เรื่องอาจจะยาวนิดนึงนะครับ
ผมกับแฟนผมคบกันมา 7 ปีแล้วคบกันตั้งแต่สมัยเรียน แรกๆ ก็รักเหมือนหนุ่มสาวทั่วๆไป แต่พอหลังๆกลับรู้สึกว่าความรักแบบหนุ่มสาวมันหมดไป
เหลือเป็นความผูกพันธ์และรักกันเหมือนคนในครอบครัวมากกว่า ส่วนตัวนิสัยผมเป็นคนใจเย็น ใช้เหตุผล ส่วนเธอก็ตรงกันข้ามครับ ใจร้อน ขี้งอล
ตอนนี้เราทั้งคู่เรียนจบแล้วก็ทำงานกันมานานแล้ว เพื่อนๆก็แต่งงานกันไปหลายคู่แล้ว เราสองคนก็มีแพลนว่าจะแต่งงานเหมือนกันแหละ แต่ติดตรงที่ว่า
พ่อแม่ผมไม่มีเงิน ผมต้องขวนขวายหาเงินและเก็บเงินเพื่อไปสู่ขอเธอด้วยตนเอง ซึ่งเรื่องนั้นผมก็ไม่ได้โทษใคร กลับภูมิใจอยู่ลึกๆ ด้วยซ้ำ
ดีกว่าคนอื่นๆ ที่ได้แต่งงานเร็วๆ หรืองานใหญ่โต แต่มาจากเงินของพ่อแม่ ซึ่งตรงจุดนั้นเธอก็เข้าใจผมครับ ว่าต้องใช้เวลาหาเงินซักพัก
มาเข้าเรื่องเลยดีกว่าครับ เราคบกันมา 7 ปี คนคบกันเป็นแฟนนะ ไม่พ้นเรื่องอย่างว่าอยู่แล้ว แต่เราเพิ่งจะมีอะไรกันประมาณปีที่ 4-5 ที่คบกัน
หลังจากเรียนจบและทำงานแล้ว เราอยู่ไกลกันจะเจอกันเดือนละหนหรือสองเดือนหน เราก็มีอะไรกัน แต่ช่วงระยะหลังเราทำงานใกล้กันจึงตัดสินใจ
ย้ายมาเช่าห้องอยู่ด้วยกัน ซึ่งผมดีใจมากที่จะได้อยู่ด้วยกัน (จะได้ไม่ต้องอดอยาก ไม่ต้องทนรอเพื่อให้เจอกันนานๆที) แต่มันกลับไปเป็นอย่างที่คิด
ปรากฏว่าพอมาอยู่ด้วยกัน หน้าที่ซักผ้ากลับกลายเป็นของผมคนเดียว ด้วยเหตุผลที่ว่า ห้องน้ำมันเล็กเข้ามาช่วยซักไม่ได้
ผมซักผ้าส่วนเธอก็นอนเล่นนอนดูทีวีไป แล้วเธอเป็นคนนอนวันละ 10-12 ชม. ผมทำงานเวลาห้าง เข้า 11 โมงเลิก 2 ทุ่ม
กลับมาซักผ้า เสร็จเธอก็หลับไปแล้ว จริงๆ ผมไม่ชอบซักผ้านะ แต่ตอนนี้ไปฝากตัวกะเพจพ่อบ้านใจกล้ามาซักพักละ
พอซักผ้าอาบน้ำเสร็จผมก็มีอารมณ์กุ๊กกิ๊กอ่ะนะ มานอนกอดเธอ หอมเธอ พยายามปลุกอารมณ์แต่เธอก็ปัดผมออกเหมือนรำคาญ
คือเธอไม่ยอมให้ผมมีอะไรด้วย เป็นอย่างงี้ตลอด เธอก็จะบอกว่าไม่อยากมี เหนื่อยมั่ง ขี้เกียจบ้าง ทั้งที่ทั้งคู่ก็ทำงานเหมือนกัน
คือมุมมองของผม เรื่องเซ็กซ์ของเธออาจจะไม่สำคัญ เพราะว่าเธอบอกว่าแค่อยู่ด้วยกัน นอนกอดกันก็มีความสุขแล้ว
แต่ความสุขของผมหรือผู้ชายหลายๆ คนก็คือการมีอะไรกับคนที่ตัวเองรัก (บ้าง) สุดท้ายพอเธอไม่ยอมบ่อยๆ ผมก็เริ่มชิน
พอก่อนนอนผมเริ่มเร้าเธอแล้วถ้าเธอมีทีท่าไม่ยอม ผมก็ไม่ขัดใจ ผมก็พอ บางวันก็ต้องแอบไปช่วยตัวเองในห้องน้ำ
