

......ก่อนจะมาฟังเรื่องของผม
ผมขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ขณะนี้ผมเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 สำนักวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมเคมี จะขึ้นปี 2 แล้ว


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้....ขอโม้หน่อยนะครับ นับถอยหลังจากปีนี้ไป 7 ปี ขณะนั้นผมเพิ่งเข้ามาเรียน ม.1 ที่โรงเรียนประจำจังหวัด แห่งหนึ่ง
ด้วยที่ขณะนั้นผมเป็นเด็กที่ตัวอ้วนๆ ดำๆ ทุกคนคงคิดภาพออกนะครับ อีกทั้ง ใส่แว่นหนาเตอะ ตอนนั้นผมแทบจะไม่มีอะไรดีเลย
ตอนที่เข้ามาใหม่ๆ ผมก็ยังเรียนๆเล่นๆ ติดเพื่อนอ่ะครับเหมือนเด็ก ม.ต้น ทั่วไปยังไม่คิดจะชอบใครอ่ะครับ
จนเวลาผ่านไป ผมขึ้น ม.4 ผมก็ยังเป็นไอ้แว่นอ้วนดำ คนเดิม และก็ติดเพื่อนมากเหมือนเดิม
แต่มีจุดๆนึงที่ไม่เคยมีมาก่อนคือ



......ผมไปแอบชอบรุ่นน้องคนนึง สมมติว่าน้องเขาชื่อว่า พ. นะครับ ด้วยที่ไปแอบชอบเขา อยู่ข้างเดียว แบบลมๆแล้งๆ
ซึ่งก็รู้ทั้งรู้ว่าน้องพ.คงไม่สนใจผมแน่อยู่แล้วด้วยสารรูปแบบนี้ ใครจะมาชอบผมลง แต่ผมก็พยายามที่จะจีบน้องเค้า
ผมก็พยายามทุกวิถีทาง ผมทั้งซื้อดอกไม้มาให้วันวาเลนไทน์ ถักผ้าพันคอให้ในฤดูหนาววันปีใหม่ ซึ่งผมก็คิดเข้าข้างตัวเอง
และคิดไปเองด้วยแหละว่าน้องเขาอาจจะมีใจ แต่ไม่เลย ก็แบบนี้แหละครับเรามันคนไม่หล่อ ก็ได้แค่ทำใจ
มันก็ทำให้ผมรู้ด้วยแหละว่าคนเราหน่ะ ส่วนใหญ่ หน้าตามาก่อนเสมอ
ผมก็ไม่เจียมตัวด้วยแหละเนาะโทษน้องเขาไม่ได้ ผมใช้เวลาทุ่มเทใจไป 1 ปี แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ -แห้วไปสิครับ 555+




(ตรงนี้เวิ้นเว้อครับ ข้ามไปก็ได้ อิอิ)
......พอปิดเทอมใหญ่ ม.4 เพื่อนผมก็ชวนผมไปติวสอบนายร้อย นี่คือจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด
ผมบอกกับพ่อกับแม่ว่าผมอยากลองไปสอบดู พ่อกับแม่ผมก็สนับสนุนครับ ให้ผมไปติว อยู่เหมือนค่ายเลย
ก่อนไปติว พ่อผมก็พาไปทำตาก่อน ทำเลสิกส์ นะครับ ตอนนั้นสายตาสั้นเกือบห้าร้อย พอทำออกมาก็เป็นปกติเลยไม่ต้องใส่แว่นแล้ว
อ่ะ เข้าสู่ตอนที่ผมเข้าค่ายติวต่อ ตอนเริ่มเข้าไปผมพยายามลดน้ำหนักลงเรื่อยๆ จนเหลือ 63 kg จาก 80 kg
ในค่าย พี่เขาก็สอนแนวข้อสอบที่จะใช้ติว ผมตั้งใจมากครับ แต่ผมก็มีต้นทุนความรู้น้อยกว่าคนที่เขาเคยเข้ามาก่อน ผมค่อนข้างเครียดครับ
ผมอยากทำให้พ่อกับแม่ดีใจในตัวผมบ้าง มีวันหนึ่งผมโทรไปหาพ่อ แล้วผมบอกว่าผมเหนื่อย ผมกลัวทำไม่ได้ พ่อผมบอกแค่ไม่เป็นไร
แค่เห็นว่าลูกตั้งใจพ่อก็ดีใจแล้ว คำๆนี้มันทำให้ผมต้องเสียน้ำตา ผมมีกำลังใจมาก แต่เมื่อสอบเสร็จ ผลก็ไม่ได้เป็นอย่างที่ผมคาดหวัง
ผมสอบไม่ติด ผมไม่เสียใจยังไงผมก็ต้องเดินหน้าต่อไป



