สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 23
Sm เป็นค่ายทีดันแต่ละวง ไม่เท่ากันหรอกเอาจริงๆ ดันตามศักยภาพและความดังของวงที่จะสามารถทำให้ค่ายได้
แฟนคลับน่าจะรู้สึกได้อยู่แล้ว ว่า sm มีวงลูกรัก กับลูกเมียน้อย
ถ้าตัดดงบังห้าคนไป วงที่ sm ดันมากมีแค่สองวง snsd exo
นอกนั้นคือไม่มาก แต่ก็ไม่น้อยเกินไปเช่น sj , shinee (sj ช่วงแรกน้อยหน่อย มาดีหลัง sorry sorry ส่วน shinee แรกๆ ดี หลังๆ ก็ออกแนวไม่สุดเหมือนกัน
แต่ f(x) น่ะ เรียกว่าไม่ดันเลยจะถูกกว่า แต่ดันไปในแนววงกึ่งโปรเจ็คต์ เน้นงานเดี่ยวของแต่ละคน f(x) ต่อจะให้เป็นวง top 3 ที่เกาหลี แต่การจะออกทัวร์ต่างประเทศจริงจังแบบวงอื่น เป็นเรื่องยากและต้องลงทุนมากกว่า ยิ่งจำนวนสมาชิกน้อย โอกาสเล่นสเกลใหญ่ก็น้อยลง แถมช่วงเดบิว f(x) ค่ายก็ไม่ได้โฟกัสไปที่ตลาดจีนมากเท่าไหร่ แล้วต้องบอกด้วยว่า ทารเก็ตของวง ค่อนข้างจำกัด เหมือน shinee นั่นแหละ เพราะตัวเพลงและสไตล์ที่มีเอกลักษณ์เกินไป แต่ชายนี่ก็ยังได้รับการโปรโมตมากกว่าเพราะได้ตลาดญี่ปุ่น แล้ว แข็งที่เพิร์ฟกับเสียงร้องด้วย
อย่างไรก็ตาม shinee กับ f(x) เดบิวมาใกล้กันช่วงปี 2008-2009 เป็นช่วงทีค่ายวุ่นวายสุดขีด ทั้งจากกระแสเคป็อปที่เริ่มเข้ามาและการฟ้องร้องค่าย ทำให้ค่ายสนใจแต่วงที่ทำรายได้ให้จริงจังช่วงนั้นมากกว่าคือ sj (sorry sorry), snsd (gee) จะมาสนวงรุ่นน้องที่เพิ่งเริ่มมีกระแส ในเมื่อเงินลงทุนมันมีจำกัด ไม่สามารถลงได้พร้อมกันหลายวงและค่ายก็เป๋ไปพอสมควรจากการที่ดงบังห้าคนแยกวง
sm สร้างขึ้นมาเพื่อให้ค่ายมีวงที่หลากหลายมากสุด เพื่อปิดช่องว่างทางการตลาดตั้งแต่แนว mass จนถึงสไตล์เฉพาะ ปกติ sm ถนัดปั้นไอดอลที่มีสมาชิกเยอะๆ รวบรวมความหลากหลายของสมาชิกในวงอยู่แล้ว เช่น snsd sj exo นี่มาแพทเทิรนคล้ายกันหมด แต่วงที่คนน้อยแล้วมีความต่างกันในสไตล์ชัดเจนนี่ sm ไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ ถนัดแนว mass มากกว่า แต่ก็ถือว่าเป็นค่ายที่ลองทำอะไรหลายอย่างดีอ้ะนะ ผู้บริหารมีสายตาที่กว้างไกลพอสมควร
sm ไม่เน้นโปรโมตวงแบบร้องเพลง นี่ยิ่งเห็นชัดไปอีก จากที่จะเอา f(x) เซ็นเข้า
avex แต่สุดท้ายแล้วก็ล้มเลิกไปเฉยเลย ออกซิงเกิ้ล แฟนมี้ตไรก็ไม่มี