หลังๆ นี่เราเริ่มนอนหันหลังให้กันเหมือนคู่สามี ภรรยา ที่แต่งงานกันมานานมากแล้ว ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้แต่งงานกัน
ผมกลัวว่าหลังแต่งงานไปจะยังเป็นแบบนี้อีก ผมว่าผมรับไม่ได้ แฟนผมชอบบอกว่าผมหื่นมากไป ผมจะบอกเธอยังไงดีว่า
ผมไม่ได้หื่น มันเป็นปกติของผู้ชาย คนอื่นหื่นกว่าผมอีก ผมให้เกียรติเธอ ไม่เคยขืนใจเธอ หรือเป็นเพราะว่าผมเป็นผู้ชายคนแรก
ของเธอ เธอไม่เคยเจอผู้ชายคนอื่นมาก่อนก็เลยเป็นแบบนี้ หาว่าผมหื่นเกินไป
ส่วนตัวผมๆ คิดว่าผมดูแลเธอดีมากๆ ตามใจทุกอย่าง อยากกินอะไรก็พาไปกิน อยากได้อะไรก็ซื้อให้ กลับมาก็ดูแลทุกอย่าง
ซักผ้าให้ ตัดเล็บให้บ้าง ถอนขนจั๊กกะแร้ให้ตลอด เธอก็ตามใจผมเหมือนกัน ดีทุกอย่างเหมือนกัน ยกเว้นเรื่อง เซ็กซ์ อย่างเดียว
เป็นสภาพแบบนี้มาปีนึงแล้วครับ ที่เราอยู่ด้วยกัน มีอะไรกันตกเดือนละครั้ง กว่าจะได้มีก็เหนื่อยมาก ขอเธอ อ้อนเธอจนกว่าจะได้
พอเธอตกลงอารมณ์ก็แทบหมดแล้ว วันไหนมีอารมณ์พอเร้าเธอ เธอก็ด่าผมอีก ผมก็กลัวเธอจะโกรธก็หยุด
ส่วนตัวผมอยากมีแฟนที่ให้ความสุขผมได้จริงๆ เข้าใจอารมณ์ผมไหมครับ แบบอารมณ์กุ๊กกิ๊ก อยากจะเริ่มเร้าโลม พอเข้าไปกอดแล้วหอมแค่นั้นแล้ว
สบัดผมออก ไล่ผม แล้วก็บอกไม่เอา ไม่อยากมี อารมณ์ที่มีมามันก็หมด แทนที่ด้วยความเสียใจ ทุกวันนี้แม้แต่จะนอนกอดผมยังไม่กล้าเลย นอนหันหลังชนกันเกือบทุกคืน บางคืนแอบน้ำตาซึม คิดว่าผมทำอะไรผิด คิดว่าแต่งงานกันไปแล้วจะเป็นยังไง
สุดท้ายนี้ผมอยากจะบอกว่าทุกวันนี้ไม่มีความสุขกับชีวิตคู่เลย เคยคิดอยากจะนอกใจหรือไปซื้อกินนะ แต่ผมรักเธอมากเลยไม่อยากนอกใจหรือทำให้เธอเสียใจ ผมสมควรจะบอกเธอยังไงดีหรือพูดกับเธอยังไงดีครับ ผมควรจะบอกเธอไหมว่าคุณทำอย่างงี้ผมไม่มีความสุข ผมให้ความสุขคุณทุกอย่าง ขอให้คุณให้ความสุขผมบ้าง
ปล1.ผมมั่นใจว่าไม่มีผู้ชายคนไหนที่ไม่หื่น แล้วก็คิดว่าเรื่องเซ็กซ์ไม่สำคัญอยู่บนโลกใบนี้
ปล2.อย่าว่าผมนะครับ ที่อยู่ด้วยกันก่อนแต่ง สมัยนี้มีเยอะแยะไป อยู่ด้วยกันก่อนแต่ง บางคู่อยู่ด้วยกันไม่แต่งกันก็มี
ปล3.อย่าว่าผมนะครับ ที่มีอะไรกันก่อนแต่ง ผมว่าคงมีน้อยคู่มากที่จะคบกันได้นานๆแล้วไม่มีอะไรกันเลย แต่ถ้ามีแล้วรู้จักป้องกัน ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน เกิดจากความสมัครใจของทั้งสองฝ่ายนี่ผมก็ว่าไม่ผิดนะ ^^
