วิทยาศาสตร์ทางใจของการทำสมาธิ ให้อะไร ?

กระทู้คำถาม
ทุกวันนี้คนเรามีเรื่องทุกข์ร้อนมากมายในชีวิต
ไม่ว่าจะความเป็นอยู่ อาหารการกิน หนี้สิน
หรือ เรื่องความรัก

แล้วแต่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ

คนส่วนใหญ่หาทางออกด้วยการ
“หาความสุข ในแบบที่ผิดๆ”

ไม่ว่าจะเป็นการเที่ยวกลางคืน ดื่มเหล้าดื่มเบียร์
หรือ การระบายออกทางกำลัง
(อย่าคิดลึกนะครับพี่น้อง)

แต่… สิ่งเหล่านั้น กลับไม่ใช่ความสุข
และความสงบที่แท้จริง การหาความสุขแบบนั้น
กลับแก้ปัญหาไม่ได้

“ความสุข ในทางโลก” ผมให้คำนิยามกับมันว่า
“แค่เพลิน” เหมือนเราเล่นสนุกอะไรอยู่สักอย่างนึง
เมื่อเล่นเสร็จ ก็กลับมาคิดเรื่องเดิมๆ
สุดท้ายก็ทุกข์เหมือนเดิม

เช่นคำถามง่ายๆอย่างถ้าอากาศร้อนต้องทำยังไง?
ก็เปิดแอร์ไง เด๋วอากาศมันก็เย็น

มันเลยทำให้หลายๆคนคิดว่า
แอร์ คือเครื่องทำความเย็น แต่… ป่าวเลยครับ
แอร์ ไม่ได้ทำความเย็น แต่แอร์ ดูดเอาอากาศร้อน
ออกไปด้านนอก แค่นั้นเอง เค้าถึงได้เรียก แอร์
ว่าเครื่องปรับอากาศไงครับ

เพราะฉนั้น
การจะทำให้ใจเราสงบ ไม่ใช่การหาความสุข
แต่เป็นการเอาความทุกข์ออกไปจากใจต่างหาก

แล้ววิธีการแบบนั้นมันมีด้วยเหรอ ทำยังไงล่ะ?
ง่ายๆ ครับแค่เราทำ สมาธิ
หยุดใจนิ่งๆแค่นั้น แล้วทุกปัญหาจะคลี่คลายได้
ด้วยการเอาความทุกข์ออกจากใจครับ


“The Science of Meditation”
“วิทยาศาสตร์ (ทางใจ) ของการทำสมาธิ”

เป็นสิ่งที่ “ตะลึงโลก” ก็ว่าได้เมื่อ “ยักษ์ใหญ่”
แห่งวงการนิตยสารระดับมาตรฐานโลก
คือ “TIME Magazine”
ฉบับวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ได้อุทิศเนื้อหา “กว่าสิบหน้ากระดาษ”
พร้อม “ภาพประกอบสี่สี” เป็นจำนวนมาก
ให้แก่เรื่องราวที่เป็น “แนวโน้มใหม่”
ของมวลมนุษยชาติ นั่นก็คือ “สกู๊ปพิเศษ”
ว่าด้วย “The Science of Meditation”
หรือแปลเป็นไทยง่ายๆว่า
“วิทยาศาสตร์ (ทางใจ) ของการทำสมาธิ”

นิตยสาร TIME Magazine นั้น
เป็น Magazine ที่มียอดพิมพ์วางจำหน่าย
“เดือนละ 8 ล้านฉบับ”
(นำส่งสมาชิก 4 ล้าน และ วางแผงอีก 4 ล้าน)

ซึ่งยอดนี้ไม่นับรวม ผู้อ่านทาง Internet
ซึ่งนับจำนวนไม่ได้อีก หลายล้านคนทั่วโลก

TIME Magazime พาดหัว ไว้อย่างน่าทึ่งว่า
นักวิทยาศาสตร์ ก็ศึกษาวิจัย เรื่องสมาธิ
แพทย์ ก็เชียร์ ให้นั่งสมาธิ
ชาวอเมริกัน นับสิบล้านคนก็ นั่งสมาธิทุกวัน
ถามว่า… นั่งกันไปทำไม?
ตอบว่า… ก็มันดีน่ะสิ

ต่อจากนี้เราจะได้ติดตามเนื้อหา
ของนิตยสาร TIME ว่ามีอะไร
ที่ทำให้บรรณาธิการนิตยสารพี่เบิ้มของโลก
นำเรื่อง Meditation หรือ การทำสมาธิ มาตีแผ่
ราวกับว่าเป็นการค้นพบยิ่งใหญ่ทางวิทยาศาสตร์
ที่พบสิ่งมีชีวิตอยู่บนดาวอีกดวง ยังไงยังงั้น



