เอาจริงๆเรากำลังคิดอยู่ค่ะ ว่ากับแฟนคนนี้ควรจะเดินต่อไปหรือจะหยุดดี
ไม่ใช่เพราะเค้าไม่ดีนะคะ แต่เพราะเราคิดว่าเค้า “ประหยัด”ไปหน่อยค่ะ
คือไม่รู้จะปรึกษาใครแล้ว เลยอยากลองฟังความคิดเห็นๆเพื่อนชาวพันทิปบ้างค่ะ
ว่าอย่างงี้เรียก “ประหยัด”เกินหรือเปล่า หรือเราคิดไปเอง คิดผิด หรือยังงัย
มันอาจดูเป็นประเด็นเล็กๆแต่พอบ่อยๆเข้า เราไม่ค่อยโอเคค่ะ กลัวมันมีผลต่อการคบกันในอนาคต
เรื่องแรก
เค้าไปจ่ายตลาดเป็นเพื่อนแม่เรา เนื่องจากเราต้องทำงาน ก็เลยรบกวนไปเป็นเพื่อน
คือใจเราแค่อยากให้ช่วยขับรถพาแม่ไปหน่อย เพราะแม่ขับไม่เป็น หมู่บ้านเราไม่ได้อยู่ติดถนนค่ะ
และก็อยากให้ช่วยแม่ถือของไรงี้ เราก็อุตส่าห์บอกว่าไปตลาด Aนะ แม่เราไปบ่อย ของก็โอเค
ตอนแรกเค้าก็เถียงๆเหมือนจะไม่ไป เราเลยดุๆว่าไปนะ ไปเห๊อะ เค้าก็เออๆออๆเหมือนขี้เกียจเถียง
แต่เอาเข้าจริงเค้าก็ดื้อเงียบค่ะ พาไปอีกที่ค่ะ ซึ่งเค้าบอกว่าที่นี่มันถูกกว่า ได้เยอะ เคยพาแม่มาซื้อ (แม่เค้ามาหาบ้างเป็นบางครั้ง)
แล้วแม่เราก็อดไม่ได้ที่จะเล่าวีรกรรมให้เราฟัง คือปกติเค้าไม่ได้สนิทกับแม่ขนาดนั้นค่ะ
แค่มากินข้าวบ้านด้วยกันก็สวัสดี ทักทายไปตามมารยาทในระดับนึง
คือเท่าที่ฟังแม่เล่า เราคิดว่าแม่เราอึดอัดน่ะค่ะ แม่บอกว่าเค้าพยามช่วยแม่ต่อราคาของในตลาดค่ะ
ประมานว่าซื้อกุ้งโลนึงสองร้อยกว่าบาท แม่เราก็เป็นคนไม่อะไรมากงัยค่ะ ของซื้อของขาย เรื่องอาหารการกิน แม่เราไม่ซีเรียส
แต่แฟนเราเค้าก็ต่อรองขอ200ถ้วนอะไรประมานนี้ แล้วก็บอกแม่ว่า “ บางทีถ้าซื้อเยอะ ต่อซักหน่อยก็ได้ครับ”
คือจะบอกว่ามันไม่หน่อยนะคะ เราเคยไปเดินตลาดนัดแล้วเจอต่างหู คู่ละ100 คือสวยงามดี
และด้วยนิสัยเราถ้าเดินซื้อของตลาดนัดนี่คือจะไม่เคยซื้อเกิน300อยู่แล้วอะคะ
ของตลาดนัดถ้าจะแพงมากเราก็เสียดายเงินค่ะ อุตส่าหนีห้างมาเดินตลาดนัดแล้ว ประมารนั้นค่ะ
แต่แฟนเราต่อซะเราอายแทนเลยค่ะ เจ้าของร้านก็หน้าเสีย บอกว่า “ 50ได้ไม๊” คือเราแบบ...เรารู้ค่ะ ว่าต้นทุนเค้ามาน่ะไม่เท่าไหร่
แต่ถ้าจะไม่ให้เค้าได้กำไรเลย แล้วเค้าจะมาขายของทำไมละคะคู้นนนนน ตอนนั้นเราก็แบบ อยากได้ก็อยาก อายก็อาย
คนขายก็มองหน้ากันประมาณว่า โหววว ต่อขนาดนี้ คิดได้งัย ไรประมาณนี้ค่ะ
แล้วแฟนเราก็ทำเหมือนหน้าเหมือนเป็นเรื่องปกตินะคะ สุดท้ายเราก็ได้มา80ค่ะ โดยไม่ได้ภูมิใจกะราคาเลย
100เดียวเรายอมจ่ายได้ค่ะ ถ้าเราอยากได้จริงๆ
จนทุกวันนี้ถ้าไปเดินตลาดนัดกับเค้านี่ เราต้องซื้อเสื้อตัวไม่เกิน200ค่ะ
