวิวแล้ว เลยอยากจะแถมโจ๊กถ้วยนี้ไปด้วย โจ๊คแม็คราคา29บาท มีให้เลือกไก่กับหมูถือว่าราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับราคาตามร้านอาหารฟาสฟู้ตแบบนี้ ไก่ในโจ๊กไม่มากและไม่น้อยจนน่าเกลียด เพิ่มไข่บวก10บาท รสชาติใช้ได้ค่ะ แต่เสียที่รอนานมั่กๆ นานขนาดที่ว่าสั่งตอนรอน้องเบียร์จนนางนั่งแท็กซี่มาถึงโจ๊กยังไม่ได้เลยค่ะท่านผู้ชมขาาา
โอเค ตัดกลับมาฉากรอเพื่อนต่อนะคะ เรารอกันไปสักพัก นางคุณนายตื่นสายของเราก็มาค่ะ เรียกได้ว่ามาช้าแต่มาเต็มมาก ออร่ากระจายแบบเพื่อนที่รอนี่เป็นก้อนหินต้นไม้กันได้เลยค่ะ555
พอทำธุระกันเสร็จเราก็ออกเดินทางกันต่อค่ะ ตอนแรกตกลงกันไว้ว่าจะเบียดกันไปพอหมดมอเตอร์เวย์แล้วจะแบ่งกันไปนั่งหลังกระบะ แต่เอาเข้าจริงทนไม่ไหวค่ะ แดดเมืองไทยร้อนมากกกก ดังนั้น ชะนีจึงยอมเบียดเพื่อให้เกียรติสีผิวเราค่ะ
จากนั้นเราก็นั่งกันมาแบบนี้จนถึงระยอง นั่งตักกันไปมาจนขานี่แฉะเหงื่อกันถ้วนหน้า เอาแบบจะเร่งแอร์แค่ไหนไม่บรรเทาความแฉะได้เลย
พอถึงบ้านเพทุกคนมีความรู้สึกเดียวกันเลย เหมือนได้กลับบ้านหลังจากจำคุกมา15ปี กลิ่นเค็มๆของทะเลเริ่มแตะจมูกเข้ามาใกล้ทุกทีแล้ว แต่เดี๋ยวก่อนแต่ไหนแต่ไร ใครๆก็บอกว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้อง ขืนจะปล่อยให้ท้องร้องจนกว่าจะถึงก็ใจร้ายเกินไป พวกเราเลยแวะกินข้าวก่อนจะข้ามเรือไปเกาะ ชื่อร้านอะไรจำไม่ได้555 แต่มีสปอนเซอร์คือลุงของซ่า สรุปมื้อนี้ฟรีค่าา
ผัดไทยทะเล เครื่องมาแน่น ทั้งกุ้งและปลาหมึก โดยรวมแล้วรสชาติโอเค แต่ติดตรงที่ตอนคุณลุงไปจ่ายตัง ได้ยินถามว่าราคานักท่องเที่ยวหรือราคาบ้านเพ ในใจคิดเลย อ้าวทำไมมี2ราคา งั้นถ้าบอกราคานักท่องเที่ยวก็ฟันหัวแบะเลยล่ะสิ สุดท้าย ราคาบ้านเพก็โดนฟันเหมือนกันจ้า ไทยเที่ยวไทยซื้อของแพงคนไทยมาใช้ ขายของกินคนไทยแพงๆ
พอกินอิ่ม เราก็มาหาเรือไปเกาะกัน แต่กระนั้นก็ช่างโชคร้ายแทงใจศรี เรือธรรมดาต้องรอถึง4โมงเย็นเพราะเรือพึ่งไป ซึ่งตอนนั้นเพิ่งจะบ่าย2โมงครึ่ง มีป้าคนหนึ่งเดินมาเสนอราคาว่าไปสปีดโบ๊ท350บาท เราก็หันหน้ามาตกลงกัน ประมานว่า 350บาทนี่มันแพงมากเลยนะ เราอุตส่าห์ประหยัดค่ารถตู้แล้วแท้ๆ แต่เอ๊ะถ้าไม่ไปจะไปอยู่ไหนรอ ซึ่งตอนนั้นแดดร้อนมากๆ พอคุยไปมา350รวมกลับด้วย แต่กลับจะนั่งเรือยนต์ธรรมดา ก็เริ่มลังเล เอาวะ350ก็ได้ๆ ไปค่ะ แต่พอจะไปป้าถามไปหาดไหนคะลูก พอตอบป้าไปว่าวงเดือนค่ะ ป้ารีบตอบกลับมาว่า "อุ้ย วงเดือนหรอจ๊ะ ป้าคิดว่าไปทรายแก้ว ถ้าวงเดือน400บาทจ่ะ" ทุกคนมองหน้ากันแบบไม่ต้องพูดอะไรก็เข้าใจกันทุกอย่าง~~ สุดท้ายต่อรองกันไปมาได้350เท่าเดิม ป้าจึงให้ไปลงเรือค่ะ
ทริปเสม็ดที่ไปแล้วไม่เสร็จแต่เด็ดมาก ( พรีเซนต์บายไฉไลคนสวย )
เริ่มแรกก่อนเดินทางจขกท.และเพื่อนๆได้มีการนัดแนะกันในกลุ่มไลน์ว่าจะไปทะเลกัน ละมีเพื่อนคนหนึ่งขอเรียกว่าซ่าละกันนะคะ คือไอซ่าเนี่ยมันก็ได้เสนอมาว่าเสม็ดไหมเสม็ดไหมเสม็ดเย่! ก็เถียงกันอยู่นานสุดท้ายเสม็ดค่ะ
เมื่อได้สถานที่แล้วก็เข้าไปหาข้อมูลที่พักกันค่ะ โดยตกลงกันว่าจะไปหาดวงเดือน ก็เปิดเว็บไซต์แอดไลน์ไปคุยกันเรียบร้อย โดยตกลงค่าห้องพัก3000บาท+เตียงเสริม500บาท+2คืน=7000บาท นี่ค่ะภาพที่พักที่ทางรีสอร์ทส่งมา
จากนั้นชะนีก็ปลื้มปริ่มค่ะ ยอมรับว่าดีใจมากที่หาที่พักที่เสม็ดได้ในราคาถูกขนาดนี้ได้ จากนั้นอิชั้นก็ไปอ่านรีวิวในพันทิพเลยค่ะ ต่างคนก็ชมอาหารไม่แพง ที่พักโอเค มีสระว่ายน้ำ ก็ยิ่งดีใจค่ะได้ที่พักถูกและดีขนาดนี้ แต่เดี๋ยวค่ะ จุดพีคมันอยู่ตรงนี้ ในรีวิวบอกไว้ว่าวงเดือนรีสอร์ท แต่ในไลน์ที่คุยกันชื่อวงเดือนวิลล่า เอาแล้วไงล่ะท่านผู้ชมขาาา สรุปมี2ที่ใช้ชื่อวงเดือนต่างแต่รีสอร์ทกับวิลล่า แต่กระนั้นอิชั้นก็ยังมีความเชื่อมั่นว่าที่ของเราจะมีสระว่ายน้ำ จึงบอกเพื่อนๆให้เตรียมชุดว่ายน้ำไปให้พร้อม อ้าวสามสี่พร้อม!!
ก่อนเดินทางเรานัดกันว่าจะนั่งรถตู้จากหน้าม.ศิลปากรไปลงอนุสาวรีย์ละต่อรถตู้ไประยอง แต่พอถึงวันเดินทางพ่อของน้องซ่าคนเดิมเพิ่มเติมเดี๋ยวบอกเนี่ยก็เกิดอาการสงสารเด็กน้อยตาดำๆอย่างพวกเรา จึงให้รถประจำตำแหน่งพร้อมคนขับมา1คน คือพี่ชายของซ่าเองคือพี่บีม แถมพี่บีมเนี่ยก็เอาบอดี้การ์ดคู่ใจมาอีก1คนคือน้องไนซ์ ทำให้ทริปนี้มีเพื่อนร่วมเดินทางทั้งหมด9คน ความทรหดได้เริ่มต้นที่ตรงนี้ค่ะ นี่คือโฉมหน้าพระเอกที่จะพาเราไปเสม็ดกันค่ะ
หลายคนเห็นแล้วอาจตกใจ เฮ้ยจะไปยังไงกันหมด ไม่ต้องห่วงค่ะจากที่คำนวนดูแล้วหารค่าน้ำมันกันจะถูกกว่าค่ารถตู้ไปกลับค่ะ ดังนั้น ชะนียอมทุกวิถีทางค่ะ ลุย!
