เป็นตอนแรกของ Love Sick SS2 ที่ผมไม่ได้ดูสดเนื่องจาก
1. ทราบว่าวันนี้เวลาออนแอร์จะเลทกว่าเดิมเนื่องมาจากถ่ายทอด SEA GAMES จึงเอาเวลาไปทำอย่างอื่น
2. จากข้อข้างบน เคลียร์งานเพลินจนขี้เกียจผละจากงานกลางคัน
3. มีลางสังหรณ์เนื่องมาจากว่า EP12 ของอาทิตย์ก่อนคือที่สุดของ SS2 (ณ ขณะนี้แล้ว) ดังนั้นสัปดาห์นี้จึงไม่น่าเป็นไปได้ที่จะมีอะไรให้พีคกว่านั้นอีก โทนของตอนอาจจะปรับ Volume ลงมา (ตามปกติการสร้างละคร / ซีรีส์ส่วนใหญ่เมื่อถึงจุดๆ นึงที่พีคมากๆ ตอนต่อไปมักจะดรอปอารมณ์ลงมา มีน้อยเรื่องที่จะพีคต่อเนื่อง)
ด้วยทั้งหมดที่เยิ่นเย้อกล่าวมา ในสัปดาห์นี้ผมจึงไม่คาดหวังหรือตื่นเต้นขนาดต้องเฝ้าหน้าจออะไรแบบนั้น (อย่างที่เคยทำ) เหมือนกับว่าซีรีส์เรื่องนี้มันปล่อยของไปหมดแล้วใน EP12 (แม้ความจริงจะยังมีอีกหลายประเด็นให้ติดตามก็ตาม) นี่จึงเป็นสัปดาห์ชิวๆ ที่ผมคิดว่าจะไม่รีบดู หรือถ้าดูย้อนหลังก็จะดูแบบ "เผื่อใจไว้" ถ้าซีรีส์ทำออกมาเอื่อยๆ ก็จะไม่ว่า เพราะคุณงามความดีจาก EP12 คงพอหยวนๆ ให้ทีมงานได้บ้าง ..... ก็ว่ากันไป
EP13 :
Introduction to The Important Situation
เมื่อไม่ได้ดูสด, ไม่ได้ดู Teaser ล่วงหน้า รวมถึงไม่ได้เข้าไปดู Twitter หรือ Pantip ช่วงที่ออนแอร์ เลยทำให้ไม่มีแบ๊คกราวด์เกี่ยวกับ EP นี้เลย เหมือนกับเป็นการวัดใจไปเลยว่า EP13 จะเอาเรื่องอะไรมาเล่น / ขยายความ และจะทำได้ดีแค่ไหน ลุ้นกันไปเลย ซึ่งพอหลังดูย้อนหลังจบแล้ว ก็ตามคาด รู้สึกเฉยๆ กับเรื่องราวใน EP นี้ ไม่ได้กลับไปแย่เหมือน EP แรกๆ ยังอยู่ในระดับที่พอดูได้ พระเอก-นายเอกกลับมาทวงพื้นที่คืนจากคู่อื่นๆ ต่อเนื่องเป็นตอนที่ 2 สำหรับคนที่อารมณ์ค้างจากสัปดาห์ก่อน EP นี้มีความฟินมาเสิร์ฟคุณเป็นระยะๆ แน่นอน ตั้งแต่ระดับแมนๆ คุยกันไปจนถึงขั้นออกสาวกันเลยทีเดียว
เปิดเรื่องมาด้วยความมุ๊งมิ๊งชวนสาวแตกของพระ-นายของเรา (โดยเฉพาะโน่ที่โดนบอกรักวันเดียวอารมณ์หญิงก็ทะยานล้นออกมาเลย) จะมีอะไรบันเทิงไปกว่าการเห็นนายเอกของเรานอนบิดสะดีดสะดิ้งบนเตียงยิ่งกว่านี้อีกล่ะ ครั้งแรกที่ดูผมถึงกับอุทาน "ตายๆๆๆๆ" จริตมาเต็มมากเลยน้องกัปตัน (อย่าอินเนอร์ขนาดนั้น) เหมือนจะได้ยินว่าสัปดาห์ก่อนมีคนบ่นๆ บนอัฒจันทร์ว่า "กรูไม่ใช่เกย์" จ้ะ .... แต่เล่นหูเล่นตา แอคติ้งนี่บอยมากเลยเนอะ (เหอๆ) การนำเอาซีนตื่นนอนมาใช้เปิดเรื่องเนียนไปกับ Tie-in ของแอพพลิเคชั่นแชทที่ว่านั้นนับว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดี ดูไม่ยัดเยียด เป็นการขยายความรู้สึกและความสัมพันธ์ที่ทั้งสองมีให้กันหลังสารภาพรักกันไปแล้ว ไล่ยาวมาจนถึงซีทที่ทั้งสองเจอกัน ยิ้มให้กัน ก่อนจะชวนกันเข้าโรงเรียน ช่างดูประหนึ่งเหมือนคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่บอกรักกันครั้งแรก
