ตามติดชีวิตเด็กโฮมสกูล ตอน ปอกเปลือกกลุ่มบ้านเรียนปฐมธรรม

สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่

นานหลายปีนะคะที่ไม่ได้เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับ การศึกษาทางเลือกของลูกๆ วันนี้ค่ะ โอกาสเหมาะที่มุกจะขอใช้พื้นที่ในชานเรือนเพื่อ “เล่าสู่กันฟัง”





สมาชิกหลายท่านอาจจะพอจำได้เมื่อหลายปีก่อนมุกเคยโพสเรื่อง “ตามติดชีวิตเด็กโฮมสกูล” ว่าด้วยการแบ่งปันประสบการณ์ของการเอาลูกสาวออกจากระบบโรงเรียนทั่วๆ ไป และเข้าสู่วงการ “บ้านเรียน” อย่างเต็มตัว

ทุกครั้งที่มีคนถามว่า “ลูกๆ คุณแม่เรียนที่ไหน” เมื่อมุกตอบออกไป สีหน้าแปลกใจมักถูกส่งกลับมาเสมอ จนมุกเองรู้สึกชินนะคะ เพราะเข้าใจได้ว่า “บ้านเรียนหรือโฮมสกูล” ฟังดูแล้วมันเป็นทางเลือกที่เหมือนอยู่ปลายของเส้นเชือกสำหรับการศึกษาของไทย แต่วันนี้มุกจะมาปอกเปลือก “กลุ่มบ้านเรียนปฐมธรรม” ของลูกๆ มุกและเด็กๆ อีก ยี่สิบกว่าชีวิตจากสิบแปดครอบครัวให้ฟังค่ะ อย่างน้อยๆ ก็เพื่อเป็นไอเดียให้คุณพ่อคุณแม่ได้เห็นภาพว่า...ทางเลือกแบบนี้มันมีอยู่จริงๆ นะ และเราก็อยู่มาเข้าปีที่เจ็ดมีเด็กจบออกไปหนึ่งรุ่นแล้วค่ะ

ลูกสาวลูกชายของมุกเริ่มต้นวัยอนุบาลเหมือนเด็กทั่วๆ ไป แต่โชคดีที่เขาได้เริ่มวันเรียนรู้ที่โรงเรียนอนุบาลดีๆ แนวบูรณาการซึ่งอยู่ใกล้บ้านอย่างอนุบาลบ้านพลอยภูมิ โรงเรียนเล็กๆ ที่ตอบความต้องการของครอบครัวเราทุกอย่าง และเพราะเหตุนี้ที่ทำให้เราในฐานะพ่อกับแม่ เริ่มคิดอย่างจริงจังว่า อะไรคือสิ่งที่ลูกเราต้องการ การศึกษาแบบไหนที่เราคิดว่าจะสร้างเขาได้เหมาะสมกับวัยของเขาที่สุด

หลายคนค่ะ ตั้งความหวังไว้กับโรงเรียนดีๆ มากมาย แต่ไม่มีโรงเรียนไหนหรอกค่ะ ที่จะสนองความต้องการของเราได้ทุกอย่าง อย่างที่แม่อ้อ (สุทธิพร สายเพ็ชร) หนึ่งในรุ่นบุกเบิกของปฐมธรรมได้กล่าวเอาไว้ว่า

“โรงเรียนในฝัน อยากได้...ต้องสร้าง”

มันเลยเป็นที่มาของกลุ่มบ้านเรียนเล็กๆ ที่เริ่มต้นจากเพียงแค่สี่ครอบครัว มีแม่เปิ้ลพ่อเส็งผู้บ้าบิ่นที่ตั้งมั่นกับการตั้งกลุ่มบ้านเรียนและมีครูเพียงหนึ่งคนลงสอนเด็ก ปฐมะรรมค่อยๆ เติบโต ผ่านอุปสรรคและปัญหานานัปการจนมาถึงวันนี้ที่ กลุ่มบ้านเรียนปฐมธรรมได้กลายกลุ่มบ้านที่มีแนวทางชัดเจน เป็นผู้ใหญ่ที่โตมาพร้อมความเข้มแข็งและมีเป้าหมายที่ยั่งยืนสร้างความภูมิใจให้กับคุณพ่อคุณแม่อย่างเราๆ ในฐานะ ส่วนหนึ่งของที่นี่

ปฐมธรรม คืออะไร?
บ้านเรียน (home school) คือระบบการศึกษาซึ่งจัดการโดยครอบครัว หรือกลุ่มของครอบครัว โดยไม่ได้พึ่งพาระบบการศึกษากระแสหลัก เช่นโรงเรียน หรือระบบการศึกษาของรัฐ โดยครอบครัวหรือชุมชนเป็นผู้จัดการศึกษาตามปรัชญาความเชื่อของตนหรือของชุมชนแตกต่างกันไป ซึ่งในปัจจุบันในประเทศไทยการจัดการศึกษาในรูปแบบนี้ได้รับการรับรองตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 เป็นต้นมา (เครดิต Wikipedia)

