ขอเริ่มต้นกระทู้นี้ ด้วยการออกตัวไว้ก่อนว่า ทุกตัวอักษร ทุกความคิดเห็น กลั่นและกรองออกมาจากสมองและหัวใจของดิฉันเพียงคนเดียว
ใครเห็นด้วย ก็เห็นด้วย ... ใครไม่เห็นด้วย ดิฉันก็ไม่ซีเรียสอะไร … ไม่มีความจำเป็น ที่ความคิดเห็นต้องตรงกัน
และนอกเหนือจากผลงานในสนามแล้ว ดิฉันขออนุญาตวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องอื่นๆด้วย
อาจจะเกินเลยขอบเขตไปบ้าง ขออภัยนักเตะทุกคนไว้ล่วงหน้า
ดิฉันยืนยันได้แต่เพียงว่า ความคิดเห็นทั้งหมด มาจากความรู้สึกรักและเอ็นดูนักเตะทุกคน ด้วยใจจริง
(เลือกใช้คำว่า “เอ็นดู” เพราะในช่วงที่ดิฉันเริ่มดูฟุตบอล นักเตะบางคนยังไม่เกิดเลย … ขอไว้อาลัยให้กับ “ความแก่” ของตัวเองแป๊บนึง)
ผู้รักษาประตู : ชนินทร์ แซ่เอี๊ยะ และสมพร ยศ
ด้วยสถิติที่เสียประตูเพียงแค่ประตูเดียว จากทั้งหมด 6 นัด (ในรอบแบ่งกลุ่มและรอบรองชนะเลิศ) ยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า
ผู้เล่นในแนวรับทุกคน ซึ่งแน่นอนว่าต้องรวมถึงผู้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู ทำหน้าที่ของตนเองได้อย่าง “สมบูรณ์แบบ”
น่าเสียดายที่ในทัวร์นาเม้นท์นี้ “สมพร ยศ” ได้รับโอกาสไม่มากนัก แต่นัดที่ลงสนาม ก็ทำผลงานได้ดี สามารถรักษาคลีนชีทเอาไว้ได้
มีความเชื่อมั่นว่า ถ้าสมพร ยศ ได้มีโอกาสลงสนามหลายนัด ทีมชาติไทยก็คงจะไม่เสียประตูมากไปกว่านี้ อย่างแน่นอน
ขอกล่าวถึง “ชนินทร์ แซ่เอี๊ยะ” ผู้รักษาประตูหน้าตาเกาหลี จากสโมสรชัยนาท ฮอร์นบิล (ยืมตัวจากชลบุรี) เพิ่มเติมเล็กน้อย
แม้จะเป็นผู้รักษาประตูที่ดูไม่ได้เปรียบในเรื่องของรูปร่าง แต่ชนินทร์ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า
ความไม่ค่อยสูงและความอวบ ไม่ใช่อุปสรรคต่อการเล่นลูกกลางอากาศ เพราะชนินทร์เป็นนักเตะที่มีสปริงข้อเท้าที่ดี สามารถเทคตัวได้สูง
ดวงตาเล็กๆของชนินทร์ ก็ไม่ใช่ปัญหาเช่นกัน เพราะเมื่อใช้งานร่วมกับสมองแล้ว ชนินทร์จัดเป็นผู้รักษาประตูที่อ่านเกมได้ดี อ่านได้ขาด
และความโดดเด่นที่สุดของโอปป้าชนินทร์คือ เป็นผู้รักษาประตูที่มีการเคลื่อนที่และปฏิกิริยารวดเร็วมาก
โดยภาพรวมแล้ว ชนินทร์เป็นผู้รักษาประตูที่เก่ง ทำหน้าที่ได้ดี และเป็นตัวอย่างที่ดี ในเรื่องของการชดเชยจุดบกพร่องทางกายภาพได้
