....เรามีแฟนแล้วค่ะ เรากับแฟนรู้จักกันมาตั้งแต่ ป.5 หลังจากพ่อแม่เสียแล้วไม่รู้จะไปหาญาติที่ไหนเลยตัดสินใจมาใช้ชีวิตคนเดียวในกรุงเทพ เลยใด้รู้จักกับแฟนตั้งแต่ตอนนั้นคือตอนนั้นยังเป็นเพื่อนกันอยู่ รู้จักกันสนิดกันและเรียนที่เดียวกันมาเรื่อยๆดูแลช่วยเหลือกันมาตลอด คือสนิดมากจนรู้ใส่รู้พุงกันหมด มาเริ่มคบกันเป็นแฟนตอนปี่หนึ่งค่ะ เราเรียนมหาลัยเดียวกันแต่เรียนคนละคณะ แล้วแรื่องมันก็เกิด คือเราเรีนยวิศวะและสว่นมากมันก็มีแต่ผู้ชายเรียนและเพื่อนเราก็เป็นผู้ชาย ใช่ หึ่ง สิค่ะ ตามอาละวาสอยู่พักใหญ่ๆ เลยต้องนั่งจับเขาคุยกัน สรุปใด้ว่า " เพื่อนของเราแฟนต้องรู้จักทุกคน ถ้าไปเที่ยวกับเพื่อนต้องไปกับแก๊งที่สนิดเท่านั้น(แก๊งที่สนิดคบกันอยู่สี่คน)หรือไม่ก็เอาแฟนไปด้วย " เป็นข้อตกลงที่โคตรเสียเปลียบแต่ก็ยอมเพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย แล้วทุกอย่างก็ดีขึ้นกลับเป็นปกติ
จนมาวันนึ่งเราไปเที่ยวกับแก็งซึ้งแฟนไว้ใจให้ไป แล้วบังเอิญไปเจอคุณแฟนพาผู้หญิงออกจากผับไปคอนโดมัน (เรากับแฟนไม่ใด้อยู่ด้วยกันค่ะ เราอยู่คอนโดตั้งแต่มาอยู่กรุงเทพแรกๆละขอบคุณพ่อแม่ที่ทิ้งสมบัติไว้ให้ ส่วนแฟนมาซื้อคอนโดอยู่ใกล้ๆตอนเข้ามหาลัย) ต่อค่ะ ตอนเห็นพาผู้หญิงออกจากผับเตียมฆ่าคนละ เพื่อนล็อกไว้ก่อนเพื่อนบอกว่าของแบบนี้ต้องคาหนังคาเขา.....แล้วเช้าวันต่อมาเราไปพังห้องแฟนทะเลาะกันยกใหญ่ เราทะเลาะกันเดือนกว่าๆ แล้วมานั่งจับเข่าคุยกัน ใด้ผลสรุป " แฟนเรารักเรา แต่จะไม่มีอะไรกับเราจนกว่าจะแต่งาน ซึ้งอันนี้เราหลงรักเลย...แต่ในเมื่อเราให้ไม่ใด้แฟนเราของไปมีอะไรกับคนอื่นแบบวันไนต์สแตน แต่ความเป็นแฟนเราก็ยังเหมือนเดิม " เออ...ก็...นะเพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย ลองดูวะ
แล้วทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ แฟนมารับ-ส่งไปเรียน ไปกินข้าว ดูหนัง เที่ยว โทรคุยวันละสามเวลา หึง หวง ห่วง จูงมือกันเดิน สวิต มันเหมือนเรารักกันมากปานจะกลืนกิน ชีวิตกลับมาปกติเหมือนเดิม แต่แฟนเราก็ยังเที่ยวและมีกงมีกิ๊กแต่ไม่ทำให้เราเห็นและไม่ผูกพัน(แต่ก็เข้าหูมาบ้างแหละ ไม่สนใจมากกว่า จะว่าใจกว้างก็ไม่นะ แค่มันแฟร์นะ ในเมื่อเราให้เค้าไม่ใด้ เขาก็ไปหาจากที่อื่นเท่านั้นเอง ตลาบใดที่เขาป้องกัน และยังรักเราดูแลเราเหมือนเดิม และไม่มีกิ๊กเป็นตัวเป็นตน มันก็โอเคนะสำหรับเรา)
ชั่วหนึ่งเราไปฝึกงานต่างจังหวัด ก็ยังรักกันดีโทรคุย ว่างแค่วันเดี่ยวก็ยังมาหา มันก็หวานชื่นดี มีความสุขมากแล้วอีกเดือนกว่าๆเราจะฝึกงานเสร็จ แฟนเราก็มาหาเราก็คุยกันปกติ ใช่ชีวิตปกติแฟนเราก็ยังใช้ชีวิตแบบเดิมๆเขาก็ยังเป็นแฟนเราดูแลเราดีมากแต่ก็ยังไปนอนกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ แต่ก็ไม่เป็นไรถ้าไม่ผูกพัน อยู่ๆแฟนก็บอกว่า " ถ้าเรียนจบเราแต่งานกันเนอะ ฝึกงานเสร็จแล้วขอหมั้นไว้ก่อนนะ " คือเคริ้มงะเขินเลย 555+ ที่นีก็นับวันรอดิ เมื่อไหนจะฝึกงานเสร็จ เมื่อไหนจะใด้กลับกรุงเทพ ทำมัยเดื่อนกว่าๆมันนานจังวะ