.......ผมจึงเปลี่ยนตัวเองผมจึงต้องตังใจเรียนตอนที่อยู่ ม.ปลายต่อไป หุ่นผมเริ่มดีละ พอผมกลับมาที่ รร.เปิดเทอมขึ้น ม.5
เพื่อนกลับมาเห็นผมใหม่ ถึงกับอึ้งที่ผม นน. ลดลงไปเยอะอีกทั้งยังไม่ใส่แว่นแล้ว หุ่นดีแล้วนะ อิอิ ไม่เป็นไอ้อ้วนดำแว่นหนาอีกต่อไปครับ
ด้วยเกรด ม.4 ของผมที่แสนห่วยจึงส่งผลให้ผมเลื่อนห้องลงมาหนึ่งห้อง เฟลมากครับ แต่ไม่เป็นไรพยายามเอาใหม่
ให้กำลังใจตัวเองอย่างเดียว ต้องสู้ ตอนนั้นกัดฟันสู้มากครับ จากตอน ม.สี่ที่ไม่เคยจะเข้าเรียน ก็เปลี่ยนเป็นคนใหม่เลย
เรียนนั่งหน้าสุดตลอด พาเพื่อนเรียนแนะนำเพื่อน สอนเพื่อน ตอนนั้นชีวิตผมดีขึ้นมากเลย จบเทอมนั้นได้ที่สองของห้อง ดีใจมาก



......เอ้อลืมบอก พอผมผอมลงผิวเริ่มขาวขึ้น ก็เริ่มมีคนมาชอบ อันนี้ผมไม่ได้คิดไปเองจริงๆ มีคนมาชอบผมจริงๆ
มีทั้งรุ่นน้องมาปลื้ม ผมก็ยังไม่สนใจความรักอ่ะครับ มุ่งเรียนอย่างเดียว มีคนเข้ามาคุย ผมก็คุยนะ แต่ไม่เคยคิดไปไกลกว่าคนรู้จักเลย
เว้นแต่คนนึง คนนั้นเป็น ผู้หญิงเรียบร้อย สอบได้ที่ 1 ของห้อง เธอเป็นคนน่ารักมาก นิสัยดีสุดๆ เธอคือสเปคของผมเลย
เธอคือคนที่สองในชีวิตที่ผมชอบ สมมติว่าเธอชื่อ ร. นะครับ ผมชอบเค้ามากอ่ะครับ แต่ติดตรงที่ผมเปนคนขี้อาย จึงได้แค่คุยกันในเฟส
พอเจอหน้าจึงทำตัวไม่ถูกทั้งคู่เลย 5555+ ผมก็จีบเธอมาเรื่อยๆ แต่ตอนนั้นผมจีบใครไม่เป็นครับ ไม่รู้ว่าผญชอบอะไรยังไง



......จนเวลาผ่านไปจนจบ ม.5 เทอมหนึ่ง ช่วงปิดเทอมผมไปเข้าค่ายโอลิมปิก(แบบว่าฟลุค)
ด้วยที่ผมไม่ค่อยสนใจ ร. มากซะเท่าไหร่ ผมมีแต่เรียนอย่างเดียวเลยจนไม่ได้ดูแลใส่ใจเค้าเลย จนมีวันหนึ่ง ร . โทรมาหาผม
วันนั้นเค้าโทรมาบอกผมด้วยปากของเธอเองว่า เราเป็นเพื่อนกันดีกว่า ผมก็ถามเค้าว่าทำไม เค้าก็บอกว่าเราเป็น
เพื่อนกันดีกว่า ..เพราะว่า เค้าชอบผู้หญิง ผมนี่ จากซีเรียสผมก็ตลกเลยทันที แปลกมาก ผมก็วางสายไปแล้วก็ไม่ได้สนใจว่า ผญ. คนนั้นคือใคร


