สวัสดีค่ะ นี่ถือว่าเป็นกระทู้รีวิวท่องเที่ยว (มั้ง?) กระทู้แรก อาจจะเวิ่นเว้อ ไปหน่อย ภาพเยอะไปนิด ภาพสวยบ้าง(น้อย) ภาพไม่สวยบ้าง(เยอะ) แต่คนถ่ายสวยนะเออ(ล้อเล่น) ก็ขออภัยด้วยนะคะ
ในยุคที่ตั๋วเครื่องบินจัดโปรโมชั่นแข่งกันลดราคาสวนกระแสกับค่ารถเมล์ปรับอากาศธรรมชาติเจ้เกียว และมีบ่อยยิ่งกว่าจำนวนวันหยุดซะอีก บวกกับคุณแฟนชวนไปดูซีเกมส์ที่สิงคโปร เห้ยแก๊ เกิดมาทั้งชีวิตชั้นยังไม่เคยไปสิงคโปรเลย ใกล้แค่นี้เอง ไหนๆก็จะไปฝึกงานยุโรปแล้ว แวะเปลี่ยนเครื่องที่สิงคโปรเป็นไง เช็คราคาตั๋วสิแก๊ เห้ย บินจากไทยไปโคเปน กะ ไทย สิงคโปร โคเปน ราคาต่างกันไม่กี่ร้อยเอง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
(ตั๋วเที่ยวเดียว BKK-CPH = 420 EUR, SIN-CPH = 356 EUR ที่มันแพงเพราะชั้นได้วีซ่าวันที่ 5 ละซื้อตั๋วเลยอ่ะแก๊ บินนี่วันที่ 11 ถูกสุดละ สายการบินห้าดาวรูปกวางสีม่วง เปลี่ยนเครื่องไม่นานด้วยถือว่าโอเคมาก สำหรับราคานี้ ส่วนตั๋วมาสิงคโปรซื้อแยกกับสายการบินน้องใหม่รูปนกสีเหลืองๆในวงกลม ราคาตอนนี้มันมีโปรอ่ะแก๊ ละชั้นก็ซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มเอา 30 kg ซื้อวันที่ 5 บินวันที่ 8 เช้า เครื่องใหม่ ใช้ได้เลยแก๊)
เอาวะ ไหนๆ อยากไปสิงคโปร ไปกินลอดช่อง ไปดูสิงโตทะเล ทั้ง 5 ตัว (มันมี 5 ตัวนะแก๊ ไม่ใช่ 4 พี่ชั้นบอกให้ไปหาให้ครบ) เนื่องจากมีเวลาว่างแฟนหนีไปทำงานแค่เกือบๆวัน ตังก็ไม่มี อ้าวอีนี่ แพลนทุกอย่าง ยกเว้นแลกเงินมานะแก๊ แกแลกมา 40 เหรียญ มันจะพอม๊ายยยย หาาาาาา เอาวะ จนนี่หว่า มีแค่นี้ งี้ต้องวางแผนดีๆละ เห้ย คิดได้อีก ชั้นมีรุ่นพี่อยู่สิงคโปรนี่หว่า ไม่มีข้อมูลไหนดีและถูกไปกว่าข้อมูลคนท้องถิ่นหรอกแก เชื่อชั้นดิ เดี๋ยวสรุปบทสนทนาสั้นๆให้ละกัน
“ฮัลโหลพี่นัท เค้าอยู่สิงคโปร แนะนำที่เที่ยวเค้าหน่อย”
- “เอ้าจริงดิ พี่ก็ว่างอยู่ อยากได้ไกด์มั้ย เดี๋ยวพาเที่ยว”
“เกรงใจอ่าาา แต่วันพรุ่งนี้เค้าว่างถึงประมาณห้าโมงเย็นพาเค้าเที่ยวหน่อย”
- “อยากทำอะไร”
“ไปตามล่า Merlion ทั้ง 5 ตัวกันมั้ย”
- “มันมี 5 ตัวหรอ ไม่ได้มีแค่ 4 หรอ ได้ๆ พี่ก็ยังไม่เคยเห็นครบ งั้นเดี๋ยวพี่หาข้อมูลแปปนะ งั้น พรุ่งนี้เจอกันสักเก้าครึ่ง สิบโมงละกัน เราอยู่ไหน เดี๋ยวพี่ไปหา”
