ลากขาตะลอน เช้ายันดึก ณ เมืองกรุง

บ๊ายบาย....เชียงราย บ๊ายบาย....ดอยแง่ม

เรื่องราวที่แสนเศร้า(?)เกิดขึ้นเมื่อเด็กโข่ง 2 คนโดนไล่ลงดอยที่อยู่มาตลอด 3 ปีให้มาใช้ชีวิตในเมืองกรุงที่แสนวุ่นวายแห่งนี้...


ปล.ขออภัยถ้าใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้อง เพื่ออรรถรถในอารมณ์แต่จะพยายามใช้ให้น้อยมากที่สุด ข้อมูลและข้อคิดเห็นต่างๆเป็นความคิดเห็นส่วนตัวถ้าไม่ตรงใจกับผู้ใด ขออภัยไว้ด้วยค่ะ กระทู้นี้ถือว่ามาเล่าสู่กันฟังละกันนะคะ อมยิ้ม04

......เหตุผลที่โดนไล่มาคือ   .. ฝึกงาน .. Facepalm ไหนๆก็มาอยู่ยาว 3 เดือนละก็ไปตามแลนด์มาร์กเลยละกัน ! มีเป้าหมายว่าจะตะลอนให้ทุกเสา-อาทิตย์ (จะไม่พักร่างเลยว่างั้น ?) ก่อนจะกลับไปเป็นเด็กบนดอยอีกครั้ง



เกริ่นยาวละ เริ่มเลยละกัน ประหลาดใจ ...อยากเที่ยวเกาะอ่ะ อยากไหว้พระด้วย...............ไปไหนดี ? คำตอบคือ "เกาะรัตนโกสินทร์" ไง 55555 ก็ขึ้นชื่อว่าเกาะเหมือนกันนะ


ทริปที่ 1 เกาะรัตนโกสินทร์



8:00 น. จุดเริ่มต้นของเราคือ อิมพิเรียลสำโรง ถามว่ารู้ทางไปมั้ย...ตอบเลยว่ารู้แต่ถามว่ารู้สายรถเมลล์ที่จะไปมั้ย... ไม่ !!!! จะให้นั่งแท็กซี่ก็ไม่เอาหรอก...เปลือง เรางก เอ้ย ประหยัด     เสิร์ชอากู๋แกบอกมีสาย 25 และ 508 ผ่านสนามหลวง ไอ่เราก็ดีใจมีรถไปละเหว่ย...รอสักพักสาย 25 มาพอดี โดดขึ้นเลยเห็นมีป้ายสีแดงเขียนว่าเสริมอะไรสักอย่าง...ไม่ได้สนใจอ่าน ก็นั่งไปเรื่อยๆจนถึงแถวเอกมัย อ้าว !! รถยูเทิร์นกลับ หลิ่วตาอมยิ้ม19 ถามคุณป้ากระเป็ารถเมลล์แกบอกรถจะกลับไปปากน้ำจ้ะ ทำไงละ...ต้องลงไง T^T เดินข้ามไปรอรถ 48 ลงที่วัดโพธิ์ .... เออน่าายังดีที่มีรถไปถึงแถวนั้นละวะ !


10:45 น. หลังจากเสียเวลารอรถเมลล์สายใหม่และเสียเวลารถติดบนท้องถนนของเมืองกรุง...เราก็มาถึงจนได้ ! เย้ ! ป่ะเริ่มเลยวัดแรก "วัดโพธิ์ หรือ วัดพระเชตุพลวิมลมังคราราม" นักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะมากกกกกกกกกกกกกก ทั้งจีน ทั้งฝรั่ง [ปล.ฝรั่งหล่อมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ก.ไก่ล้านตัว อาหารตาทั้งนั้น 55555]





แต่อุปสรรคของการตะลอนครั้งนี้ของเราคือ ... แดด ... มันร้อนแรงมากกกกกกก ถึงมากที่สุด บวกกับอากาศที่โคตรร้อนด้วย คิดแล้วยังสงสัยว่ารอดไม่เป็นลมได้ยังไงตอนที่เดินตะลอนๆกลางแดดตอนนั้น !









