ถึงน้องที่สวมเสื้อยืดสีฟ้า ที่ขึ้นรถ ปอ.29 หน้าเจ้เล้งมาลงจตุจักรวันนี้ (7 มิย 58) ครับ

วันนี้ครับ (7 มิย. 58) ผมขึ้นรถ ปอ.29 จากหน้า Major ciniplex รังสิต ปลายทางของผมอยู่ที่สวนจตุจักร
ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาเย็นเกือบค่ำ นาฬิกาจากหน้าจอโทรศัพท์บอกเวลาหกโมงกว่าๆ ทว่าอากาศที่ร้อนอบอ้าว
ผสมกับความร้อนใจของผมที่อยากจะถึงที่พักโดยไว กลับทำให้ร่างกายถูกทักทายด้วยเม็ดเหงื่อ พาลทำให้อารมณ์หงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย

จนเมื่อก้าวขึ้นรถแล้ว ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศก็พอจะบรรเทาความร้อนในใจผมไปได้บ้าง
ทว่ารถก็ยังคงวิ่งไปอย่างช้าๆ ด้วยการจราจรที่ค่อนข้างติดขัด ยิ่งช่วงรถวิ่งผ่านดอนเมืองแล้วล่ะก็
พูดให้ดูเว่อ คือ เต่าคลานยังชนะรถคันที่ผมโดยสารอยู่เลยก็ว่าได้

ป้ายแล้วป้ายเล่า ผู้คนต่างสับเปลี่ยนโดยสารรถกันคันนี้อย่างคึกคัก บ้างก้าวลง บ้างก้าวขึ้น
บ้างหิ้วถุงน้อย บ้างห้อยถุงใหญ่ รสชาติของเย็นวันอาทิตย์ มันอยู่ตรงหน้าผมนี่แหล่ะครับ

"เจ้เล้งลงป้ายหน้านะคะ" เสียงพี่กระเป๋าโดยสารร่างเล็กแว่วดัง เตือนผู้โดยสารให้ทราบถึงที่หมายที่หลายคนจะมาให้ถึง
ทว่าสายตาของผมตอนนี้กลับถูกบังคับให้จ้องมองแต่สิ่งๆ หนึ่ง ตอนนี้ผมมองทะลุกระจกรถออกไป น้องคนนึงสวมเสื้อยืดสีฟ้า
ดูท่าจะผิวกายสีขาว กำลังยืนรอด้านล่างอย่างตั้งใจ นัยตาบ่งบอกความต้องการที่จะขึ้นรถคันนี้ในไม่ช้า

ผมยิ้มออกมาเมื่อไหร่ไม่รู้ รู้แค่ว่าตอนนี้น้องเค้าได้มายืนใกล้ผมมาก
"จตุจักรครับ" เฮ้ย! ปลายทางของน้องเค้าเป็นที่เดียวกับที่ผมจะลงเลยนี่น่า
ผมคิดในใจถึงขั้นตอนต่อไปของหัวใจ ว่าจะทำยังไงได้บ้าง กับช่วงเวลาบนรถคันนี้

ผมเริ่มใช้ทักษะการสังเกตที่ได้เรียนมาก่อนเลยครับ
น้องสวมเสื้อยืดสีฟ้า กางเกงขาสั้นสีครีม ผิวขาว สูงประมาณไม่เกิน 170 ซม.
ผมสลับการสังเกตด้วยสายตากับการทำเป็นมองออกไปนอกหน้าต่างอยู่อย่างนั้น
คงเป็นเพราะกลัวว่าน้องจะรู้ตัวว่ามีคนกำลังแอบมองอยู่

เคยขึ้นรถประจำทางมาก็บ่อย จะหงุดหงิดทุกครั้งที่รถติด ทุกครั้งที่ต้องเดินทางในเย็นวันอาทิตย์
แต่ตอนนี้ผมอยากให้รถติดนานๆ เลย นานอย่างที่จะเป็นไปได้ ในหัวก้สรรหาถ้อยคำ หรือประโยคการสนทนาอยู่เรื่อยๆ
ผมอยากจะเริ่ม จะเริ่มซะตอนนี้ แต่ฝูงมหาชนในรถก็แน่นขนัดซะเหลือเกิน

ยิ่งคนแน่นมาก ระยะห่างระหว่างผมกับน้องเค้าก็เหลือน้อยลงทุกที
ซึ่งตอนนี้น้องมายืนตรงหน้าผมแล้ว เพียงแต่น้องหันหลังให้ผมเท่านั้นเอง

ไม่นานนัก รถวิ่งถึง 5 แยกลาดพร้าว ผมยังไม่ได้เริ่มอะไรสักอย่าง แต่ในใจก็แพลนไว้ว่า
ไหนๆ ก็ลงป้ายเดียวกัน เอาวะ เดี๋ยวลงรถก่อน จะเดินเข้าไปทำความรู้จัก ขอเฟสไว้ส่องก็ยังดี
ความคิดทั้งหมด คือความคิดที่ถูกตั้งไว้ว่าจะทำ ครั้นเมื่อถึงเวลาจริงๆ ใช่ครับ ผมไม่กล้า

นั่นล่ะครับ ฉากสุดท้าย ผมยืนมองน้องเค้าขึ้นบันได BTS ไป
จนเมื่อสุดสายตาที่ผมมองอยู่ แล้วผมก็เดินลง MRT กลับที่พักไปตามระเบียบ

ถ้าโอกาสและจังหวะดีจริงๆ แล้วน้องเค้าได้ผ่านเข้ามาเห็นกระทู้นี้
ผมขอใช้ตรงนี้เป็นสื่อกลางบอกความรู้สึกนี้กับน้องนะครับ
น้องดูน่ารักจริงๆ ทำให้สมองผมคิดได้ตลอดทางว่าจะเริ่มการสนทนาได้ยังไงบ้าง
น้องทำให้การเดินทางในเย็นวันอาทิตย์ มีรูปแบบที่เปลี่ยนไปจากรูปแบบเดิมๆ ที่เคยแต่หงุดหงิด
ที่เคยแต่มองเวลา ว่าเมื่อไหร่จะถึงเป้าหมาย

วันนี้น้องไม่ได้เพียงขึ้นรถโดยสารเท่านั้นนะครับ
แต่วันนี้น้องยังได้เข้ามาโดยสารในหัวใจพี่คนนี้แล้วอีกด้วย

เสียดาย~

___________________________

ผมไม่ได้แต่งนิยายนะครับ อย่าไล่ผมไปห้องนิยายนะ TT

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่