“สถานี Bayfront ฮัฟ”
- “งั้นเจอกัน พรุ่งนี้”
สรุปว่า ชั้นได้ไกด์ท้องถิ่นมา 1 คน อิอิ บอกก่อนนะแก๊ ว่าราคาที่อยู่ข้างล่างต่อไปนี้ เป็นราคาต่อคน สำหรับทริปนี้ เพราะพี่ชั้น ค่าเดินทางฮีมีบัตรของฮี”
สรุปว่าทริปเราสองคนเริ่มขึ้นตอน 10 โมงกว่าๆนิดๆ เริ่มจากสถานี Bayfront
(ถ้ามาจากสนามบิน Changi นั่ง MRT สายสีเขียวมาเปลี่ยน Circle Line สีส้ม ที่ สถานี Paya Lebar นั่งไปทาง Marina Bay ลงที่สถานี Bayfront ค่าMRT 2.50 SGD ค่ะ)

(ขึ้นจากสถานีมาทางศูนย์การค้า ก็จะเห็นเมืองฝั่ง Downtown ใหม่)
หลังจากนั้น เราก็เดินไปที่โรงแรม Fullerton อันเป็นที่อยู่ของสิงโตทะเลสองตัวแรกกัน ใช้เวลาเดินไม่นานมาก ประมาณ 15 นาที จาก Marina Bay Sand ท่ามกลางอากาศอันแสนเย็นสบายกว่าเตาอบ ตอนนั้นชั้นคิดว่า ชั้นคิดผิดที่ใส่ขายาวมา แต่พอคิดดีๆ เออ ชั้นคิดถูกละ ไม่งั้นนะ ขาชั้นจะสีตัดกัน

ภาพระหว่างทางเจ้าค่ะ
เนื่องด้วยอากาศเย็นเกินจะรับได้ แนะนำให้เดินผ่านโรงแรมหรูแห่งนี้ทะลุไปออกอีกฟากเลย และแล้ว เราก็มาถึงเจ้าสิงโตทะเลสองตัวแรก ฮู่เล่ เย่เย่

ฝั่งตรงข้ามของเจ้าสิงโตตัวใหญ่นี้คือ Marina Bay Sand
ส่วนนี่เจ้าตัวเล็ก เสียดายวันนี้ไม่เปิดน้ำ
Mission complete ไปแล้ว 2 จาก 5 ตัว เวลาก็ประมาณ 11 โมงกว่าๆแล้ว ป่ะ ไปหาตัวที่ 3 ตัวที่ 4 กัน พี่นัทบอกตัวที่ 3 กับ 4 นี่อยู่ใกล้กัน แบบในระยะมองเห็นกันได้ ก็ดีดิ ไม่ต้องเดินมาก อิอิ
เราเดินกลับมาทาง Fullerton Hotel เพื่อจะมาขึ้นรถบัส ระหว่างเดินมาก็ผ่าน เจ้าตัวนี้ แก๊ นี่มันยูนิงา ชัดๆ
ระหว่างนั่งรถบัสมาค่ะ
(เก๊าลืมถ่ายป้ายรถบัสกะ Vivo City มา เก๊าขอโทษ) หรือใครจะนั่ง MRT มาลงที่นี่ก็ได้นะ เป็นห้างที่อยู่ติดๆกัน สถานี Harbourfront ขึ้นจากสถานี Raffles Place ค่าMRT 1.70 SGD เปลี่ยน 1 รอบ (ขึ้นรถบัสมาง่ายกว่า นั่งยาวๆ สิบกว่านาที ได้เห็นวิวเมืองด้วย)
เราตัดสินใจที่จะขึ้นเขาฝ่าอากาศร้อนไปเผาผลาญไขมันในร่างกายก่อนที่จะลงกลับมาหามื้อกลางวันทานกัน เลยแวะกันที่ Vivo Mart ในห้าง Vivo city เพื่อซื้อน้ำหวานติดกระเป๋ากันคนละขวด เราได้น้ำอัดลมสีน้ำเงินขนาด 600ml. มาในราคา 1.40 SGD
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(ถ้าคุณแฟนที่น่ารักผ่านมาอ่านกระทู้นี้ ขอโทษย้อนหลังกับการแอบดื่มน้ำอัดลมและชาเขียวรสโคตรหวาน โปรดเข้าใจนะคะว่าเดินขึ้นเขา ร่างกายต้องการน้ำตาล)