ไม่รู้ว่า sm ไปทำตลาดหรือบวกลบคูณหารท่าไหนอ้ะนะ พอตรงนี้ล้มเลิกไป แผนการฟอรมวงมีคอนจริงจังยิ่งริบหรีไปด้วย คือ ถ้าไม่เริ่มต้นกิจกรรมที่ญี่ปุ่น อย่าคิดที่จะมีงานที่ต่างประเทศจริงจังทีอื่นเลย เพราะมูลค่าการตลาดสู้ไม่ได้ มันจะไม่จบแค่งานที่เกาหลีไง ถ้าสร้างชื่อ สร้างฐานแฟนคลับแล้ว ยังไงต้องพาออกนอกประเทศ ที่จะขายได้ก็มีแค่สองที่ ญี่ปุ่น จีน
ส่วน ไทย เวียดนาม สิงคโปร์ นี่เลิกคิดเลยนะ มูลค่าการตลาดน้อยนิด
ยิ่งวงเกิรลกรุ๊ป รายได้ส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากการทัวรคอนต่างประเทศอยู่แล้ว ค่ายจะได้จากพรีเซนเตอร์ และกิจกรรม ในประเทศมากกว่า snsd ถือเป็นวงเกิรลกรุ๊ปที่โชคดีกว่าเพราะอยู่ในช่วงเคป็อปบูม ทำให้มีฐานแฟนคลับที่แน่น แต่พอเคป็อปเริ่มดาวน์ ก็ได้รับผลกระทบเหมือนกัน แต่ก็ยังสามารถจัดทัวร์คอนที่ญีปุ่นได้อยู่ และทาง sm กับ universal japan ต้องอัดฉีดพอสมควร
ช่วงที f(x) เริ่มจะมีผลงาน sm เองก็ต้องลงทุนให้วงอื่นในค่ายหลายวงพร้อมกัน ทั้งดงบังที่กลับมาเป็นสองคน snsd sj ที่เริ่มลงตลาดญี่ปุ่น และชายนีที่กำลังสร้างฐานให้มั่นคงยิ่งขึ้น
แล้วระหว่างการดันวงที่มีสมาชิกมากกับน้อย ต้องเลือกดันวงที่คนมากกว่าอยู่แล้ว ไม่งั้นตายหมู่สิ
เพราะวงที่คนน้อยยังดันงานเดี่ยวได้ แต่คนมาก ถ้าไม่มีงานวงเลย ก็อดตายนะ ยิ่งถ้าอยู่ในช่วงวงกำลังสั่งสมความนิยมด้วยแล้ว
f(x) ในสายตา sm ที่มีมูลค่าน้อยที่สุด ในการทำกำไรในฐานะวงเลยโดนปล่อยทิ้ง ปล่อยขว้าง แต่ในฐานะงานเดี่ยวก็มีคนเอาตัวรอดได้ เช่น วิคตอเรีย คริสตัล ซอลลี่
นี่ก็เป็นข้อเสียอีกข้อของค่ายที่มีวงเยอะๆ รวมกัน สรุปก็คือ เกิดจากตัว sm เองนั่นล่ะช่วงแรก ถ้า f(x) ไปอยู่ค่ายอื่น ป่านนี้คงมีทัวรคอนและชือแฟนคลับไปนานแล้ว ยิ่งเป็นวงเดียวที่ทำรายได้ให้ค่าย นี่รับรองค่ายอัดฉีดชัวร์
แต่นั่นล่ะ ถ้าไม่ใช่ sm ความสนใจก็จะลดลงไปอีกหน่อย
นิสัยเสีย sm น่ะ ต่อให้จะเป็นถึง gg ท็อปสองของเกาหลี แต่ถ้าไม่สามารถทำรายได้ให้อยู่ในอันดับท็อปของค่าย การลงทุนให้วงนั้นก็จะลดหลั่นกันไป เพราะค่ายอื่นไม่ได้มีอิทธิพลอะไรกับ sm อยู่แล้ว เพราะยอดขายแผ่นก็แข่งกันเองในค่ายนี่แหละ
แต่จะไปส่งเสริมงานเดี่ยวกับเจ้าตัวแทน เพราะยังไงก็เซ็นสัญญาไปแล้ว