ในสหรัฐอเมริกา คนอเมริกันสิบล้านคน
นั่งสมาธิอย่างสม่ำเสมอ เป็นสองเท่าของสิบปีก่อน
สถานที่หลายแห่งในสหรัฐ เช่นที่ นิวยอร์ก
เปลี่ยนเป็นที่นั่งสมาธิหลายแห่ง
จนคนเรียกแถบนั้นว่าเป็น แถบของชาวพุทธ
นักเรียนนั่งสมาธิก่อนเข้าห้องเรียนทุกเช้า
นักกฏหมาย นักธุรกิจ คนทำงาน สาขาอาชีพต่างๆ
นั่งสมาธิตามที่หน่วยงานของตนจัดให้
ดาราภาพยนต์ นักการเมือง นักเขียน
นักโทษในคุกก็มีห้องนั่งสมาธิ
ผุ้พ้นโทษมาแล้ว
จะกลับเข้าคุกน้อยกว่าพวกที่ไม่ได้นั่ง
คนไม่เชื่อเรื่องสมาธิ
กลายเป็นคนกลุ่มน้อยในสหรัฐ

คนเหล่านี้นั่งสมาธิ
เพราะทำให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลาย
สุขภาพดีขึ้น ชีวิตดีขึ้น
ทำให้สร้างความสามัคคีปรองดองให้เกิดขึ้นได้

การนั่งสมาธิ
ทำให้ร่างกายมีสภาวะ
เหมือนก่อนจะหลับแต่ไม่ได้หลับ
มีสติรู้ตัวอยู่เสมอ และทำให้จิตใจสดชื่นแจ่มใส
สมาธิ ยังช่วยขจัดความขัดแย้งในจิตใจ
ทำให้ใจอยู่นิ่งท่ามกลางความสับสน
ว่าจะเอาอย่างไรดี เมื่ออยู่นิ่งแล้ว
จะเข้าใจสถานการณ์ และเรื่องราวต่างๆ ได้ดีขึ้น
ทำให้แพทย์แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
เข้าใจว่าทำไมมนุษย์ถึงนั่งสมาธิมาหลายพันปี
แพทย์ก็แนะนำให้คนไข้นั่งสมาธิเป็นประจำ
และสม่ำเสมอมากขึ้น

เพราะผลการทดลองทางวิทยศาสตร์
จากการแสกนคลื่นสมองพบว่า
สมองจะมีระบบปิดกั้นเรื่องราวต่างๆไม่ให้เข้ามา
และไม่ส่งเรื่องเข้าไปย่อย
ในส่วนลึกของเนื้อสมองอย่างเคย
แต่ทำให้ระบบ"ลิมบิค"
ซึ่งเป็นส่วนควบคุมด้านอารมณ์และความจำดีขึ้น
ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจ ลมหายใจ
และการเผาผลาญในร่างกายเป็นปรกติ


สมาธิ กับ วิทยาศาสตร์การแพทย์

สมาธิช่วยทำให้ร่างกาย
สร้างภูมิคุ้มกันโรคได้มากขึ้น
สามารถรักษาโรคร้ายแรงเรื้อรัง เช่น
โรคหัวใจ เอดส์ มะเร็ง ความดันโลหิตสูง
โรคใจสั่น

คนไข้ที่เจ็บปวดเรื้องรัง 14,000 คน
ไม่ต้องกินยาแก้ปวด ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด
จากคนดัง ก็คือ โรแบโต้ บัจจิโอ้
นักฟุตบอลชื่อดังระดับตำนาน ของอิตาลี
ที่เค้าเจ็บเข่าเรื้อรัง ในวัย 36 ปี
ทุกคนคิดว่าเค้าคงกลับมาเล่นฟุตบอลไม่ได้อีกแล้ว

แต่ บัจจิโอ้ ใช้เวลาในการรักษาตัวไม่นาน
และหายกลับมาลงสนามได้ก่อนกำหนดกว่าครึ่งปี
ทำให้หลายคนสงสัยว่าไปได้หมอดีที่ไหนมา
แต่เจ้าตัวเปิดเผยแค่เพียงว่า
ผมใช้วิถีทางของชาวพุทธ
โดยการทำสมาธิในการรักษาโรค เพียงเท่านั้น
นอกจากนี้พลังของสมาธิยังสามารถรักษาคนไข้
ที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบร้อนแดง
ให้มีผิวใสขึ้นเป็น 4 เท่าของผู้ที่ไม่ได้นั่งสมาธิ

นักเขียนที่เคยกินยาแก้เครียดมาเกือบจะตลอดชีวิต
เมื่อนั่งสมาธิ ก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งยาอีกต่อไป
ผู้กำกับการแสดง และดาราภาพยนต์ฮอลลีวู้ด
ก็นั่งสมาธิ

ทำให้ลดความกดดันจากอาชีพ
และความเป็นคนดังมีชื่อเสียง
และทำให้มีความสุขมากขึ้น รู้ตัวมากขึ้น
มองเห็นสิ่งต่างๆ มากขึ้น
พัฒนาบุคลิกภาพให้สง่างามและดูมีอำนาจมากขึ้น
มองเห็นตัวเองได้มากขึ้น และรู้ว่าควรแก้ไข
ข้อบกพร่องของตัวเองได้อย่างไร
เพียงแต่นั่งเงียบและทำให้จิตใจสงบเท่านั้น

ทำความรู้จักกับสมาธิสักหน่อย สมาธิคืออะไร?
ทำยากอะป่าว!!