แล้วอะไรๆ ก็ดูสดใสไปหมด (ถถถถถถถถถถถถถถ)
เรื่องราวของจี๊ด
ตัวละครที่อาภัพที่สุดเพราะนอกจากจะโดนเพื่อนๆ ในจอแบนและหมั่นไส้แล้ว นอกจอยังโดนแฟนๆ ขับไล่ให้ไปสร้าง Spin-off เรื่องของตัวเองเถอะ จะได้ไม่เป็นภาระของคนที่อยากเห็นผู้ชายได้กัน ..... เอวัง เอาจริงๆ แล้วเนื้อเรื่องของจี๊ดใน EP นี้ก็น่าติดตามใช้ได้เลยนะครับ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกได้ว่าสัปดาห์นี้จี๊ดดูเป็นเส้นเรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ไม่น่าจดจำเลยคือซีรีส์ยังตีประเด็นผลของการที่จี๊ดไปถ่ายแบบมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร ไม่บอกที่มาที่ไปเพิ่ม ไม่มีการขยายว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกหลังจากนี้ เหมือนกับว่าทีมงานดูอยากจะเล่าต่อนะ แต่ยังกั๊กเอาไว้ ทำให้เส้นเรื่องที่ควรจะเครียดกว่านี้กลับลอยไปลอยมาไม่รู้เรื่องรู้ราว เหมือนกับว่าผู้กำกับได้คอนโทรลเวลาการเสนอหน้าของเธอน้อยเกินไปจนทำให้พลาดที่จะเล่าประเด็นเพิ่มเติมออกมาให้คนดูรู้สึกอินตาม (แต่ออกมาเยอะก็โดนด่าอีกนั่นแหล่ะ ..... โถ่จี๊ดดด พี่ล่ะสงสารน้องจริง)
โอมแอนด์เดอะแกงค์เพื่อนโน่
ฉากสำคัญที่ส่งผลไปยังเหตุการณ์สำคัญต่อจากนี้คือฉากปาร์ตี้ที่บ้านโน่พร้อมกับการรับรู้ความจริงเรื่องเอมของปุณณ์ซักที ต้องบอกเลยว่าค่อนข้างเซตฉากนี้ได้จะว่าดีก็ดี จะว่าแปลกก็แปลก ที่ดีคือเพื่อนโน่ทุกคนให้การแสดงรับส่งกันเป็นธรรมชาติดี ดูแล้วทำให้เชื่อว่า "เออออ พวกมุงเป็นเพื่อนสนิทกันนะ" แต่ที่แปลกคือไดอะล็อกพูดที่แม้จะเอามาจากนิยายเกือบทั้งหมดแต่พอมันมาอยู่ในซีนออกจอแล้วนั้น มันกลับฟังดูแปลกๆ เป็นบทที่ไม่เป็นธรรมชาติเท่าที่ควร (คหสต) และซีนที่โอมโดนล้อว่าคั่วกับน้องมิกนั้น ผมว่าถ้าปรับไดอะล็อกให้มันธรรมชาติกว่านี้เราอาจได้เห็นโมเม้นเหวอๆ ของโอมได้ชัดเจนกว่านี้ก็เป็นได้ (แต่ก็เข้าใจครับว่าที่ผ่านมาทีมงานโดนต่อว่าเรื่องสคริปต์ที่ออกทะเลไปไกล เลยพยายามลากเข้ามาตามนิยายมากขึ้น)
แป้ง-ปุณณ์-โน่-ยูริ