(บรรทัดข้างบนนี้ ขอโทษที นึกคำพูดที่ดีกว่านี้ไม่ออก พยายามจะบอกว่าเป็นการดึงศักยภาพด้านอื่นๆมาเติมเต็มในจุดด้อยของรูปร่าง)
เรื่องทรงผม คงไม่ต้องวิพากษ์วิจารณ์ บอกได้สั้นๆว่า “สร้างสรรค์ทุกทรง” สารภาพว่าแอบขำทุกครั้งที่เห็นขนมอาลัวอยู่บนหัวของชนินทร์
และอีกหนึ่งเรื่องราวของชนินทร์ที่อยากจะแชร์ ... มีความรู้สึกว่า ชนินทร์เป็นนักเตะที่ให้เกียรติแฟนบอลผู้หญิง
ในสนามอาจจะเป็นมือกาว แต่นอกสนาม ไม่เคยรุ่มร่ามกับแฟนบอลสาวๆเลย
(ความคิดเห็นในส่วนนี้ อาศัยการสังเกตจากภาพถ่ายกับแฟนบอล ชนินทร์มักจะยืนค้อมตัวเข้ามานิดๆ มือทั้งสองข้างไขว้หลังตัวเองไว้ตลอด)
มองดูแล้วรู้สึกว่า ค่อนข้างระมัดระวัง ดูให้เกียรติผู้หญิง ... ภาพแบบนี้มีให้เห็นบ่อยๆจนรู้สึกว่า นอกจากจะตลกแล้ว ยังเป็นคนน่ารักอีกด้วย
แบ็คขวา : นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม และทริสตอง โด
แบ็คขวา ตำแหน่งที่น่ากลัวที่สุดในทีม เพราะแบ็คขวาทั้งสองตัวเลือก ต่างก็มีใบหน้าและสายตาเป็นอาวุธ (ซึ่งน่าจะใช้ได้กับสาวๆเท่านั้น)
นฤบดินทร์และทริสตอง โด หน้าตาดีคนละแบบ ฝีเท้าของทั้งคู่ก็เช่นกัน มีดีและด้อยแตกต่างกันไป แต่ในภาพรวมแล้ว ถือว่าน่าพอใจทั้งคู่
สำหรับ “ทริสตอง โด” สิ่งที่เห็นได้ชัดจากทัวร์นาเม้นท์นี้ คือความสามารถในการทำประตู ทักษะในการทำประตูดี น่าประทับใจ
แต่ก็ยังมองเห็นความผิดพลาดในเกมรับอยู่หลายจังหวะ (โดยเฉพาะในนัดแรกๆ) แต่ในนัดต่อๆมา ความผิดพลาดก็แทบไม่มีให้เห็นเลย
เป็นนักเตะที่มีพัฒนาการ มีความมุ่งมั่นและทุ่มเท ควรได้รับโอกาส และน่าส่งเสริม
“นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม” ก็ไม่น้อยหน้า แม้ว่าจะไม่ได้ยิงประตูสุดสวยแบบทริสตอง โด แต่ก็ทำประตูได้ จากทั้งจากการโหม่งและการยิง
(ขอให้เครดิตว่า เป็นพัฒนาการของนฤบดินทร์ เพราะก่อนหน้านี้ไม่นานมาก นฤบดินทร์ยังถูกติติงในเรื่องของการทำประตูอยู่)
สรุปจากมุมของตนเองว่า แบ็คขวาทั้งสองคน ลงสนามแล้วไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวัง ฝีเท้าพอฟัดพอเหวี่ยงกัน ไม่มีใครด้อยไปกว่าใคร
เอ่อ ... ขอกล่าวถึงนฤบดินทร์เพิ่มเติมเล็กน้อย มีหลายคนเคยแสดงความคิดเห็นเอาไว้ว่า นฤบดินทร์หน้าตาเหมือน “หม่ำ”
