บทสรุปของการได้เพื่อนมาเป็นแฟน ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต

สวัสดีค่ะ เราเป็นอีกคนหนึ่งที่แอบรักเพื่อนตัวเองตั้งแต่ ม. 2 ย้ำว่า ม.2 ตอนนั้นคิดว่าเป็นความรักแบบเด็กๆ เดี๋ยวก็จบไป จากนั้นผู้ชายที่แอบชอบย้ายโรงเรียนไปเรียนในตัวเมือง 3 ปี เต็มๆ ที่เราก็ยังแอบรักคนๆ เดิม เฝ้าพร่ำเพ้อคิดถึงแต่เขา โดยที่เขาไม่เคยรู้ ด้วยความที่เราเรียนพอใช้ได้ จึงขอแม่เข้าไปเรียนพิเศษในตัวเมืองเพียงเพื่อจะไปสืบเรื่องราวของเขา (บ้ามาก) สมัยนั้นห้องสมุดยังมีการยืมหนังสือแบบเขียนชื่อไว้ด้านหลัง ว่ายืมวันที่เท่าไหร่ ใครยืม

เราแอบขโมยเศษกระดาษเล็กๆ นั้นกลับบ้านเพียงเพราะอยากเก็บลายมือของเขาไว้ ซึ่งมีเป็นสิบๆ ใบ เรียกได้ว่าทุกสิ่งอย่างเกี่ยวกับเขาเราเก็บหมด แต่ไม่กล้าคุยกับเขานะแปลกดี ใครเคยอยู่ในโมเม้นท์นี้จะรู้ว่ามันทรมานมากๆ

จนเข้ามหาลัยเป็นครั้งแรกที่ต้องเข้ามาเอ็นฯที่กทม (สมัยนั้นยังมีสอบตรง) เราตจว. เราได้เจอกับเขา เราดีใจมากๆ ตื่นเต้นดีใจสุดๆ ผู้ชายที่แอบรักมานาน เขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ยังน่ารักและเราก็รักเขาอยู่ไม่เปลี่ยนไปเลย แต่แล้วจากวันนั้นอีก 3 ปี เราก็ไม่เจอ ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย ทั้งๆ ที่เราเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน! แต่ไม่เคยเจอกันเลย เรามีคนมาชอบพอสมควร แต่ก็ไม่ได้จริงจังกับใคร ใจยังคิดถึงผู้ชายที่เป็นรักแรกตลอดเวลา ส่วนเขามารู้ที่หลังก็จีบคนนั้นคนนี้บ้างประปราย

กระทั่งเรียนจบเราได้เจอกันอีกครั้งและเป็นจุดเริ่มต้นของคำว่า ไม่คาดฝันว่าจะได้เขามาเป็นคู่ชีวิต
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
สรุปว่า .. .

คุณยอมหย่าโดยไม่ฟ้องร้องเพียงเพราะ > > > ตอนแรกเรากะจะฟ้องหย่า ฟ้องผู้หญิงคนนั้นด้วย แต่ก็สงสารตัวเองไม่อยากประจานตัวเอง สงสารลูก!

แน่ใจหรอคุณ ว่าคุณสงสารลูก ..การที่คุณยอมหย่าแต่โดยดี โดยไม่เรียกร้องสิทธิ์การเลี้ยงดูจากผู้เป็นพ่อ
แล้วคุณมาทำตัวเป็นนางเอก แบกรับทุกอย่างไว้คนเดียว .. . .มันไม่ใช่แล้วค่ะ !!!
คุณไม่ควรหย่าอย่างเงียบๆแล้ว นาทีนี้คุณควรรวบรวมหลักฐาน หาทนายฟ้องหย่าเพื่อเรียกร้องค่าเลี้ยงดูบุตรสิคะ!!!  ปัดโถ่!!

..ถ้าตอนนี้ คุณยังไม่เซ็นต์ใบหย่าก็ถือเป็นเรื่องดีค่ะ จะได้ดำเนินการได้ทัน

เรายังไม่รู้เลยค่ะ ว่าจะอยู่ยังไงต่อจากนี้แต่ด็คิดว่า มันคงมีทางออก มีทางให้เรากับลูกก้าวผ่านมันไปได้ <<< ใช่ค่ะ มันมีทางออก คุณต้องเข้มแข็ง!!


--------------------------------------------------------------------------------------




ไม่ได้อยากจะเข้ามาซ้ำเติมนะคะ แต่สิ่งที่บอกไว้ข้างต้นทั้งหมด เพื่อต้องการจะดึงสติคุณกลับมา

เลิกคิดเบาๆได้แล้วค่ะ มันถึงเวลาแล้วที่คุณควรจะเรียกร้องสิ่งที่คุณและลูกพึงได้รับจากผู้ชายคนนี้ !!  ต้องยอมรับความจริงได้แล้วนะคะ
ว่า ตอนนี้ลูกคุณยังเล็ก การเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมันไม่ง่าย แต่เราต้องอยู่ให้ได้ ด้วยความรักจากเราและคนรอบข้างส่งต่อให้ลูกให้มากๆ



คุณฟังนะคะ.. .  ลูกน่ะ อยู่ได้สบายมากโดยไร้มนุษย์พ่อ
แต่ลูกน่ะ จะอยู่อย่างลำบาก   ถ้าไร้ซึ่งปัจจัยที่เรียกว่า เงิน !!




