[CR] เวิ่นวังเวียงเมืองชิคชิค แรดคนเดียวแบบไร้แผน ประทับใจจนต้องหาทางกลับไปอีก!!! [เน้น nightlife เด้อจ้า]

=/\=

อมยิ้ม17


***คำเตือน:กระทู้นี้เต็มไปด้วยคำไม่สุภาพ สาระในการท่องเที่ยวปรากฏไม่มาก อ่านเเล้วอาจจะคล้ายนิยายประโลมใจวัยรุ่นอายุ่ไม่เกิน 18 รูปภาพสวยๆไม่มีเพราะพกไปแค่มือถือและฝีมือในการถ่ายภาพห่วยเข้าขั้นถ่ายรูปลิงให้เป็นอีกัวน่าได้ ค่าใช้จ่ายอาจจะไม่เป๊ะมาก เพราะแรกๆก็จำได้ หลังๆ มึนเมาเกินกว่าจะบันทึก สถานที่เด็ดๆยังไปไม่ครบ แต่จะพยายามระลึกชาติมาเขียนให้จงได้ หากท่านหลงเข้ามาอ่านเเล้ว จงอ่านต่อไปให้จบ เสร็จแล้วเชิญกระทืบ จขกท ได้ที่ช่อง 2 ค่ะ จบประกาศ *ยักไหล่รัวๆ***




สองมือประนมก้มกราบสวัสดีพ่อแม่พี่น้องทุกชีวิตค่าาาาาาาาาา
นี่เป็นกระทู้เเรกและอาจจะเป็นกระทู้เดียวที่จะมารีวิว 5555 ดิฉันไม่ได้โดนบังคับแต่อย่างไร แต่คือโดนแรงกดดันจากสังคมเล็กๆรอบตัวให้ลองเขียนรีวิวเกี่ยวกับวังเวียงที่เพิ่งไปมา เผื่อว่าจะเป็นวิทยาทานสำหรับคนที่กำลังแพลนจะไป (หวังไว้อย่างนั้นนะ แต่จริงๆแล้วอาจจะมีเเต่เรื่องที่ตรวจแล้วไม่พบสาระใดใดก็ได้ ฆริย์ๆ) โอเค เริ่มด้วย จขกท ชื่อ เอิง (ไม่เซ็นเซอร์ชื่อใดใดเพราะมั่นใจว่าชื่อไพเราะเพราะพริ้งมว้ากกกส์ก์ร์ย์ ดีออก) เป็นสาวอุบลคนดำ วัยขบแต่ไม่เผาะ เพิ่งจบหมาดๆ ต้องการมีเวลาพักผ่อนก่อนเริ่มทำงาน เนื่องจากเวลาน้อยบัดซบและงบมีไม่มาก บวกกับรีวิวการเที่ยววังเวียงงอกเต็ม feed เฟสสะบุค ก็เลย เอาวะ ลองไปดูซักตั้ง ไม่ไกลมาก แถมมีแต่คนบอกเด็ด ไม่ไปคือพลาดแล้วมีหรือชั้นจะพลาดดดดดด ฮว่าฮ่าฮ่า (คือจะเกริ่นใหญ่ไปทำไมวะ ลองถามใจตัวเองดู =,.=) ที่ลุยเดี่ยวรอบนี้ไม่ใช่สังคมรังเกียจหรือไม่มีเพื่อนคบ (เอ๊ะ หรือจริง)  แต่ชะนีเหล่านั้นไม่ว่าง ทำให้เอิงผู้น่าสงสารต้องไปแรดคนเดียว กระซิกๆ ... (เพื่อน กูรู้นะว่าพวกกำลังมองอ่อนใส่กู ชิ)

เอาละ มามา เข้าเรื่องซักทีเถอะเจ๊...