ตอนแรกก็รู้สึกขำๆ แต่จังหวะที่ยิงประตูอินโดนีเซียได้ มองผ่านจอทีวีแล้วแอบยิ้มคนเดียว “นฤบดินทร์คือหม่ำ เวอร์ชั่นหน้าตาดี” อิอิ
ถึงจะหน้าหม่ำ (และน่าหม่ำ) แต่นฤบดินทร์ก็เป็นนักเตะที่หน้าตาน่ารักที่สุดในทีม (นี่ไม่ใช่การตบหัวแล้วลูบหลังนะ คิดอย่างที่ชมจริงๆ)
เซ็นเตอร์แบ็ค : ธนบูรณ์ เกษารัตน์ , อดิศร พรหมรักษ์ และอาทิตย์ ดาวสว่าง
สำหรับ “ธนบูรณ์ อดิศร และอาทิตย์” คงไม่ต้องบรรยายยาวๆ ... เครื่องหมายการค้าของพวกเค้าคือ เข้าบอลง่าย แต่ได้ประสิทธิภาพ
ขอคอมเม้นท์สั้นๆว่า ชื่อของทั้ง 3 คน การันตีได้เลยว่า แฟนบอลจะอุ่นใจ ... และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
สำหรับ “ธนบูรณ์ เกษารัตน์” ชื่อนี้ผลงานขึ้นหิ้ง ทัวร์นาเม้นท์นี้เห็นธนบูรณ์เตะวืดครั้งนึง ถือว่าเป็นบุญตา ของแบบนี้ไม่ใช่จะหาดูได้ง่ายๆ อิอิ
เพิ่มเติมในส่วนของ “อาทิตย์ ดาวสว่าง” นาทีนี้ ถ้าไม่พูดถึงนักเตะคนนี้ คงหลุดกระแส
อาทิตย์ ดาวสว่าง กองหลังสารพัดประโยชน์ของทีมชาติไทย เรียกว่าในแผงหลังแบ็คโฟร์ อาทิตย์น่าจะสามารถเล่นได้ดีทุกตำแหน่ง
อาทิตย์อาจจะถูกกล่าวถึงมากในนัดที่พบอินโดนีเซีย ในจังหวะที่ถูกผู้เล่นของอินโดนีเซียใช้เท้าเหยียบศีรษะ และเจ้าตัวควบคุมอารมณ์ได้ดี
ในความเป็นจริงแล้ว อาทิตย์เป็นผู้เล่นตัวหลักของทัวร์นาเม้นท์นี้ ที่ทำผลงานได้ดีมาตลอดทุกนัด แต่กลับไม่ค่อยได้รับคำชื่นชม
“อาทิตย์ ดาวสว่าง” ไม่รู้ว่าจะเป็นตะวันหรือดวงดาว รู้แค่ว่า ดวงอาทิตย์หรือดาวดวงนี้ สว่างและมีอนาคตที่สดใสกับทีมชาติไทย อย่างแน่นอน
แบ็คซ้าย : พีรพัฒน์ โน้ตชัยยา และสุริยา สิงห์มุ้ย
“พีรพัฒน์ โน้ตชัยยา” ครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่า ไม่เหมาะสมที่จะเล่นให้กับทีมชาติไทย โดยมีตัวเปรียบเทียบ คือ ธีราทร บุญมาทัน
มีความรู้สึกว่า แฟนบอลบางคนก็ใจร้ายเกิน ผลงานในสนามของพีรพัฒน์ ไม่ได้แย่ขนาดนั้น เป็นแบ็คซ้ายที่เล่นได้ดีพอสมควร
อาจจะมีบางนัดที่พีรพัฒน์เล่นไม่ค่อยดีจริง แต่นัดที่พีรพัฒน์เล่นได้น่าประทับใจ ก็มีตั้งหลายนัด
น่าเสียดายที่บาดเจ็บ ทำให้ไม่ได้ลงสนามอย่างต่อเนื่องในทัวร์นาเม้นท์นี้ พอหายเจ็บกลับมาลงสนาม ผลงานดูไม่ค่อยโดดเด่นนัก
ไม่โดดเด่นในที่นี้ ไม่ได้หมายความว่าเล่นไม่ดี บังเอิญว่ามิดฟิลด์ตัวริมเส้นด้านซ้าย เติมเกมรุกได้ดี งานของพีรพัฒน์จึงน้อยลง
