ผมเรียนจบมาจาก มหาลับสงฆ์ครับ (บวชเรียน) เรียนจบก็สึกออกมาหางานทำ ตอนเรียนก็ไม่ได้มีสิทธิเลือกคณะสาขา หรือมหาลัยอะไรเพราะไม่ได้เรียนสายสามัญมาตั้งแต่เด็กแต่ใช้วุฒิทางภาษาบาลีเทียบเรียนเอาในมหาลัยสงฆ์ (พุทธศาสตร์บัณฑิต คณะสังคมรัฐศาสตร์การเมืองการปกครอง)
ปัญหาคือไม่มีที่ไหนรับทำงานเลยครับ งานที่ไปสมัครก็รู้ตัวเองดีว่าจบมาแบบนี้ งานอะไรที่วุฒิพอสมัครได้ พวก ผจก ฝึกหัดร้านต่างๆหรือพนักงาน ฯลฯ
วิ่งสมัครไป 2 ปีกว่า 2ปีกว่าจริงๆครับทุกที่ทุกงานที่เปิดรับแต่ไม่มีที่ไหนรับเลย คือแค่เขาเห็นรูปใบทรานสคริปผมเป็นพระ หรือชื่อมหาลัยเขาก็ไม่พิจารณาแล้วครับ
มีหลายครั้งๆที่เจอคำพูดดูถูก เช่น สึกมาทำไม นี้มันโลกธุระกิจนะไม่ใช้โลกคุณธรรม น้องน่าจะเหมาะไปทำโรงงาน ฯลฯ
ตลอด 3 ปี (รวมเวลารอเกณทหาร) วิ่งสมัครงานและได้รับคำปฏิเสธซ้ำๆ มันทำให้รู้ครับว่าผมคือคนที่ไร้ค่า เพียงแค่ผมเคยบวชเรียนจบจากมหาลัยสงฆ์ ผมพยายามพิสูจน์ตัวเอง มีสอบอะไรที่ไหนก็ไปสอบ เคยสอบพนักงานราชการ แข่งกับคนประมาณ 300 ติดลำดับ 3 เข้าสำภาษณ์แต่มาตายสำภาษณ์อยู่ดี เหนี่อยครับเหนื่อยจริงๆ ค่าของเราถูกประเมินจากคนอื่นที่มอง เพียงเพราะมีที่มาไม่เหมือนคนอื่น อดีตผมจะไปเปลี่ยนอะไรมันได้ เลือกได้ผมก็อยากนจบ มดังๆ คณะดีๆ ใช้ชีวิตวัยรุ่น เด็กมหาลัย เหมือนคนอื่นนั้นแหละ แต่คนเรามันไม่ได้เกิดมาเท่ากันหรอก
ตลอดเวลาเป็นพระผมไม่เคยเเสวงหาทรัพย์สิน หรือเงินทองอะไรเลย ทั้งที่คุณวุฒิตอนนั้นมันเอื้อประโยชน์มากมาย ผมคิดแต่ว่าผมควรเป้นพระที่ดี ถ้าอยากได้อะไร สึกไปหาเอาข้างนอกดีกว่า แต่ตอนนี้ผมรู้ซึ่งแล้วโลกไม่ได้ต้องการคนดี มันแค่คำพูดฟังให้ดูดี แค่เห็น ว่าจบมหาลัยสงฆ์ เป็นมหา บวชเรียนมาหลายปี เขาก็คิดไปว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวเเล้ว ไม่น่าจะรู้เรื่องอะไรหรือทำงานอะไรได้ (เขาคงจินตจาการถึงคนเป็นมหาเก่านุ่งขาวห่มขาวชอบพูดอะไรธรรมะธัมโมเเบบนั้นมั้ง) สรุป คือกากเกินไป เหนื่อยครับ