ซีนแขวะแอบหน่วงที่สำหรับคนอื่นอาจมองว่าเป็นแค่ซีนที่ใส่มาให้พระ-นายของเรามีกิมมิคแอบงอนแอบง้อกันเบาๆ แต่สำหรับผมซีนนี้เป็นซีนมีความหมายที่บอกอะไรได้หลายๆ อย่างเลยทีเดียว เป็นซีนที่ช่วยขับเน้นสถานะทางสังคมและคนภายนอกให้ทั้งสองได้ตระหนักและรับรู้ว่า "ความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่แม้จะสวยงามและจริงใจแต่มันไม่ถูกต้อง" คำว่าไม่ถูกต้องในที่นี้ไม่ใช่เพราะเป็นชาย-ชาย แต่เป็นเพราะต่างฝ่ายต่างก็มีคนอื่นอยู่ก่อนแล้วต่างหาก และเพราะความสัมพันธ์แบบแอบซ่อนเลยไปจนถึงขั้นลึกซึ้งระหว่างชายกับชายของทั้งสองคนนี่เอง Side Effect ของมันจึงเกิดขึ้นอีกระลอกในซีนนี้ ปุณณ์แขวะใส่โน่ในขณะที่โน่ก็อยู่ในสภาพที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก (คนนึงก็ผัวอีกคนนึงก็เพื่อนสาว) เหมือนกับซีรีส์ต้องการนำเสนอให้เราเห็นว่า "ความอีลุงตุงนังแอบคบกันของตัวละครเอกนั้นมันก็ไม่ได้ก่อให้เกิดเป็นความสุขซะทีเดียว" ผมชอบที่ซีรีส์พยายามจะสื่อตรงนี้ออกมานะ แต่มันดันทำไม่สุดน่ะสิ กลายเป็นว่าสุดท้ายความรักก็ชนะศีลข้อ 3 ไปได้ในที่สุด (ที่น่าสงสารที่สุดคือยูริแม้นิยายจะออกมาแก้ต่างให้ว่าโน่ไม่ได้คบกับยูริเพราะเต็มใจ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าทั้งสองจะไม่ผูกพันกัน)
อย่างไรก็ตามผมก็ไม่ได้หมายความว่าอยากให้ Love Sick ดำเนินมาในทางมืดหม่น โน่ตายตกนรกปีนต้นงิ้ว ปุณณ์เจ้าชู้เป็นเอดส์ตายเพราะไม่รู้จักพอ หรือยูริกระโดดตึกคอนแวนต์ฆ่าตัวตายเพราะแฟนตัวเองไปแอบได้กับผัวเพื่อน ก็ไม่ใช่อย่างงั้น ก็ยังเข้าใจว่าโทนของ Love Sick คือรักที่สดใส แต่ในความสดใสมันมีความหน่วงซ่อนอยู่นะ และมันก็ปรากฏค่อนข้างชัดใน EP นี้ (ตอนอ่านเป็นนิยายเราอาจมองภาพไม่ชัด แต่เมื่อมาเป็นซีรีส์และเขียนบทเพิ่มเติมประเด็นความสัมพันธ์ที่ผิดนี้ให้ดูมีมิติให้ถกเถียงกันดี) ผมคิดว่าจะลองเขียนวิเคราะห์เรื่องความสัมพันธ์และการกระทำของ ปุณณ์-โน่-เอม-ยูริ ในรูปแบบหม่นๆ ตอนท้ายๆ เมื่อซีรีส์ใกล้จะจบอีกที ..... หวังว่าจะไม่ลืมก่อนนะ
แต่ไม่ต้องถึงขนาดเคร่งเครียดหรือพากันถล่มผมว่ามาจริงจังอะไรกับประเด็นพวกนี้เกินไป อันนี้ผมแค่มองเชิงวิเคราะห์ที่อาจจะเลยความบันเทิงในหนังไปบ้าง
สรุป
- เป็นตอนที่ดำเนินเรื่องราวแบบ Freestyle เรื่อยๆ ดูเพลินๆ
- เหมาะสำหรับคนอยากดูคู่หลักปุณณ์-โน่ที่รับรองว่ามีให้ดื่มด่ำกันประหนึ่งคู่พระนางจากเจ้าหญิงดิสนี่ย์เลยทีเดียว
- มีซีนแอบงอนกันเล็กๆ ให้ได้ลุ้นตาม
- มีนัยยะหนักๆ แอบซ่อนอยู่ ถึงจะไม่ได้ถูกนำมาชูเป็นตีมหลักก็ตาม
- เป็นเหมือน EP เกริ่นก่อนนำไปสู่ไคล์แม็กซ์สำคัญใน EP ต่อไป
- ไม่เหมาะกับคนอยากดูหมีแพนด้าหรือนกแพนกวิ้น เพราะ EP นี้ไม่มีแม้แต่เงา
