เมื่อกรรมตามทัน
คำเตือน ความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ย้อนกลับไปเมื่อ 14 ปีทีแล้ว ช่วงปิดเทอมฤดูร้อน ผมในสมัยมัธยมต้น ได้ไปอยู่ที่บ้านญาติทุกวัน(เฉพาะกลางวัน เย็นพ่อเลิกงานมาก็มารับ) เนื่องจากพ่อและแม่ไปทำงานไม่อยากให้ผมอยู่บ้านคนเดียว และผมเองไม่อยากอยู่ด้วยเพราะที่บ้านญาตินั้น มีบ้านเพื่อนอยู่แถวนั้นพอดี
กิจกรรมในทุกๆวัน ตอนแรกๆเล่นตามประสาเด็กทั่วไปครับ ปั่นจักรยานบ้าง ดีดลูกแก้วบ้าง ดินน้ำมันบ้าง แต่มาวันนึง เพื่อนได้ไปซื้อปืนอัดลมมา ราคาประมาณ 400 กว่าบาท ตัวผมนั้นไม่มีปัญญาซื้อครับ เพราะมันแพง สมัยนั้น 400 นี่ แพงมาก บ้านเพื่อนมันรวยครับ พอมีปืนอัดลมมา ตอนแรกๆก็ยิงกระป๋องเล่นกันตามปกติ (จากการหัดยิงกัน ผมแม่นกว่าเพื่อนมาก) คราวนี้พอเริ่มแม่น เริ่มอยากหาเป้าอย่างอื่นที่เป็นสิ่งมีชีวิตละ เดินหาไปเรื่อยตามป่าข้างถนนก็เจอเป้าหมาย
แจ็คพอตไปแตกที่ กะปอม หรือ กิ้งก่านั่นเอง และการฆ่าล้างบางกิ้งก่าก็เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วินาทีนั้น ผมกับเพื่อนฆ่ากิ้งก่าเยอะมาก วันนึงอย่างน้อยก็ 5-6 ตัว ส่วนมากจะใช้ปืนยิง แต่บางครั้งบ่วงติดปลายไม้ก็ใช้ได้ดี ส่วนพวกกิ้งก่าที่ยิงหรือจับได้มา บ้านเพื่อนผมเลี้ยงไก่ไว้เป็นไก่ขนสีขาวตัวใหญ่ๆ น่าจะเป็นไก่เนื้อ
มันอยู่ในสุ่ม เพื่อนผมก็จัดการโยนลงไปในสุ่มไก่เลย ไก่มันก็เหมือนชอบจิกกลืนไปด้วยความรวดเร็ว กิ้งก่าที่โดนยิงมานี่ส่วนมากยังไม่ตายนะครับ แต่โดนเพื่อมผมจับโยนให้กินเลย ่ผมไม่เคยจับตัวมันเลยนะครับเป็นคนยิงอย่างเดียว แต่ก็เหมือนคนฆ่านั่นแหละ แต่เพื่อนผมนี่สิ บางทีมันก็เล่นพิเรน กิ้งก่าตัวที่โดนยิงมามีรอยลูกปืนอัดลมอยู่ เพื่อนผมนี่จัดการลอกหนังตรงรอยกระสุน ผ่าท้องมันเอาเครื่องในออกมาทีละชิ้นสุดท้ายมันหยิบหัวใจออกมา บอกดูดิ หัวใจยังเต้นอยู่เลย ผมก็ดูนะ เห็นหัวใจมันเต้นค่อยๆ จนค่อยๆหยุดไป บางตัวมีไข่ มันก็หยิบออกมาบีบเล่น เคยเห็นมันชิมเล่นไปฟองนึง มันบอกคาวๆ พอเพื่อนผมชำแหละเสร็จ ก็โยนให้ไก่ 2 ตัวเดิมที่กินประจำ
คิดดูว่าผมฆ่าไปกี่ตัว วันนึงนี่ 5-6 ตัวขึ้น แล้วฆ่ากันทุกวัน เกือบเดือน ไม่รู้ตายไปกี่ร้อยตัว บางทีเบื่อๆยิงกิ้งก่าก็หานกยิง แต่ผมไม่ค่อยชอบยิงนก มันยิงยาก เพราะแค่ปืนอัดลมยิงใส่ตัวนกมันไม่ตายครับ ต้องยิงที่หัว แต่นกมันไม่ค่อยอยู่นิ่งๆให้ยิงหรอก หัวมันขยับตลอด
