และแล้วเราก็นั่งชินคันเซนมาลงโตเกียว เพื่อที่จะมาตามล่าความฝันวัยเด็กของเราค่ะ 555
วันนี้เราจะมาลุยไปชอปของฝากที่ Ueno ไป Odaiba ไปหยอดโคชาปองที่ Akiba และเดินหาของที่ Shibuya
อันนี้ไปร้าน It's me ที่ Shibuya ค่ะ ไปหาเจ้าอายไลน์เนอร์ค่ะ แน่นอนต้องไม่ใช่อายไลน์เนอร์ธรรมดา เพราะมันคือ อายไลน์เนอร์เซเลอร์มูนนน ปิ๊งงงง ฝาของมันจะมีคฑาของเซเลอร์มูนค่ะ .. เท่านั้น 55
แต่สำหรับติ่งอย่างเรามันไม่ธรรมดาแน่นอนค่ะ

((ต้องใช้รูปที่ save มานะคะ เพราะรูปที่ถ่ายของตัวเองทำไมโหลดไม่ได้ไม่รู้อ่า))

แต่สิ่งนึงที่ขาดไม่ได้ ถือว่าเป็น Landmark ของ Shibuya เลย

5แยก Shibuya
และเราก็โลดแล่นไปต่อที่ Odaiba นั่งรถไฟฟ้าที่ไม่มีคนขับค่ะ ไปลงสถานี Daiba 07

แต่ไม่ได้ไปตึกที่เปนเกมส์ เป็นของเล่นแบบทั้งตึก เ พราะเวลาไม่พอค่ะ ได้ปก็ที่นี่แหละค่ะ ที่ตั้งใจจะมา

555 เราเจอกันอีกแล้วนะ ลูฟี่ ทริปนี้เราขาดไป 2ร้าน ที่เกี่ยวกับ one piece ซึ่งจะมาตามเก็บคราวหน้านะ
อันนี้มาดูภายในร้านกันก่อนดีกว่า
นี่เป็นร้านของพวกทหารเรือที่ซันจิได้เคยอยู่ Baratie ค่ะ สาวก one piece คงจะรู้ดี

เริ่มรูปกันรัวๆละนะคะ

โอะโอ ดูสิใครออกมา เสียงเปิดตัวนี้อลังการมาก ทำเอาตกใจแทบสำลักน้ำ 555 อันนี้เวอร์ค่ะ .. แซป ขาแดง คนที่เปรียบเสมือนพ่อของซันจิคุงนั่นเอง
และเค้าคนนี้คือเจ้าของร้าน Baratie ภัตรคารลอยน้ำแห่งนี้นี่เองงง ((มีเอคโค่ด้วย 555))

มาถึงเวลาแห่งการทดลอง ลิ้มลองอาหารแล้วค่า ชอบมาก 555 แต่สั่งมาแค่อย่างเดียวน๊า เพราะกละวกินไม่หมด แต่ไว้คราวหน้าจะมาลองอีกค่ะ

เมนูนี้มีชื่อว่า "Pirate's Treasure Chest" 950 bellies ค่ะ สกุลเงินในร้านนี้จะเป็นสกุลเดียสกันเลยกับในเรื่อง คือ bellies เริ่ดอ่าา ง่อววววว ต่อค่ะต่อ

ส่วนเมนูน้ำนี้คือ "Monkey D.Luffy" เมนูน้ำทั้งหมดจะราคาเท่ากันนะคะถ้าจำไม่ผิด คือ 670 bellies

เมื่อาหารมาครบแล้ว รีรออะไรคะ ..

และสุดท้ายก็ฟอร์มเดิมนะคะ เป็นที่รู้กัน 555 เกลี้ยงตามคอนเซปคร่าาา
ได้เวลาบับบายซันจิคุงก่อน คราวหน้าจะแงะมาหาใหม่

ลืมขอเบอร์ไว้เผื่อจะให้ Delivery มาส่งถึงบ้าน

และระหว่างทางที่เดินไปหาเจ้า Gandum เพื่อนรัก ((ชื่อเหมือนการ์ตูนในจิตนาการของเด็กเล็กเลย))
ฟ้าสวยมากค่ะวันนี้ แดดดี ลมดี เหมือนเคย

เอ๊ะ อะไรทำไมใหญ่ยักษ์อีกแล้ว 555 หมู3ชั้นทอดเสียบไม้จ้า อ้วนมั้ย ไม่หรอกกก นานๆกินที