คนที่ลำบากหน่อยก็พวกที่เน้นงานสายเพลงนี่ล่ะ จะออกเดี่ยวก็ลำบาก จะออกในนามวงก็ต้องรอค่าย เช่น แอมเบอร์ ลูน่า แต่แอมเบอร์ก็เพิ่งออกเดี่ยวไป
อีกจุดนึง คอนเซปต์ของ f(x) นีก้ำกึ่งนะ
จะหญิงไปเลยก็ไม่ได้ ลุคแอมเบอร์ออกไปทางทอมบอย เวลาคิดคอนเซปต์แต่ละครั้งคงยากน่าดู เป็นวงที่มีลักษณะแบบครึ่งๆ กลางๆ ไม่สุดสักทางแต่แรก เหมือน sm อยากลองทำอะไรใหม่ๆ มากกว่า
พออะไรเริ่มเข้าทีเข้าทาง เหลือดันแค่ exo วงเดียว แล้วก็เริ่มปล่อยโซโล่ให้แต่ละวงมากขึ้น ให้โซโล่น่ะไม่ยาก ถ้าศิลปินคนนั้นความสามารถถึง อีกอย่างลงทุนน้อยกว่าลงทุนทั้งวง
แต่ปัญหาก็มาเกิดกับซอลลี่อย่างที่รู้กัน คิดว่าคัมแบคที่จะมาถึงก้อไม่น่าจะมีซอลลี่ด้วย ส่วนคนที่เหลือจะต่อไม่ต่อก็วัดใจกันไป คนมันจะไป เอาอะไรมารั้งก็ไม่อยู่หรอก ว่ากันตามจริง
ตอนนี้ sm เริ่มมาใส่ใจวงยุคหลังมากขึ้น ถ้ายืนยันจะทำวงกันต่อ f(x) น่าจะมีอะไรเป็นรูปเป็นร่างกว่านี้ เพราะ sm จะดัน red velvet ต่อ ? แต่แค่ดูกระแส สถานการณ์ต่างๆ อยู่ ถ้ายังไม่พีคพอ
ก็คงไปทุ่มกับ sm rookies แบบจัดเต็ม
ค่ายนี้เน้นวงผู้ชายเป็นหลักแต่ไหนแต่ไรแล้วโดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ
ยอดขายของ f(x) มากก็จริงถ้าเทียบในหมู่เกิรลกรุ๊ปด้วยกัน แต่ยังห่างเมื่อเทียบกับรุ่นพี่ในค่าย และค่ายนี้เน้นยอดขายกับทัวร์คอนสเกลใหญ่
แต่ snsd ต่างออกไป ตรงที่ช่วงนั้นค่ายไม่ต้องดันวงรุ่นพี่แล้ว เพราะแตกไปเรียบร้อย sm เลยจัดหนักจัดเต็มมาก เพลงและงานออกมาถี่เลย กระแสมาเต็ม ยอดขายก็เท่ากับวงผู้ชายหรือมากกว่าในช่วงพีค
ถ้า snsd ทำได้ไม่เท่า sm
ก็คงโปรโมตไม่ต่างกับ f(x) แต่อาจมากกว่าหน่อยเพราะเมมเบอร์มีถึงเก้าคน
เพราะผู้หญิงมีข้อจำกัดที่อายุการทำงานในวงการสั้นกว่า และเมื่อถึงจุดนึงก็ต้องผันตัวไปทำอย่างอื่น เช่น แต่งงาน เป็นนักแสดง หรือจับงานในวงการบันเทิงอื่นๆ แถมไปทัวร์ต่างบ้านต่างเมืองนานๆ ไม่ได้เท่าวงผู้ชาย
จุดนี้เห็นใจแฟน f(x) นะ แต่ก็คงต้องสู้กันต่อไป แค่ซอลลี่คนเดียว อิมเมจที sm สร้างมาแทบตาย พังไม่เป็นชิ้นดี แต่น่าจะมีผลงานเพลงเร็วๆ นี้ล่ะมั้ง เพราะจากข่าว คนที่เหลือยังอยากมีคอน และทำวงต่อ แถม sm ยุคหลังให้โอกาสมากขึ้น