[CR] [Review] Love Sick Season 2 Episode 13 : ยิ่งสูงยิ่งอย่าไปคาดหวัง
เป็นตอนแรกของ Love Sick SS2 ที่ผมไม่ได้ดูสดเนื่องจาก
1. ทราบว่าวันนี้เวลาออนแอร์จะเลทกว่าเดิมเนื่องมาจากถ่ายทอด SEA GAMES จึงเอาเวลาไปทำอย่างอื่น
2. จากข้อข้างบน เคลียร์งานเพลินจนขี้เกียจผละจากงานกลางคัน
3. มีลางสังหรณ์เนื่องมาจากว่า EP12 ของอาทิตย์ก่อนคือที่สุดของ SS2 (ณ ขณะนี้แล้ว) ดังนั้นสัปดาห์นี้จึงไม่น่าเป็นไปได้ที่จะมีอะไรให้พีคกว่านั้นอีก โทนของตอนอาจจะปรับ Volume ลงมา (ตามปกติการสร้างละคร / ซีรีส์ส่วนใหญ่เมื่อถึงจุดๆ นึงที่พีคมากๆ ตอนต่อไปมักจะดรอปอารมณ์ลงมา มีน้อยเรื่องที่จะพีคต่อเนื่อง)
ด้วยทั้งหมดที่เยิ่นเย้อกล่าวมา ในสัปดาห์นี้ผมจึงไม่คาดหวังหรือตื่นเต้นขนาดต้องเฝ้าหน้าจออะไรแบบนั้น (อย่างที่เคยทำ) เหมือนกับว่าซีรีส์เรื่องนี้มันปล่อยของไปหมดแล้วใน EP12 (แม้ความจริงจะยังมีอีกหลายประเด็นให้ติดตามก็ตาม) นี่จึงเป็นสัปดาห์ชิวๆ ที่ผมคิดว่าจะไม่รีบดู หรือถ้าดูย้อนหลังก็จะดูแบบ "เผื่อใจไว้" ถ้าซีรีส์ทำออกมาเอื่อยๆ ก็จะไม่ว่า เพราะคุณงามความดีจาก EP12 คงพอหยวนๆ ให้ทีมงานได้บ้าง ..... ก็ว่ากันไป
EP13 : Introduction to The Important Situation
เมื่อไม่ได้ดูสด, ไม่ได้ดู Teaser ล่วงหน้า รวมถึงไม่ได้เข้าไปดู Twitter หรือ Pantip ช่วงที่ออนแอร์ เลยทำให้ไม่มีแบ๊คกราวด์เกี่ยวกับ EP นี้เลย เหมือนกับเป็นการวัดใจไปเลยว่า EP13 จะเอาเรื่องอะไรมาเล่น / ขยายความ และจะทำได้ดีแค่ไหน ลุ้นกันไปเลย ซึ่งพอหลังดูย้อนหลังจบแล้ว ก็ตามคาด รู้สึกเฉยๆ กับเรื่องราวใน EP นี้ ไม่ได้กลับไปแย่เหมือน EP แรกๆ ยังอยู่ในระดับที่พอดูได้ พระเอก-นายเอกกลับมาทวงพื้นที่คืนจากคู่อื่นๆ ต่อเนื่องเป็นตอนที่ 2 สำหรับคนที่อารมณ์ค้างจากสัปดาห์ก่อน EP นี้มีความฟินมาเสิร์ฟคุณเป็นระยะๆ แน่นอน ตั้งแต่ระดับแมนๆ คุยกันไปจนถึงขั้นออกสาวกันเลยทีเดียว
เปิดเรื่องมาด้วยความมุ๊งมิ๊งชวนสาวแตกของพระ-นายของเรา (โดยเฉพาะโน่ที่โดนบอกรักวันเดียวอารมณ์หญิงก็ทะยานล้นออกมาเลย) จะมีอะไรบันเทิงไปกว่าการเห็นนายเอกของเรานอนบิดสะดีดสะดิ้งบนเตียงยิ่งกว่านี้อีกล่ะ ครั้งแรกที่ดูผมถึงกับอุทาน "ตายๆๆๆๆ" จริตมาเต็มมากเลยน้องกัปตัน (อย่าอินเนอร์ขนาดนั้น) เหมือนจะได้ยินว่าสัปดาห์ก่อนมีคนบ่นๆ บนอัฒจันทร์ว่า "กรูไม่ใช่เกย์" จ้ะ .... แต่เล่นหูเล่นตา แอคติ้งนี่บอยมากเลยเนอะ (เหอๆ) การนำเอาซีนตื่นนอนมาใช้เปิดเรื่องเนียนไปกับ Tie-in ของแอพพลิเคชั่นแชทที่ว่านั้นนับว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดี ดูไม่ยัดเยียด เป็นการขยายความรู้สึกและความสัมพันธ์ที่ทั้งสองมีให้กันหลังสารภาพรักกันไปแล้ว ไล่ยาวมาจนถึงซีทที่ทั้งสองเจอกัน ยิ้มให้กัน ก่อนจะชวนกันเข้าโรงเรียน ช่างดูประหนึ่งเหมือนคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่บอกรักกันครั้งแรก
