พนักงานเคาว์เตอร์แบรนด์เครื่องสำอางค์ ถูกบีฟให้บริการแต่กลุ่มคนดูมีตังรึป่าวค่ะ ??

...ขอเกริ่นก่อนนะคะ จริงๆ ก็เคยเห็นที่เขาดราม่ากัน เรื่องการบริการที่แตกต่างกัน ระหว่างคนรวย กับคนจน แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร จนมาเจอเข้ากับตัวนี่รู้ซึ้งเลยค่ะ เหตุการณ์เริ่มจากเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเห็นในมีสิทธิ Samsung Galaxy คูปองลดโรบินสัน 30 เปอร์เซ็นต์ ... ด้วยความตื่นเต้นที่ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหมดพอดี ก็เลยรีบออกจากบ้านทันที...

...พอไปถึงโรบินสัน ก็รีบไปชั้น Customer Service แลกคูปองสิทธิ Samsung เลย พนักงานก็ขอบัตร The one card  ไป ซึ่งเราก็ยื่นๆ ให้ไป เห็นว่าตัวเองมี และเพิ่งแลกคะแนนเป็นบัตรส่วนลด Tops จนคะแนนในบัตรเกลี้ยงเลย...พอได้คูปองมา ลักษณะก็จะเป็นใบเสร็จเหมือนที่แลกคะแนนทั่วไป ...เพื่อความชัวร์ก็เลยถามพนักงานว่า ไอ้คูปองนี้มันใช้กับเคาว์เตอร์แบรนด์เครื่องสำอางค์ได้รึป่าว?? พนักงานก็บอกว่าได้หมดถ้าอยู่ในโซนโรบินสัน (แต่อ่านในคูปองนี่มันยกเว้นการใช้คูปองเกือบทั้งห้าง แต่เหมือนจะใช้ได้กับเครื่องสำอางค์ เราก็ อิอิ งานนี้ได้ของถูกแน่ๆ)

...(เกริ่นยาวไปนิด ขออภัยค่ะ) พอได้คูปองมาก็ตรงดิ่งไปที่เคาว์เตอร์  Estee lauder เลย (ไม่รู้เอยชื่อเลยเป็นไรไหม แต่ขอสักนิด 555) เพราะอยากได้ตัว advanced night repair มานานแล้ว สิ่งแรกที่ไปถึงคือ ป้ายตั้งไว้ที่เคาว์เตอร์ว่า "พนักงานไปบริการนวด 30 นาที" เราก็แบบไม่เป็นไร ขอเดินดูผลิตภัณฑ์ก่อนก็ได้ ก็เดินๆ อ่านจนเกือบครบทุกตัว จนพอใจแล้วก็ไปหาไรกิน ไปช๊อปปิ้งอย่างอื่นรอ...

...ผ่านไปเกือบชม. เราก็ come back แล้วนะจ๊ะ ... สรุปมีลูกค้านั่งกรอกเอกสารอะไรไม่รู้อยู่ 1 คน พนักงานก็เหมือนยืนมองลูกค้าคนนั้นกรอกไป...ด้วยความมีมารยาทเราก็ได้แต่ยืนมองทำตาปริบๆ แบบเมื่อไหร่จะสนใจเราบ้างน้าา สุดท้ายเวลาผ่านไปเกือบ 10 นาที ก็เลยตัดสินใจแกล้งถามราคาไป ว่าตัวนี้เท่าไหร่ค่ะ (ต้องตะโกนจากที่โชว์สินค้า ไปเคาว์เตอร์นะคะ) พนักงานก็ชั่งมีความกรุณาตะโกนราคากลับมา (ใจจริงคือตรูรู้แล้ว ตรูจะซื้อแล้ว ช่วยมาคุยเรื่องคูปองส่วนลดกับตรูหน่อยได้ไหม)...หลังจากถามราคาเสร็จ ปรากฏไม่มีไรเกิดขึ้น ไม่มีแม้แต่คำพูดที่ว่า "รอสักครู่นะคะ กำลังบริการลูกค้าท่านอื่นอยู่" คือสินค้าที่จะซื้อก็หลักพันอยู่ช่วยเทคแคร์เราหน่อยจิ สุดท้ายเห็นว่านานเกินก็เลยไปเยี่ยมชม Shiseido แทน (เริ่มถอดใจ ไปซื้ออันอื่นก็ได้)

...พอมาถึง Shiseido ตอนแรกพนักงานต้อนรับดีมากค่ะ เสียงนี่แหลมมาเชียวววว เราก็ดูๆ ว่าอันไหนมันจะทดแทนไอ้เซรั่มของ Estee lauder ได้ พอเลือกไปสักพัก ก็ถามพนักงานเรื่องคูปองสิทธิ Samsung ว่ามันใช้ลดได้ไหมค่ะ คราวนี้เหละพนักงานเริ่มมองหน้ากันเอง และบอกว่าไม่มีรายการลดนะคะตัวนี้...เราก็อ้าวววว และพยายามอธิบายไปว่ามันเป็นคูปองลดราคา ซึ่งตัวที่ดูอยู่ก็ยังไม่ร่วมรายการลดราคา ช่วยไปตรวจสอบก่อนให้ก่อนได้ไหม...สุดท้ายเราก็ยื่นคูปองให้ดู แต่แทนที่พนักงานจะอ่านรายละเอียดคูปอง กับสนใจแต้ม The one card ที่มีไม่ถึง 100 คะแนน และจับกลุ่มคุยกันสะดังเชียวว่าแต้มแค่นี้จะลด 5 เปอร์เซ็นต์อะไรยังไม่ได้เลย และก็มีหันมามองหน้าเราเป็นระยะๆ...วินาทีนั้นคือไม่ไหวแล้ว ความรู้สึกเหมือนโดนดูถูกเข้าอย่างจัง!!...จากตอนแรกตั้งใจไปห้างเพื่อจะซื้อเครื่องสำอางค์ กับได้ทุกอย่างมายกเว้นเครื่องสำอางค์ เห้ออออออ มันเศร้านะ...

...ที่เล่ามาสะยาวคือ ลองมาพิจารณาตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเรา ทำไมการจะซื้อเครื่องสำอางค์ครั้งนี้มันถึงยากเย็นนัก เพราะก่อนหน้านี้ก็ซื้อเครื่องสำอางค์จากเคาว์เตอร์แบรนด์ ไม่เคยเจอพฤติกรรมของพนักงานที่เมินลูกค้าแบบนี้ พอลองสังเกตก็เลยมโนเอง แต่คิดว่าน่าจะเพราะสาเหตุนี้ คือทุกครั้งที่มาช๊อปเครื่องสำอางค์ จะเป็นเวลาเลิกงานที่องค์ประกอบเครื่องแต่งกายครบ แต่งหน้าเต็ม ผิดกับเมื่อวานที่เราใส่ชุดอยู่บ้าน สบายๆ หน้าไม่แต่ง ใส่แว่น รองเท้าแตะไป คงบวกกับหน้าตาบ้านๆ ด้วย เลยทำให้ได้รับกับปฏิบัติที่แย่ๆ แบบนี้  

...เลยอยากรู้ว่ามีใครเคยเจอแบบเรามั้งไหม หรือว่ามันเป็นปกติทั่วไป เราคงคิดไปเองเฉยๆ ค่ะ...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่