ตอนนั้นเรื่องฆ่าสัตว์ ตัวผมนี่เฉยๆมาก เห็นใครฆ่าตัวอะไรก็ดูได้ แถวๆบ้านญาติจะมีบ้านเพื่อนพ่ออยู่ 2-3 คน บางที่พ่อมารับตอนเย็นก็แวะกินเหล้ากับเพื่อนบ้าง ก็มีดูเพื่อนพ่อฆ่าไก่เอามาเป็นกับแกล้มบ้าง ผมเพิ่งโยนข้าวเปลือกให้กิน สักพักจับไปเชือดคอ ถอนขน ชำแหละให้ดูสดๆ ข้าวเปลือกที่เพิ่งให้กินเมื่อกี้นี่ยังอยู่เต็มกระเพาะมันอยู่เลย เป็นแบบใสๆ บางๆ มีข้าวเปลือกเต็มถุงกระเพาะเลย เพื่อนพ่อนี่กินทุกอย่าง งูเลื้อยมาหยุดอยู่ไกลๆพอมองเห็น หนังสติ๊กนี่ ยิงแม่นมาก โดนหัวงูทีเดียวตาย ก็จับลนไฟ ถลกหนัง ล้างน้ำ ผัดเผ็ด อร่อยมั้ยไม่รู้ ไม่เคยลองชิม
มีไปกับพ่อ พ่อรู้จักคนที่อยู่โรงเชือดหมู จะไปซื้อเนื้อหมูสดๆมาทำไรกินที่บ้าน ตื่นตี3 ไปกับพ่อไปดูสดๆ คนฆ่าลากหมูมา ใช้แป๊ปเหล็กตีไปตรงดั้งหมู บางตัวทีเดียว บางตัวหลายที เสียงร้องโหยหวนมาก ตอนนั้นไม่เคยคิดสงสารหรืออะไรเลย พอโดนตีเสร็จร้องๆอยู่ เค้าก็จับไปวางไว้บนแท่นสูงจากพื้นหน่อย เอามีแทงคอรองเลือดทั้งที่ยังร้องอยู่ เคยถามว่าเพราะอะไร เค้าบอกตอนยังไม่ตายเลือดมันยังสูบฉีดอยู่ มันจะพุ่งออกเร็ว พอรองเลือดเสร็จก็เอาไปลวกน้ำร้อน ถอนขน เสร็จก็ผ่ากลางตัวเอาเครื่องในออก บางตัวข้างในยังกระตุกอยู่เลย ได้ส่วนที่ต้องการก็กลับบ้าน เช้าให้แม่ทำกับข้าวให้กิน
และช่วงนั้นผมบ้าเรื่องคาถามากเพราะมีอยู่คืนนึงไปนอนบ้านญาตินี่แหละ นอนกับอา อยู่ดีๆอาสะดุ้งตื่นมาตอนตีสอง ผมก็ตกใจอาเป็นอะไร แกก็พลิกผ้าห่มหาอะไรไม่รู้ สักพักก็เจอ เป็นแมงป่องตัวไม่ใหญ่มาก ต่อยแกเข้าที่ขา พอแกเจอตัวก็จัดการมันเรียบร้อย ผมถามแกไม่ไป รพ หรอ แกบอกไม่ต้อง แค่นี้ ผมก็เห็นแกท่องคาถาในใจแล้วก็เป่าไปที่แกถูกต่อย 3 ครั้ง แล้วแกก็บอกว่า ถ้าตัวใหญ่ พิษเยอะ คงต้องไป รพ ตัวแค่นี้สบาย นอนต่อเถอะ ผมเลยขอคาถาแกมาใช้ แกก็จดใส่กระดาษมาให้ ผมก็เอามาหัดท่องจำไว้ พอเริ่มอยากรู้มากๆ ก็เริ่มหาหนังสือพระจากญาติมาอ่านเพื่อหาคาถาต่างๆ จนได้อ่านเรื่องต่างๆในหนังสือพระ เรื่องผีบ้าง เวรกรรมบ้าง ประวัติพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ตอนนั้นเรื่องเวรกรรมเริ่มมาให้คิดละว่าที่เราทำมามันบาปขนาดไหน จนถึงวันนึงได้เจอเรื่องที่คิดว่าเป็นเพราะเวรกรรมที่เราทำมาแน่ๆ ถึงทำให้เราเป็นแบบนี้
