กทค.สอบ'กองทุนทรูจี ไอเอฟ'ชี้ทำธุรกิจไร้ไลเซ่นส์
Source - กรุงเทพธุรกิจ (Th)
Tuesday, June 09, 2015 05:47
24313 XTHAI XPOL DAS V%PAPERL P%KT
"ประวิทย์" ชี้กองทุนฯทรูจีไอเอฟไม่มีไลเซ่นส์ ทำธุรกิจ เข้าข่ายผิดกฎหมาย ไม่จ่ายค่าธรรมเนียม- ยูเอสโอ จี้บอร์ดกทค.ลงมติพิจารณา ย้ำหากพบผิดจริงโทษปรับ-อาญา
แหล่งข่าวระดับสูงจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กิจการโทรคมนาคม (กทค.) เมื่อวันที่ 7 พ.ค.2558 กรณีการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์ จำกัด ซึ่งตั้งขึ้นตามมติที่ประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ที่ดำเนินงาน ของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ทรูจีไอเอฟ จะต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการ โทรคมนาคม เนื่องจาก กองทุนฯ เป็นผู้ให้เช่าทรัพย์สินที่เป็นสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น เสาโทรคมนาคมให้กับผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมที่มีใบอนุญาตประกอบการ
เนื่องจากกองทุนรวมมีลักษณะจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมด้วยการให้เช่าทรัพย์สินโทรคมนาคมแก่บุคคลอื่นทั่วไป ก็จะต้องขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 ตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544
ก่อนหน้านี้บริษัท หลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการกองทุน ได้มีหนังสือชี้แจงมายังสำนักงาน กสทช.ว่ากองทุนรวม ไม่ได้บริหารจัดการทรัพย์สินโครงสร้างพื้นฐาน โทรคมนาคมด้วยตนเองแต่อย่างใด แต่ให้บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น ซึ่งเป็นผู้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม แบบที่ 3 เป็นผู้บริหารจัดการและดูแลทรัพย์สินเสาโทรคมนาคมดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังประชุมบอร์ดกทค. มีมติว่า การดำเนินงานของกองทุนทรูจีไอเอฟ ไม่เป็นไปตามกฎหมาย เนื่องจากกองทุนดังกล่าวไม่ได้ขอใบอนุญาตประเภทที่ 3 จากกสทช. แม้กลุ่มทรู จะอ้างว่ากองทุนดังกล่าวให้ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซลดำเนินการ แต่ยังถือว่าไม่เป็นไปตามกฎหมาย เนื่องจากทรูมูฟ ยูนิเวอร์แซลไม่ได้จ่ายค่าธรรมเนียมใบอนุญาต 2% รวมทั้งค่ากองทุนยูเอสโอ อีก 2.75% และไม่เคยรายงานผลการดำเนินงานพร้อมทั้งรายละเอียดการให้บริการแก่กสทช.
ดังนั้นบอร์ดจึงมีมติให้มีหนังสือไปยัง กองทุนฯ เพื่อชี้แจงหน้าที่และแจ้งผลของบทลงโทษ ถ้าปฏิบัติฝ่าฝืนเงื่อนไข และให้สำนักงาน กสทช. วิเคราะห์เกี่ยวกับการดำเนินการเกี่ยวกับกองทุนฯ ทั้งหมด และให้นำเข้าที่ประชุมกทค. อีกครั้ง
ด้านนายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กสทช.ด้านคุ้มครองผู้บริโภค เผยความคืบหน้า เรื่องรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงและการกำหนดนโยบายเกี่ยวกับการดำเนินการกองทุน รวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม โดยระบุว่า กองทุนฯ ดังกล่าวยังมีความไม่ชัดเจนในประเด็นการขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 จาก กสทช.