ป่ะ พอเราผ่านด่านมันมันมาแล้ว ก็มาเจอเจ้าหุ่นกระป๋องยักษ์สะทีนะคะ

สดชื่นมากกกกกสินะ 5555 ไม่สามารถเซลฟี่ตัวเองได้จริงๆค่ะ อันนี้คือ "ทำได้เพียง"
ทีนี้เราไปต่อกันที่ Ueno ดีกว่าาา เราตรงไปที่ตึก Yamashiroya ก่อนเลยค่ะ เพื่อเซเลอร์มูนนนน แต่ของดั้นหมด เสียใจแพร๊บบบ ที่ได้ก็มี หยอดโคชาปอง 3-4อัน กับสติกเกอร์เซเลอร์มูน 1แผ่นเอามาติดเคสโทรศัพท์ อิอิ

เสร็จจากตรงนี้ก็ไปต่อ Ameyoko ค่ะ มีคนฝากซื้อของลึ่ม แล้วก้อต้องซื้อฝากลึ่ม !! อันนี้เราไม่มีรูปนะคะ เพราะล้นมือมากๆๆๆๆ
พอเสร็จจาก Ueno เราก็นั่งรถไฟไปต่อกันที่ทีเด็ดของเราแล้วค่าา Akiba
Oh my god !! ตู้โคชาปองเป็นสิบสิบ เลือกไม่ถุกเลยค่ะ แต่ก็เลือกได้ 555
ของที่ได้มาวันนี้นะคะ แค่นี้เอง เพราะพรุ่งนี้เราต้องลัดฟ้ากลับไทยกันแต่เช้าแล้ว
ตอนกลับนี่แทบร้องไห้ค่ะ รถไฟที่นั่งจากสถานีโตเกียวไปนาริตะ ขบวนสุดท้ายจ้า 55 ชอปเพลินไปหน่อย และพอไปถึง นาริตะ รถบัสของโรงแรมก็หมดพอดีเปะ ! ต้องโบกแทกซี่กันสิคะ
แต่โชคดีที่ สนามบินกับโรงแรมห่างแค่นั่งรถ 10นาที
เช้าแล้วนะคะ "หมดเวลาแล้ว เราคง ต้องไป แต่สิ่งที่เหลือในใจยังอยู่"
"การเดินทางไม่มีสิ้นสุด ถึงแม้จะสิ้นสุดจุดหมายของทริปทริปนึง แต่เราก็ยังคงต้องเดินหน้ากันต่อไป แม้กระทั่งหมดลมหายใจ เราก็ยังคงต้องเดินต่อไปเรื่อยๆ ในที่ที่ไม่อาจมีใครรู้ .."

ก่อนลัดฟ้าก็ไม่วายนะคะ 5555 จำได้ว่าตั้งกะมายังไม่โดนซูชิเลย เลยสักหน่อย
ก่อนขึ้นเครื่องก็มีชอปนะคะ ทั้งของฝากซื้อ และซื้อฝาก เพลินอีก คิดเยอะ เกือบตกเครื่อง เกทก็อยู่สะเกือบสุดทาง วิ่งสิคะวิ่ง หอบกินกันเลยทีเดียว

อันนี้ถ่ายจากกล้องโทรศัพท์ค่ะ ทำไมไม่หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายก็ไม่รู้เหมือนกัน
จบแล้วสินะคะการเดินทางของผู้หญิงหัวทองตัวจิ๋วๆคนนี้ .. เป็นการเดินทางคนเดียวในญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก หลงก้อมีบ้างแต่ไม่ถึงกับหาทางไม่เจอ กินอะไรแปลกๆใหม่ๆก้อมีบ้าง เจอคนตัณหากลับก้อมีบ้าง เจอเนื้อคู่แต่ปล่อยให้ผ่านไปก็มีบ้าง 5555 แต่ที่เจอเยอะสุดคือ ธรรมชาติที่สวยงาม บ้านเมืองที่น่าอยู่ บรรยากาศที่ดี และผู้คนที่มีน้ำใจ ค่ะ .. นี่คือข้อดีที่ทำให้เราอยากจะมาอยู่ที่ญี่ปุ่น มันเป็นอะไรที่ดี๊ดี
คราวหน้าจะรีวิวอะไรที่ไหนอีก ขอฝาก "ผู้หญิงหัวทองตัวจิ๋ว" คนนี่ด้วยนะคะ