ด้วยมาตรฐานเดิมที่พีรพัฒน์เคยทำได้ ต้องบอกว่า เป็นแบ็คซ้ายที่เล่นได้ดีที่สุดคนหนึ่ง
พูดถึงพีรพัฒน์ ... เวลาแฟนบอลถล่มด่านักเตะ บางทีก็อยากจะออกมากางปีกปกป้อง แต่ก็ทำไม่ได้ ไม่ใช่นางฟ้านี่ จะได้มีปีก
(แต่ถ้าต้องการ มีกระด้งนะ อิอิ) บางอารมณ์ก็อยากจะออกมาบอกบอกว่า “พีรพัฒน์ โน้ตชัยยา ใครไม่ชอบ Gu ชอบเอง”
“สุริยา สิงห์มุ้ย” ลงมาเล่นในตำแหน่งเดียวกับพีรพัฒน์ ถือว่าทำหน้าที่ได้ดีตามสมควร อาจจะไม่ได้โดดเด่นมาก
(ส่วนหนึ่งเพราะมิดฟิลด์ตัวริมเส้น รับหน้าที่ไปแล้ว) แต่ก็ไม่ได้เล่นแย่ ถือว่าลงมาทำประโยชน์ให้ทีม มากกว่าทำเสียหาย
ผลงานโดยรวม อยู่ในเกณฑ์บวก ... พิจารณาจากอายุแล้ว ต้องบอกว่า ทำได้ดีสมหรืออาจจะเกินวัยและประสบการณ์ด้วยซ้ำไป
(เห็นหน้าสุริยา สิงห์มุ้ยทีไร อดที่จะยิ้มหรือหัวเราะไม่ได้ทุกที นึกถึงแต่ภาพใน Instagram ของกวินทร์)
มิดฟิลด์ตัวรับ/ตัดเกม : สารัช อยู่เย็น และศิวกร จักขุประสาท
สารัชเป็นมิดฟิลด์ตัวสำคัญและโดดเด่นที่สุดในสายตาและความรู้สึก เพราะทำหน้าที่ในเกมครบและครอบคลุม ทั้งเกมรับและเกมรุก
(ความคิดเห็นในส่วนนี้ ใครจะกล่าวหาจะว่าลำเอียงก็ได้ ... ยอมรับแต่โดยดี)
“สารัช อยู่เย็น” เป็นมิดฟิลด์ที่ขยันขันแข็ง มีส่วนในการทำลายเกมของคู่แข่ง คุมเกมและสร้างสรรค์เกมรุก
และก็ทำได้ดี ทั้งการตัดเกม คอนโทรลเกม จ่ายบอลทะลุช่อง วิ่งเข้าไปหาพื้นที่ยิง รวมทั้งการยิงไกล
แต่บทบาทกัปตันทีมของสารัชดูไม่ได้โดดเด่นนัก
“ลุยเต็มที่ เดี๋ยวพี่เคลียร์เอง (ถ้าพี่ไม่โดนไล่ออกจากสนามซะก่อนนะ)” เดนนิส ไวส์ กัปตันทีมในดวงใจของดิฉันได้เคยกล่าวเอาไว้
แต่สารัชไม่ใช่แบบนั้น ซึ่งก็ไม่ได้ติในจุดนี้หรอก ในเบื้องต้น ใครฟาล์วหรือทำฟาล์วก็คุยกับผู้ตัดสินก่อนได้
และอีกอย่าง อาจจะเกิดจากปัญหาในการสื่อสารกับผู้ตัดสินชาวต่างชาติก็เป็นได้ ซึ่งในจุดนี้ถือว่าเข้าใจได้ ไม่ใช่จุดบกพร่องใหญ่โต
“ศิวกร จักขุประสาท” ก็ทำหน้าที่ได้ดีและไม่ได้ด้อยกว่าสารัชนัก
เรียกได้ว่า ถ้าไม่เห็นชื่อกัปตันตังค์ สารัช อยู่เย็น แต่เป็นชื่อศิวกร จักขุประสาท แฟนบอลอย่างเราก็ไม่มีอะไรต้องหนักใจ
ที่จริง อยากให้นักเตะคนนี้ ได้มีโอกาสได้ลงสนามบ่อยๆด้วยซ้ำไป เพราะดูมีแวว อยากเห็นฟอร์มและอยากให้ได้มีโอกาสพิสูจน์ตัวเอง