1.อธิบายหน่อยนะครับ คำที่ผมว่า โลกไม่ได้ต้องการคนดีอันนี้พูดในเชิงเปรียบว่าตอนเป็นพระผมพยายามไม่แสวงหาเงินทอง ทั้งที่โอกาสมันเอื้อประโยชน์ ในทางกลับกัน ถ้าผมเป็นคนชั่วคือหาประโยชนฺ์จากสถานะอะไรตอนนั้น ผมคงสึกมารวยเเละคนก็จะตอนรับ ถึงพูดว่าโลกไม่ได้ต้องการคนดีครับ ไม่ใช้อ้างว่าตัวเองเป็นคนดีเนือคนอื่น ไม่เลยครับไม่เคยมีความคิดเเบบนี้เลย
2. ผมเล่าในสิ่งที่ผมเจอนะครับ ใช่ครับผมอาจดูถูกตัวเอง แต่อย่ามาว่าผมดูถูกสถาบันมหาลัยเลยครับ(มจร) เพราะที่เเห่งนี้มีพระคุณกับผมที่สุด ผมบวชเรียนและถูกบังคับให้เรียนบาลีตั้งแต่เด็ก จนอายุ20 แล้วยังมีแต่วุฒิ ป.6 วันนั้นถ้าไม่มี มจร เปิดโอกาสให้เอาวุฒิบาลีเทียบเรียนปริญญาได้ชีวิตผมคงหนักกว่านี้ ที่เเห่งนีจึงมีพระคุณกับผมที่สุด (ขอโทษรุ่นพี่ทุกท่านด้วยครับ)
3.ตอนนี้ไม่ใช้ไม่ทำอะไรครับ ขายก๋วยเตี้ยวอาหารตามสั้งอยู่ที่บ้าน 3ปีถ้าไม่ทำอะไร จะกินอะไร แต่ว่าร้านเป็นร้านแม่ ผมไม่ได้มีรายได้เป็นของตัวเองและเป็นบ้านพ่อเลี้ยงด้วยระยะยาวคงไม่ดีถ้าจะทำอยู่จุดนี้ อยากออกไปทำงานครับหาความเจริญให้ตัวเองกว่าจุดนี้ แต่ที่มาบ่นเพราะท้อกับการวิ่งหางานเหลือเกินครับมีไม่มีที่ไหนตอบรับ หรืออาจเป็นเพราะผมอยู่ต่างจังหวัดที่มีงานน้อยแล้วมีแต่คนสมัครเยอะก็ได้
มนุษย์ชนิดที่สังคมไม่ต้องการ วิ่งสมัครงานมา 3 ปี ไม่มีที่ไหนรับ
ปัญหาคือไม่มีที่ไหนรับทำงานเลยครับ งานที่ไปสมัครก็รู้ตัวเองดีว่าจบมาแบบนี้ งานอะไรที่วุฒิพอสมัครได้ พวก ผจก ฝึกหัดร้านต่างๆหรือพนักงาน ฯลฯ
วิ่งสมัครไป 2 ปีกว่า 2ปีกว่าจริงๆครับทุกที่ทุกงานที่เปิดรับแต่ไม่มีที่ไหนรับเลย คือแค่เขาเห็นรูปใบทรานสคริปผมเป็นพระ หรือชื่อมหาลัยเขาก็ไม่พิจารณาแล้วครับ
มีหลายครั้งๆที่เจอคำพูดดูถูก เช่น สึกมาทำไม นี้มันโลกธุระกิจนะไม่ใช้โลกคุณธรรม น้องน่าจะเหมาะไปทำโรงงาน ฯลฯ
ตลอด 3 ปี (รวมเวลารอเกณทหาร) วิ่งสมัครงานและได้รับคำปฏิเสธซ้ำๆ มันทำให้รู้ครับว่าผมคือคนที่ไร้ค่า เพียงแค่ผมเคยบวชเรียนจบจากมหาลัยสงฆ์ ผมพยายามพิสูจน์ตัวเอง มีสอบอะไรที่ไหนก็ไปสอบ เคยสอบพนักงานราชการ แข่งกับคนประมาณ 300 ติดลำดับ 3 เข้าสำภาษณ์แต่มาตายสำภาษณ์อยู่ดี เหนี่อยครับเหนื่อยจริงๆ ค่าของเราถูกประเมินจากคนอื่นที่มอง เพียงเพราะมีที่มาไม่เหมือนคนอื่น อดีตผมจะไปเปลี่ยนอะไรมันได้ เลือกได้ผมก็อยากนจบ มดังๆ คณะดีๆ ใช้ชีวิตวัยรุ่น เด็กมหาลัย เหมือนคนอื่นนั้นแหละ แต่คนเรามันไม่ได้เกิดมาเท่ากันหรอก