ขอบคุณมากนะคะ ที่อุส่าอ่านหรือดูรูปกันจนหมด รูปมีอีกมากมายเลยเข้าไปชมกันได้นะคะ
fb :
https://m.facebook.com/pinkkii.pk
ig : patumporr
[CR] A girl in Japan 2015 ตอน คืนแห่งการตามล่าความฝันวัยเด็ก
วันนี้เราจะมาลุยไปชอปของฝากที่ Ueno ไป Odaiba ไปหยอดโคชาปองที่ Akiba และเดินหาของที่ Shibuya
อันนี้ไปร้าน It's me ที่ Shibuya ค่ะ ไปหาเจ้าอายไลน์เนอร์ค่ะ แน่นอนต้องไม่ใช่อายไลน์เนอร์ธรรมดา เพราะมันคือ อายไลน์เนอร์เซเลอร์มูนนน ปิ๊งงงง ฝาของมันจะมีคฑาของเซเลอร์มูนค่ะ .. เท่านั้น 55
แต่สำหรับติ่งอย่างเรามันไม่ธรรมดาแน่นอนค่ะ
((ต้องใช้รูปที่ save มานะคะ เพราะรูปที่ถ่ายของตัวเองทำไมโหลดไม่ได้ไม่รู้อ่า))
แต่สิ่งนึงที่ขาดไม่ได้ ถือว่าเป็น Landmark ของ Shibuya เลย
5แยก Shibuya
และเราก็โลดแล่นไปต่อที่ Odaiba นั่งรถไฟฟ้าที่ไม่มีคนขับค่ะ ไปลงสถานี Daiba 07
แต่ไม่ได้ไปตึกที่เปนเกมส์ เป็นของเล่นแบบทั้งตึก เ พราะเวลาไม่พอค่ะ ได้ปก็ที่นี่แหละค่ะ ที่ตั้งใจจะมา
555 เราเจอกันอีกแล้วนะ ลูฟี่ ทริปนี้เราขาดไป 2ร้าน ที่เกี่ยวกับ one piece ซึ่งจะมาตามเก็บคราวหน้านะ
อันนี้มาดูภายในร้านกันก่อนดีกว่า
นี่เป็นร้านของพวกทหารเรือที่ซันจิได้เคยอยู่ Baratie ค่ะ สาวก one piece คงจะรู้ดี
เริ่มรูปกันรัวๆละนะคะ
โอะโอ ดูสิใครออกมา เสียงเปิดตัวนี้อลังการมาก ทำเอาตกใจแทบสำลักน้ำ 555 อันนี้เวอร์ค่ะ .. แซป ขาแดง คนที่เปรียบเสมือนพ่อของซันจิคุงนั่นเอง
และเค้าคนนี้คือเจ้าของร้าน Baratie ภัตรคารลอยน้ำแห่งนี้นี่เองงง ((มีเอคโค่ด้วย 555))
มาถึงเวลาแห่งการทดลอง ลิ้มลองอาหารแล้วค่า ชอบมาก 555 แต่สั่งมาแค่อย่างเดียวน๊า เพราะกละวกินไม่หมด แต่ไว้คราวหน้าจะมาลองอีกค่ะ
เมนูนี้มีชื่อว่า "Pirate's Treasure Chest" 950 bellies ค่ะ สกุลเงินในร้านนี้จะเป็นสกุลเดียสกันเลยกับในเรื่อง คือ bellies เริ่ดอ่าา ง่อววววว ต่อค่ะต่อ
ส่วนเมนูน้ำนี้คือ "Monkey D.Luffy" เมนูน้ำทั้งหมดจะราคาเท่ากันนะคะถ้าจำไม่ผิด คือ 670 bellies
เมื่อาหารมาครบแล้ว รีรออะไรคะ ..
และสุดท้ายก็ฟอร์มเดิมนะคะ เป็นที่รู้กัน 555 เกลี้ยงตามคอนเซปคร่าาา
ได้เวลาบับบายซันจิคุงก่อน คราวหน้าจะแงะมาหาใหม่
ลืมขอเบอร์ไว้เผื่อจะให้ Delivery มาส่งถึงบ้าน
และระหว่างทางที่เดินไปหาเจ้า Gandum เพื่อนรัก ((ชื่อเหมือนการ์ตูนในจิตนาการของเด็กเล็กเลย))
ฟ้าสวยมากค่ะวันนี้ แดดดี ลมดี เหมือนเคย
เอ๊ะ อะไรทำไมใหญ่ยักษ์อีกแล้ว 555 หมู3ชั้นทอดเสียบไม้จ้า อ้วนมั้ย ไม่หรอกกก นานๆกินที