จากนั้น เราก็เดินข้ามถนนไปยังอีกฟาก ฝั่งตรงข้าม ที่มีชื่อว่า Mt Faber เพื่อจะเดินขึ้นไปหาเจ้าสิงโตทะเลตัวที่ 3 ทางเดินขึ้นอยู่ตรงนี้
เห้ย ไม่ร้อนเท่าไหร่นะ ต้นไม้เยอะ อากาศสดชื่นมาก ทางก็เรียบๆ เป็นเนินน้อยๆค่อยๆเดินขึ้นแบบนี้
เห้ย ทางแบบนี้มาเลยแก๊ เดินอีกสองสามโลชั้นก็ไม่หวั่นบอกเลย ขณะกำลังคิดแบบนั้นอยู่ได้ไม่ถึงนาที ความจริงก็ปรากฏ
เห้ย แก๊ พักทำใจแปปนะ มองขึ้นไปแล้ว ไม่ใช่ใกล้ๆเลย นั่งพักกัน 10 นาที จิบน้ำหวานๆ ดูผู้ชายมี Sixpack แน่นๆวิ่งผ่านไป
(เห้ย วิ่งเกรงใจกันบ้างจิ นี่เดินก็จะตายอยู่ละ ว่าแต่ พี่คะ รับสมัครคนซับเหงื่อมั้ย)
หลังจากพักกันหายเหนื่อยแล้ว ก็ลุยกันต่อ ระหว่างทางก็หันไปถามพี่นัทว่า มันไม่มีทางอื่นหรอ นางบอกว่า Taxi ไง เอิ่ม เดินก็ได้ จน! เดินกันมาได้สัก 20 นาทีก็ถึงแล้ววววว
เห้อ ถึงทางธรรมดาสักที ชันแค่นี้ พี่ไม่หวั่น 555 เดินต่อได้ๆ เดินไปสักนิด เราก็เห็น สิงโตทะเลตัวที่ 3 แล้ว
เดี๋ยวเราจะไปหามันใกล้ๆกันที่ Sentosa ตอนนี้ เดินขึ้นเขาต่อไปหาตัวที่ 4 กันก่อน “เห้ย เดี๋ยว จริงๆมันมีอีกวิธีขึ้นมาบนนี้นะ ถ้าเราไป Sentosa ก่อน” พี่นัทพูดขึ้น “นั่นไง” พร้อมชี้มือไป
“เห้ย แล้วทำไมไม่บอกกันก่อนอ่ะ ได้ไป Sentosa ก่อน”
-“ 29 SGD หน่ะ เลยไม่ถาม”
“โถ่วพี่ รู้ใจจริง Bye! ถ้าจะราคาขนาดนี้ หนูยอมเดินขึ้นมาก็ได้”
-“ข่าวดีหว่ะ มีป้ายรถบัส”
“ข้าวร้ายมีมะ”
-“มี รถสายนี้หยุดวิ่งไปหลายปีละ”
เห้อ พี่นะพี่ เดินต่อละกัน เดินตาม map ไปอีกสักสิบนาที เราก็เจอเจ้าตัวที่ 4 แล้ว
เออแก สองตัวมันอยู่ในระยะที่มองเห็นกันจริง แต่มันไม่ได้ใกล้กันแบบที่ชั้นโดนหลอกให้คิดไว้ พี่ชาย เธอหลอกชั้นทำไม
ติดกับเจ้าตัวที่ 4 เป็นต้นไม้ พร้อมกับเข็มทิศบนพื้นรอบต้นไม้ว่า ทิศนั้นๆ ชี้ไปยังประเทศอะไร เมืองอะไรสำคัญๆบ้าง
ถ้าใครไปลองมองตรงพื้นดีๆนะ มี Bangkok ด้วยแหละ แต่เราไม่ได้ถ่ายมา แหะๆ
“ฝากรักเอาไว้นะ เริ่มหลงรักประเทศนี้แบบเบาๆ ไว้มีโอกาส และมีตังค์ในกระเป๋า พี่จะกลับมาหาใหม่นะจ๊ะ”
----->>> To Be Continuo
ไปตามล่า 5 Merlion ที่ Singapore กัน [ทริปงงๆ งบน้อยๆ เวลาน้อย ใช้สอยแบบประหยัด?]