DAY I
วันแห่งการเริ่มเดินทาง

เช้าวันที่ 3 มิถุนายน เพื่อนสาวผู้น่ารักส่งขึ้นสองแถว เสร็จก็แบกเป้ใบเกือบครึ่งตัวไปด้วย คือถ้าแอ่นหลังนิดเดียวอาจจะหัวฟาดพื้นไม่ได้ไปต่อเลย ถึง บขส อุบลราชธานี ที่ซึ่งไม่เคยจะพัฒนาเลยตลอด 13 ปีที่ชั้นอยู่อุบลมา จองรถของ สงวนชัยแอร์ จากอุบล หนองคาย รอบ 8. 30 เนื่องจากคิดว่าไปอุดรคงไม่มีรถข้ามเพราะกว่าจะถึงก็เย็นละ และที่แน่แน่เลยคือต้องไปค้างที่เวียงจันทน์ก่อน เพราะยังไงก็ไม่ทันสายตรงไปวังเวียงอยู่เเล้ว แต่ถ้าใครต้องการความสะดวก เจ๊แนะนำว่าให้ไป รถอุดร-วังเวียงเลย สะดวกกว่า มีรอบเช้าน่าจะ 8.30 น. ของทุกวัน ประมาณ 7ชั่วโมงถึง แต่สำหรับเจ๊เเล้วคิดว่ายังไงก็ไม่ทัน เลยเลือกเส้นทางสายนี้ ได้ตั๋วเเล้วก็ยาวไป ทริปได้เริ่มขึ้นเเล้ว วู้ฮู้ว ตื่นเต้นๆ คิดเอาไว้คร่าวๆ ว่าไปครั้งนี้ อยู่กับตัวเอง ต้องได้อะไรกลับมาบ้าง ไม่ใช่เที่ยวๆ กินๆ นอนๆ (สาระเริ่มมาแล้วเว้ยเฮ้ยๆ) ไหนลองคิดขึ้นมาซิ สิ่งที่ต้องการจากการเดินทางคนเดียวครั้งนี้คือ ท๊าดา..

• เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตช้าๆ มองทุกอย่างรอบตัว พูดและคิดไปกับมัน
• พบปะผู้คนใหม่ๆ เปิดรับและแลกเปลี่ยนทัศนคติ คุยกับคนแปลกหน้าโดยที่เราหน้าแปลก (อันนี้น่าจะง่าย)
• ใช้งบแบบไม่ฟุ่มเฟือย แต่ไม่ประหยัดเกินไปจนพ่อแม่ด่า (จิงกอะไรนักหนาละลูกก อะไรไม่สมควรประหยัดก็ใช้ๆไป)
• อ่านหนังสือที่เอาไปให้จบ (หนังสือที่เอาไปคือต้นส้มแสนรักและร่างห่ากระสุน นิยายและเรื่องสั้น แต่อ่านไม่จบทั้งสองเล่ม เพราะอะไรเดี๋ยวบอก 55)
• ดื่ม่ดำธรรมชาติ เติมพลังให้ชีวิต เพราะตั้งแต่ปั่นวิจัยก่อนจะเรียนจบ พลังชีวิตหมดมวดม้อยไปละ ยื้มพลังชีวิตหน้ามาใช้จนไม่เหลือแล้ววววสิ
• ไปชื่นชมสินค้าอิมพอร์ตจากต่างประเทศ (ฝาหรั่ง) ว่าเป็นอย่างไร ไปดูซิว่าคนไหนเหมาะจะมาเป็นพ่อของลูก (อันนี้สำคัญมากที่สุดพูดเลย ฮริๆ เช็ดน้ำลาย)
• พอละคิดไม่ออก (ดีออก)


//เป้าหมายสวยมากค่าาาาาาาาาา ปรบมือสิคะรอไรอยู่ โอ้วววววววว แปะ..แปะ

หลังจากปรบมือสวยๆ ฟ้าดินก็เป็นใจ เอื้ออำนวยให้ทริปนี้เป็นไปอย่าง......... ทุลัก+ทุเล+และทุรังด้วย ฮื้ยยยยย รถเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยระหว่างทางที่ขอนแก่น รถบรรทุกเบรคไม่ทันมาชนท้ายรถบัสที่เจ๊นั่งอยู่ แต่โชคดีมาก ไม่แรง ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่สายพานแอร์ท้ายรถขาด เป็นเหตุให้ทุกคนต้องลงจากรถและเปลี่ยนรถเพื่อเดินทางต่อ เตร๊งงงเตรงงงงเต่งงงเตร๊งงงงงง.....


โอยยยยยยยยน้อว์ (อุทานเป็นอีสานเพื่ออรรถรถของ จขกท เอง)
จะถึงมั้ยเนี่ยวันนี้ !!