สรุป เป็นวงที่เก่ง มีความสามารถ แต่อยู่ผิดที่ ผิดทาง ผิดจังหวะและโอกาส แล้วช่วงหลัง ยังผิดทีเมมเบอร์อีก นั่นล่ะถึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ f(x) ไปไม่สุดสักทาง แต่คิดในแง่ดี วงอื่นเค้าอยากเดี่ยวกันเพราะมีปัญหาเรื่องการแบ่งรายได้ ไม่ก็ฟ้องออกเลยจะได้ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำจริงๆ
แต่ f(x) แต่ละคน โซโล่งานเดี่ยวได้โดยไม่ต้องเดือดร้อนก็ถือว่าเป็นข้อดีอีกแบบ
แฟนคลับน่าจะรู้สึกได้อยู่แล้ว ว่า sm มีวงลูกรัก กับลูกเมียน้อย
ถ้าตัดดงบังห้าคนไป วงที่ sm ดันมากมีแค่สองวง snsd exo
นอกนั้นคือไม่มาก แต่ก็ไม่น้อยเกินไปเช่น sj , shinee (sj ช่วงแรกน้อยหน่อย มาดีหลัง sorry sorry ส่วน shinee แรกๆ ดี หลังๆ ก็ออกแนวไม่สุดเหมือนกัน
แต่ f(x) น่ะ เรียกว่าไม่ดันเลยจะถูกกว่า แต่ดันไปในแนววงกึ่งโปรเจ็คต์ เน้นงานเดี่ยวของแต่ละคน f(x) ต่อจะให้เป็นวง top 3 ที่เกาหลี แต่การจะออกทัวร์ต่างประเทศจริงจังแบบวงอื่น เป็นเรื่องยากและต้องลงทุนมากกว่า ยิ่งจำนวนสมาชิกน้อย โอกาสเล่นสเกลใหญ่ก็น้อยลง แถมช่วงเดบิว f(x) ค่ายก็ไม่ได้โฟกัสไปที่ตลาดจีนมากเท่าไหร่ แล้วต้องบอกด้วยว่า ทารเก็ตของวง ค่อนข้างจำกัด เหมือน shinee นั่นแหละ เพราะตัวเพลงและสไตล์ที่มีเอกลักษณ์เกินไป แต่ชายนี่ก็ยังได้รับการโปรโมตมากกว่าเพราะได้ตลาดญี่ปุ่น แล้ว แข็งที่เพิร์ฟกับเสียงร้องด้วย
อย่างไรก็ตาม shinee กับ f(x) เดบิวมาใกล้กันช่วงปี 2008-2009 เป็นช่วงทีค่ายวุ่นวายสุดขีด ทั้งจากกระแสเคป็อปที่เริ่มเข้ามาและการฟ้องร้องค่าย ทำให้ค่ายสนใจแต่วงที่ทำรายได้ให้จริงจังช่วงนั้นมากกว่าคือ sj (sorry sorry), snsd (gee) จะมาสนวงรุ่นน้องที่เพิ่งเริ่มมีกระแส ในเมื่อเงินลงทุนมันมีจำกัด ไม่สามารถลงได้พร้อมกันหลายวงและค่ายก็เป๋ไปพอสมควรจากการที่ดงบังห้าคนแยกวง
sm สร้างขึ้นมาเพื่อให้ค่ายมีวงที่หลากหลายมากสุด เพื่อปิดช่องว่างทางการตลาดตั้งแต่แนว mass จนถึงสไตล์เฉพาะ ปกติ sm ถนัดปั้นไอดอลที่มีสมาชิกเยอะๆ รวบรวมความหลากหลายของสมาชิกในวงอยู่แล้ว เช่น snsd sj exo นี่มาแพทเทิรนคล้ายกันหมด แต่วงที่คนน้อยแล้วมีความต่างกันในสไตล์ชัดเจนนี่ sm ไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ ถนัดแนว mass มากกว่า แต่ก็ถือว่าเป็นค่ายที่ลองทำอะไรหลายอย่างดีอ้ะนะ ผู้บริหารมีสายตาที่กว้างไกลพอสมควร
