เปิดตัวยิ่งใหญ่ “ไหมนครชัยบุรินทร์”
ประกาศความอลังการสู่สายตาอาเซียน
เปิดตัวอย่างอลังการไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับมหกรรมไหมสุรินทร์ สุดยอดไหมโลก “สืบสานตำนานไหม นครชัยบุรินทร์” ที่จัดขึ้น ณ ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันที่ก่อน โดยภายในงานเต็มไปด้วยการแสดงเปิดงานสุดตระการตาทั้งการแสดงวัฒนธรรมอย่างขบวนแห่นางพญาไหมที่ได้รองอันดับ 2 มิสทิฟฟานี่อย่าง ตรีทิพย์นิภา ทิพย์ปภาดา นำขบวนเสลี่ยงผ้าไหมสุดตระการตา พร้อมด้วยแฟชั่นโชว์ผ้าไหมที่ต่างขนกันมาประกาศศักดาสมบัติของชาวอีสานใต้อย่างผ้าไหมนครชัยบุรินทร์อีกด้วย โดยภายในงานยังมีการจัดแสดงนิทรรศการภูมิปัญญาผ้าไหมยกทองโบราณ เทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี 60 พรรษา นิทรรศการวัฒนธรรมผ้าไหมนครชัยบุรินทร์ และการแสดงทางวัฒนธรรมมากมาย พร้อมด้วยการออกร้านจำหน่ายผ้าไหมไทยและผลิตภัณฑ์ OTOP รวมกว่า 200 บูธ ตลอดตั้งแต่วันที่ 5 – 9 มิถุนายนที่ผ่านมา
นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประธานพิธีเปิดงาน “สืบสานตำนานไหม นครชัยบุรินทร์” กล่าวถึงคุณค่าของผ้าไหมนครชัยบุรินทร์ หัวใจของงานครั้งนี้ว่า “ผ้าไหมสุรินทร์มีประวัติความเป็นมายาวนาน สอดแทรกอยู่ในความเชื่อและพิธีกรรม ความเป็นอยู่และการดำรงชีวิตของชาวสุรินทร์จนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ความโดดเด่นของผ้าไหมสุรินทร์คือการใช้เส้นไหมน้อยที่ได้จากการสาวมือ ทำให้เนื้อผ้าบางเบา เนื้อผ้าละเอียด ใส่สบาย อีกทั้งยังมีผ้าไหมที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดสุรินทร์ดังไปทั่วโลกอย่างผ้าไหมยกทอง ซึ่งมีตะกอมากถึง 1,460 ตะกอ เป็นภูมิปัญญาที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยอาจารย์วีรธรรม ตระกูลเงินไทย บุคคลดีเด่นของชาติ สาขาเผยแพร่เกียรติภูมิของไทย ประจำพุทธศักราช 2551 เป็นผู้พลิกโฉมการทอผ้าไหมของจังหวัดสุรินทร์ด้วยการพัฒนาวิธีการทอและการออกแบบจนเป็นเอกลักษณ์งามจับตา”
นอกจากนี้ นางสาวอรษา โพธิ์ทอง พัฒนาการจังหวัดสุรินทร์ ในนามคณะกรรมการการจัดงานมหกรรมในครั้งนี้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงานว่า “งานมหกรรมไหมครั้งนี้เราตั้งใจจัดขึ้นเพื่อสร้างโอกาสและช่องทางการตลาดแก่ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ไหมของจังหวัดสุรินทร์และกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ ผ่านการจัดแสดงนิทรรศการและจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ไหม รวมถึงผลิตภัณฑ์ OTOP ของจังหวัดที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้เรามุ่งมั่นที่จะประชาสัมพันธ์เผยแพร่คุณค่าของภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักในระดับประเทศและระดับนานาชาติ ทั้งยังสร้างรายได้แก่ผู้ผลิต ผู้ประกอบการไหมและสินค้า OTOP ของพวกเราจังหวัดสุรินทร์และกลุ่มนครชัยบุรินทร์อีกด้วย”
สำหรับ “นครชัยบุรินทร์” คือโครงการความร่วมมือระหว่าง 4 จังหวัดอีสานใต้ ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์และสุรินทร์ ในการพัฒนาการท่องเที่ยวเส้นทางสายไหม (Thai Silk Route Package) ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ซึ่งจังหวัดสุรินทร์นั้นถือเป็นอีกแหล่งผลิตงานหัตถกรรมผ้าไหมไทยที่มีชื่อเสียง โดยมุ่งหวังให้โครงการนี้เป็นศูนย์กลางการผลิตและการค้าผ้าไหมในภูมิภาคอาเซียน(ASEAN Silk Sourcing Hub) เพื่อสร้างความได้เปรียบในทางเศรษฐกิจและสร้างโอกาสให้กับผู้ผลิตในทุกขั้นตอนในพื้นที่ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