✿ ความคิดเห็นของข้าพเจ้า ต่อนักเตะทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ 2015 เวอร์ชั่นไม่บันยะบันยัง
ขอเริ่มต้นกระทู้นี้ ด้วยการออกตัวไว้ก่อนว่า ทุกตัวอักษร ทุกความคิดเห็น กลั่นและกรองออกมาจากสมองและหัวใจของดิฉันเพียงคนเดียว
ใครเห็นด้วย ก็เห็นด้วย ... ใครไม่เห็นด้วย ดิฉันก็ไม่ซีเรียสอะไร … ไม่มีความจำเป็น ที่ความคิดเห็นต้องตรงกัน
และนอกเหนือจากผลงานในสนามแล้ว ดิฉันขออนุญาตวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องอื่นๆด้วย
อาจจะเกินเลยขอบเขตไปบ้าง ขออภัยนักเตะทุกคนไว้ล่วงหน้า
ดิฉันยืนยันได้แต่เพียงว่า ความคิดเห็นทั้งหมด มาจากความรู้สึกรักและเอ็นดูนักเตะทุกคน ด้วยใจจริง
(เลือกใช้คำว่า “เอ็นดู” เพราะในช่วงที่ดิฉันเริ่มดูฟุตบอล นักเตะบางคนยังไม่เกิดเลย … ขอไว้อาลัยให้กับ “ความแก่” ของตัวเองแป๊บนึง)
ผู้รักษาประตู : ชนินทร์ แซ่เอี๊ยะ และสมพร ยศ
ด้วยสถิติที่เสียประตูเพียงแค่ประตูเดียว จากทั้งหมด 6 นัด (ในรอบแบ่งกลุ่มและรอบรองชนะเลิศ) ยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า
ผู้เล่นในแนวรับทุกคน ซึ่งแน่นอนว่าต้องรวมถึงผู้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู ทำหน้าที่ของตนเองได้อย่าง “สมบูรณ์แบบ”
น่าเสียดายที่ในทัวร์นาเม้นท์นี้ “สมพร ยศ” ได้รับโอกาสไม่มากนัก แต่นัดที่ลงสนาม ก็ทำผลงานได้ดี สามารถรักษาคลีนชีทเอาไว้ได้
มีความเชื่อมั่นว่า ถ้าสมพร ยศ ได้มีโอกาสลงสนามหลายนัด ทีมชาติไทยก็คงจะไม่เสียประตูมากไปกว่านี้ อย่างแน่นอน
ขอกล่าวถึง “ชนินทร์ แซ่เอี๊ยะ” ผู้รักษาประตูหน้าตาเกาหลี จากสโมสรชัยนาท ฮอร์นบิล (ยืมตัวจากชลบุรี) เพิ่มเติมเล็กน้อย
แม้จะเป็นผู้รักษาประตูที่ดูไม่ได้เปรียบในเรื่องของรูปร่าง แต่ชนินทร์ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า
ความไม่ค่อยสูงและความอวบ ไม่ใช่อุปสรรคต่อการเล่นลูกกลางอากาศ เพราะชนินทร์เป็นนักเตะที่มีสปริงข้อเท้าที่ดี สามารถเทคตัวได้สูง
ดวงตาเล็กๆของชนินทร์ ก็ไม่ใช่ปัญหาเช่นกัน เพราะเมื่อใช้งานร่วมกับสมองแล้ว ชนินทร์จัดเป็นผู้รักษาประตูที่อ่านเกมได้ดี อ่านได้ขาด
และความโดดเด่นที่สุดของโอปป้าชนินทร์คือ เป็นผู้รักษาประตูที่มีการเคลื่อนที่และปฏิกิริยารวดเร็วมาก
โดยภาพรวมแล้ว ชนินทร์เป็นผู้รักษาประตูที่เก่ง ทำหน้าที่ได้ดี และเป็นตัวอย่างที่ดี ในเรื่องของการชดเชยจุดบกพร่องทางกายภาพได้