แค่เริ่มการเดินทางก็แอดเวนเจอร์ซะละ หลังจากนั้นต้องรอรถประมาณ 20 นาทีได้ ผดส. ทุกคนไม่มีโวยวายหรืออะไร เพราะเข้าใจว่ามันเป็นเหตุสุดวิสัย พี่แอ๊ดรถก็น่ารักมาก ช่วยเร่งรถอีกคันให้และคอยพูดจาตลกๆให้ทุกคนอารมณ์ดี พอ จขกท ขึ้นรถบัสอีกคันของบริษัท ก็ได้เจอเพื่อนสาวชาวลาวที่กำลังจะเดินทางกลับบ้านที่เวียงจันทน์ เธอชื่อ สา  สาขี้อายมาก สาไม่กล้าคุยกะเรา (หน้าเป็นมิตร น่าคุยด้วยมากเลยเอิง) ในใจก็คิด นี่ไง หัดคุยกับคนแปลกหน้าบ้างอะไรบ้าง ห้านาทีต่อมาหลังจากถามว่าไปไหน ลงไหน อย่างไร ก็หลับไปทั้งสองนาง จนถึงหนองคายราวๆ 4 โมงเย็น กะว่าข้ามลาวพร้อมสาก็ได้ไหนๆก็มาด้วยกัน เนียนไปด้วยกันเลยสิ ตอนแรกเราว่าจะไปบัสรอบหกโมงกัน แต่กลัวสาไม่มีรถกลับบ้าน เพราะบ้านสาไกลจากตัวเมือง ต้องนั่งรถไปต่อ น่าจะต้องต่อรถจากหนองคายไปด่านพรมแดน (ต่อเขต) เพื่อไปต่อบัสข้ามไปเวียงจันทน์ คนขับตุ้กๆเห็นท่าว่าจะได้ลูกค้า วิ่งเจ้ามาออฟเฟอร์ดีลกันให้วอด

"มานำกันติ ไปๆ คนเดียวแปดสิบบาท สองคนคนละ ห้าสิบ ลดๆ"

ในใจก็คิด แม่-งลดตรงไหนวะ สองคนรวมกันก็ได้เยอะกว่าแหงๆ วุ้ย แต่เอาวะ เห็นแก่ความเป็นเยาวชนของคนขับนะ ช่วยสร้างรายได้ให้น้องเค้าหน่อยละกัน นางฟ้าใช่มั้ยล่าา //ยักไหล่รัวๆ

ปล. เจ๊สาอายุ 23 แล้ว เผลอคิดว่าเป็นน้องตั้งนาน นางหน้าเด็กมากกกกกก เลยทำให้เราเข้าใจผิด แต่อ๋อ จริงๆแล้วหน้าแก่เกินวัยไปไกลปะวะเอิง เอิงก็คิดนะ ว่าทำไมฮาดะลาโบะที่ตบๆไปไม่บำรุงให้หน้าอ่อนกว่าวัยใสกริ๊งบ้าง อยากหน้าเด็กเหมือนเจ๊สา *กรีดร้อง*


ตรงกลางคือเจ๊สาผู้น่าเด็ก และด้านซ้ายคือเจ๊เอิงผู้น่าป้ามหาประลัยยยยยย


เอาล่ะ
ข้ามแดนมาเเล้วเว้ยเฮ้ย เรื่องข้ามแดนนี่สิวสิว ก่อนจะเข้าลาวต้องกรอกรายละเอียดบัตรผ่านแดนซะก่อน สบายมากเดินทางมาสิบแปดล้านกิโลละ เดินไปที่ช่องผ่านทาง

"เอื้อย ขอใบกรอกข้ามแดนแหน่จ้า"

เอื้อยบ่นฃึมงำๆ อะไรไม่ได้ยิน รอสักพักเอื้อยก็สะบัดมือยื่นให้ อ้ายที่กำลังจะผ่านแดนหันมาบอก


"อันแบบนี้เขาเอิ้นฟอร์ม ฟอร์มน่ะ ฮู้จักบ่"

///ผ่าง///
ไอ้เราก็คิดว่าเราอยากสื่อสารด้วยภาษาถิ่น แหม อ้ายก็ เอาซะข่อยหน้าแตกไปสามวิเลยนะ

"จ้าาา เค้าเอิ้นฟอร์มติ โอ๋ๆ"

เข้าใจแล้วก็ต้องรีบกรอกด้วยความไวแสงเนื่องจากเจ๊สารออยู่ด้านนอกเเล้ว เจ๊แม่งกรอกเร็วมาก รีบเลยสิทีนี้ ในระหว่างต่อแถวรอปั๊ม ด้านข้างจะมีช่องแลกเงินเล็กๆ จังหวะนี้ต้องรีบ มือซ้ายแลกเงิน มิอขวาถือพาสปอร์ตรอและเข้าแถวไปด้วย แลกเงินกีบไว้ 3,500 บาท ได้มา 840000 วะฮะฮ่า รวยแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยย แปดแสนนี่ไม่ต้องทำไรละ เปลี่ยนใจเลี้ยวขวาไปทริปยุโรปได้มั้ยเนี่ยยยย มัวแต่ดีใจออกนอกหน้า เกือบลืมว่าต้องเอาตังทอน (จ่ายไป 4000 ต้องทอน 500) ชิบ เกือบละอีเตี้ยยย

มาถึงช่อง ปั๊มเสร็จ เจออีกด่านอยู่ด้านหน้า คืออารมณ์ประตูผ่านบีทีเอสเลย ต้องไปซื้อบัตรข้ามแดนลักษณะแข็งๆ  ที่ช่องด้านข้างราคา 48 บาทไทย จ่ายไป 100 ทอนมา 50 เอ๊ะ..