ในยุคที่ตั๋วเครื่องบินจัดโปรโมชั่นแข่งกันลดราคาสวนกระแสกับค่ารถเมล์ปรับอากาศธรรมชาติเจ้เกียว และมีบ่อยยิ่งกว่าจำนวนวันหยุดซะอีก บวกกับคุณแฟนชวนไปดูซีเกมส์ที่สิงคโปร เห้ยแก๊ เกิดมาทั้งชีวิตชั้นยังไม่เคยไปสิงคโปรเลย ใกล้แค่นี้เอง ไหนๆก็จะไปฝึกงานยุโรปแล้ว แวะเปลี่ยนเครื่องที่สิงคโปรเป็นไง เช็คราคาตั๋วสิแก๊ เห้ย บินจากไทยไปโคเปน กะ ไทย สิงคโปร โคเปน ราคาต่างกันไม่กี่ร้อยเอง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เอาวะ ไหนๆ อยากไปสิงคโปร ไปกินลอดช่อง ไปดูสิงโตทะเล ทั้ง 5 ตัว (มันมี 5 ตัวนะแก๊ ไม่ใช่ 4 พี่ชั้นบอกให้ไปหาให้ครบ) เนื่องจากมีเวลาว่างแฟนหนีไปทำงานแค่เกือบๆวัน ตังก็ไม่มี อ้าวอีนี่ แพลนทุกอย่าง ยกเว้นแลกเงินมานะแก๊ แกแลกมา 40 เหรียญ มันจะพอม๊ายยยย หาาาาาา เอาวะ จนนี่หว่า มีแค่นี้ งี้ต้องวางแผนดีๆละ เห้ย คิดได้อีก ชั้นมีรุ่นพี่อยู่สิงคโปรนี่หว่า ไม่มีข้อมูลไหนดีและถูกไปกว่าข้อมูลคนท้องถิ่นหรอกแก เชื่อชั้นดิ เดี๋ยวสรุปบทสนทนาสั้นๆให้ละกัน
“ฮัลโหลพี่นัท เค้าอยู่สิงคโปร แนะนำที่เที่ยวเค้าหน่อย”
- “เอ้าจริงดิ พี่ก็ว่างอยู่ อยากได้ไกด์มั้ย เดี๋ยวพาเที่ยว”
“เกรงใจอ่าาา แต่วันพรุ่งนี้เค้าว่างถึงประมาณห้าโมงเย็นพาเค้าเที่ยวหน่อย”
- “อยากทำอะไร”
“ไปตามล่า Merlion ทั้ง 5 ตัวกันมั้ย”
- “มันมี 5 ตัวหรอ ไม่ได้มีแค่ 4 หรอ ได้ๆ พี่ก็ยังไม่เคยเห็นครบ งั้นเดี๋ยวพี่หาข้อมูลแปปนะ งั้น พรุ่งนี้เจอกันสักเก้าครึ่ง สิบโมงละกัน เราอยู่ไหน เดี๋ยวพี่ไปหา”
“สถานี Bayfront ฮัฟ”
- “งั้นเจอกัน พรุ่งนี้”
สรุปว่า ชั้นได้ไกด์ท้องถิ่นมา 1 คน อิอิ บอกก่อนนะแก๊ ว่าราคาที่อยู่ข้างล่างต่อไปนี้ เป็นราคาต่อคน สำหรับทริปนี้ เพราะพี่ชั้น ค่าเดินทางฮีมีบัตรของฮี”
สรุปว่าทริปเราสองคนเริ่มขึ้นตอน 10 โมงกว่าๆนิดๆ เริ่มจากสถานี Bayfront