sm ไม่เน้นโปรโมตวงแบบร้องเพลง นี่ยิ่งเห็นชัดไปอีก จากที่จะเอา f(x) เซ็นเข้า
avex แต่สุดท้ายแล้วก็ล้มเลิกไปเฉยเลย ออกซิงเกิ้ล แฟนมี้ตไรก็ไม่มี
ไม่รู้ว่า sm ไปทำตลาดหรือบวกลบคูณหารท่าไหนอ้ะนะ พอตรงนี้ล้มเลิกไป แผนการฟอรมวงมีคอนจริงจังยิ่งริบหรีไปด้วย คือ ถ้าไม่เริ่มต้นกิจกรรมที่ญี่ปุ่น อย่าคิดที่จะมีงานที่ต่างประเทศจริงจังทีอื่นเลย เพราะมูลค่าการตลาดสู้ไม่ได้ มันจะไม่จบแค่งานที่เกาหลีไง ถ้าสร้างชื่อ สร้างฐานแฟนคลับแล้ว ยังไงต้องพาออกนอกประเทศ ที่จะขายได้ก็มีแค่สองที่ ญี่ปุ่น จีน
ส่วน ไทย เวียดนาม สิงคโปร์ นี่เลิกคิดเลยนะ มูลค่าการตลาดน้อยนิด
ยิ่งวงเกิรลกรุ๊ป รายได้ส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากการทัวรคอนต่างประเทศอยู่แล้ว ค่ายจะได้จากพรีเซนเตอร์ และกิจกรรม ในประเทศมากกว่า snsd ถือเป็นวงเกิรลกรุ๊ปที่โชคดีกว่าเพราะอยู่ในช่วงเคป็อปบูม ทำให้มีฐานแฟนคลับที่แน่น แต่พอเคป็อปเริ่มดาวน์ ก็ได้รับผลกระทบเหมือนกัน แต่ก็ยังสามารถจัดทัวร์คอนที่ญีปุ่นได้อยู่ และทาง sm กับ universal japan ต้องอัดฉีดพอสมควร
ช่วงที f(x) เริ่มจะมีผลงาน sm เองก็ต้องลงทุนให้วงอื่นในค่ายหลายวงพร้อมกัน ทั้งดงบังที่กลับมาเป็นสองคน snsd sj ที่เริ่มลงตลาดญี่ปุ่น และชายนีที่กำลังสร้างฐานให้มั่นคงยิ่งขึ้น
แล้วระหว่างการดันวงที่มีสมาชิกมากกับน้อย ต้องเลือกดันวงที่คนมากกว่าอยู่แล้ว ไม่งั้นตายหมู่สิ
เพราะวงที่คนน้อยยังดันงานเดี่ยวได้ แต่คนมาก ถ้าไม่มีงานวงเลย ก็อดตายนะ ยิ่งถ้าอยู่ในช่วงวงกำลังสั่งสมความนิยมด้วยแล้ว
f(x) ในสายตา sm ที่มีมูลค่าน้อยที่สุด ในการทำกำไรในฐานะวงเลยโดนปล่อยทิ้ง ปล่อยขว้าง แต่ในฐานะงานเดี่ยวก็มีคนเอาตัวรอดได้ เช่น วิคตอเรีย คริสตัล ซอลลี่
นี่ก็เป็นข้อเสียอีกข้อของค่ายที่มีวงเยอะๆ รวมกัน สรุปก็คือ เกิดจากตัว sm เองนั่นล่ะช่วงแรก ถ้า f(x) ไปอยู่ค่ายอื่น ป่านนี้คงมีทัวรคอนและชือแฟนคลับไปนานแล้ว ยิ่งเป็นวงเดียวที่ทำรายได้ให้ค่าย นี่รับรองค่ายอัดฉีดชัวร์
แต่นั่นล่ะ ถ้าไม่ใช่ sm ความสนใจก็จะลดลงไปอีกหน่อย
นิสัยเสีย sm น่ะ ต่อให้จะเป็นถึง gg ท็อปสองของเกาหลี แต่ถ้าไม่สามารถทำรายได้ให้อยู่ในอันดับท็อปของค่าย การลงทุนให้วงนั้นก็จะลดหลั่นกันไป เพราะค่ายอื่นไม่ได้มีอิทธิพลอะไรกับ sm อยู่แล้ว เพราะยอดขายแผ่นก็แข่งกันเองในค่ายนี่แหละ