(บรรทัดข้างบนนี้ ขอโทษที นึกคำพูดที่ดีกว่านี้ไม่ออก พยายามจะบอกว่าเป็นการดึงศักยภาพด้านอื่นๆมาเติมเต็มในจุดด้อยของรูปร่าง)
เรื่องทรงผม คงไม่ต้องวิพากษ์วิจารณ์ บอกได้สั้นๆว่า “สร้างสรรค์ทุกทรง” สารภาพว่าแอบขำทุกครั้งที่เห็นขนมอาลัวอยู่บนหัวของชนินทร์
และอีกหนึ่งเรื่องราวของชนินทร์ที่อยากจะแชร์ ... มีความรู้สึกว่า ชนินทร์เป็นนักเตะที่ให้เกียรติแฟนบอลผู้หญิง
ในสนามอาจจะเป็นมือกาว แต่นอกสนาม ไม่เคยรุ่มร่ามกับแฟนบอลสาวๆเลย
(ความคิดเห็นในส่วนนี้ อาศัยการสังเกตจากภาพถ่ายกับแฟนบอล ชนินทร์มักจะยืนค้อมตัวเข้ามานิดๆ มือทั้งสองข้างไขว้หลังตัวเองไว้ตลอด)
มองดูแล้วรู้สึกว่า ค่อนข้างระมัดระวัง ดูให้เกียรติผู้หญิง ... ภาพแบบนี้มีให้เห็นบ่อยๆจนรู้สึกว่า นอกจากจะตลกแล้ว ยังเป็นคนน่ารักอีกด้วย
แบ็คขวา : นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม และทริสตอง โด
แบ็คขวา ตำแหน่งที่น่ากลัวที่สุดในทีม เพราะแบ็คขวาทั้งสองตัวเลือก ต่างก็มีใบหน้าและสายตาเป็นอาวุธ (ซึ่งน่าจะใช้ได้กับสาวๆเท่านั้น)
นฤบดินทร์และทริสตอง โด หน้าตาดีคนละแบบ ฝีเท้าของทั้งคู่ก็เช่นกัน มีดีและด้อยแตกต่างกันไป แต่ในภาพรวมแล้ว ถือว่าน่าพอใจทั้งคู่
สำหรับ “ทริสตอง โด” สิ่งที่เห็นได้ชัดจากทัวร์นาเม้นท์นี้ คือความสามารถในการทำประตู ทักษะในการทำประตูดี น่าประทับใจ
แต่ก็ยังมองเห็นความผิดพลาดในเกมรับอยู่หลายจังหวะ (โดยเฉพาะในนัดแรกๆ) แต่ในนัดต่อๆมา ความผิดพลาดก็แทบไม่มีให้เห็นเลย
เป็นนักเตะที่มีพัฒนาการ มีความมุ่งมั่นและทุ่มเท ควรได้รับโอกาส และน่าส่งเสริม
“นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม” ก็ไม่น้อยหน้า แม้ว่าจะไม่ได้ยิงประตูสุดสวยแบบทริสตอง โด แต่ก็ทำประตูได้ จากทั้งจากการโหม่งและการยิง
(ขอให้เครดิตว่า เป็นพัฒนาการของนฤบดินทร์ เพราะก่อนหน้านี้ไม่นานมาก นฤบดินทร์ยังถูกติติงในเรื่องของการทำประตูอยู่)
สรุปจากมุมของตนเองว่า แบ็คขวาทั้งสองคน ลงสนามแล้วไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวัง ฝีเท้าพอฟัดพอเหวี่ยงกัน ไม่มีใครด้อยไปกว่าใคร
เอ่อ ... ขอกล่าวถึงนฤบดินทร์เพิ่มเติมเล็กน้อย มีหลายคนเคยแสดงความคิดเห็นเอาไว้ว่า นฤบดินทร์หน้าตาเหมือน “หม่ำ”