ไม่งั้นจะมาต่อให้ตลอด เราต้องคอยบอกว่าแค่180เอง ไม่ถึง200เลย (คือต้องคอยย้ำค่ะ)
หรือถ้าเราอยากชอปมากจริงๆก็ไปคนเดียวเลยค่ะ
เรื่องที่2
แค่ซื้อ “ผลไม้” ยังคิดหนักเลยค่ะ อิชั้นละกลุ้มใจ
เมื่อวานนี้ไปเดินตลาดกับนาง เจอกล้วยหวีละ35บาท นางถามว่า แม่เราเอากล้วยไปทำอะไรได้บ้าง
เราก็แบบก็มีกล้วยเชื่อม กล้วยบวดชี อยากกินอันไหน นางก็บอกกล้วยบวดชี พอแม่เราถามราคาแม่ค้า
คำตอบคือ35บาท แฟนเราก็อุทานมาประมาณว่า “35เลยเหรอ” เรากับแม่ก็มองหน้ากัน
แต่สุดท้ายเราก็ตัดบทด้วยการซื้อไปราคานั้นละ เค้าก็แบบยิ้มขำๆ เหมือนไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะราคานี้
เราก็ได้แต่บอกว่าแบบ ช่วงนี้ผลไม้แพงนะ อยากกินก็ซื้อ ไม่เป็นไรหรอก” เค้าก็เงียบๆไป
ขนาดทุเรียน ซึ่งช่วงนี้รู้ๆกันอยู่ว่ามันแพงแสนแพง ก็พูดอยู่นั่นละ ทุกวันเลย “กินทุเรียนกันไม๊ กินไม๊”
บังเอิญว่าเราไม่ได้ชอบกิน เราเฉยๆ ก็บอกไปว่าเราไม่กินนะ แต่แม่เรากิน ถ้ากลัวไม่หมดยังงัยก็มากินกับแม่ได้
เวลาขับรถผ่านกระบะที่เปิดท้ายขายทุเรียน ก็จะแบบ “ซื้อทุเรียนไม๊ ทำไมแพงจัง”
เราได้แต่กรอกตาเป็นสระอิ และก็พูดประโยคเดิมๆ “ช่วงนี้ผลไม้มันแพง ทุเรียนนี่ยิ่งแพงเลย ถ้าอยากกินก็ต้องยอมจ่ายหน่อย ไม่เป็นไรหรอก”
เคยมีแฟนที่เป็นคนแสนจะประหยัดแบบนี้กันบ้างไหม
ไม่ใช่เพราะเค้าไม่ดีนะคะ แต่เพราะเราคิดว่าเค้า “ประหยัด”ไปหน่อยค่ะ
คือไม่รู้จะปรึกษาใครแล้ว เลยอยากลองฟังความคิดเห็นๆเพื่อนชาวพันทิปบ้างค่ะ
ว่าอย่างงี้เรียก “ประหยัด”เกินหรือเปล่า หรือเราคิดไปเอง คิดผิด หรือยังงัย
มันอาจดูเป็นประเด็นเล็กๆแต่พอบ่อยๆเข้า เราไม่ค่อยโอเคค่ะ กลัวมันมีผลต่อการคบกันในอนาคต
เรื่องแรก
เค้าไปจ่ายตลาดเป็นเพื่อนแม่เรา เนื่องจากเราต้องทำงาน ก็เลยรบกวนไปเป็นเพื่อน
คือใจเราแค่อยากให้ช่วยขับรถพาแม่ไปหน่อย เพราะแม่ขับไม่เป็น หมู่บ้านเราไม่ได้อยู่ติดถนนค่ะ
และก็อยากให้ช่วยแม่ถือของไรงี้ เราก็อุตส่าห์บอกว่าไปตลาด Aนะ แม่เราไปบ่อย ของก็โอเค
ตอนแรกเค้าก็เถียงๆเหมือนจะไม่ไป เราเลยดุๆว่าไปนะ ไปเห๊อะ เค้าก็เออๆออๆเหมือนขี้เกียจเถียง
แต่เอาเข้าจริงเค้าก็ดื้อเงียบค่ะ พาไปอีกที่ค่ะ ซึ่งเค้าบอกว่าที่นี่มันถูกกว่า ได้เยอะ เคยพาแม่มาซื้อ (แม่เค้ามาหาบ้างเป็นบางครั้ง)
แล้วแม่เราก็อดไม่ได้ที่จะเล่าวีรกรรมให้เราฟัง คือปกติเค้าไม่ได้สนิทกับแม่ขนาดนั้นค่ะ
แค่มากินข้าวบ้านด้วยกันก็สวัสดี ทักทายไปตามมารยาทในระดับนึง
คือเท่าที่ฟังแม่เล่า เราคิดว่าแม่เราอึดอัดน่ะค่ะ แม่บอกว่าเค้าพยามช่วยแม่ต่อราคาของในตลาดค่ะ