โดยตามข้อเท็จจริง กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานทรูจีไอเอฟปัจจุบัน ได้นำทรัพย์สินโทรคมนาคมออกให้เช่าแก่กลุ่มทรู และบริษัทดีแทค ไตรเน็ต จึงครบองค์ประกอบที่ต้องขออนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม และอยู่ภายใต้ การกำกับดูแลของกสทช. ตามกฎหมายด้วย
ดังนั้น ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จึงมีสถานะเป็นเพียงผู้เช่าเท่านั้น ขณะที่ผู้จัดการทรัพย์สินควรต้องมีสถานะ เป็นตัวแทนของกองทุนซึ่งเป็นผู้ให้เช่า นอกจากนี้ เงินรายได้ของกองทุนยังเป็นรายได้ที่เกิดจากการประกอบกิจการโทรคมนาคม ดังนั้นจึงมีภาระต้องนำส่งค่าธรรมเนียม ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมตามกฎหมายด้วย--จบ--
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
กทค.สอบ'กองทุนทรูจี ไอเอฟ'ชี้ทำธุรกิจไร้ไลเซ่นส์
Source - กรุงเทพธุรกิจ (Th)
Tuesday, June 09, 2015 05:47
24313 XTHAI XPOL DAS V%PAPERL P%KT
"ประวิทย์" ชี้กองทุนฯทรูจีไอเอฟไม่มีไลเซ่นส์ ทำธุรกิจ เข้าข่ายผิดกฎหมาย ไม่จ่ายค่าธรรมเนียม- ยูเอสโอ จี้บอร์ดกทค.ลงมติพิจารณา ย้ำหากพบผิดจริงโทษปรับ-อาญา
แหล่งข่าวระดับสูงจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กิจการโทรคมนาคม (กทค.) เมื่อวันที่ 7 พ.ค.2558 กรณีการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์ จำกัด ซึ่งตั้งขึ้นตามมติที่ประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ที่ดำเนินงาน ของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ทรูจีไอเอฟ จะต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการ โทรคมนาคม เนื่องจาก กองทุนฯ เป็นผู้ให้เช่าทรัพย์สินที่เป็นสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น เสาโทรคมนาคมให้กับผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมที่มีใบอนุญาตประกอบการ
เนื่องจากกองทุนรวมมีลักษณะจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมด้วยการให้เช่าทรัพย์สินโทรคมนาคมแก่บุคคลอื่นทั่วไป ก็จะต้องขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 ตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544
ก่อนหน้านี้บริษัท หลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการกองทุน ได้มีหนังสือชี้แจงมายังสำนักงาน กสทช.ว่ากองทุนรวม ไม่ได้บริหารจัดการทรัพย์สินโครงสร้างพื้นฐาน โทรคมนาคมด้วยตนเองแต่อย่างใด แต่ให้บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น ซึ่งเป็นผู้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม แบบที่ 3 เป็นผู้บริหารจัดการและดูแลทรัพย์สินเสาโทรคมนาคมดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังประชุมบอร์ดกทค. มีมติว่า การดำเนินงานของกองทุนทรูจีไอเอฟ ไม่เป็นไปตามกฎหมาย เนื่องจากกองทุนดังกล่าวไม่ได้ขอใบอนุญาตประเภทที่ 3 จากกสทช. แม้กลุ่มทรู จะอ้างว่ากองทุนดังกล่าวให้ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซลดำเนินการ แต่ยังถือว่าไม่เป็นไปตามกฎหมาย เนื่องจากทรูมูฟ ยูนิเวอร์แซลไม่ได้จ่ายค่าธรรมเนียมใบอนุญาต 2% รวมทั้งค่ากองทุนยูเอสโอ อีก 2.75% และไม่เคยรายงานผลการดำเนินงานพร้อมทั้งรายละเอียดการให้บริการแก่กสทช.
ดังนั้นบอร์ดจึงมีมติให้มีหนังสือไปยัง กองทุนฯ เพื่อชี้แจงหน้าที่และแจ้งผลของบทลงโทษ ถ้าปฏิบัติฝ่าฝืนเงื่อนไข และให้สำนักงาน กสทช. วิเคราะห์เกี่ยวกับการดำเนินการเกี่ยวกับกองทุนฯ ทั้งหมด และให้นำเข้าที่ประชุมกทค. อีกครั้ง
ด้านนายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กสทช.ด้านคุ้มครองผู้บริโภค เผยความคืบหน้า เรื่องรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงและการกำหนดนโยบายเกี่ยวกับการดำเนินการกองทุน รวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม โดยระบุว่า กองทุนฯ ดังกล่าวยังมีความไม่ชัดเจนในประเด็นการขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 จาก กสทช.
โดยตามข้อเท็จจริง กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานทรูจีไอเอฟปัจจุบัน ได้นำทรัพย์สินโทรคมนาคมออกให้เช่าแก่กลุ่มทรู และบริษัทดีแทค ไตรเน็ต จึงครบองค์ประกอบที่ต้องขออนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม และอยู่ภายใต้ การกำกับดูแลของกสทช. ตามกฎหมายด้วย
ดังนั้น ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จึงมีสถานะเป็นเพียงผู้เช่าเท่านั้น ขณะที่ผู้จัดการทรัพย์สินควรต้องมีสถานะ เป็นตัวแทนของกองทุนซึ่งเป็นผู้ให้เช่า นอกจากนี้ เงินรายได้ของกองทุนยังเป็นรายได้ที่เกิดจากการประกอบกิจการโทรคมนาคม ดังนั้นจึงมีภาระต้องนำส่งค่าธรรมเนียม ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมตามกฎหมายด้วย--จบ--
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