ตลอดเวลาเป็นพระผมไม่เคยเเสวงหาทรัพย์สิน หรือเงินทองอะไรเลย ทั้งที่คุณวุฒิตอนนั้นมันเอื้อประโยชน์มากมาย ผมคิดแต่ว่าผมควรเป้นพระที่ดี ถ้าอยากได้อะไร สึกไปหาเอาข้างนอกดีกว่า แต่ตอนนี้ผมรู้ซึ่งแล้วโลกไม่ได้ต้องการคนดี มันแค่คำพูดฟังให้ดูดี แค่เห็น ว่าจบมหาลัยสงฆ์ เป็นมหา บวชเรียนมาหลายปี เขาก็คิดไปว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวเเล้ว ไม่น่าจะรู้เรื่องอะไรหรือทำงานอะไรได้ (เขาคงจินตจาการถึงคนเป็นมหาเก่านุ่งขาวห่มขาวชอบพูดอะไรธรรมะธัมโมเเบบนั้นมั้ง) สรุป คือกากเกินไป เหนื่อยครับ
1.อธิบายหน่อยนะครับ คำที่ผมว่า โลกไม่ได้ต้องการคนดีอันนี้พูดในเชิงเปรียบว่าตอนเป็นพระผมพยายามไม่แสวงหาเงินทอง ทั้งที่โอกาสมันเอื้อประโยชน์ ในทางกลับกัน ถ้าผมเป็นคนชั่วคือหาประโยชนฺ์จากสถานะอะไรตอนนั้น ผมคงสึกมารวยเเละคนก็จะตอนรับ ถึงพูดว่าโลกไม่ได้ต้องการคนดีครับ ไม่ใช้อ้างว่าตัวเองเป็นคนดีเนือคนอื่น ไม่เลยครับไม่เคยมีความคิดเเบบนี้เลย
2. ผมเล่าในสิ่งที่ผมเจอนะครับ ใช่ครับผมอาจดูถูกตัวเอง แต่อย่ามาว่าผมดูถูกสถาบันมหาลัยเลยครับ(มจร) เพราะที่เเห่งนี้มีพระคุณกับผมที่สุด ผมบวชเรียนและถูกบังคับให้เรียนบาลีตั้งแต่เด็ก จนอายุ20 แล้วยังมีแต่วุฒิ ป.6 วันนั้นถ้าไม่มี มจร เปิดโอกาสให้เอาวุฒิบาลีเทียบเรียนปริญญาได้ชีวิตผมคงหนักกว่านี้ ที่เเห่งนีจึงมีพระคุณกับผมที่สุด (ขอโทษรุ่นพี่ทุกท่านด้วยครับ)
3.ตอนนี้ไม่ใช้ไม่ทำอะไรครับ ขายก๋วยเตี้ยวอาหารตามสั้งอยู่ที่บ้าน 3ปีถ้าไม่ทำอะไร จะกินอะไร แต่ว่าร้านเป็นร้านแม่ ผมไม่ได้มีรายได้เป็นของตัวเองและเป็นบ้านพ่อเลี้ยงด้วยระยะยาวคงไม่ดีถ้าจะทำอยู่จุดนี้ อยากออกไปทำงานครับหาความเจริญให้ตัวเองกว่าจุดนี้ แต่ที่มาบ่นเพราะท้อกับการวิ่งหางานเหลือเกินครับมีไม่มีที่ไหนตอบรับ หรืออาจเป็นเพราะผมอยู่ต่างจังหวัดที่มีงานน้อยแล้วมีแต่คนสมัครเยอะก็ได้