ประมานว่าซื้อกุ้งโลนึงสองร้อยกว่าบาท แม่เราก็เป็นคนไม่อะไรมากงัยค่ะ ของซื้อของขาย เรื่องอาหารการกิน แม่เราไม่ซีเรียส
แต่แฟนเราเค้าก็ต่อรองขอ200ถ้วนอะไรประมานนี้ แล้วก็บอกแม่ว่า “ บางทีถ้าซื้อเยอะ ต่อซักหน่อยก็ได้ครับ”
คือจะบอกว่ามันไม่หน่อยนะคะ เราเคยไปเดินตลาดนัดแล้วเจอต่างหู คู่ละ100 คือสวยงามดี
และด้วยนิสัยเราถ้าเดินซื้อของตลาดนัดนี่คือจะไม่เคยซื้อเกิน300อยู่แล้วอะคะ
ของตลาดนัดถ้าจะแพงมากเราก็เสียดายเงินค่ะ อุตส่าหนีห้างมาเดินตลาดนัดแล้ว ประมารนั้นค่ะ
แต่แฟนเราต่อซะเราอายแทนเลยค่ะ เจ้าของร้านก็หน้าเสีย บอกว่า “ 50ได้ไม๊” คือเราแบบ...เรารู้ค่ะ ว่าต้นทุนเค้ามาน่ะไม่เท่าไหร่
แต่ถ้าจะไม่ให้เค้าได้กำไรเลย แล้วเค้าจะมาขายของทำไมละคะคู้นนนนน ตอนนั้นเราก็แบบ อยากได้ก็อยาก อายก็อาย
คนขายก็มองหน้ากันประมาณว่า โหววว ต่อขนาดนี้ คิดได้งัย ไรประมาณนี้ค่ะ
แล้วแฟนเราก็ทำเหมือนหน้าเหมือนเป็นเรื่องปกตินะคะ สุดท้ายเราก็ได้มา80ค่ะ โดยไม่ได้ภูมิใจกะราคาเลย
100เดียวเรายอมจ่ายได้ค่ะ ถ้าเราอยากได้จริงๆ
จนทุกวันนี้ถ้าไปเดินตลาดนัดกับเค้านี่ เราต้องซื้อเสื้อตัวไม่เกิน200ค่ะ
ไม่งั้นจะมาต่อให้ตลอด เราต้องคอยบอกว่าแค่180เอง ไม่ถึง200เลย (คือต้องคอยย้ำค่ะ)
หรือถ้าเราอยากชอปมากจริงๆก็ไปคนเดียวเลยค่ะ
เรื่องที่2
แค่ซื้อ “ผลไม้” ยังคิดหนักเลยค่ะ อิชั้นละกลุ้มใจ
เมื่อวานนี้ไปเดินตลาดกับนาง เจอกล้วยหวีละ35บาท นางถามว่า แม่เราเอากล้วยไปทำอะไรได้บ้าง
เราก็แบบก็มีกล้วยเชื่อม กล้วยบวดชี อยากกินอันไหน นางก็บอกกล้วยบวดชี พอแม่เราถามราคาแม่ค้า
คำตอบคือ35บาท แฟนเราก็อุทานมาประมาณว่า “35เลยเหรอ” เรากับแม่ก็มองหน้ากัน
แต่สุดท้ายเราก็ตัดบทด้วยการซื้อไปราคานั้นละ เค้าก็แบบยิ้มขำๆ เหมือนไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะราคานี้
เราก็ได้แต่บอกว่าแบบ ช่วงนี้ผลไม้แพงนะ อยากกินก็ซื้อ ไม่เป็นไรหรอก” เค้าก็เงียบๆไป
ขนาดทุเรียน ซึ่งช่วงนี้รู้ๆกันอยู่ว่ามันแพงแสนแพง ก็พูดอยู่นั่นละ ทุกวันเลย “กินทุเรียนกันไม๊ กินไม๊”
บังเอิญว่าเราไม่ได้ชอบกิน เราเฉยๆ ก็บอกไปว่าเราไม่กินนะ แต่แม่เรากิน ถ้ากลัวไม่หมดยังงัยก็มากินกับแม่ได้
เวลาขับรถผ่านกระบะที่เปิดท้ายขายทุเรียน ก็จะแบบ “ซื้อทุเรียนไม๊ ทำไมแพงจัง”
เราได้แต่กรอกตาเป็นสระอิ และก็พูดประโยคเดิมๆ “ช่วงนี้ผลไม้มันแพง ทุเรียนนี่ยิ่งแพงเลย ถ้าอยากกินก็ต้องยอมจ่ายหน่อย ไม่เป็นไรหรอก”