แล้วอะไรๆ ก็ดูสดใสไปหมด (ถถถถถถถถถถถถถถ)
เรื่องราวของจี๊ด
ตัวละครที่อาภัพที่สุดเพราะนอกจากจะโดนเพื่อนๆ ในจอแบนและหมั่นไส้แล้ว นอกจอยังโดนแฟนๆ ขับไล่ให้ไปสร้าง Spin-off เรื่องของตัวเองเถอะ จะได้ไม่เป็นภาระของคนที่อยากเห็นผู้ชายได้กัน ..... เอวัง เอาจริงๆ แล้วเนื้อเรื่องของจี๊ดใน EP นี้ก็น่าติดตามใช้ได้เลยนะครับ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกได้ว่าสัปดาห์นี้จี๊ดดูเป็นเส้นเรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ไม่น่าจดจำเลยคือซีรีส์ยังตีประเด็นผลของการที่จี๊ดไปถ่ายแบบมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร ไม่บอกที่มาที่ไปเพิ่ม ไม่มีการขยายว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกหลังจากนี้ เหมือนกับว่าทีมงานดูอยากจะเล่าต่อนะ แต่ยังกั๊กเอาไว้ ทำให้เส้นเรื่องที่ควรจะเครียดกว่านี้กลับลอยไปลอยมาไม่รู้เรื่องรู้ราว เหมือนกับว่าผู้กำกับได้คอนโทรลเวลาการเสนอหน้าของเธอน้อยเกินไปจนทำให้พลาดที่จะเล่าประเด็นเพิ่มเติมออกมาให้คนดูรู้สึกอินตาม (แต่ออกมาเยอะก็โดนด่าอีกนั่นแหล่ะ ..... โถ่จี๊ดดด พี่ล่ะสงสารน้องจริง)
โอมแอนด์เดอะแกงค์เพื่อนโน่
ฉากสำคัญที่ส่งผลไปยังเหตุการณ์สำคัญต่อจากนี้คือฉากปาร์ตี้ที่บ้านโน่พร้อมกับการรับรู้ความจริงเรื่องเอมของปุณณ์ซักที ต้องบอกเลยว่าค่อนข้างเซตฉากนี้ได้จะว่าดีก็ดี จะว่าแปลกก็แปลก ที่ดีคือเพื่อนโน่ทุกคนให้การแสดงรับส่งกันเป็นธรรมชาติดี ดูแล้วทำให้เชื่อว่า "เออออ พวกมุงเป็นเพื่อนสนิทกันนะ" แต่ที่แปลกคือไดอะล็อกพูดที่แม้จะเอามาจากนิยายเกือบทั้งหมดแต่พอมันมาอยู่ในซีนออกจอแล้วนั้น มันกลับฟังดูแปลกๆ เป็นบทที่ไม่เป็นธรรมชาติเท่าที่ควร (คหสต) และซีนที่โอมโดนล้อว่าคั่วกับน้องมิกนั้น ผมว่าถ้าปรับไดอะล็อกให้มันธรรมชาติกว่านี้เราอาจได้เห็นโมเม้นเหวอๆ ของโอมได้ชัดเจนกว่านี้ก็เป็นได้ (แต่ก็เข้าใจครับว่าที่ผ่านมาทีมงานโดนต่อว่าเรื่องสคริปต์ที่ออกทะเลไปไกล เลยพยายามลากเข้ามาตามนิยายมากขึ้น)
แป้ง-ปุณณ์-โน่-ยูริ