......พอจบค่ายไป ก็เปิดเทอมม.5 เทอมสอง ทุกอย่างก็ปกติเหมือนเดิมเว้นแต่ ร. ที่เราทั้งสองมองหน้ากันแทบไม่ติดเสียแล้ว
ผมก็ยังชอบเค้าอยุ่นะ ตอนนั้น จนมีเพื่อนมาบอกผมว่า คนที่เป็นแฟนใหม่ของ ร. เป็นเพื่อนสนิทผมเอง
สมมติว่าเธอชื่อ
"ป." นะครับ ป. เป็นเพื่อนผมมาตั้งแต่ ม.ต้น พอม.ปลาย เราก็อยู่คนละห้องกัน ป. เป็นผู้หญิงห้าวๆ ท่าทางคล้ายทอม
ถึงเธอจะบอกว่าเธอไม่ใช่ทอม ผมก็เรียกเธอว่าอิทอมอยู่ดี ป. เป็น ผญ. หน้าตาธรรมดาคนหนึ่ง ฟันเหยินด้วย ตัวเล็ก เตี้ยๆหน่อย
หัวเหม่ง ผมยาวถึงกลางหลัง และชอบรวบผมไปข้างหลัง
ป. เป็นเพื่อน ผญ. ที่ผมสนิทมากคนหนึ่ง พอผมรู้ว่าเป็นแฟนกับ ร. ไม่รู้ทำไม ผมรู้สึกโกรธทั้งคู่เลย ผมนี่มันไร้สาระสิ้นดี แพ้ทอม
แล้วยังขี้แพ้ชวนตีอีก หลังจากที่ผมรู้ ผมก็ไม่คุยกับทั้งคู่อีกเลย ผมไม่มีสติเลย เพื่อนก็ยุผมด้วยแหละ เรื่องเลยกลายเป็นว่าจาก ป.
เป็นเพื่อนสนิทกลายเป็นคนที่ผมไม่ชอบขี้หน้าไม่อยากคุยด้วยเพราะ เธอได้หัวใจคนที่ผมเคยชอบไปเสียแล้ว


......พอเวลาผ่านไป ผมขึ้น ม.6 ผมก็สบายขึ้นมาหน่อยไม่ค่อยมีเรียนเตรียมสอบอย่างเดียว มีช่วงนึงผมได้ไปเข้าค่าย ที่รุ่นพี่จากมหาวิทยาลัย
มาจัดให้ เป็นค่ายวิชาการ ติวสอบ อยู่นอกอำเภอเมือง ผมลองไปเข้าค่ายดู ก็ไปเจอผู้หญิงคนหนึ่งเธอเป็นคน ภูไท เธอน่ารักมาก ผิวขาว
ตัวเล็ก ตาโต มีเขี้ยว หุ่นดีมากด้วย หลังจากที่จบค่ายไป เธอก็ทักผมมา


......สมมติว่าเธอชื่อ ฟ. นะครับ เธอทักผมมาตอนนั้น ผมดีใจมาก มีคนน่ารักทักมา แล้วเราก็คุยกันครับ
เค้าก็ถามคำถามสุดเงิบกับผม ว่าจีบผมได้ไหม ผมก็ตอบกับเธอว่า ไม่ได้ เพราะผมจะจีบเธอก่อน ฮิ้วววววววววว ... ไม่นานเราก็เป็นแฟนกัน


......พอเข้า ม.6 เทอมสอง ก็ใกล้จะจบ ม.ปลายเต็มที ซึ่งตอนนั้นผมก็ไม่มองหน้า ป. อยุ่แล้วนะครับ
จนซักหน่อยก็มีรุ่นพี่ที่จบจากโรงเรียนไป ทำค่ายแนะนำมหาวิทยาลัยและสาขา ตอนนั้นบังเอิญมาก ที่ผมได้จับกลุ่มอยู่กลุ่มเดียวกันกับ ป.
เห้ออออ ผมก็ทำตัวปกติต่อไป จนถึงเวลาเย็นของค่ายวันแรก ป. มาใกล้ๆผม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ผมถามเค้าอีกทีเค้าบอกว่าไม่มีที่นั่งกินข้าวที่อื่นแล้วครับเลยได้มานั่งข้างๆผม 55555555 บังเอิญจริงๆ แล้วก็ถามผมว่า เมิงยังโกรธกุอยู่หรอ ผมก็ตอบ ป.ไปว่า กุไม่ได้โกรธเมิงนานแล้ววว
แล้วป. ก็ถามผมว่า เรามาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมได้ไหม ผมก็บอกว่าได้ หลังจากนั้น ป. ก็ร้องไห้ครับ ผมทำอะไรไม่ถูกก็เลยกอดเค้าเอาไว้
หลังจากวันนั้นเราก็เป็นเพื่อนสนิทกันเหมือนเดิม ไม่สิ มากกว่าเดิมด้วย มีอะไรผมก็จะถามป. ไปขี่รถเล่นด้วยกัน
กินข้าวด้วยกันเหมือนเพื่อนสนิททั่วๆไป ผมคุยกับ ป. ทุกเรื่อง รวมถึงเรื่องแฟนของผมด้วย พอผมทะเลาะกับฟ. ทีไรผมก็มาระบายกับ ป.
คุยกับ ป. ตลอดมันทำให้ผมสบายใจขึ้น