แต่ชั่วเวลาเดื่อนกว่าๆนี้ มีน้องสาวเพื่อนในแก๊ง โทรหาเราบอกว่าท้องกับแฟนเรา น้องสาวเพื่อนมาหาเราเพื่อตรวจให้เราดู เธอท้องจริง เราเสียหลักไปสามวัน แฟนเราก็มา เมานั่งเคียร์กันสามคน สรุป เราเลิกกับแฟน แฟนเราไม่ยอมเลิกรอตรวจดีเอ็นเอ น้องสาวเพื่อนท้องกับแฟนเราจริงๆ(เธอว่างั้น) แล้วแยกย้าย เราก็อยู่ฝึกงานต่อ ส่วนสองคนนั้นกลับกรุงเทพ หลังจากนั้นก็มีโทรจากน้องสาวเพื่อนโทรมาหาเราบ่อยๆ ค่ำครวญเสียใจผู้ชายไม่ใส่ใจ ให้เราช่วย(อยากบอกมันเหลือเกินว่าพี่ก็เจ็บเจียนตายไม่มีปัญญาช่วยน้อง) ครั้งนึ่งผู้ชายหายไปติดต่อไม่ใด้โทรมาหาเรา ให้ช่วยหาให้หน่อย เราบอกเราติดต่อมันไม่ใด้เหมือนกัน น้องสาวเพื่อน

มันกินยาขับเลือดแล้วถ่ายรูปส่งมาให้เรา(แทบอวก)เราโทรหาผู้ชายคนนั้นไม่ติดเลยโทรตามเพื่อนให้พามันไปหาหมอ เย็นวันนั้นเราก็กลับกรุงเทพเพื่อไปดูน้องสาวเพื่อน ไปถึงเช้า บริจากเลือดให้น้องสาวเพื่อน พอบ่ายผู้ชายคนนั้นก็มา เรากับเพื่อนเลยกลับไปพักแล้วตกเย็นเพื่อนๆพอรู้เรื่องบ้างเลยพาไปเสี้ยงปลอบใจ ดริ้งกันยันเช้า แล้วโรงพยาบาลก็โทรมาน้องสาวเพื่อนต้องการเลือดเพิ่มอีก เราก็ไป...แต่คานี้บริจากไม่ใด้เพราะเราไปดื่มแอลกอฮอมา
เป็นเรื่อง แฟนเก่าเรา อาละวาสทันที่ เขาบอกว่า "ไม่อยากให้เลือดไม่เห็นต้องทำอย่างนี้เลย บอกกันดีๆก็ใด!!สร้างภาพว่าตัวเองดีเลิดเลอไม่คิดเลยว่าเป็นคนแบบนี้" กลางโรงพยาบาล คนเยอะมาก ซึ้งตอนนั้นเราอายมาก ทำอะไรไม่ถูก เลยต่อยหน้ามันไปทีหนึ่งแล้วกลับต่างจังหวัดเลย......










คือ มันความผิดเราหรอ คือ เรา ไปไม่ถูกแล้ว ถ้าถามจริงๆจากใจเลย เราก็ไม่อยากช้วยนะ
อยู่ไห้ไกลจากกันใด้ยิ่งดี แต่...มันใช่ความผิดเราจริงๆหรอ....คือ...อะไรวะ...จะรู้มั้ยว่าต้อง
ให้เลือกอีก...เฮ้ยยยยยย
มันคือความผิดเราหรือวะ???/
จนมาวันนึ่งเราไปเที่ยวกับแก็งซึ้งแฟนไว้ใจให้ไป แล้วบังเอิญไปเจอคุณแฟนพาผู้หญิงออกจากผับไปคอนโดมัน (เรากับแฟนไม่ใด้อยู่ด้วยกันค่ะ เราอยู่คอนโดตั้งแต่มาอยู่กรุงเทพแรกๆละขอบคุณพ่อแม่ที่ทิ้งสมบัติไว้ให้ ส่วนแฟนมาซื้อคอนโดอยู่ใกล้ๆตอนเข้ามหาลัย) ต่อค่ะ ตอนเห็นพาผู้หญิงออกจากผับเตียมฆ่าคนละ เพื่อนล็อกไว้ก่อนเพื่อนบอกว่าของแบบนี้ต้องคาหนังคาเขา.....แล้วเช้าวันต่อมาเราไปพังห้องแฟนทะเลาะกันยกใหญ่ เราทะเลาะกันเดือนกว่าๆ แล้วมานั่งจับเข่าคุยกัน ใด้ผลสรุป " แฟนเรารักเรา แต่จะไม่มีอะไรกับเราจนกว่าจะแต่งาน ซึ้งอันนี้เราหลงรักเลย...แต่ในเมื่อเราให้ไม่ใด้แฟนเราของไปมีอะไรกับคนอื่นแบบวันไนต์สแตน แต่ความเป็นแฟนเราก็ยังเหมือนเดิม " เออ...ก็...นะเพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย ลองดูวะ