(ถ้ามาจากสนามบิน Changi นั่ง MRT สายสีเขียวมาเปลี่ยน Circle Line สีส้ม ที่ สถานี Paya Lebar นั่งไปทาง Marina Bay ลงที่สถานี Bayfront ค่าMRT 2.50 SGD ค่ะ)
(ขึ้นจากสถานีมาทางศูนย์การค้า ก็จะเห็นเมืองฝั่ง Downtown ใหม่)
หลังจากนั้น เราก็เดินไปที่โรงแรม Fullerton อันเป็นที่อยู่ของสิงโตทะเลสองตัวแรกกัน ใช้เวลาเดินไม่นานมาก ประมาณ 15 นาที จาก Marina Bay Sand ท่ามกลางอากาศอันแสนเย็นสบายกว่าเตาอบ ตอนนั้นชั้นคิดว่า ชั้นคิดผิดที่ใส่ขายาวมา แต่พอคิดดีๆ เออ ชั้นคิดถูกละ ไม่งั้นนะ ขาชั้นจะสีตัดกัน
ภาพระหว่างทางเจ้าค่ะ
เนื่องด้วยอากาศเย็นเกินจะรับได้ แนะนำให้เดินผ่านโรงแรมหรูแห่งนี้ทะลุไปออกอีกฟากเลย และแล้ว เราก็มาถึงเจ้าสิงโตทะเลสองตัวแรก ฮู่เล่ เย่เย่
ฝั่งตรงข้ามของเจ้าสิงโตตัวใหญ่นี้คือ Marina Bay Sand
ส่วนนี่เจ้าตัวเล็ก เสียดายวันนี้ไม่เปิดน้ำ
Mission complete ไปแล้ว 2 จาก 5 ตัว เวลาก็ประมาณ 11 โมงกว่าๆแล้ว ป่ะ ไปหาตัวที่ 3 ตัวที่ 4 กัน พี่นัทบอกตัวที่ 3 กับ 4 นี่อยู่ใกล้กัน แบบในระยะมองเห็นกันได้ ก็ดีดิ ไม่ต้องเดินมาก อิอิ
เราเดินกลับมาทาง Fullerton Hotel เพื่อจะมาขึ้นรถบัส ระหว่างเดินมาก็ผ่าน เจ้าตัวนี้ แก๊ นี่มันยูนิงา ชัดๆ
ระหว่างนั่งรถบัสมาค่ะ
(เก๊าลืมถ่ายป้ายรถบัสกะ Vivo City มา เก๊าขอโทษ) หรือใครจะนั่ง MRT มาลงที่นี่ก็ได้นะ เป็นห้างที่อยู่ติดๆกัน สถานี Harbourfront ขึ้นจากสถานี Raffles Place ค่าMRT 1.70 SGD เปลี่ยน 1 รอบ (ขึ้นรถบัสมาง่ายกว่า นั่งยาวๆ สิบกว่านาที ได้เห็นวิวเมืองด้วย)
เราตัดสินใจที่จะขึ้นเขาฝ่าอากาศร้อนไปเผาผลาญไขมันในร่างกายก่อนที่จะลงกลับมาหามื้อกลางวันทานกัน เลยแวะกันที่ Vivo Mart ในห้าง Vivo city เพื่อซื้อน้ำหวานติดกระเป๋ากันคนละขวด เราได้น้ำอัดลมสีน้ำเงินขนาด 600ml. มาในราคา 1.40 SGD
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จากนั้น เราก็เดินข้ามถนนไปยังอีกฟาก ฝั่งตรงข้าม ที่มีชื่อว่า Mt Faber เพื่อจะเดินขึ้นไปหาเจ้าสิงโตทะเลตัวที่ 3 ทางเดินขึ้นอยู่ตรงนี้