ผมควรจะบอกแฟนไหมครับว่าผมไม่มีความสุข (18+นิดๆ)
ผมกับแฟนผมคบกันมา 7 ปีแล้วคบกันตั้งแต่สมัยเรียน แรกๆ ก็รักเหมือนหนุ่มสาวทั่วๆไป แต่พอหลังๆกลับรู้สึกว่าความรักแบบหนุ่มสาวมันหมดไป
เหลือเป็นความผูกพันธ์และรักกันเหมือนคนในครอบครัวมากกว่า ส่วนตัวนิสัยผมเป็นคนใจเย็น ใช้เหตุผล ส่วนเธอก็ตรงกันข้ามครับ ใจร้อน ขี้งอล
ตอนนี้เราทั้งคู่เรียนจบแล้วก็ทำงานกันมานานแล้ว เพื่อนๆก็แต่งงานกันไปหลายคู่แล้ว เราสองคนก็มีแพลนว่าจะแต่งงานเหมือนกันแหละ แต่ติดตรงที่ว่า
พ่อแม่ผมไม่มีเงิน ผมต้องขวนขวายหาเงินและเก็บเงินเพื่อไปสู่ขอเธอด้วยตนเอง ซึ่งเรื่องนั้นผมก็ไม่ได้โทษใคร กลับภูมิใจอยู่ลึกๆ ด้วยซ้ำ
ดีกว่าคนอื่นๆ ที่ได้แต่งงานเร็วๆ หรืองานใหญ่โต แต่มาจากเงินของพ่อแม่ ซึ่งตรงจุดนั้นเธอก็เข้าใจผมครับ ว่าต้องใช้เวลาหาเงินซักพัก
มาเข้าเรื่องเลยดีกว่าครับ เราคบกันมา 7 ปี คนคบกันเป็นแฟนนะ ไม่พ้นเรื่องอย่างว่าอยู่แล้ว แต่เราเพิ่งจะมีอะไรกันประมาณปีที่ 4-5 ที่คบกัน
หลังจากเรียนจบและทำงานแล้ว เราอยู่ไกลกันจะเจอกันเดือนละหนหรือสองเดือนหน เราก็มีอะไรกัน แต่ช่วงระยะหลังเราทำงานใกล้กันจึงตัดสินใจ
ย้ายมาเช่าห้องอยู่ด้วยกัน ซึ่งผมดีใจมากที่จะได้อยู่ด้วยกัน (จะได้ไม่ต้องอดอยาก ไม่ต้องทนรอเพื่อให้เจอกันนานๆที) แต่มันกลับไปเป็นอย่างที่คิด
ปรากฏว่าพอมาอยู่ด้วยกัน หน้าที่ซักผ้ากลับกลายเป็นของผมคนเดียว ด้วยเหตุผลที่ว่า ห้องน้ำมันเล็กเข้ามาช่วยซักไม่ได้
ผมซักผ้าส่วนเธอก็นอนเล่นนอนดูทีวีไป แล้วเธอเป็นคนนอนวันละ 10-12 ชม. ผมทำงานเวลาห้าง เข้า 11 โมงเลิก 2 ทุ่ม
กลับมาซักผ้า เสร็จเธอก็หลับไปแล้ว จริงๆ ผมไม่ชอบซักผ้านะ แต่ตอนนี้ไปฝากตัวกะเพจพ่อบ้านใจกล้ามาซักพักละ
พอซักผ้าอาบน้ำเสร็จผมก็มีอารมณ์กุ๊กกิ๊กอ่ะนะ มานอนกอดเธอ หอมเธอ พยายามปลุกอารมณ์แต่เธอก็ปัดผมออกเหมือนรำคาญ
คือเธอไม่ยอมให้ผมมีอะไรด้วย เป็นอย่างงี้ตลอด เธอก็จะบอกว่าไม่อยากมี เหนื่อยมั่ง ขี้เกียจบ้าง ทั้งที่ทั้งคู่ก็ทำงานเหมือนกัน
คือมุมมองของผม เรื่องเซ็กซ์ของเธออาจจะไม่สำคัญ เพราะว่าเธอบอกว่าแค่อยู่ด้วยกัน นอนกอดกันก็มีความสุขแล้ว
แต่ความสุขของผมหรือผู้ชายหลายๆ คนก็คือการมีอะไรกับคนที่ตัวเองรัก (บ้าง) สุดท้ายพอเธอไม่ยอมบ่อยๆ ผมก็เริ่มชิน
พอก่อนนอนผมเริ่มเร้าเธอแล้วถ้าเธอมีทีท่าไม่ยอม ผมก็ไม่ขัดใจ ผมก็พอ บางวันก็ต้องแอบไปช่วยตัวเองในห้องน้ำ