แต่จะไปส่งเสริมงานเดี่ยวกับเจ้าตัวแทน เพราะยังไงก็เซ็นสัญญาไปแล้ว
คนที่ลำบากหน่อยก็พวกที่เน้นงานสายเพลงนี่ล่ะ จะออกเดี่ยวก็ลำบาก จะออกในนามวงก็ต้องรอค่าย เช่น แอมเบอร์ ลูน่า แต่แอมเบอร์ก็เพิ่งออกเดี่ยวไป
อีกจุดนึง คอนเซปต์ของ f(x) นีก้ำกึ่งนะ
จะหญิงไปเลยก็ไม่ได้ ลุคแอมเบอร์ออกไปทางทอมบอย เวลาคิดคอนเซปต์แต่ละครั้งคงยากน่าดู เป็นวงที่มีลักษณะแบบครึ่งๆ กลางๆ ไม่สุดสักทางแต่แรก เหมือน sm อยากลองทำอะไรใหม่ๆ มากกว่า
พออะไรเริ่มเข้าทีเข้าทาง เหลือดันแค่ exo วงเดียว แล้วก็เริ่มปล่อยโซโล่ให้แต่ละวงมากขึ้น ให้โซโล่น่ะไม่ยาก ถ้าศิลปินคนนั้นความสามารถถึง อีกอย่างลงทุนน้อยกว่าลงทุนทั้งวง
แต่ปัญหาก็มาเกิดกับซอลลี่อย่างที่รู้กัน คิดว่าคัมแบคที่จะมาถึงก้อไม่น่าจะมีซอลลี่ด้วย ส่วนคนที่เหลือจะต่อไม่ต่อก็วัดใจกันไป คนมันจะไป เอาอะไรมารั้งก็ไม่อยู่หรอก ว่ากันตามจริง
ตอนนี้ sm เริ่มมาใส่ใจวงยุคหลังมากขึ้น ถ้ายืนยันจะทำวงกันต่อ f(x) น่าจะมีอะไรเป็นรูปเป็นร่างกว่านี้ เพราะ sm จะดัน red velvet ต่อ ? แต่แค่ดูกระแส สถานการณ์ต่างๆ อยู่ ถ้ายังไม่พีคพอ
ก็คงไปทุ่มกับ sm rookies แบบจัดเต็ม
ค่ายนี้เน้นวงผู้ชายเป็นหลักแต่ไหนแต่ไรแล้วโดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ
ยอดขายของ f(x) มากก็จริงถ้าเทียบในหมู่เกิรลกรุ๊ปด้วยกัน แต่ยังห่างเมื่อเทียบกับรุ่นพี่ในค่าย และค่ายนี้เน้นยอดขายกับทัวร์คอนสเกลใหญ่
แต่ snsd ต่างออกไป ตรงที่ช่วงนั้นค่ายไม่ต้องดันวงรุ่นพี่แล้ว เพราะแตกไปเรียบร้อย sm เลยจัดหนักจัดเต็มมาก เพลงและงานออกมาถี่เลย กระแสมาเต็ม ยอดขายก็เท่ากับวงผู้ชายหรือมากกว่าในช่วงพีค
ถ้า snsd ทำได้ไม่เท่า sm
ก็คงโปรโมตไม่ต่างกับ f(x) แต่อาจมากกว่าหน่อยเพราะเมมเบอร์มีถึงเก้าคน
เพราะผู้หญิงมีข้อจำกัดที่อายุการทำงานในวงการสั้นกว่า และเมื่อถึงจุดนึงก็ต้องผันตัวไปทำอย่างอื่น เช่น แต่งงาน เป็นนักแสดง หรือจับงานในวงการบันเทิงอื่นๆ แถมไปทัวร์ต่างบ้านต่างเมืองนานๆ ไม่ได้เท่าวงผู้ชาย
จุดนี้เห็นใจแฟน f(x) นะ แต่ก็คงต้องสู้กันต่อไป แค่ซอลลี่คนเดียว อิมเมจที sm สร้างมาแทบตาย พังไม่เป็นชิ้นดี แต่น่าจะมีผลงานเพลงเร็วๆ นี้ล่ะมั้ง เพราะจากข่าว คนที่เหลือยังอยากมีคอน และทำวงต่อ แถม sm ยุคหลังให้โอกาสมากขึ้น