เตรียมตัวหาทนายได้แล้วค่ะ อย่าช้านะคะ เพราะกว่าจะเสร็จสิ้นคดีความก็คงอีกนานหลายเดือน
เป็นกำลังใจ ขอให้คุณก้าวผ่านปัญหานี้ไปให้ได้ค่ะ อย่าลืมนะคะ คุณต้องเด็ดเดี่ยว เข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจเพื่อลูก
ความคิดเห็นที่ 12
แล้ว จขกท ต้องการ ระบายความรู้สึกเท่านั้น หรือ ต้องการปรึกษาด้านกฏหมาย  เพื่อรักษาสิทธิและทรัพย์สินที่ควรจะได้หลังหย่า  บ้างไหมคะ
เมื่อคุณบอกว่า ยังไม่รู้จะเริ่มจากอะไรก่อนดี
เราอยากแนะนำให้แยกแยะ  ระหว่างเรื่องอารมณ์ความรู้สึก  และเรื่องเงินทอง ออกจากกัน
แยกตั้งกระทู้อีกอันหนึ่งออกมาใหม่  บรรยายสภาพหนี้  รายได้ปัจจุบัน  ทรัพย์สินที่ร่วมกันกู้/ร่วมกันซื้อ/ร่วมกันหา กับอดีตสามี  สิทธิปกครองในตัวลูก
เพื่อขอคำปรึกษากับผู้รู้  หรือ ผู้มีประสบการณ์ ดีกว่าค่ะ
ความคิดเห็นที่ 27
สรุป จากที่คุณเล่ามา

ผู้ชายคนนี้ ไม่ได้รักคุณเลย ความรักยาวนานของคุณเป็นรักข้างเดียว
คุณน่าจะดูออกตั้งแต่ที่เขาไม่ต้องการลูก ให้เอาออกโดยอ้างว่า ไม่พร้อม
แต่คุณยังมีความหวังว่า เขาจะรับผิดชอบลูกบ้าง

ความที่คุณรักเขาจนมองไม่เห็นความจริง
ทุกอย่างที่เขาทำดีกับคุณ ไม่ได้แปลว่า เขารักคุณเหมือนคุณรักเขา
เมื่อเขาพบคนอื่น ที่เขาคิดว่าเขารัก อยากอยู่กับคนที่เขารัก จึงเกิดเรื่องนี้ขึ้น

มองปัญหาเสียใหม่
ตอนนี้ที่สำคัญคือ ลูก ไม่ใช่ พ่อของลูก หรือคนอื่นๆ
คิดว่าจะเลี้ยงลูกอย่างไรอีกยี่สิบปี จะเรียกร้องอะไรตามกฎหมายให้ลูกได้บ้าง อย่างไร

คนที่ตัดพ่อแม่ และลูก ซึ่งเป็นสายเลือดของตัวได้ ไม่ได้มีค่าเลยในสายตาของเรา
หรือ อาจเป็นเพราะเขาหมดทางเลือก จากความคับข้องใจนานถึง 10 ปีที่เขาทนมา

คุณเป็นคนเดียวที่รู้ว่า เขาเป็นคนแบบไหน
ความคิดเห็นที่ 22
เฮ้อออออ แค่ระบายใช่มะ

หรือยังหวังลมๆแล้งๆว่าถ้าไม่ฟ้องหย่าจะมีวันนึงที่สามีคิดได้แล้วเดินกลับมา

เข้าใจว่าเจ็บ แต่ต้องตั้งสติ ซิงเกิ้ล มัม มีเยอะแยะไป แต่ละคนกว่าจะข้ามคืนวันอันโหดร้าย

เขาก็เจ็บมาปางตายทั้งนั้น แต่ฟ้าหลังฝนสวยงามเสมอ

เริ่มแรกหยุดพายเรือในอ่าง คิดย้ำๆว่าทำไมผชคนนั้นทำกับคุณอย่างนี้ ทำไมๆๆๆ

แล้วหันกลับมารักตัวเอง. รักพ่อแม่คุณ ยิ่งคุณร้องไห้เท่าไหร่ คนที่ยิ่งช้ำหนักไม่ใช่หญิงร้ายชายเลวคู่นั้น

แต่เป็นพ่อแม่คุณเองนั่นแหละที่เจ็บยิ่งกว่า

ส่วนคำแนะนำ ถ้าไม่อยากฟ้องหย่าให้เป็นเรื่องใหญ่ ก็อุ้มลูกไปที่ทำงานของคู่นั้น(พาเพื่อนไปคนนึงก็ได้)

ไปตกลง บังคับ ขู่เข็ญ ประจาน ว่าถ้าอยากเสวยสุขกัน ก็จ่ายเงินก้อนมา ให้บีบน้ำตาบอกกับเจ้านาย กะเพื่อนร่วมงานเขา

ไม่มีใครเห็นดีเห็นงามไปกับคนผิดศีลธรรมแบบนี้หรอก( เพียงแต่โตๆกันแล้วจะให้เตือนกันก็ใช่ที่) เป็นการบีบสองคนนั้นไปในตัว
ความคิดเห็นที่ 28
อย่าขึ้นหัวกระทู้หรือเนื้อหาแบบชี้นำครับมันทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ

ปัญหาหย่าร้าง ปัญหาครอบครัว ไม่ได้เกี่ยวกับการเอา "เพื่อน" มาเป็น "ผัว"

มันเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนไม่ว่าใคร

คำแนะนำตามความเห็นอื่นๆ คือฟ้องหย่าให้รับผิดชอบเด็กครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่