เปิดตัวยิ่งใหญ่ “ไหมนครชัยบุรินทร์” ประกาศความอลังการสู่สายตาอาเซียน
ประกาศความอลังการสู่สายตาอาเซียน
เปิดตัวอย่างอลังการไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับมหกรรมไหมสุรินทร์ สุดยอดไหมโลก “สืบสานตำนานไหม นครชัยบุรินทร์” ที่จัดขึ้น ณ ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันที่ก่อน โดยภายในงานเต็มไปด้วยการแสดงเปิดงานสุดตระการตาทั้งการแสดงวัฒนธรรมอย่างขบวนแห่นางพญาไหมที่ได้รองอันดับ 2 มิสทิฟฟานี่อย่าง ตรีทิพย์นิภา ทิพย์ปภาดา นำขบวนเสลี่ยงผ้าไหมสุดตระการตา พร้อมด้วยแฟชั่นโชว์ผ้าไหมที่ต่างขนกันมาประกาศศักดาสมบัติของชาวอีสานใต้อย่างผ้าไหมนครชัยบุรินทร์อีกด้วย โดยภายในงานยังมีการจัดแสดงนิทรรศการภูมิปัญญาผ้าไหมยกทองโบราณ เทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี 60 พรรษา นิทรรศการวัฒนธรรมผ้าไหมนครชัยบุรินทร์ และการแสดงทางวัฒนธรรมมากมาย พร้อมด้วยการออกร้านจำหน่ายผ้าไหมไทยและผลิตภัณฑ์ OTOP รวมกว่า 200 บูธ ตลอดตั้งแต่วันที่ 5 – 9 มิถุนายนที่ผ่านมา
นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประธานพิธีเปิดงาน “สืบสานตำนานไหม นครชัยบุรินทร์” กล่าวถึงคุณค่าของผ้าไหมนครชัยบุรินทร์ หัวใจของงานครั้งนี้ว่า “ผ้าไหมสุรินทร์มีประวัติความเป็นมายาวนาน สอดแทรกอยู่ในความเชื่อและพิธีกรรม ความเป็นอยู่และการดำรงชีวิตของชาวสุรินทร์จนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ความโดดเด่นของผ้าไหมสุรินทร์คือการใช้เส้นไหมน้อยที่ได้จากการสาวมือ ทำให้เนื้อผ้าบางเบา เนื้อผ้าละเอียด ใส่สบาย อีกทั้งยังมีผ้าไหมที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดสุรินทร์ดังไปทั่วโลกอย่างผ้าไหมยกทอง ซึ่งมีตะกอมากถึง 1,460 ตะกอ เป็นภูมิปัญญาที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยอาจารย์วีรธรรม ตระกูลเงินไทย บุคคลดีเด่นของชาติ สาขาเผยแพร่เกียรติภูมิของไทย ประจำพุทธศักราช 2551 เป็นผู้พลิกโฉมการทอผ้าไหมของจังหวัดสุรินทร์ด้วยการพัฒนาวิธีการทอและการออกแบบจนเป็นเอกลักษณ์งามจับตา”
นอกจากนี้ นางสาวอรษา โพธิ์ทอง พัฒนาการจังหวัดสุรินทร์ ในนามคณะกรรมการการจัดงานมหกรรมในครั้งนี้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงานว่า “งานมหกรรมไหมครั้งนี้เราตั้งใจจัดขึ้นเพื่อสร้างโอกาสและช่องทางการตลาดแก่ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ไหมของจังหวัดสุรินทร์และกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ ผ่านการจัดแสดงนิทรรศการและจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ไหม รวมถึงผลิตภัณฑ์ OTOP ของจังหวัดที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้เรามุ่งมั่นที่จะประชาสัมพันธ์เผยแพร่คุณค่าของภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักในระดับประเทศและระดับนานาชาติ ทั้งยังสร้างรายได้แก่ผู้ผลิต ผู้ประกอบการไหมและสินค้า OTOP ของพวกเราจังหวัดสุรินทร์และกลุ่มนครชัยบุรินทร์อีกด้วย”
สำหรับ “นครชัยบุรินทร์” คือโครงการความร่วมมือระหว่าง 4 จังหวัดอีสานใต้ ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์และสุรินทร์ ในการพัฒนาการท่องเที่ยวเส้นทางสายไหม (Thai Silk Route Package) ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ซึ่งจังหวัดสุรินทร์นั้นถือเป็นอีกแหล่งผลิตงานหัตถกรรมผ้าไหมไทยที่มีชื่อเสียง โดยมุ่งหวังให้โครงการนี้เป็นศูนย์กลางการผลิตและการค้าผ้าไหมในภูมิภาคอาเซียน(ASEAN Silk Sourcing Hub) เพื่อสร้างความได้เปรียบในทางเศรษฐกิจและสร้างโอกาสให้กับผู้ผลิตในทุกขั้นตอนในพื้นที่ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น