เมื่อกรรมตามทัน
คำเตือน ความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ย้อนกลับไปเมื่อ 14 ปีทีแล้ว ช่วงปิดเทอมฤดูร้อน ผมในสมัยมัธยมต้น ได้ไปอยู่ที่บ้านญาติทุกวัน(เฉพาะกลางวัน เย็นพ่อเลิกงานมาก็มารับ) เนื่องจากพ่อและแม่ไปทำงานไม่อยากให้ผมอยู่บ้านคนเดียว และผมเองไม่อยากอยู่ด้วยเพราะที่บ้านญาตินั้น มีบ้านเพื่อนอยู่แถวนั้นพอดี
กิจกรรมในทุกๆวัน ตอนแรกๆเล่นตามประสาเด็กทั่วไปครับ ปั่นจักรยานบ้าง ดีดลูกแก้วบ้าง ดินน้ำมันบ้าง แต่มาวันนึง เพื่อนได้ไปซื้อปืนอัดลมมา ราคาประมาณ 400 กว่าบาท ตัวผมนั้นไม่มีปัญญาซื้อครับ เพราะมันแพง สมัยนั้น 400 นี่ แพงมาก บ้านเพื่อนมันรวยครับ พอมีปืนอัดลมมา ตอนแรกๆก็ยิงกระป๋องเล่นกันตามปกติ (จากการหัดยิงกัน ผมแม่นกว่าเพื่อนมาก) คราวนี้พอเริ่มแม่น เริ่มอยากหาเป้าอย่างอื่นที่เป็นสิ่งมีชีวิตละ เดินหาไปเรื่อยตามป่าข้างถนนก็เจอเป้าหมาย
แจ็คพอตไปแตกที่ กะปอม หรือ กิ้งก่านั่นเอง และการฆ่าล้างบางกิ้งก่าก็เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วินาทีนั้น ผมกับเพื่อนฆ่ากิ้งก่าเยอะมาก วันนึงอย่างน้อยก็ 5-6 ตัว ส่วนมากจะใช้ปืนยิง แต่บางครั้งบ่วงติดปลายไม้ก็ใช้ได้ดี ส่วนพวกกิ้งก่าที่ยิงหรือจับได้มา บ้านเพื่อนผมเลี้ยงไก่ไว้เป็นไก่ขนสีขาวตัวใหญ่ๆ น่าจะเป็นไก่เนื้อ
มันอยู่ในสุ่ม เพื่อนผมก็จัดการโยนลงไปในสุ่มไก่เลย ไก่มันก็เหมือนชอบจิกกลืนไปด้วยความรวดเร็ว กิ้งก่าที่โดนยิงมานี่ส่วนมากยังไม่ตายนะครับ แต่โดนเพื่อมผมจับโยนให้กินเลย ่ผมไม่เคยจับตัวมันเลยนะครับเป็นคนยิงอย่างเดียว แต่ก็เหมือนคนฆ่านั่นแหละ แต่เพื่อนผมนี่สิ บางทีมันก็เล่นพิเรน กิ้งก่าตัวที่โดนยิงมามีรอยลูกปืนอัดลมอยู่ เพื่อนผมนี่จัดการลอกหนังตรงรอยกระสุน ผ่าท้องมันเอาเครื่องในออกมาทีละชิ้นสุดท้ายมันหยิบหัวใจออกมา บอกดูดิ หัวใจยังเต้นอยู่เลย ผมก็ดูนะ เห็นหัวใจมันเต้นค่อยๆ จนค่อยๆหยุดไป บางตัวมีไข่ มันก็หยิบออกมาบีบเล่น เคยเห็นมันชิมเล่นไปฟองนึง มันบอกคาวๆ พอเพื่อนผมชำแหละเสร็จ ก็โยนให้ไก่ 2 ตัวเดิมที่กินประจำ
คิดดูว่าผมฆ่าไปกี่ตัว วันนึงนี่ 5-6 ตัวขึ้น แล้วฆ่ากันทุกวัน เกือบเดือน ไม่รู้ตายไปกี่ร้อยตัว บางทีเบื่อๆยิงกิ้งก่าก็หานกยิง แต่ผมไม่ค่อยชอบยิงนก มันยิงยาก เพราะแค่ปืนอัดลมยิงใส่ตัวนกมันไม่ตายครับ ต้องยิงที่หัว แต่นกมันไม่ค่อยอยู่นิ่งๆให้ยิงหรอก หัวมันขยับตลอด