สรุป เป็นวงที่เก่ง มีความสามารถ แต่อยู่ผิดที่ ผิดทาง ผิดจังหวะและโอกาส แล้วช่วงหลัง ยังผิดทีเมมเบอร์อีก นั่นล่ะถึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ f(x) ไปไม่สุดสักทาง แต่คิดในแง่ดี วงอื่นเค้าอยากเดี่ยวกันเพราะมีปัญหาเรื่องการแบ่งรายได้ ไม่ก็ฟ้องออกเลยจะได้ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำจริงๆ
แต่ f(x) แต่ละคน โซโล่งานเดี่ยวได้โดยไม่ต้องเดือดร้อนก็ถือว่าเป็นข้อดีอีกแบบ
แสดงความคิดเห็น
[K-POP] อะไรที่ทำให้ f(x) ไปไม่สุดซักที
คหสต.
1. คอนเซปของวง ถึงจะมองว่าเก๋ดี ชิค คูล แต่คนทั่วไปอาจงงๆว่ามาแนวอะไร พอจะได้เพลงดี ติดหู คัมแบคต่อยอดครั้งต่อมาค่ายก็พาไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ซึ่งเราคิดว่าคอนเซปแบบนี้มีความเสี่ยง จะฮิตก็ติดลมบนไปเลย แต่ถ้าแป้กก็ไปเหมือนกัน
2. ความสนใจของค่าย ตอนเดบิวต์มาเอสเอ็มอัดเพลงมาให้เรื่อยๆ ส่งซิงเกิ้ล มินิอัลบั้มแรกมาติดๆ แต่พอช่วง Pinocchio กระแสกำลังมาก็หายไปนานนน ยังดีที่ Electric Shock กระแสฮิตมาก แต่แทนที่จะคัมแบคต่อยอดกระแส กลับหายไปอีก =_= พอกลับมา Rum Pum Pum Pum ก็งงๆเพลงจะสุดก็ไม่สุด ครึ่งๆกลางๆ กลับมาล่าสุดก็เจอกรณีซอลลี่ จนถึงตอนนี้สาวๆก็ยังไม่มีชื่อแฟนคลับ งานหลายๆงานมักจะเห็นว่าเอสเอ็มเอา Goods ของสาวๆมาขายน้อยมาก บางอย่างไม่มีเลย ทั้งๆที่วงอื่นเพียบ อันนี้เราก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรว่าเป็นเพราะอะไร แล้วที่เอสเอ็มป้อนงานเดี่ยวให้ ส่วนใหญ่ก็เห็นคริสตัลถ่ายแบบเยอะมากกกมาทุกเดือน
วิคก็งานที่จีนที่ฮอตมากๆ แอมเบอร์ก็วาไรตี้ ซอลลี่ก็…นี่ไม่รู้ว่านางทำอะไรจริงๆ ล่าสุดเห็นถ่ายแบบ ทุกทีเห็นแต่เที่ยว ._. ลูน่าก็งานเพลง แต่เราว่าไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไร ที่เราว่าเด่นก็คือวิคกับงานที่จีน แต่ถึงเอสเอ็มจะไม่สนใจแต่สาวๆก็มาถึงท็อป 5 ได้ถือว่าสุดยอด
เราว่าเอสเอ็มมีเพชรอยู่ในมือแต่ไม่สามารถเจียระไนให้มันสวยที่สุด เปล่งประกายที่สุดได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ขอขอบคุณเอสเอ็มที่สร้าง f(x) มาให้เราได้รู้จัก ได้รัก