วัดโพธิ์ มีการผสมผสานระหว่างศิลปะไทยและจีน โบสถ์และสถานที่ต่างๆจะเหมือนวัดไทยแต่จะมีรูปปั้นเทพเจ้าจีนอยู่บริเวณรอบๆ
ภายในอุโบสถมีพระนอนองค์ใหญ่ประดิษฐ์สถานให้เข้าไปสักการะได้ และ ไม่มีการจุดธูปเทียนภายในอุโบสถ ... ข้างในคนเยอะมากค่อนไปทางแออัดเลยทีเดียว เราสักเกตุเห็นคนหลายคนเลยที่ละเมิดข้อบังคับของทางวัด อย่างมีป้าย Don't take off shoes here ! ก็ถอดวางตรงนั้น วางตรงป้ายเลยล่ะ Don't sit here ! ก็นั่งข้างป้ายเลย ... เพลียยยยย อมยิ้ม20 ทั้งคนไทย ทั้งคนต่างชาติบางประเทศ เราเห็นเเล้วมันขัดใจงะ !!





นมัสการพระนอนเสร็จก็เดินไปเรื่อยๆ จะไปท่าเรือข้ามเรือไปไหว้พระที่วัดอรุณ(วัดแจ้ง) แต่เจอประตูบ้านไม้แลดูคลาสสิคก่อนขอแชะสักรูป จิกหัวเพ่ือนมาเข้าเฟรมแปป !!



ค่าข้ามเรือ 3 บาท ลงเรือได้ก็ดุ่มๆเดินไปนั่งท้ายเรือเพื่อดื่มด่ำสายลมและเเสงแดดแผดเผา

วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร(วัดแจ้ง) เหมือนจะกำลังบูรณะอยู่เราเลยไม่ได้เข้าไป เดินเล่นรอบๆแล้วก็ไปซื้อตั๋วล่องเรือไหว้พระ 3 วัดราคา 30 บาท
ไหว้พระ 3 วัด ก็จะมีวัดอรุณ วัดกัลยาณมิตร และวัดระฆัง โดยซื้อตั๋วครั้งเดียวจะใช้เวลาในวัดนานแค่ไหนก็ได้เสร็จเเล้วก็มารอเรือที่ศาลาเเล้วเรือจะวนมารับไปวัดต่อไป









วัดกัลยาณมิตร เราไม่ได้ถ่ายรูปมาเลยต้องขออภัย แต่เราขอเล่าเหตุการณ์สะเทือนใจบางอย่างอย่างให้อ่านกัน ... เรากับเพื่อนกำลังรอเรือมารับที่ศาลาและมีคุณยายคนหนึ่งนั่งขอทานอยู่คุณยายก็ถามคนที่ร้อยพวงมาลัยตรงนั้นมาน้ำแข็งในถังกินได้มั้ย ? ยายขอกินหน่อย คนนั้นเขาหันมามองยายแต่ก็หันกลับไปไม่สนใจคืออากาศมันร้อนมากจริงๆ เรากับเพื่อนเลยเดินไปซื้อน้ำหวานมาให้คุณยาย ทีแรกแกจะไม่รับแต่เรากับเพื่อนบอกตั้งใจซื้อมาให้ยายแกถึงรับไป เราไม่เข้าใจว่าน้ำแข็งมันมีมูลค่ามากมายขนาดนั้นเลยหรือ มากเกินที่จะแบ่งปันให้กันเลยหรอ ?? เรารู้สึกความมีน้ำใจในสังคมไทยกำลังจะแห้งแล้งลงทุกทีๆ

