ปกติไม่ค่อยได้ใช้บริการพี่แท็กสักเท่าไรนักครับ (หากไม่ต้องเดินทางไปสนามบิน) เนื่องจากได้รับข่าวสารในทางลบมามากมาย
จริงๆแล้ว จขกท. มิได้มีเจตนาว่าร้ายพี่ๆแท็กซี่ดอนเมืองทั้งหมดนะครับ เพราะเรายังเชื่อเสมอว่า พี่แท็กซี่ที่ดีๆ รักในงานบริการ และมีความซื่อสัตย์ ยังคงมีให้เห็นได้เสมอ เช่นเดียวกันครับ มีขาวต้องมีดำ มีบวกก็ต้องมีลบ จขกท.ไม่คิดว่าจะประสบกับตัวเอง จนได้มาเจอเข้าให้แล้ว..
เข้าเรื่องเลยครับ.. ผมมีเหตุให้ต้องเดินทางไกลไปต่างจังหวัด ต้องไปขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมือง ขากลับก็ต้องมาลงเครื่องที่ดอนเมืองเช่นกันครับ ขาไปนี่ก็ใช้บริการพี่แท็กตามปกติครับ ออกจากบ้านแต่เช้า (บ้านอยู่บางขุนนนท์ครับ) รถติดบ้างตอนช่วงจะข้ามสะพานพระราม 7 ใช้เวลาพอสมควรครับ ถึงสนามบินโดยสวัสดิภาพ พี่แท็กซี่รูปหล่อ ใจดี มิเตอร์ขึ้นประมาณเกือบๆ 200 ครับ เป็นราคาปกติที่เคยนั่งมาสนามบิน ก็จ่ายไป 200 แบบไม่เอาเงินทอนครับ
ขากลับแล้วววว.. เดินทางมาถึงสนามบินดอนเมืองอย่างปลอดภัยครับ (ถึงประมาณ 9 โมงนิดๆครับ) แต่หารู้ไม่ว่าเรื่องที่เริ่มจะไม่ปลอดภัยกำลังจะมาถึง .. เราก็มาเรียกแท็กซี่ตรงจุดเรียกตามปกติครับ ทราบกติกาเป็นอย่างดีทุกอย่าง (รู้ว่าต้องโดนชาร์จเพิ่ม 50 บาทจากราคาในมิเตอร์ครับ) ก็ได้ใบนี้มา
เราขึ้นรถไปตามปกติครับ พอออกจากสนามบินมาคุณลุงคนขับก็ถามว่า "จะไปไหนครับ" ผมคิดในใจ..อ่าว คุณลุง ในใบนั้นเค้าก็มีเขียนบอกนะ แต่ผมก็ตอบไปนะครับว่าไปบางขุนนนท์ แล้วคุณลุงก็ถามต่อว่า "จะขึ้นทางด่วนมั้ยครับ รถติดนะ" แต่ด้วยสัญชาตญาณความงกของผม ประกอบกับตรวจสอบใน Maps เบื้องต้นแล้ว คิดว่ารถคงไม่ติดมากครับ เลยตอบคุณลุงไปว่า "ไม่ขึ้นดีกว่าครับลุง" เท่านั้นแหละครับ ประหนึ่งว่าผมไปทำร้ายจิตใจคุณลุงมากมาย คุณลุงพรั่งพรูออกมาว่า "แล้วแต่นะ ผมยังไงก็ได้ แต่รถมันติดมากนะ กว่าจะถึงบางขุนนนท์คงเย็นพอดี วันนี้คงวิ่งได้เที่ยวเดียวเนี่ยแหละ ส่งคุณเสร็จผมก็ตีรถกลับบ้านเลย... โอ้โหววว คือ ตรูนี่ผิดมากเลย ตรูต้องชดใช้ ตรูทำให้คุณลุงขาดรายได้ ไม่นะ T_____T