......จนมีช่วงหนึ่งผมเลิกกับฟ. ไป ผมก็มาหาเพื่อน ผมก็อยากระบายให้ ป. ฟัง เค้าก็ให้กำลังใจผมทุกครั้ง
ผมไปไหนมาไหนผมก็ชวนเค้าตลอด ช่วงนี้คือ ป. เค้าเลิกกับ ร. แล้วนะครับ เค้าเองก็มาระบายเรื่องต่างๆให้ผมฟังเหมือนกัน
จนมีเพื่อนบอกผมว่า พวกเมิงเหมือนแฟนกันเลย ผมก้ไม่ได้คิดอะไรครับ
หลังจากที่เลิกกับฟ. ไปเดือนนึง ผมก็กลับไปคืนดีกับฟ. แล้วป.ก็ค่อยๆหายไป หรือว่าเป็นผมที่ค่อยๆหายไปเองกันแน่ก็ไม่รู้สิครับ
หลังจากนั้นเราก็ไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนด้วยกันอีกแล้ว ผมมีแฟน ฟ.ขี้หึงมาก ถึงกับบอกผมไม่อยากให้ผมคุยกับ ป. เพราะฟ.รู้สึกแปลกๆที่
เห็นแชทผมกับ ป. และชอบไปไหนมาไหนด้วยกัน ผมก็ตามใจแฟนครับ ผมมันนิสัยเสียมากเลย ติด ผญ. จนลืมเพื่อน


......จนผมเปิดเทอม ขึ้นปี 1 ที่มหาลัยแห่งหนึ่ง แต่ผมอยู่คนละมหาลัยกับแฟนครับ ด้วยระยะทางที่ห่างไกลกัน ความรักก็เจือจางลงไป
จนถึงจุดขาดสะบั้น เมื่อผมรู้ว่าฟ. ไปมีคนคุยใหม่ แล้วก็ขอเลิกกับผม ผมก็ต้องยอมทำใจอย่างเดียว ผมก็ได้บทเรียนมา
มันทำให้ผมไม่กล้าเชื่อใจใครง่ายๆอีก ผมรู้สึกเข็ดมาก ผมต้องการเพื่อนมากตอนนั้นมีใครผมทักหมด
จนไปเจอเพื่อนคนหนึ่งของผม ป. คือคนที่ไม่ทิ้งผม ทั้งๆที่ผมจะเคยทิ้งเค้ามาก่อน


......ผมทักป.ไป ถามว่าสบายดีไหม อยากคุยด้วย พอได้คุยอย่างอยากรส ผมก็ไม่รู้คิดไง ผมก็ถามป. ว่าเราลองขึ้นสถานะคู่กันเล่นๆดูไหม
ป.บอกว่าได้เสมอ เบื่อเมื่อไหร่ค่อยเอาออก แต่กลับเป็นผมเองที่ไม่อยากเอาออก ตอนแรกแค่อยากเล่นกันเฉยๆ แค่อยากให้เพื่อนฮือฮาเล่น
แต่กลับเป็นผมที่รู้สึกหวั่นไหว ผมไม่อยากเอาสถานะนั้นออก แล้วผมก็โทรไปหาเค้า แล้วเปลี่ยนสรรพนามตัวเองใหม่
จากที่คุยกันเสียงดังก็เปลี่ยนเป็นหวาน จากที่คุยกันเมิงๆกุๆ ก็เป็นเค้ากับตัวเอง ผมไม่รู้สึกอายเลย ผมเกิดชอบเค้าขึ้นมาจริงๆแล้วล่ะครับ
แล้วผมก็ลองถามป. ดูว่าเราลองคุยกันดูไหม เค้าก็บอกว่าได้ ส่วนเค้าเองก็บอกกับผมว่าเคยรู้สึกหวั่นไหวกับผมมาก่อน
ตอนที่ผมเลิกกับฟ. แล้วไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด เค้าก็มีใจให้ผมเหมือนกัน พูดเลย โคตรเขิน