หลังๆ นี่เราเริ่มนอนหันหลังให้กันเหมือนคู่สามี ภรรยา ที่แต่งงานกันมานานมากแล้ว ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้แต่งงานกัน
ผมกลัวว่าหลังแต่งงานไปจะยังเป็นแบบนี้อีก ผมว่าผมรับไม่ได้ แฟนผมชอบบอกว่าผมหื่นมากไป ผมจะบอกเธอยังไงดีว่า
ผมไม่ได้หื่น มันเป็นปกติของผู้ชาย คนอื่นหื่นกว่าผมอีก ผมให้เกียรติเธอ ไม่เคยขืนใจเธอ หรือเป็นเพราะว่าผมเป็นผู้ชายคนแรก
ของเธอ เธอไม่เคยเจอผู้ชายคนอื่นมาก่อนก็เลยเป็นแบบนี้ หาว่าผมหื่นเกินไป
ส่วนตัวผมๆ คิดว่าผมดูแลเธอดีมากๆ ตามใจทุกอย่าง อยากกินอะไรก็พาไปกิน อยากได้อะไรก็ซื้อให้ กลับมาก็ดูแลทุกอย่าง
ซักผ้าให้ ตัดเล็บให้บ้าง ถอนขนจั๊กกะแร้ให้ตลอด เธอก็ตามใจผมเหมือนกัน ดีทุกอย่างเหมือนกัน ยกเว้นเรื่อง เซ็กซ์ อย่างเดียว
เป็นสภาพแบบนี้มาปีนึงแล้วครับ ที่เราอยู่ด้วยกัน มีอะไรกันตกเดือนละครั้ง กว่าจะได้มีก็เหนื่อยมาก ขอเธอ อ้อนเธอจนกว่าจะได้
พอเธอตกลงอารมณ์ก็แทบหมดแล้ว วันไหนมีอารมณ์พอเร้าเธอ เธอก็ด่าผมอีก ผมก็กลัวเธอจะโกรธก็หยุด
ส่วนตัวผมอยากมีแฟนที่ให้ความสุขผมได้จริงๆ เข้าใจอารมณ์ผมไหมครับ แบบอารมณ์กุ๊กกิ๊ก อยากจะเริ่มเร้าโลม พอเข้าไปกอดแล้วหอมแค่นั้นแล้ว
สบัดผมออก ไล่ผม แล้วก็บอกไม่เอา ไม่อยากมี อารมณ์ที่มีมามันก็หมด แทนที่ด้วยความเสียใจ ทุกวันนี้แม้แต่จะนอนกอดผมยังไม่กล้าเลย นอนหันหลังชนกันเกือบทุกคืน บางคืนแอบน้ำตาซึม คิดว่าผมทำอะไรผิด คิดว่าแต่งงานกันไปแล้วจะเป็นยังไง
สุดท้ายนี้ผมอยากจะบอกว่าทุกวันนี้ไม่มีความสุขกับชีวิตคู่เลย เคยคิดอยากจะนอกใจหรือไปซื้อกินนะ แต่ผมรักเธอมากเลยไม่อยากนอกใจหรือทำให้เธอเสียใจ ผมสมควรจะบอกเธอยังไงดีหรือพูดกับเธอยังไงดีครับ ผมควรจะบอกเธอไหมว่าคุณทำอย่างงี้ผมไม่มีความสุข ผมให้ความสุขคุณทุกอย่าง ขอให้คุณให้ความสุขผมบ้าง
ปล1.ผมมั่นใจว่าไม่มีผู้ชายคนไหนที่ไม่หื่น แล้วก็คิดว่าเรื่องเซ็กซ์ไม่สำคัญอยู่บนโลกใบนี้
ปล2.อย่าว่าผมนะครับ ที่อยู่ด้วยกันก่อนแต่ง สมัยนี้มีเยอะแยะไป อยู่ด้วยกันก่อนแต่ง บางคู่อยู่ด้วยกันไม่แต่งกันก็มี
ปล3.อย่าว่าผมนะครับ ที่มีอะไรกันก่อนแต่ง ผมว่าคงมีน้อยคู่มากที่จะคบกันได้นานๆแล้วไม่มีอะไรกันเลย แต่ถ้ามีแล้วรู้จักป้องกัน ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน เกิดจากความสมัครใจของทั้งสองฝ่ายนี่ผมก็ว่าไม่ผิดนะ ^^