ตอนแรกก็รู้สึกขำๆ แต่จังหวะที่ยิงประตูอินโดนีเซียได้ มองผ่านจอทีวีแล้วแอบยิ้มคนเดียว “นฤบดินทร์คือหม่ำ เวอร์ชั่นหน้าตาดี” อิอิ
ถึงจะหน้าหม่ำ (และน่าหม่ำ) แต่นฤบดินทร์ก็เป็นนักเตะที่หน้าตาน่ารักที่สุดในทีม (นี่ไม่ใช่การตบหัวแล้วลูบหลังนะ คิดอย่างที่ชมจริงๆ)
เซ็นเตอร์แบ็ค : ธนบูรณ์ เกษารัตน์ , อดิศร พรหมรักษ์ และอาทิตย์ ดาวสว่าง
สำหรับ “ธนบูรณ์ อดิศร และอาทิตย์” คงไม่ต้องบรรยายยาวๆ ... เครื่องหมายการค้าของพวกเค้าคือ เข้าบอลง่าย แต่ได้ประสิทธิภาพ
ขอคอมเม้นท์สั้นๆว่า ชื่อของทั้ง 3 คน การันตีได้เลยว่า แฟนบอลจะอุ่นใจ ... และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
สำหรับ “ธนบูรณ์ เกษารัตน์” ชื่อนี้ผลงานขึ้นหิ้ง ทัวร์นาเม้นท์นี้เห็นธนบูรณ์เตะวืดครั้งนึง ถือว่าเป็นบุญตา ของแบบนี้ไม่ใช่จะหาดูได้ง่ายๆ อิอิ
เพิ่มเติมในส่วนของ “อาทิตย์ ดาวสว่าง” นาทีนี้ ถ้าไม่พูดถึงนักเตะคนนี้ คงหลุดกระแส
อาทิตย์ ดาวสว่าง กองหลังสารพัดประโยชน์ของทีมชาติไทย เรียกว่าในแผงหลังแบ็คโฟร์ อาทิตย์น่าจะสามารถเล่นได้ดีทุกตำแหน่ง
อาทิตย์อาจจะถูกกล่าวถึงมากในนัดที่พบอินโดนีเซีย ในจังหวะที่ถูกผู้เล่นของอินโดนีเซียใช้เท้าเหยียบศีรษะ และเจ้าตัวควบคุมอารมณ์ได้ดี
ในความเป็นจริงแล้ว อาทิตย์เป็นผู้เล่นตัวหลักของทัวร์นาเม้นท์นี้ ที่ทำผลงานได้ดีมาตลอดทุกนัด แต่กลับไม่ค่อยได้รับคำชื่นชม
“อาทิตย์ ดาวสว่าง” ไม่รู้ว่าจะเป็นตะวันหรือดวงดาว รู้แค่ว่า ดวงอาทิตย์หรือดาวดวงนี้ สว่างและมีอนาคตที่สดใสกับทีมชาติไทย อย่างแน่นอน
แบ็คซ้าย : พีรพัฒน์ โน้ตชัยยา และสุริยา สิงห์มุ้ย
“พีรพัฒน์ โน้ตชัยยา” ครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่า ไม่เหมาะสมที่จะเล่นให้กับทีมชาติไทย โดยมีตัวเปรียบเทียบ คือ ธีราทร บุญมาทัน
มีความรู้สึกว่า แฟนบอลบางคนก็ใจร้ายเกิน ผลงานในสนามของพีรพัฒน์ ไม่ได้แย่ขนาดนั้น เป็นแบ็คซ้ายที่เล่นได้ดีพอสมควร
อาจจะมีบางนัดที่พีรพัฒน์เล่นไม่ค่อยดีจริง แต่นัดที่พีรพัฒน์เล่นได้น่าประทับใจ ก็มีตั้งหลายนัด
น่าเสียดายที่บาดเจ็บ ทำให้ไม่ได้ลงสนามอย่างต่อเนื่องในทัวร์นาเม้นท์นี้ พอหายเจ็บกลับมาลงสนาม ผลงานดูไม่ค่อยโดดเด่นนัก
ไม่โดดเด่นในที่นี้ ไม่ได้หมายความว่าเล่นไม่ดี บังเอิญว่ามิดฟิลด์ตัวริมเส้นด้านซ้าย เติมเกมรุกได้ดี งานของพีรพัฒน์จึงน้อยลง