เห้ย ไม่ร้อนเท่าไหร่นะ ต้นไม้เยอะ อากาศสดชื่นมาก ทางก็เรียบๆ เป็นเนินน้อยๆค่อยๆเดินขึ้นแบบนี้
เห้ย ทางแบบนี้มาเลยแก๊ เดินอีกสองสามโลชั้นก็ไม่หวั่นบอกเลย ขณะกำลังคิดแบบนั้นอยู่ได้ไม่ถึงนาที ความจริงก็ปรากฏ
เห้ย แก๊ พักทำใจแปปนะ มองขึ้นไปแล้ว ไม่ใช่ใกล้ๆเลย นั่งพักกัน 10 นาที จิบน้ำหวานๆ ดูผู้ชายมี Sixpack แน่นๆวิ่งผ่านไป
(เห้ย วิ่งเกรงใจกันบ้างจิ นี่เดินก็จะตายอยู่ละ ว่าแต่ พี่คะ รับสมัครคนซับเหงื่อมั้ย)
หลังจากพักกันหายเหนื่อยแล้ว ก็ลุยกันต่อ ระหว่างทางก็หันไปถามพี่นัทว่า มันไม่มีทางอื่นหรอ นางบอกว่า Taxi ไง เอิ่ม เดินก็ได้ จน! เดินกันมาได้สัก 20 นาทีก็ถึงแล้ววววว
เห้อ ถึงทางธรรมดาสักที ชันแค่นี้ พี่ไม่หวั่น 555 เดินต่อได้ๆ เดินไปสักนิด เราก็เห็น สิงโตทะเลตัวที่ 3 แล้ว
เดี๋ยวเราจะไปหามันใกล้ๆกันที่ Sentosa ตอนนี้ เดินขึ้นเขาต่อไปหาตัวที่ 4 กันก่อน “เห้ย เดี๋ยว จริงๆมันมีอีกวิธีขึ้นมาบนนี้นะ ถ้าเราไป Sentosa ก่อน” พี่นัทพูดขึ้น “นั่นไง” พร้อมชี้มือไป
“เห้ย แล้วทำไมไม่บอกกันก่อนอ่ะ ได้ไป Sentosa ก่อน”
-“ 29 SGD หน่ะ เลยไม่ถาม”
“โถ่วพี่ รู้ใจจริง Bye! ถ้าจะราคาขนาดนี้ หนูยอมเดินขึ้นมาก็ได้”
-“ข่าวดีหว่ะ มีป้ายรถบัส”
“ข้าวร้ายมีมะ”
-“มี รถสายนี้หยุดวิ่งไปหลายปีละ”
เห้อ พี่นะพี่ เดินต่อละกัน เดินตาม map ไปอีกสักสิบนาที เราก็เจอเจ้าตัวที่ 4 แล้ว
เออแก สองตัวมันอยู่ในระยะที่มองเห็นกันจริง แต่มันไม่ได้ใกล้กันแบบที่ชั้นโดนหลอกให้คิดไว้ พี่ชาย เธอหลอกชั้นทำไม
ติดกับเจ้าตัวที่ 4 เป็นต้นไม้ พร้อมกับเข็มทิศบนพื้นรอบต้นไม้ว่า ทิศนั้นๆ ชี้ไปยังประเทศอะไร เมืองอะไรสำคัญๆบ้าง
ถ้าใครไปลองมองตรงพื้นดีๆนะ มี Bangkok ด้วยแหละ แต่เราไม่ได้ถ่ายมา แหะๆ
“ฝากรักเอาไว้นะ เริ่มหลงรักประเทศนี้แบบเบาๆ ไว้มีโอกาส และมีตังค์ในกระเป๋า พี่จะกลับมาหาใหม่นะจ๊ะ”
----->>> To Be Continuo