เราเริ่มต้นออกเดินทางกันจากนครชัยศรีตอน7โมงเช้ากว่าๆหน่อย ตอนนี้บนรถก็จะมีทั้งหมด8คน คือจะมีเพื่อนอีก1คนที่นัดขึ้นระหว่างทางที่เมกะบางนา โดยในรถเราจะจัดที่นั่งดังนี้ค่ะ พี่บีมเป็นคนขับ ส่วนน้องไนซ์เป็นผู้ชาย พวกเราก็ให้เกลียดนางค่ะ อุ้ยขออภัยเกียรติค่ะให้นางได้นั่งหน้าคู่คนขับไป ส่วนผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเราก็อัดกันไปข้างหลังค่ะ พอใกล้ถึงบางนาก็ให้เพื่อนโทรตามเพื่อนค่ะ สรุปน้องนางอยู่หอจ้ากำลังจะรีบมา เมื่อได้ฟังดังนั้นในใจเพื่อนๆคงอยากบอกว่า Eเบียร์นี่เมิงสายอีกแล้วเหรอฮ๊าา! แต่ไม่ค่ะวันนี้ฤกษ์ดีใจต้องร่มๆค่ะ555 พวกเรา6คนเลยเดินไปเรื่อยๆหาอะไรกินกัน สรุปได้โจ๊กแมคค่ะ
อันนี้ขอนอกเรื่องนะคะ ไหนๆก็มารีวิวแล้ว เลยอยากจะแถมโจ๊กถ้วยนี้ไปด้วย โจ๊คแม็คราคา29บาท มีให้เลือกไก่กับหมูถือว่าราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับราคาตามร้านอาหารฟาสฟู้ตแบบนี้ ไก่ในโจ๊กไม่มากและไม่น้อยจนน่าเกลียด เพิ่มไข่บวก10บาท รสชาติใช้ได้ค่ะ แต่เสียที่รอนานมั่กๆ นานขนาดที่ว่าสั่งตอนรอน้องเบียร์จนนางนั่งแท็กซี่มาถึงโจ๊กยังไม่ได้เลยค่ะท่านผู้ชมขาาา
โอเค ตัดกลับมาฉากรอเพื่อนต่อนะคะ เรารอกันไปสักพัก นางคุณนายตื่นสายของเราก็มาค่ะ เรียกได้ว่ามาช้าแต่มาเต็มมาก ออร่ากระจายแบบเพื่อนที่รอนี่เป็นก้อนหินต้นไม้กันได้เลยค่ะ555
พอทำธุระกันเสร็จเราก็ออกเดินทางกันต่อค่ะ ตอนแรกตกลงกันไว้ว่าจะเบียดกันไปพอหมดมอเตอร์เวย์แล้วจะแบ่งกันไปนั่งหลังกระบะ แต่เอาเข้าจริงทนไม่ไหวค่ะ แดดเมืองไทยร้อนมากกกก ดังนั้น ชะนีจึงยอมเบียดเพื่อให้เกียรติสีผิวเราค่ะ
จากนั้นเราก็นั่งกันมาแบบนี้จนถึงระยอง นั่งตักกันไปมาจนขานี่แฉะเหงื่อกันถ้วนหน้า เอาแบบจะเร่งแอร์แค่ไหนไม่บรรเทาความแฉะได้เลย
พอถึงบ้านเพทุกคนมีความรู้สึกเดียวกันเลย เหมือนได้กลับบ้านหลังจากจำคุกมา15ปี กลิ่นเค็มๆของทะเลเริ่มแตะจมูกเข้ามาใกล้ทุกทีแล้ว แต่เดี๋ยวก่อนแต่ไหนแต่ไร ใครๆก็บอกว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้อง ขืนจะปล่อยให้ท้องร้องจนกว่าจะถึงก็ใจร้ายเกินไป พวกเราเลยแวะกินข้าวก่อนจะข้ามเรือไปเกาะ ชื่อร้านอะไรจำไม่ได้555 แต่มีสปอนเซอร์คือลุงของซ่า สรุปมื้อนี้ฟรีค่าา
ผัดไทยทะเล เครื่องมาแน่น ทั้งกุ้งและปลาหมึก โดยรวมแล้วรสชาติโอเค แต่ติดตรงที่ตอนคุณลุงไปจ่ายตัง ได้ยินถามว่าราคานักท่องเที่ยวหรือราคาบ้านเพ ในใจคิดเลย อ้าวทำไมมี2ราคา งั้นถ้าบอกราคานักท่องเที่ยวก็ฟันหัวแบะเลยล่ะสิ สุดท้าย ราคาบ้านเพก็โดนฟันเหมือนกันจ้า ไทยเที่ยวไทยซื้อของแพงคนไทยมาใช้ ขายของกินคนไทยแพงๆ
พอกินอิ่ม เราก็มาหาเรือไปเกาะกัน แต่กระนั้นก็ช่างโชคร้ายแทงใจศรี เรือธรรมดาต้องรอถึง4โมงเย็นเพราะเรือพึ่งไป ซึ่งตอนนั้นเพิ่งจะบ่าย2โมงครึ่ง มีป้าคนหนึ่งเดินมาเสนอราคาว่าไปสปีดโบ๊ท350บาท เราก็หันหน้ามาตกลงกัน ประมานว่า 350บาทนี่มันแพงมากเลยนะ เราอุตส่าห์ประหยัดค่ารถตู้แล้วแท้ๆ แต่เอ๊ะถ้าไม่ไปจะไปอยู่ไหนรอ ซึ่งตอนนั้นแดดร้อนมากๆ พอคุยไปมา350รวมกลับด้วย แต่กลับจะนั่งเรือยนต์ธรรมดา ก็เริ่มลังเล เอาวะ350ก็ได้ๆ ไปค่ะ แต่พอจะไปป้าถามไปหาดไหนคะลูก พอตอบป้าไปว่าวงเดือนค่ะ ป้ารีบตอบกลับมาว่า "อุ้ย วงเดือนหรอจ๊ะ ป้าคิดว่าไปทรายแก้ว ถ้าวงเดือน400บาทจ่ะ" ทุกคนมองหน้ากันแบบไม่ต้องพูดอะไรก็เข้าใจกันทุกอย่าง~~ สุดท้ายต่อรองกันไปมาได้350เท่าเดิม ป้าจึงให้ไปลงเรือค่ะ