สมาธิไม่ใช่เรื่องของศาสนา เป็นเรื่องของคนทั้งโลก

เมื่อกล่าวถึง สมาธิ ต้องเข้าใจในเบื้องต้นว่า
สมาธิ มิใช่เรื่องของฤๅษีชีไพร
หรือมิใช่เป็นเรื่องที่ประพฤติปฏิบัติได้
เฉพาะผู้ที่เป็นนักบวชเท่านั้น

แต่ สมาธิเป็นเรื่องของการฝึกฝนอบรมจิตใจ
และเป็นการพัฒนาจิตใจให้มีความมั่นคง ตั้งมั่น
และทำให้มีคุณภาพทางจิตใจที่ดีขึ้น

ซึ่งในทางพระพุทธศาสนานั้น
สมาธิ สามารถประพฤติปฏิบัติได้
ทั้งเพื่อประโยชน์ต่อความมีชีวิตที่อยู่เป็นสุข
ในเพศภาวะของผู้ที่ยังครองเรือน
และยังเป็นการปฏิบัติเพื่อนำไปสู่ความหลุดพ้น
สำหรับผู้ที่เป็นนักบวชอีกด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม สมาธิถือเป็นเรื่องสากล
กล่าวคือ มิใช่เฉพาะพุทธศาสนิกชนเท่านั้น
ที่จะสามารถปฏิบัติสมาธิได้ แม้ผู้ที่นับถือศาสนาอื่น
ก็สามารถปฏิบัติสมาธิได้เช่นเดียวกัน ทั้งนี้
การฝึกสมาธิจะเน้นให้ความสำคัญ
ของการลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง

เพราะนอกจากจะทำให้ผู้ปฏิบัติ
เห็นผลด้วยตนเองแล้ว หากมีข้อสงสัยเชิงปฏิบัติ
ก็สามารถที่จะสอบถามจากผู้รู้ผู้ชำนาญ
ได้อย่างตรงเป้าหมาย หรือตรงต่อประสบการณ์
ที่ตนเองได้ปฏิบัติมา

ถึงแม้จะมีการอธิบายรายละเอียด
ความรู้ของสมาธิในเชิงทฤษฎี
แต่ก็มิอาจที่จะละเลยสมาธิในเชิงปฏิบัติได้


ความหมายของสมาธิ

สมาธิ คือ อาการที่ใจตั้งมั่นอยู่ในอารมณ์เดียว
อย่างต่อเนื่อง หรือ อาการที่ใจหยุดนิ่งแน่วแน่
ไม่ซัดส่ายไปมา เป็นอาการที่ใจสงบ
รวมเป็นหนึ่งแน่วแน่ มีแต่ความบริสุทธิ์ผ่องใส
สว่างไสวผุดขึ้นในใจ

จนกระทั่ง
สามารถเห็นความบริสุทธิ์นั้นด้วยใจตนเอง
อันจะก่อให้เกิดทั้งกำลังใจ กำลังขวัญ
กำลังปัญญาและความสุข
แก่ผู้ปฏิบัติในเวลาเดียวกัน


การทำสมาธิเกี่ยวเนื่องอย่างไรกับการทำธุรกิจ?
สมาธิ คือสิ่งเดียวที่ทำให้ผมดำเนินธุรกิจต่อไปได้

อันที่จริงแล้วการทำสมาธินั้น
เกี่ยวข้องกับทุกสิ่งทุกอย่าง
ในการดำเนินชีวิตของเราเลย

เพราะว่าการทำสมาธิ
จะช่วยในเรื่องของการตัดสินใจได้เป็นอย่างดี

โดยเฉพาะการทำธุรกิจแล้ว
เราก็จะมีเรื่องให้คิดมากมาย
ต้องตัดสินใจเรื่องต่างๆ อยู่ตลอดเวลา
เพราะฉนั้นหลักการของการทำธุรกิจ
คือต้อง เย็นเขา เย็นเรา
จะแค่ เย็นเค้า แต่เราร้อน ก็ไม่ได้
หรือ เย็นเรา แต่เค้าร้อน ก็ไม่ดี
การทำธุรกิจจึงต้อง อาศัยใช้หลักการ ตัดสินใจ
จากการทำสมาธิ ในการคิดแก้ปัญหา
ให้เย็นทั้งเค้า เย็นทั้งเรา
ธุรกิจของเรา จึงจะเดินได้ต่อไปอย่างไม่ติดขัด

ผมจึงมารณรงค์ให้เพื่อนๆ ทุกคน
ไม่ใช่แค่พักผ่อนรายกายเพียงอย่างเดียว
เราให้อาหารแก่ร่ายกายของเราทุกวันอยู่แล้ว
หายห่วงได้เลยครับ

ดังนั้น
เราก็หาเวลาว่างวันละนิดมาให้อาหารใจเราบ้าง
ด้วยการนั่งสมาธิ ทำใจนิ่งๆวันละ 10-15 นาที
จะเป็นประโยชน์แน่นอน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่