และในแต่ละปี เด็กๆ ของเราจะต้องเก็บเอาผลงานต่างๆ มอบให้กับทางเจ้าหน้าที่จากเขตการศึกษาที่ครอบครัวนั้นได้ขึ้นทะเบียนไว้ เพื่อให้ประเมิน รวมไปถึงมีการสอบข้อเขียนและสัมภาษณ์ เพื่อดูว่าเด็กๆ ที่เรียนแบบบ้านเรียน ได้รับความรู้ที่เหมาะสมและถูกต้องตามแนวทางของกระทรวงศึกษาธิการหรือเปล่า ส่วนว่าจะสอนอย่างไร จะใช้สื่อแบบไหนมาลงสอนเด็ก ตรงนี้เป็นสิ่งที่เรากำหนดเองได้ค่ะ นั่นแหละค่ะ ที่น่าสนใจ เรียนแบบที่ไม่ต้องเดินตามแนวการเรียนการสอนทั่วๆ ไป

หลักการคิดของบ้านเรียนปฐมธรรมง่ายและไม่ซับซ้อนค่ะ

เด็ก...ควรได้รับความรู้ตามเกณฑ์ของเขา แต่ไม่ควรเป็นเพียงแค่ทักษะตรงหรือเน้นท่องจำที่เมื่อผ่านแต่ละช่วงเวลาไปก็จะคืนมันกลับสู่คุณครู แต่เด็ก...ควรจะได้มีโอกาสคิด วิเคราะห์ ค้นหาข้อมูล ลงมือปฏิบัติ เข้าใจอุปสรรค แก้ไขปัญหา จนไปถึงสรุปเนื้อความในสิ่งที่เรียนรู้ได้ในแต่ละองค์ความรู้นั้นๆ แต่จะทำให้หลักการดีๆ แบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร หากหนึ่งห้อง ทุกสิ่งอย่างต้องแชร์กับเด็ก 50-60 คน ตรงจุดนี้ค่ะที่บ้านเรียนทำได้ เพราะสัดส่วนของนักเรียนน้อยมากค่ะ อยู่กันที่ 2-7 คนต่อหนึ่งวิชาต่อหนึ่งถึงสองคุณครู

มันเป็นไปได้อย่างไร?
เป็นไปได้ค่ะและเป็นมาแล้วถึงหกปีเต็ม ณ เวลานี้ เรามีชั้นเรียนทั้งหมด 6 ชั้นเรียนแบ่งออกเป็น
ประถมหนึ่ง 2 คน
ประถมสอง 6 คน
ประถมสาม 7 คน
ประถมสี่ห้า 4 คน
ประถมหก 4 คน
มีครูประจำแต่ละชั้นเรียนหนึ่งคน แบ่งสอนออกตามรายวิชาเพื่อให้ครบแปดสาระวิชา


แล้วพ่อแม่ไม่ต้องลงสอนเองหรือ?

มั่นใจมากค่ะว่า เมื่อพูดคำว่า “บ้านเรียนหรือโฮมสกูล” ทุกคนจะคิดก่อนเลยว่า พ่อแม่ต้องลงสอนเองใช่ไหม แต่บ้านเรียนของลูกมุก พ่อแม่ไม่ได้ลงสอนทุกคนนะคะ มีเพียงบางคนเท่านั้นที่มีความเชี่ยวชาญในศาสตร์นั้นๆ และมีเวลาที่สามารถเอื้อให้กับเด็กๆ ได้มีโอกาสเรียนได้ ส่วนตัวมุกรวมไปถึงคุณพ่อคุณแม่คนอื่นๆ...ไม่ได้สอนวิชาใดๆ กับลูกเลยค่ะ เป็นแผนกจัดหาจัดจ้างบ้าง เป็นคนขับรถยามเด็กๆ ออกทัศนศึกษาหรือทำกิจกรรมนอกสถานที่บ้างและอาจเป็นแม่ครัวบ้างเมื่อยามจำเป็น ชีวิตที่เหลือๆ ก็ทำงานออฟฟิศ ดูแลบ้านตามปกติไปค่ะ

สำหรับคุณครูที่นี่ เนื่องจากเราเน้นการเรียนรู้แบบทักษะตรงในบางวิชาเท่าที่จำเป็น และมีการเรียนแบบบูรณาการควบคู่ไปด้วย คุณครูของเราจึงเป็นครูที่พิเศษมากๆ ค่ะ เพราะมีความเข้าใจถึงหลักคิดและการสอนอย่างที่เราต้องการเป็นอย่างดี ประกอบกับมีคุณพ่อคุณแม่หลายคนที่สามารถลงมาช่วยเสริมในบางวิชาได้แบบที่ทำให้เด็กๆ ได้เรียนด้วยความสนุกและเข้าใจแบบสัมผัสจับต้องได้

ปล. เครดิตภาพทั้งหมดจากกล้องของคุณครู ของมุกเอง และของแม่อ้อ Suthiporn Saipetch ค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่