ซีนแขวะแอบหน่วงที่สำหรับคนอื่นอาจมองว่าเป็นแค่ซีนที่ใส่มาให้พระ-นายของเรามีกิมมิคแอบงอนแอบง้อกันเบาๆ แต่สำหรับผมซีนนี้เป็นซีนมีความหมายที่บอกอะไรได้หลายๆ อย่างเลยทีเดียว เป็นซีนที่ช่วยขับเน้นสถานะทางสังคมและคนภายนอกให้ทั้งสองได้ตระหนักและรับรู้ว่า "ความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่แม้จะสวยงามและจริงใจแต่มันไม่ถูกต้อง" คำว่าไม่ถูกต้องในที่นี้ไม่ใช่เพราะเป็นชาย-ชาย แต่เป็นเพราะต่างฝ่ายต่างก็มีคนอื่นอยู่ก่อนแล้วต่างหาก และเพราะความสัมพันธ์แบบแอบซ่อนเลยไปจนถึงขั้นลึกซึ้งระหว่างชายกับชายของทั้งสองคนนี่เอง Side Effect ของมันจึงเกิดขึ้นอีกระลอกในซีนนี้ ปุณณ์แขวะใส่โน่ในขณะที่โน่ก็อยู่ในสภาพที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก (คนนึงก็ผัวอีกคนนึงก็เพื่อนสาว) เหมือนกับซีรีส์ต้องการนำเสนอให้เราเห็นว่า "ความอีลุงตุงนังแอบคบกันของตัวละครเอกนั้นมันก็ไม่ได้ก่อให้เกิดเป็นความสุขซะทีเดียว" ผมชอบที่ซีรีส์พยายามจะสื่อตรงนี้ออกมานะ แต่มันดันทำไม่สุดน่ะสิ กลายเป็นว่าสุดท้ายความรักก็ชนะศีลข้อ 3 ไปได้ในที่สุด (ที่น่าสงสารที่สุดคือยูริแม้นิยายจะออกมาแก้ต่างให้ว่าโน่ไม่ได้คบกับยูริเพราะเต็มใจ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าทั้งสองจะไม่ผูกพันกัน)
อย่างไรก็ตามผมก็ไม่ได้หมายความว่าอยากให้ Love Sick ดำเนินมาในทางมืดหม่น โน่ตายตกนรกปีนต้นงิ้ว ปุณณ์เจ้าชู้เป็นเอดส์ตายเพราะไม่รู้จักพอ หรือยูริกระโดดตึกคอนแวนต์ฆ่าตัวตายเพราะแฟนตัวเองไปแอบได้กับผัวเพื่อน ก็ไม่ใช่อย่างงั้น ก็ยังเข้าใจว่าโทนของ Love Sick คือรักที่สดใส แต่ในความสดใสมันมีความหน่วงซ่อนอยู่นะ และมันก็ปรากฏค่อนข้างชัดใน EP นี้ (ตอนอ่านเป็นนิยายเราอาจมองภาพไม่ชัด แต่เมื่อมาเป็นซีรีส์และเขียนบทเพิ่มเติมประเด็นความสัมพันธ์ที่ผิดนี้ให้ดูมีมิติให้ถกเถียงกันดี) ผมคิดว่าจะลองเขียนวิเคราะห์เรื่องความสัมพันธ์และการกระทำของ ปุณณ์-โน่-เอม-ยูริ ในรูปแบบหม่นๆ ตอนท้ายๆ เมื่อซีรีส์ใกล้จะจบอีกที ..... หวังว่าจะไม่ลืมก่อนนะ
แต่ไม่ต้องถึงขนาดเคร่งเครียดหรือพากันถล่มผมว่ามาจริงจังอะไรกับประเด็นพวกนี้เกินไป อันนี้ผมแค่มองเชิงวิเคราะห์ที่อาจจะเลยความบันเทิงในหนังไปบ้าง
สรุป
- เป็นตอนที่ดำเนินเรื่องราวแบบ Freestyle เรื่อยๆ ดูเพลินๆ
- เหมาะสำหรับคนอยากดูคู่หลักปุณณ์-โน่ที่รับรองว่ามีให้ดื่มด่ำกันประหนึ่งคู่พระนางจากเจ้าหญิงดิสนี่ย์เลยทีเดียว
- มีซีนแอบงอนกันเล็กๆ ให้ได้ลุ้นตาม
- มีนัยยะหนักๆ แอบซ่อนอยู่ ถึงจะไม่ได้ถูกนำมาชูเป็นตีมหลักก็ตาม
- เป็นเหมือน EP เกริ่นก่อนนำไปสู่ไคล์แม็กซ์สำคัญใน EP ต่อไป
- ไม่เหมาะกับคนอยากดูหมีแพนด้าหรือนกแพนกวิ้น เพราะ EP นี้ไม่มีแม้แต่เงา