ป่ะ พอเราผ่านด่านมันมันมาแล้ว ก็มาเจอเจ้าหุ่นกระป๋องยักษ์สะทีนะคะ
สดชื่นมากกกกกสินะ 5555 ไม่สามารถเซลฟี่ตัวเองได้จริงๆค่ะ อันนี้คือ "ทำได้เพียง"
ทีนี้เราไปต่อกันที่ Ueno ดีกว่าาา เราตรงไปที่ตึก Yamashiroya ก่อนเลยค่ะ เพื่อเซเลอร์มูนนนน แต่ของดั้นหมด เสียใจแพร๊บบบ ที่ได้ก็มี หยอดโคชาปอง 3-4อัน กับสติกเกอร์เซเลอร์มูน 1แผ่นเอามาติดเคสโทรศัพท์ อิอิ
เสร็จจากตรงนี้ก็ไปต่อ Ameyoko ค่ะ มีคนฝากซื้อของลึ่ม แล้วก้อต้องซื้อฝากลึ่ม !! อันนี้เราไม่มีรูปนะคะ เพราะล้นมือมากๆๆๆๆ
พอเสร็จจาก Ueno เราก็นั่งรถไฟไปต่อกันที่ทีเด็ดของเราแล้วค่าา Akiba
Oh my god !! ตู้โคชาปองเป็นสิบสิบ เลือกไม่ถุกเลยค่ะ แต่ก็เลือกได้ 555
ของที่ได้มาวันนี้นะคะ แค่นี้เอง เพราะพรุ่งนี้เราต้องลัดฟ้ากลับไทยกันแต่เช้าแล้ว
ตอนกลับนี่แทบร้องไห้ค่ะ รถไฟที่นั่งจากสถานีโตเกียวไปนาริตะ ขบวนสุดท้ายจ้า 55 ชอปเพลินไปหน่อย และพอไปถึง นาริตะ รถบัสของโรงแรมก็หมดพอดีเปะ ! ต้องโบกแทกซี่กันสิคะ
แต่โชคดีที่ สนามบินกับโรงแรมห่างแค่นั่งรถ 10นาที
เช้าแล้วนะคะ "หมดเวลาแล้ว เราคง ต้องไป แต่สิ่งที่เหลือในใจยังอยู่"
"การเดินทางไม่มีสิ้นสุด ถึงแม้จะสิ้นสุดจุดหมายของทริปทริปนึง แต่เราก็ยังคงต้องเดินหน้ากันต่อไป แม้กระทั่งหมดลมหายใจ เราก็ยังคงต้องเดินต่อไปเรื่อยๆ ในที่ที่ไม่อาจมีใครรู้ .."
ก่อนลัดฟ้าก็ไม่วายนะคะ 5555 จำได้ว่าตั้งกะมายังไม่โดนซูชิเลย เลยสักหน่อย
ก่อนขึ้นเครื่องก็มีชอปนะคะ ทั้งของฝากซื้อ และซื้อฝาก เพลินอีก คิดเยอะ เกือบตกเครื่อง เกทก็อยู่สะเกือบสุดทาง วิ่งสิคะวิ่ง หอบกินกันเลยทีเดียว
อันนี้ถ่ายจากกล้องโทรศัพท์ค่ะ ทำไมไม่หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายก็ไม่รู้เหมือนกัน
จบแล้วสินะคะการเดินทางของผู้หญิงหัวทองตัวจิ๋วๆคนนี้ .. เป็นการเดินทางคนเดียวในญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก หลงก้อมีบ้างแต่ไม่ถึงกับหาทางไม่เจอ กินอะไรแปลกๆใหม่ๆก้อมีบ้าง เจอคนตัณหากลับก้อมีบ้าง เจอเนื้อคู่แต่ปล่อยให้ผ่านไปก็มีบ้าง 5555 แต่ที่เจอเยอะสุดคือ ธรรมชาติที่สวยงาม บ้านเมืองที่น่าอยู่ บรรยากาศที่ดี และผู้คนที่มีน้ำใจ ค่ะ .. นี่คือข้อดีที่ทำให้เราอยากจะมาอยู่ที่ญี่ปุ่น มันเป็นอะไรที่ดี๊ดี
คราวหน้าจะรีวิวอะไรที่ไหนอีก ขอฝาก "ผู้หญิงหัวทองตัวจิ๋ว" คนนี่ด้วยนะคะ
ขอบคุณมากนะคะ ที่อุส่าอ่านหรือดูรูปกันจนหมด รูปมีอีกมากมายเลยเข้าไปชมกันได้นะคะ
fb : https://m.facebook.com/pinkkii.pk
ig : patumporr