สรีระยนต์ = มนุษย์คอมพิวเตอร์

นักวิทยาศาสตร์ย่อมเข้าใจดีว่า ระบบการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นเป็นอย่างไร รวมทั้งเข้าใจดีว่า ระบบสมองของคนเรานั้นทำงานอย่างไร

ระบบการคิดหรือการประมวลผลของสมองคนเรากับเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นเหมือนกัน คือต้องมีระบบปฏิบัติการณ์ (วิธีการคิด-ประมวลผล) กับข้อมูล (ความจำ) มาทำงานร่วมกัน

คอมพิวเตอร์กัยคนจะต่างกันตรงที่ ฮาตแวร์ (ตัวเครื่อง) คือคนเรานั้นใช้ร่างกายกับจิต ส่วนเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นใช้ซิลิกอนกับไฟฟ้ามาทำงานร่วมกัน

ถ้าขาดข้อมูล คอมพิวเตอร์ก็คิดอะไรไม่ได้ ถ้าขาดไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ก็ดับ

ถ้าขาดความจำ จิตก็จำอะไรไม่ได้ คิดอะไรไม่เป็น ถ้าขาดวิญญาณ (การรับรู้ที่เกิดขึ้นตามระบบประสาททั้ง ๖ ของร่างกายที่ยังไม่ตาย ซึ่งก็เหมือนไฟฟ้า) จิตก็ดับ

ความแตกต่างอีกข้อก็คือ คนเรานั้นมีความรู้สึก  (เวทนา)  ส่วนคอมพิวเตอร์นั้นไม่มีความรู้สึกคือมันจะประมวลผลไปตามโปรแกรมที่คนใส่ไว้ให้  ถ้าคอมพิวเตอร์จะถูกสร้างให้มีความรู้สึกได้ คอมพิวเตอร์ก็จะกลายเป็นคนทันที คือมันจะคิดไปตามความรู้สึก เช่น อยากได้สิ่งที่ให้ความสุข อยากทำลายสิ่งที่ให้ความทุกข์ แล้วก็จะคิดว่ามีตัวเองที่จะไปเวียนว่าตายเกิดได้เมื่อตายไปแล้ว เป็นต้น

แต่สิ่งที่ทั้งคอมพิวเตอร์และคนเรานั้นเหมือนกันก็คือ สุญญตา คือว่างจากความเป็นตัวตนของสิ่งนั้นจริงๆ คือคอมพิวเตอร์มันก็ไม่มีตนเองจริงๆ คนก็ไม่มีตนเองจริงๆ ทั้งสองสิ่งเป็นแค่เพียง สิ่งปรุงแต่งหรือสิ่งประกอบขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์เท่านั้น

แม้คนเราจะเชื่อว่า จิตคือตนเอง (อัตตา) แล้วก็เชื่อว่าตนเองนี้ก็จะสามารถเกิดขึ้นมาได้ใหม่เรื่อยไปถ้ายังอยากจะมีตัวตนเอยู่ ซึ่งมันก็ไม่สามารถเป็นไปตามความเชื่อและความอยากของจิตได้เลย เพราะความจริงแล้วตัวตนของจิตเองจริงๆนั้นไม่มี จะมีก็แค่ความคิดและความเชื่อเท่านั่น ซึ่งมันไม่สามารถเป็นไปตามความคิดและความเชื่อได้เลย

คอมพิวเตอร์นั้นมันไม่มีปัญหาเพราะมันไม่ความรู้สึก ส่วนคนเรานั้นมีปัญหาเพราะมีความรู้สึก ซึ่งปัญหาที่ใหญ่หลวงที่สุดของคนเรานั้นก็คือ ความทุกข์ของจิตใจ เพราะคนเรานั้นมีความอยากได้สิ่งที่ให้ความสุข เมื่อไม่ได้ความสุขก็เกิดความเศร้าโศก เสียใจ (คือเกิดความทุกข์) รวมทั้งเกลียดกลัวความทุกข์ เพราะเป็นความรู้สึกที่ไม่น่ายินดี เมื่อเกิดความเกลียดกลัว จิตก็จะเกิดความรู้สึกทรมาน (เร่าร้อน หนักเหนื่อย) ขึ้นมาทันที (คือเกิดความทุกข์ซ้อนขึ้นมาอีกอย่างรุนแรง)

ทั้งหมดนี้ความรู้เรื่องสุญญตาอันเป็นหัวใจของปัญญาตามหลักอริยสัจ ๔ ของพระพุทธเจ้า สำหรับนำมาให้คู่กับสมาธิ (โดยมีศีลเป็นพื้นฐานอยู่ก่อนแล้ว) ในการปฏิบัติเพื่อป้องกันความทุกข์ไม่เกิดขึ้นในจิตใจในปัจจุบัน และเพื่อดับทุกข์ที่กำลังเกิดอยู่ในจิตใจในปัจจุบัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่