" บ่มีสองบาทเด้อ" อ้ายขายตั๋วบอก
" อ่อ จ้า บ่เป็นหยัง" ในใจก็งอนอ้สยนิดๆ ชิ
เสร็จก็รอบัสไป ตลาดเช้า แหล่งคิวรถทั้งหลาย เห็เจ๊สาดูหน้าซีดเลยถามอาการ ปรากฏว่า เจ๊สาโทสับหาย!!!! เวรเเล้ววววว
ช่วยกันหาบนรถบัสอยู่นาน
"ลงไปหาข้างล่างบ่" เราถามเผื่อว่าเจ๊จะลืมวางไว้ที่ไหน
"บ่เป็นหยังดอก เฮาบ่ฮู้ว่าหลงวางไว้บ่อนได๋"
"ลองลงไปก่อนบ่ละ"
"บ่เป็นหยังดอก"

เฮ้ยเจ๊ โทรศัพท์เจ๊ทั้งเครื่องเลยนะ เจ๊ชิวจัง เป็นเอิงร้องไห้วิ่งตูดปลิวไปหาแล้ว จะเจอมั้ยอีกเรื่อง พอดีเจ๊สาใช้เบอร์ไทย เลยลองให้เจ้โทรหา แต่เจ๊จำเบอร์ตัวเองไม่ได้ จบเลย ฮือ เจ๊แกทำใจไวมาก บอกเครื่องนี้ซื้อมานานแล้วตอนอยู่ไทย ถึงมีคนเก็บได้เค้าก็ไม่เอามาคืนหรอกเจ๊บอก น้ำตาจะไหลแทน
หลังจากเจ๊แกเลิกวอรี่เรื่องมือถือเเล้ว เราก็กะว่า ชวนเค้าคุยให้บันเทิงใจดีกว่า เผือกเรื่องชีวิตเค้าไปต่างๆนานา ถามนั่นถามนี่ เจ๊เค้าไม่เผือกเรากลับมั่งเลย เค้ามารยาทดีหรือกูมารยาททรามวะ อ๋อ คงเป็นอย่างแรก

ถึงคิวรถตลาดเช้า บ๊ายบายเจ๊สา ร่ำลากันซักพักก็แยกย้ายกันไป อ่ออ ลืมบอกไปว่านัดเจอเพื่อนวัยเด็กชื่อเอ เรียกแบบสนิทๆ ไอ้เหี้-ยเอ 55 ที่ตอนนี้ทำงานอยู่เวียงจันทน์ พอถึงเเล้วยังพอมีสัญญาณเลยบอกเอว่าถึงเเล้ว เอและพี่ๆเลยมารับไปกินข้าวที่ร้านแหนมเนืองเจ้าดังของเวียงจันทน์ก่อนเข้าห้องพัก พอซักสามทุ่มก็รีบอาบน้ำด้วยความไวแสงเพื่อจะรีบออกไปเดินชมเมืองเวียงจันทน์และแวะแถวประตูชัย คือตอนออกมาอารมณ์ประมาณตีสามเมืองไทย คือเมืองเงียบมาก สามทุ่มเหมือนตีสาม แหง่วมาก แวะถ่ายรูปไปต่างๆนานา ก่อนกลับเข้าที่พัก ต้องขอบคุณ เอ พี่ออด พี่เปี๊ยก และ บรีส มา ณที่นี้ด้วย ที่พาไปกินข้าว และสร้างสีสันด้วยการจิกกัดกันเอง เป็นกลุ่มบุรุษที่จิกกัดกันแรงมาก แต่ตลกดี ฮ่าๆๆ ทำให้เวียงจันทน์ยามค่ำคืนที่เงียบเชียบพอจะมีสีสันขึ้นมาบ้าง




[เดี๋ยวมาต่อ DAY II ค่ะ แบตแลบทอปจิกมดเเย้วววว ]
ชื่อสินค้า:   วังเวียง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่