ระหว่างทางฉันหลง .. ชิคๆคูลๆที่ภูทอก จ.บึงกาฬ ^v^~*


อมยิ้ม17อมยิ้ม17สวัสดีค่าาา เพิ่งหัดรีวิวกระทู้นี้เป็นกระทู้แรกนะคะ หากมีข้อผิดพลาดใดๆ จขกทต้องขออภัยด้วยค่าาา ส่วนตัวจขกทเป็นคนที่ชอบเที่ยวชอบมาก ไปเที่ยวมาก็หลายที่เหมือนกัน แต่ยังไม่มีเวลาและโอกาสมาตั้งกระทู้ซักที อีกอย่างเวลาไปเที่ยวชอบถ่ายเซลฟี่ค่ะ ชอบประกาศให้โลกรู้ว่าเราก็ไปมานะ ธรรมชาติสวยแค่ไหน หลบไปก่อน ขอฉันเถอะ อมยิ้ม07เพี้ยนแช๊ะ ด้วยความที่ไปภูทอกครั้งนี้ ต้องมีปืนเขา ซึ่งคงจะไม่เหมาะกับการเซลฟี่เท่าไหร่ ทริปนี้เลยได้รูปบรรยากาศมาพอสมควร เยสสส pompomในที่สุดฉันก็ได้รีวิวแบบคนอื่นเค้าซักที เรามาทราบประวัติคร่าวๆของวักภูทอกกันก่อนนะคะ วัดเจติยาศรีวิหาร (วัดภูทอก) อยู่ในอาณาเขตบ้านคำแคน ตำบลนาสะแบง จ.บึงกาฬ โดยมีพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ เป็นผู้ก่อตั้ง ภูทอก ในภาษาอีสานแปลว่า ภูเขาที่โดดเดี่ยว ภูทอก มี 2 ลูก คือภูทอกใหญ่และภูทอกน้อย ที่ที่เรามาคือภูทอกน้อยนะคะ จุดเด่นของภูทอกน้อยก็คือ สะพานไม้และบันไดขึ้นชมทัศนียภาพรอบ ๆ ภูทอก ใช้เพียงแรงงานคนสร้าง บรรไดเวียนไปมารอบภูทอกแบบ 360 ซึ่งมีทั้งหมด 7 ชั้น ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 5 ปีเต็ม จากชั้น 1-7 จะมีบันไดไม้ให้เดินแบบ ตรงทอดยาวจนถึงจุดสูงสุดของ ยอดภูทอก และตั้งแต่ชั้นที่ 3 เป็นต้นไปนักท่องเที่ยวสามารถเดินชม แบบสะพานเวียน รอบเขาซึ่งจะได้เห็น มุมมองที่แตกต่างไปเรื่อย ๆ

เอาหละเริ่มเดินทางกันเลย เม่าออกรถ
             ทริปนี้มีผู้ร่วมชะตากรรมทั้งหมด 5 นาง เราออกเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวจากจังหวัดอุดรธานี มุ่งสู่จังหวัดบึงกาฬ นัดกัน 8 โมงครึ่งค่ะ แต่กว่าจะได้เดินทางก็ 10 โมง เพราะแต่ละนางเป็นคนตรงต่อเวลามากกกกกก(กอไก่ล้านตัว) ทริปหน้าสงสัยคงต้องนัดกันตี 5 พอออกเดินทางก็แวะตลอดทางค่ะ แวะ แวะ แวะ ออกตัวช้ายังชิวไปอีก พอจะเข้าตัวบึงกาฬ ต่างคนต่างชมบรรยากาศสองข้างทางซึ่งมีแต่ป่าเขาลำเนาไพร แต่แล้วเราก็ไปสะดุดตากับวัดวัดนึงซึ่งอยู่ติดกับไหล่ทาง นั่นก็คือวัดอาฮง รออะไรค่ะ แวะสิ ทริปนี้มาเพื่อแวะ ไม่รอช้าค่ะเลี้ยวซ้ายโลด จุดเด่นของวัดอาฮงคือจะมีโขดหินขนาดใหญ่อยู่ในบริเวณวัดเยอะมากๆ วัดอยู่ติดริมโขงด้วยนะเออ วัดนี้สามารถมาปฏิบัติธรรมได้อีกด้วย