......จากคนที่ไม่เคยจะอยู่ในความฝัน ไม่ใช่สเปคผมเลยแม้แต่น้อย จนตอนนี้เราเป็นแฟนกันแล้วครับ
ผมรัก ป. มาก ป.ก็รักผมมาก เรามีอะไรเราคุยกันได้ทกเรื่อง ผมสบายใจและดีใจมากที่ได้เค้ามาเป็นแฟน เค้ารู้ว่าผมเป็น
คนยังไง เค้าพยายามเปลี่ยนตัวเองเพื่อผมหลายอย่าง เค้าเป็นคนที่ทำให้ผมรู้ว่า จะรักกันชอบกันมันไม่ได้อยู่ที่หน้าตา
ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจและความเอาใจใส่


......เพื่อนของผมทุกคนได้ยินเรื่องทั้งหมดของผมก็บอกว่าเรื่องนี้ตลกและแปลกจริงๆ แล้วคุณหล่ะครับคิดว่ามันตลกไหม
ที่จากเพื่อนทอม ที่ชอบผู้หญิงคนเดียวกัน กลับกลายมาเป็นคนที่รู้ใจกันทุกเรื่อง แปลกดีนะครับ ความรักนี่
ขอบคุณที่เข้ามารับฟังครับ







* แก้ไข เว้นวรรค
* แก้ไข คำผิด การเว้นวรรค และก็นามสมตินิดหน่อยครับ ขอบคุณครับ
ปล. เป็นกระทู้แรกของผมครับ ผิดพลาดอะไรยังก็ขออภัยด้วยนะครับ
...จาก... "เพื่อนทอม" กลายมาเป็น "หวานใจ" คิดไงบ้างครับ???
......ก่อนจะมาฟังเรื่องของผม
ผมขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ขณะนี้ผมเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 สำนักวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมเคมี จะขึ้นปี 2 แล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
......พอจบค่ายไป ก็เปิดเทอมม.5 เทอมสอง ทุกอย่างก็ปกติเหมือนเดิมเว้นแต่ ร. ที่เราทั้งสองมองหน้ากันแทบไม่ติดเสียแล้ว
ผมก็ยังชอบเค้าอยุ่นะ ตอนนั้น จนมีเพื่อนมาบอกผมว่า คนที่เป็นแฟนใหม่ของ ร. เป็นเพื่อนสนิทผมเอง
สมมติว่าเธอชื่อ "ป." นะครับ ป. เป็นเพื่อนผมมาตั้งแต่ ม.ต้น พอม.ปลาย เราก็อยู่คนละห้องกัน ป. เป็นผู้หญิงห้าวๆ ท่าทางคล้ายทอม
ถึงเธอจะบอกว่าเธอไม่ใช่ทอม ผมก็เรียกเธอว่าอิทอมอยู่ดี ป. เป็น ผญ. หน้าตาธรรมดาคนหนึ่ง ฟันเหยินด้วย ตัวเล็ก เตี้ยๆหน่อย
หัวเหม่ง ผมยาวถึงกลางหลัง และชอบรวบผมไปข้างหลัง
ป. เป็นเพื่อน ผญ. ที่ผมสนิทมากคนหนึ่ง พอผมรู้ว่าเป็นแฟนกับ ร. ไม่รู้ทำไม ผมรู้สึกโกรธทั้งคู่เลย ผมนี่มันไร้สาระสิ้นดี แพ้ทอม
แล้วยังขี้แพ้ชวนตีอีก หลังจากที่ผมรู้ ผมก็ไม่คุยกับทั้งคู่อีกเลย ผมไม่มีสติเลย เพื่อนก็ยุผมด้วยแหละ เรื่องเลยกลายเป็นว่าจาก ป.
เป็นเพื่อนสนิทกลายเป็นคนที่ผมไม่ชอบขี้หน้าไม่อยากคุยด้วยเพราะ เธอได้หัวใจคนที่ผมเคยชอบไปเสียแล้ว