ตอนนั้นเรื่องฆ่าสัตว์ ตัวผมนี่เฉยๆมาก เห็นใครฆ่าตัวอะไรก็ดูได้ แถวๆบ้านญาติจะมีบ้านเพื่อนพ่ออยู่ 2-3 คน บางที่พ่อมารับตอนเย็นก็แวะกินเหล้ากับเพื่อนบ้าง ก็มีดูเพื่อนพ่อฆ่าไก่เอามาเป็นกับแกล้มบ้าง ผมเพิ่งโยนข้าวเปลือกให้กิน สักพักจับไปเชือดคอ ถอนขน ชำแหละให้ดูสดๆ ข้าวเปลือกที่เพิ่งให้กินเมื่อกี้นี่ยังอยู่เต็มกระเพาะมันอยู่เลย เป็นแบบใสๆ บางๆ มีข้าวเปลือกเต็มถุงกระเพาะเลย เพื่อนพ่อนี่กินทุกอย่าง งูเลื้อยมาหยุดอยู่ไกลๆพอมองเห็น หนังสติ๊กนี่ ยิงแม่นมาก โดนหัวงูทีเดียวตาย ก็จับลนไฟ ถลกหนัง ล้างน้ำ ผัดเผ็ด อร่อยมั้ยไม่รู้ ไม่เคยลองชิม
มีไปกับพ่อ พ่อรู้จักคนที่อยู่โรงเชือดหมู จะไปซื้อเนื้อหมูสดๆมาทำไรกินที่บ้าน ตื่นตี3 ไปกับพ่อไปดูสดๆ คนฆ่าลากหมูมา ใช้แป๊ปเหล็กตีไปตรงดั้งหมู บางตัวทีเดียว บางตัวหลายที เสียงร้องโหยหวนมาก ตอนนั้นไม่เคยคิดสงสารหรืออะไรเลย พอโดนตีเสร็จร้องๆอยู่ เค้าก็จับไปวางไว้บนแท่นสูงจากพื้นหน่อย เอามีแทงคอรองเลือดทั้งที่ยังร้องอยู่ เคยถามว่าเพราะอะไร เค้าบอกตอนยังไม่ตายเลือดมันยังสูบฉีดอยู่ มันจะพุ่งออกเร็ว พอรองเลือดเสร็จก็เอาไปลวกน้ำร้อน ถอนขน เสร็จก็ผ่ากลางตัวเอาเครื่องในออก บางตัวข้างในยังกระตุกอยู่เลย ได้ส่วนที่ต้องการก็กลับบ้าน เช้าให้แม่ทำกับข้าวให้กิน
และช่วงนั้นผมบ้าเรื่องคาถามากเพราะมีอยู่คืนนึงไปนอนบ้านญาตินี่แหละ นอนกับอา อยู่ดีๆอาสะดุ้งตื่นมาตอนตีสอง ผมก็ตกใจอาเป็นอะไร แกก็พลิกผ้าห่มหาอะไรไม่รู้ สักพักก็เจอ เป็นแมงป่องตัวไม่ใหญ่มาก ต่อยแกเข้าที่ขา พอแกเจอตัวก็จัดการมันเรียบร้อย ผมถามแกไม่ไป รพ หรอ แกบอกไม่ต้อง แค่นี้ ผมก็เห็นแกท่องคาถาในใจแล้วก็เป่าไปที่แกถูกต่อย 3 ครั้ง แล้วแกก็บอกว่า ถ้าตัวใหญ่ พิษเยอะ คงต้องไป รพ ตัวแค่นี้สบาย นอนต่อเถอะ ผมเลยขอคาถาแกมาใช้ แกก็จดใส่กระดาษมาให้ ผมก็เอามาหัดท่องจำไว้ พอเริ่มอยากรู้มากๆ ก็เริ่มหาหนังสือพระจากญาติมาอ่านเพื่อหาคาถาต่างๆ จนได้อ่านเรื่องต่างๆในหนังสือพระ เรื่องผีบ้าง เวรกรรมบ้าง ประวัติพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ตอนนั้นเรื่องเวรกรรมเริ่มมาให้คิดละว่าที่เราทำมามันบาปขนาดไหน จนถึงวันนึงได้เจอเรื่องที่คิดว่าเป็นเพราะเวรกรรมที่เราทำมาแน่ๆ ถึงทำให้เราเป็นแบบนี้