              ไปค่ะไปหาที่แวะกันต่อ พอขับรถมาสักพักเราก็ได้แวะอีกที่ค่ะ คือวัดภูกระแต ซึ่งตอนนี้ทางวัดได้เปิดให้คนทั่วไปได้มีโอกาสเข้ามากราบสรีระหลวงพ่อทองพูลค่ะ พวกเราเลยไม่รอช้าที่จะเข้าไปกราบสรีระของท่านบ้าง

              พอเสร็จจากที่นี่เราก็ตั้งใจจะไปสู่จุดมุ่งหมายของเราคือวัดภูทอก และแล้วสวรรค์ก็บัญชา ฟ้าก็เป็นใจ ขับรถหลงทางค่ะ เต่าเอือมวนไปวนมาจนเวลาบ่าย2 หน้ามืดตาลายหิวโหยกันถ้วนหน้าเลยหาอะไรกินแถวๆตัวเมืองบึงกาฬ และแล้วเราก็ได้พบร้านอาหารที่ชื่อว่าครัวคุณเอก เค้าว่ากันว่าร้านนี้เด็ดมากกก พอได้ลิ้มลอง อุ๊บ๊ะ แซ่บหลายเด้อมาม่าพอกินอิ่ม หนังท้องเริ่มตึงหนังตาเริ่มหย่อนสิทีนี้ ทำไงดีๆ 123 เอ้านอนพร้อมกัน จะบ้าหรอ นี่มันบ่าย3แล้วนะ เอ๋วิ่งดิเอ๋ วัดภูทอกเค้าเปิดให้ขึ้นได้ถึง6โมงเย็นนะยูววววววว

              ไปไปไป ด้วยความที่กลัวจะหลงทางอีก เปิดถามทางพี่สิริด่วน อิพี่สิรินี่ก็รู้มากกกกก ฉลาดมากกกก คือฉันเลี้ยวขวาตั้งนานแล้ว หลับหรอจ้ะพูดตามหลังจนฉันนี่ผ่านไปสองแยกละ ดีออก ปิดค่ะเมิง ไปนอน และแล้ว ววววว เราก็มาถึงวัดภูทอกจนได้ ในเวลาประมาณ4โมงเย็น เย้เย้เย้ ว่าสิฮอดดากข่อยด้านเหมิดดดดดด เอาหละใจพร้อมกายพร้อมเราทำได้ ไปพิชิตภูทอกกันคร้าาาาาาเม่าบัลเล่ต์

ประตูทางขึ้นไปสู่ภูทอกค่ะ

ชั้นที่1 กรุณาอย่าส่งเสียงดังนะคะ ไม่งั้นเจอดีไม่รู้ด้วย

ตอนเดินขึ้นเงยหน้ามองแต่ฟ้า พอลองมองลงมาเป็นตาย่านฮ้ายยยย หัวใจข่อยสิวาย

เพื่อรูปที่สวย ต้องอดทน แข็งใจ อย่าไปกลัว จับแน่นๆ















สวยแต่อันตราย พลาดก้าวเดียวอาจถึงตายได้ #สะพานน้อยข้ามระหว่างเขา2ลูก #เสียวมากกกกกกก

ขอมองวิวสวยๆให้เต็มสองตาหน่อยนะครัช คุ้มค่าเหนื่อยมากบอกเลย

นางกลัวความสูงมากกกกกกก นางมาเพื่อชักภาพใบหนี แล้วหนีกลับประเทศ ฮ่าๆๆๆ

รวมกันเราอยู่ ถ่ายรูปหมู่อย่าบังกัน อิอิ #ขอบคุณตากล้องใจดี เดินผ่านมา นี่ลากแขนมา บอกพี่ๆถ่ายรูปให้หน่อยดิ งานใจกล้าหน้าด้านต้องมา เพื่อรูปหมู่รูปเดียวที่เรามีโดยไม่ต้องตั้งกล้องถ่ายเอง ขอบคุณจากใจนะคะ จุ๊บๆจุ๊บๆ

        คือรูปเยอะมากกกกกก แต่เอาแค่นี้พอ จขกทขอจบการท่องเที่ยวเพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกคนที่เสียสละเวลาเข้ามาอ่านและให้กำลังใจนะคะ ทริปหน้าถ้ามีเวลาว่างจะมาแชร์เรื่องราวให้ฟังกันอีก แล้วเราจะมาพบกันใหม่ พาพันขอบคุณพาพันขอบคุณพาพันขอบคุณ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่