ด้วยมาตรฐานเดิมที่พีรพัฒน์เคยทำได้ ต้องบอกว่า เป็นแบ็คซ้ายที่เล่นได้ดีที่สุดคนหนึ่ง
พูดถึงพีรพัฒน์ ... เวลาแฟนบอลถล่มด่านักเตะ บางทีก็อยากจะออกมากางปีกปกป้อง แต่ก็ทำไม่ได้ ไม่ใช่นางฟ้านี่ จะได้มีปีก
(แต่ถ้าต้องการ มีกระด้งนะ อิอิ) บางอารมณ์ก็อยากจะออกมาบอกบอกว่า “พีรพัฒน์ โน้ตชัยยา ใครไม่ชอบ Gu ชอบเอง”
“สุริยา สิงห์มุ้ย” ลงมาเล่นในตำแหน่งเดียวกับพีรพัฒน์ ถือว่าทำหน้าที่ได้ดีตามสมควร อาจจะไม่ได้โดดเด่นมาก
(ส่วนหนึ่งเพราะมิดฟิลด์ตัวริมเส้น รับหน้าที่ไปแล้ว) แต่ก็ไม่ได้เล่นแย่ ถือว่าลงมาทำประโยชน์ให้ทีม มากกว่าทำเสียหาย
ผลงานโดยรวม อยู่ในเกณฑ์บวก ... พิจารณาจากอายุแล้ว ต้องบอกว่า ทำได้ดีสมหรืออาจจะเกินวัยและประสบการณ์ด้วยซ้ำไป
(เห็นหน้าสุริยา สิงห์มุ้ยทีไร อดที่จะยิ้มหรือหัวเราะไม่ได้ทุกที นึกถึงแต่ภาพใน Instagram ของกวินทร์)
มิดฟิลด์ตัวรับ/ตัดเกม : สารัช อยู่เย็น และศิวกร จักขุประสาท
สารัชเป็นมิดฟิลด์ตัวสำคัญและโดดเด่นที่สุดในสายตาและความรู้สึก เพราะทำหน้าที่ในเกมครบและครอบคลุม ทั้งเกมรับและเกมรุก
(ความคิดเห็นในส่วนนี้ ใครจะกล่าวหาจะว่าลำเอียงก็ได้ ... ยอมรับแต่โดยดี)
“สารัช อยู่เย็น” เป็นมิดฟิลด์ที่ขยันขันแข็ง มีส่วนในการทำลายเกมของคู่แข่ง คุมเกมและสร้างสรรค์เกมรุก
และก็ทำได้ดี ทั้งการตัดเกม คอนโทรลเกม จ่ายบอลทะลุช่อง วิ่งเข้าไปหาพื้นที่ยิง รวมทั้งการยิงไกล
แต่บทบาทกัปตันทีมของสารัชดูไม่ได้โดดเด่นนัก
“ลุยเต็มที่ เดี๋ยวพี่เคลียร์เอง (ถ้าพี่ไม่โดนไล่ออกจากสนามซะก่อนนะ)” เดนนิส ไวส์ กัปตันทีมในดวงใจของดิฉันได้เคยกล่าวเอาไว้
แต่สารัชไม่ใช่แบบนั้น ซึ่งก็ไม่ได้ติในจุดนี้หรอก ในเบื้องต้น ใครฟาล์วหรือทำฟาล์วก็คุยกับผู้ตัดสินก่อนได้
และอีกอย่าง อาจจะเกิดจากปัญหาในการสื่อสารกับผู้ตัดสินชาวต่างชาติก็เป็นได้ ซึ่งในจุดนี้ถือว่าเข้าใจได้ ไม่ใช่จุดบกพร่องใหญ่โต
“ศิวกร จักขุประสาท” ก็ทำหน้าที่ได้ดีและไม่ได้ด้อยกว่าสารัชนัก
เรียกได้ว่า ถ้าไม่เห็นชื่อกัปตันตังค์ สารัช อยู่เย็น แต่เป็นชื่อศิวกร จักขุประสาท แฟนบอลอย่างเราก็ไม่มีอะไรต้องหนักใจ
ที่จริง อยากให้นักเตะคนนี้ ได้มีโอกาสได้ลงสนามบ่อยๆด้วยซ้ำไป เพราะดูมีแวว อยากเห็นฟอร์มและอยากให้ได้มีโอกาสพิสูจน์ตัวเอง