แล้วทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ แฟนมารับ-ส่งไปเรียน ไปกินข้าว ดูหนัง เที่ยว โทรคุยวันละสามเวลา หึง หวง ห่วง จูงมือกันเดิน สวิต มันเหมือนเรารักกันมากปานจะกลืนกิน ชีวิตกลับมาปกติเหมือนเดิม แต่แฟนเราก็ยังเที่ยวและมีกงมีกิ๊กแต่ไม่ทำให้เราเห็นและไม่ผูกพัน(แต่ก็เข้าหูมาบ้างแหละ ไม่สนใจมากกว่า จะว่าใจกว้างก็ไม่นะ แค่มันแฟร์นะ ในเมื่อเราให้เค้าไม่ใด้ เขาก็ไปหาจากที่อื่นเท่านั้นเอง ตลาบใดที่เขาป้องกัน และยังรักเราดูแลเราเหมือนเดิม และไม่มีกิ๊กเป็นตัวเป็นตน มันก็โอเคนะสำหรับเรา)
ชั่วหนึ่งเราไปฝึกงานต่างจังหวัด ก็ยังรักกันดีโทรคุย ว่างแค่วันเดี่ยวก็ยังมาหา มันก็หวานชื่นดี มีความสุขมากแล้วอีกเดือนกว่าๆเราจะฝึกงานเสร็จ แฟนเราก็มาหาเราก็คุยกันปกติ ใช่ชีวิตปกติแฟนเราก็ยังใช้ชีวิตแบบเดิมๆเขาก็ยังเป็นแฟนเราดูแลเราดีมากแต่ก็ยังไปนอนกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ แต่ก็ไม่เป็นไรถ้าไม่ผูกพัน อยู่ๆแฟนก็บอกว่า " ถ้าเรียนจบเราแต่งานกันเนอะ ฝึกงานเสร็จแล้วขอหมั้นไว้ก่อนนะ " คือเคริ้มงะเขินเลย 555+ ที่นีก็นับวันรอดิ เมื่อไหนจะฝึกงานเสร็จ เมื่อไหนจะใด้กลับกรุงเทพ ทำมัยเดื่อนกว่าๆมันนานจังวะ
แต่ชั่วเวลาเดื่อนกว่าๆนี้ มีน้องสาวเพื่อนในแก๊ง โทรหาเราบอกว่าท้องกับแฟนเรา น้องสาวเพื่อนมาหาเราเพื่อตรวจให้เราดู เธอท้องจริง เราเสียหลักไปสามวัน แฟนเราก็มา เมานั่งเคียร์กันสามคน สรุป เราเลิกกับแฟน แฟนเราไม่ยอมเลิกรอตรวจดีเอ็นเอ น้องสาวเพื่อนท้องกับแฟนเราจริงๆ(เธอว่างั้น) แล้วแยกย้าย เราก็อยู่ฝึกงานต่อ ส่วนสองคนนั้นกลับกรุงเทพ หลังจากนั้นก็มีโทรจากน้องสาวเพื่อนโทรมาหาเราบ่อยๆ ค่ำครวญเสียใจผู้ชายไม่ใส่ใจ ให้เราช่วย(อยากบอกมันเหลือเกินว่าพี่ก็เจ็บเจียนตายไม่มีปัญญาช่วยน้อง) ครั้งนึ่งผู้ชายหายไปติดต่อไม่ใด้โทรมาหาเรา ให้ช่วยหาให้หน่อย เราบอกเราติดต่อมันไม่ใด้เหมือนกัน น้องสาวเพื่อน
เป็นเรื่อง แฟนเก่าเรา อาละวาสทันที่ เขาบอกว่า "ไม่อยากให้เลือดไม่เห็นต้องทำอย่างนี้เลย บอกกันดีๆก็ใด!!สร้างภาพว่าตัวเองดีเลิดเลอไม่คิดเลยว่าเป็นคนแบบนี้" กลางโรงพยาบาล คนเยอะมาก ซึ้งตอนนั้นเราอายมาก ทำอะไรไม่ถูก เลยต่อยหน้ามันไปทีหนึ่งแล้วกลับต่างจังหวัดเลย......
คือ มันความผิดเราหรอ คือ เรา ไปไม่ถูกแล้ว ถ้าถามจริงๆจากใจเลย เราก็ไม่อยากช้วยนะ
อยู่ไห้ไกลจากกันใด้ยิ่งดี แต่...มันใช่ความผิดเราจริงๆหรอ....คือ...อะไรวะ...จะรู้มั้ยว่าต้อง
ให้เลือกอีก...เฮ้ยยยยยย