วัดระฆัง สิ่งแรกที่เห็นคือนกเยอะแยะมากมาย ทั้งบิน ทั้งเกาะอยู่เต็มไปหมด วัดนี้เราก็ไม่ได้ถ่ายรูปบรรยากาศมาเพราะเหมือนจะมีงานเเล้วเขากางเต๊นกันเต็มเลย เรากับเพื่อนซื้ออาหารมาเลี่ยงปลาแต่ดันเป็นนกที่อิ่มมากกว่า เพราะนางบินมาเกาะกินอาหารจากถุงเลย มิได้เกรงใจนางมนุษย์คนที่ซื้ออาหารมาอย่างเรากับเพื่อนเลยสักนิด 55555555











เลี้ยงนกเสร็จถึงเวลาเลี้ยงตัวเอง วัดระฆังที่ทางเดินเชื่อมไปตลาดวังหลัง เป้าหมายเราคือ "อรทัย ซูชิ" มากี่ครั้งไม่เคยได้นั่งกินที่ร้านเลยเพราะโต๊ะไม่ว่าง แต่ครั้งนี้เราได้ ! โอ้วเย้ ! เมนูที่สั่งไปคือ ซาชิมิ 129 บาท และ ซูชิ 18 ชิ้น 109 บาท เหมือนจะน้อยแต่อิ่มจนเกือบจุกนะ



พอเติมพลังเสร็จก็เดินช้อปปิ้งกันต่อเลย เสร็จเเล้วก็มาขึ้นเรือข้ามไปท่าเตียนเพื่อไปวัดพระแก้วต่อ แต่...มวลชนอาเจ็ก อาอี้ อาเหล่า อาม่า อากง มากมายเหลือเกิน เราเลยเดินแค่รอบๆนอกเพราะเริ่มหงุดหงิดแล้วจากทั้งอากาศร้อนและคนเยอะ



เสร็จเเล้วก็ขึ้นรถเมลล์พุ่งไปที่หมายต่อไป คือ จตุจักร ...ไม่ได้จะมาช้อปปิ้งเเต่อย่างใดเราจะไป MRT เพื่อไปสถานีเพชรบุรี เป้าหมายแท้จริงคือ ART BOX bangkok งานนี้มีของกินเสื้อผ้า ของแฮนด์เมดขายเยอะเเยะเลย แต่ขอบอกว่า...อาหารแพงมากขั้นต่ำ 60 บาทอัพ  



19:20 น. เดินผ่านๆเพราะพื้นงานแฉะคนก็เยอะเราเลยเบนเห้าหมายไป ตลาดรถไฟศรีนครินทร์ เเทนโดยได้รับความอนุเคราะห์จากท่านพี่ที่พาเราขึ้นแอร์พอร์ตลิ้งและมาส่งพวกเราที่ซีคอน เพื่อที่เราจะลากสังขารเดินกันต่อไป

ที่แรกที่พุ่งไปคือร้านปังเย็น ชื่อร้านก็จำไม่ได้แต่รู้วา่ไซส์มันเบิ้มมากกกกกกก กินกัน2คนยังไม่หมด ที่ร้านมีให้เลือกหลายเมนูเลย



21:44 น. เดินพรวดๆสิงานนี้รถจะหมดจ้าาาาา แต่แล้วการจ้ำมาก็ไม่เป็นผลเพราะรถหมดแล้วจริงๆ TT^TT เลยต้องโหนรถเมล์ต่อแท็กซี่กัน
23:00 น.ถึงหอแบบอาการครบ 32 แต่ขานี่เดินแทบไม่ตรงเเล้ว

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ... จงเที่ยวแต่พอดี อย่าโลภ 5555555


การเล่าเรื่องของทริปแรกก็จบลงแบบขาลากๆแล้วนะคะ  ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันค่ะ ^^


ไว้คราวหน้าจะมาเล่าสู่กันฟังใหม่เนอะ.......ราตีสวัสดิ์ค่า

ปล.จริงๆจะเลือกกระทู้รีวิว แต่เลือกผิดอันค่ะ TT^TT ขอโทษนะคะ ร้องไห้
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่