......พอเวลาผ่านไป ผมขึ้น ม.6 ผมก็สบายขึ้นมาหน่อยไม่ค่อยมีเรียนเตรียมสอบอย่างเดียว มีช่วงนึงผมได้ไปเข้าค่าย ที่รุ่นพี่จากมหาวิทยาลัย
มาจัดให้ เป็นค่ายวิชาการ ติวสอบ อยู่นอกอำเภอเมือง ผมลองไปเข้าค่ายดู ก็ไปเจอผู้หญิงคนหนึ่งเธอเป็นคน ภูไท เธอน่ารักมาก ผิวขาว
ตัวเล็ก ตาโต มีเขี้ยว หุ่นดีมากด้วย หลังจากที่จบค่ายไป เธอก็ทักผมมา
......สมมติว่าเธอชื่อ ฟ. นะครับ เธอทักผมมาตอนนั้น ผมดีใจมาก มีคนน่ารักทักมา แล้วเราก็คุยกันครับ
เค้าก็ถามคำถามสุดเงิบกับผม ว่าจีบผมได้ไหม ผมก็ตอบกับเธอว่า ไม่ได้ เพราะผมจะจีบเธอก่อน ฮิ้วววววววววว ... ไม่นานเราก็เป็นแฟนกัน
......พอเข้า ม.6 เทอมสอง ก็ใกล้จะจบ ม.ปลายเต็มที ซึ่งตอนนั้นผมก็ไม่มองหน้า ป. อยุ่แล้วนะครับ
จนซักหน่อยก็มีรุ่นพี่ที่จบจากโรงเรียนไป ทำค่ายแนะนำมหาวิทยาลัยและสาขา ตอนนั้นบังเอิญมาก ที่ผมได้จับกลุ่มอยู่กลุ่มเดียวกันกับ ป.
เห้ออออ ผมก็ทำตัวปกติต่อไป จนถึงเวลาเย็นของค่ายวันแรก ป. มาใกล้ๆผม [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ แล้วก็ถามผมว่า เมิงยังโกรธกุอยู่หรอ ผมก็ตอบ ป.ไปว่า กุไม่ได้โกรธเมิงนานแล้ววว
แล้วป. ก็ถามผมว่า เรามาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมได้ไหม ผมก็บอกว่าได้ หลังจากนั้น ป. ก็ร้องไห้ครับ ผมทำอะไรไม่ถูกก็เลยกอดเค้าเอาไว้
หลังจากวันนั้นเราก็เป็นเพื่อนสนิทกันเหมือนเดิม ไม่สิ มากกว่าเดิมด้วย มีอะไรผมก็จะถามป. ไปขี่รถเล่นด้วยกัน
กินข้าวด้วยกันเหมือนเพื่อนสนิททั่วๆไป ผมคุยกับ ป. ทุกเรื่อง รวมถึงเรื่องแฟนของผมด้วย พอผมทะเลาะกับฟ. ทีไรผมก็มาระบายกับ ป.
คุยกับ ป. ตลอดมันทำให้ผมสบายใจขึ้น
......จนมีช่วงหนึ่งผมเลิกกับฟ. ไป ผมก็มาหาเพื่อน ผมก็อยากระบายให้ ป. ฟัง เค้าก็ให้กำลังใจผมทุกครั้ง
ผมไปไหนมาไหนผมก็ชวนเค้าตลอด ช่วงนี้คือ ป. เค้าเลิกกับ ร. แล้วนะครับ เค้าเองก็มาระบายเรื่องต่างๆให้ผมฟังเหมือนกัน
จนมีเพื่อนบอกผมว่า พวกเมิงเหมือนแฟนกันเลย ผมก้ไม่ได้คิดอะไรครับ
หลังจากที่เลิกกับฟ. ไปเดือนนึง ผมก็กลับไปคืนดีกับฟ. แล้วป.ก็ค่อยๆหายไป หรือว่าเป็นผมที่ค่อยๆหายไปเองกันแน่ก็ไม่รู้สิครับ
หลังจากนั้นเราก็ไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนด้วยกันอีกแล้ว ผมมีแฟน ฟ.ขี้หึงมาก ถึงกับบอกผมไม่อยากให้ผมคุยกับ ป. เพราะฟ.รู้สึกแปลกๆที่
