(REVIEW) Crash (2004): เมื่อทุกเรื่องราวมาชนกัน

‪#‎เล่าสู่กันฟัง‬ Crash (2014)
- เพราะเป็นหนังที่ได้รางวัล Best Picture ปี 2005 จึงเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ทำให้ผมหยิบเรื่องนี้มาดู แต่ผมขอติเรื่องชื่อภาษาไทยนิดนึง “คนผวา” ด้วยหน้าหนังและชื่อไทยจะทำให้คนที่ไม่ชอบดูหนังผีจะเมินเรื่องนี้ไปอย่าง่ายดายเลยนะครับ ทั้ง ๆ ที่ข้างในไม่ได้มีผีหรือวิญญาณอะไรทั้งนั้น
- หนังเล่าถึงผู้คนหลาย ๆ คน ที่มีชาติพันธุ์ สีผิว ฐานะ และหน้าที่การงาน ที่แตกต่างกันออกไป แต่ด้วยเหตุการณ์ต่าง ๆ ทำให้พวกเรื่องราวของพวกเขามาบรรจบกัน เป็นเรื่องย่อที่สั้นมาก ๆ แต่ไส้ในไม่สั้นอย่างเรื่องย่อ
- บท - หนังแบ่งกลุ่มคนออกเป็น 8 กลุ่ม คือ คู่ตำรวจสามี-ภรรยา, ตำรวจคู่หู, ช่างซ่อมล็อคกุญแจ, ชายเจ้าของร้านขายของ, คู่สามี-ภรรยา ซึ่งสามีเป็นอัยการ, คู่สามี-ภรรยา ซึ่งสามีเป็นผิวสี และโจรปล้นรถซึ่งเป็นผิวสี ในช่วงแรก ๆ หนังเล่าให้เห็นถึงการเหยียดหยามกันของชาวผิวสีและผิวขาว แต่เมื่อเรื่องเดินไปเรื่อย ๆ ทำให้ได้รู้ว่าไม่ได้มีแค่เพียงสะท้อนถึงเรื่องการเหยียดสีผิว แต่ยังมีมากกว่านั้น ผมชอบการเปรียบเทียบของหนังมาก คือการเดินเรื่องของหนังที่ทำให้ทุก ๆ ตัวละครมาเจอกัน และเกิดเป็นเหตุการณ์ต่าง ๆ ซึ่งจะหนักหรือเบา ก็ขึ้นอยู่กับการพบเจอสิ่งต่าง ๆ และการกระทำของตัวละคร ซึ่งเปรียบได้กับการชนกันของรถนั่งเอง และก็คือการ Crash ตามแบบชื่อเรื่องนั่นเอง หนังเดินเรื่องราวได้สนุก ไม่น่าเบื่อ และมีคุณค่า ถึงแม้อาจจะดูเหมือนพยายามทำให้ตัวละครมาเจอกันไปนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้ขัดและทำให้เสียอรรธรสในการชมเลย การแบ่งบทให้กับตัวละครก็ทำได้ดี ไม่มีการทำให้ตัวละครใดตัวละครหนึ่งดูนำเด่นเกินไป ทำให้ทุกตัวละครมีส่วนร่วมกับหนังและไม่ถูกกลบจนไม่สำคัญ ทั้งนี้หนังเปิดเรื่องได้น่าติดตาม และจบเรื่องราวทั้งหมดได้ตราตรึงและน่าประทับใจมาก
- นักแสดง - นักแสดงหลักในเรื่องนี้มีค่อนข้างเยอะ ไม่เฉพาะเจาะจงลงไปที่ตัวใดตัวหนึ่ง เพราะนักแสดงหลักทุกคนมีส่วนในการเกิดของเหตุการณ์ต่อ ๆ ไป แต่นักแสดงทุกคนแสดงได้ดีเยี่ยม ทำในส่วนของตนเองได้สุด ทำให้เข้าถึงคาแรกเตอร์นักแสดงได้เป็นอย่างดี และทุกคนมีบุคลิกเป็นเอกลักษณ์และมีเรื่องราวเป็นของตัวเอง มีเหตุผลต่าง ๆ เป็นของตัวเอง และด้วยความมีมิติของตัวละครและการแสดงของตัวละคร ทำให้คนดูเข้าไปมีส่วนร่วมในและสนุกไปกับหนังได้ง่ายขึ้น
องค์ประกอบหนัง – บรรยากาศในหนังค่อนข้างดราม่า แต่ก็ไม่ได้ดราม่าจนทำให้เครียด ยังมีส่วนที่ให้คอยลุ้นอยู่บ้าง เพลงสกอร์ในหนัง ไล่ระดับตามเนื้อเรื่อง หรือเหตุการณ์ในหนังได้ดี ส่วนตัวผมชอบตอนจบมาก เพลงคลอและลำดับภาพการสรุปเรื่องราวต่าง ๆ ทำได้น่าประทับใจมาก
- สรุป - ใครที่กำลังหาหนังสนุก ๆ ดี ๆ ดูเรื่องราวที่ไม่ได้มีแค่ประเด็นเรื่องการเหยียดสีผิวแค่ประเด็นเดียว แต่หนังยังเล่าประเด็นอื่น ๆ อีกมากมาย เรื่องนี้ก็เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่ผมจะแนะนำครับ

ให้คะแนน : A

ฝากเพจด้วยนะครับ https://www.facebook.com/MoviesEverytime
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่