เห็นแชทผมกับ ป. และชอบไปไหนมาไหนด้วยกัน ผมก็ตามใจแฟนครับ ผมมันนิสัยเสียมากเลย ติด ผญ. จนลืมเพื่อน
......จนผมเปิดเทอม ขึ้นปี 1 ที่มหาลัยแห่งหนึ่ง แต่ผมอยู่คนละมหาลัยกับแฟนครับ ด้วยระยะทางที่ห่างไกลกัน ความรักก็เจือจางลงไป
จนถึงจุดขาดสะบั้น เมื่อผมรู้ว่าฟ. ไปมีคนคุยใหม่ แล้วก็ขอเลิกกับผม ผมก็ต้องยอมทำใจอย่างเดียว ผมก็ได้บทเรียนมา
มันทำให้ผมไม่กล้าเชื่อใจใครง่ายๆอีก ผมรู้สึกเข็ดมาก ผมต้องการเพื่อนมากตอนนั้นมีใครผมทักหมด
จนไปเจอเพื่อนคนหนึ่งของผม ป. คือคนที่ไม่ทิ้งผม ทั้งๆที่ผมจะเคยทิ้งเค้ามาก่อน
......ผมทักป.ไป ถามว่าสบายดีไหม อยากคุยด้วย พอได้คุยอย่างอยากรส ผมก็ไม่รู้คิดไง ผมก็ถามป. ว่าเราลองขึ้นสถานะคู่กันเล่นๆดูไหม
ป.บอกว่าได้เสมอ เบื่อเมื่อไหร่ค่อยเอาออก แต่กลับเป็นผมเองที่ไม่อยากเอาออก ตอนแรกแค่อยากเล่นกันเฉยๆ แค่อยากให้เพื่อนฮือฮาเล่น
แต่กลับเป็นผมที่รู้สึกหวั่นไหว ผมไม่อยากเอาสถานะนั้นออก แล้วผมก็โทรไปหาเค้า แล้วเปลี่ยนสรรพนามตัวเองใหม่
จากที่คุยกันเสียงดังก็เปลี่ยนเป็นหวาน จากที่คุยกันเมิงๆกุๆ ก็เป็นเค้ากับตัวเอง ผมไม่รู้สึกอายเลย ผมเกิดชอบเค้าขึ้นมาจริงๆแล้วล่ะครับ
แล้วผมก็ลองถามป. ดูว่าเราลองคุยกันดูไหม เค้าก็บอกว่าได้ ส่วนเค้าเองก็บอกกับผมว่าเคยรู้สึกหวั่นไหวกับผมมาก่อน
ตอนที่ผมเลิกกับฟ. แล้วไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด เค้าก็มีใจให้ผมเหมือนกัน พูดเลย โคตรเขิน
......จากคนที่ไม่เคยจะอยู่ในความฝัน ไม่ใช่สเปคผมเลยแม้แต่น้อย จนตอนนี้เราเป็นแฟนกันแล้วครับ
ผมรัก ป. มาก ป.ก็รักผมมาก เรามีอะไรเราคุยกันได้ทกเรื่อง ผมสบายใจและดีใจมากที่ได้เค้ามาเป็นแฟน เค้ารู้ว่าผมเป็น
คนยังไง เค้าพยายามเปลี่ยนตัวเองเพื่อผมหลายอย่าง เค้าเป็นคนที่ทำให้ผมรู้ว่า จะรักกันชอบกันมันไม่ได้อยู่ที่หน้าตา
ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจและความเอาใจใส่
......เพื่อนของผมทุกคนได้ยินเรื่องทั้งหมดของผมก็บอกว่าเรื่องนี้ตลกและแปลกจริงๆ แล้วคุณหล่ะครับคิดว่ามันตลกไหม
ที่จากเพื่อนทอม ที่ชอบผู้หญิงคนเดียวกัน กลับกลายมาเป็นคนที่รู้ใจกันทุกเรื่อง แปลกดีนะครับ ความรักนี่
ขอบคุณที่เข้ามารับฟังครับ
* แก้ไข เว้นวรรค
* แก้ไข คำผิด การเว้นวรรค และก็นามสมตินิดหน่อยครับ ขอบคุณครับ
ปล. เป็นกระทู้แรกของผมครับ ผิดพลาดอะไรยังก็ขออภัยด้วยนะครับ