หลังจากนั้น คุณลุงก็บอกว่า จะไปทางไหนก็บอกมานะ และตามด้วยประโยคเด็ดครับ "ถ้าค่าแท็กซี่แพงอย่ามาว่าผมละกัน" ... ผมฟังประโยคนั้นแล้วรู้สึกไม่ปลอดภัยยังไงไม่รู้สิ TT พอยิ่งระแวงก็ยิ่งมองนั่นมองนี่ไปรอบๆรถคุณลุงครับ ไปสะดุดตรงมิเตอร์แกเนี่ยแหละ สังเกตว่าเวลารถหยุดนิ่งแล้ว แต่จุดตรงฝั่งที่บอกระยะทางในมิเตอร์ยังกระพริบตลอดครับ ... เฮ้ย เหมือนเคยอ่านเจอว่า ถ้ารถจอด จุดฝั่งเวลาจะกระพริบ แต่จุดฝั่งระยะทางจะไม่กระพริบ เพราะจะกระพริบตอนวิ่งนี่หว่า เอาแล้วครับ... คิดในใจว่า โดนแน่ๆ นั่งๆไปก็ยิ่งรู้สึกว่ามิเตอร์ขึ้นเร็วมากกกกก เราก็ตัดสินใจว่านั่งไปจนถึงบ้านนั่นแหละ แล้วตอนลงให้ถ่ายรูปมิเตอร์ไว้
ถึงแล้วครับผม.. มิเตอร์ตามภาพเลยครับ
สนามบินดอนเมือง - ซ.วัฒนสุขนิเวศน์ บางขุนนนท์ 40 กว่าโล มันไม่ใช่แล้วครับ ..
ระหว่างทางที่นั่งรถคุณลุงมา ผมเปิด Maps มาตลอดครับ ตามนี้เลย
วิ่งเส้นเดียวกับใน Maps เลยครับ วิภาฯ มาวนเข้ารัชดา วงศ์สว่าง ข้ามพระราม 7 เข้าจรัญฯ แล้วเลี้ยวเข้าบางขุนนนท์ ยังไงก็ไม่ถึง 40 กิโลฯแน่นอนครับ
ข้อสังเกตเพิ่มเติมคือ 40 กว่าโล ใช้เวลาแค่ 54 นาที วิ่งใน กทม. นี่ โอกาสเป็นไปได้น้อยมาก
จำนวนเงินอาจจะไม่ได้มากมายอะไร แต่แค่รู้สึกว่า ไม่อยากให้คนอื่นโดนเอาเปรียบเหมือนที่ตัวเองโดนครับ
อันนี้ภาพโฉมหน้าคุณลุงนะครับ
ปล.ส่งเรื่องร้องเรียนไปที่ขนส่งแล้วนะครับ
สวัสดีครับ คุณลุง..
แจ้งเตือน!! แท็กซี่ดอนเมืองเอาเปรียบผู้บริโภคอีกแล้วครับท่าน..
จริงๆแล้ว จขกท. มิได้มีเจตนาว่าร้ายพี่ๆแท็กซี่ดอนเมืองทั้งหมดนะครับ เพราะเรายังเชื่อเสมอว่า พี่แท็กซี่ที่ดีๆ รักในงานบริการ และมีความซื่อสัตย์ ยังคงมีให้เห็นได้เสมอ เช่นเดียวกันครับ มีขาวต้องมีดำ มีบวกก็ต้องมีลบ จขกท.ไม่คิดว่าจะประสบกับตัวเอง จนได้มาเจอเข้าให้แล้ว..
เข้าเรื่องเลยครับ.. ผมมีเหตุให้ต้องเดินทางไกลไปต่างจังหวัด ต้องไปขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมือง ขากลับก็ต้องมาลงเครื่องที่ดอนเมืองเช่นกันครับ ขาไปนี่ก็ใช้บริการพี่แท็กตามปกติครับ ออกจากบ้านแต่เช้า (บ้านอยู่บางขุนนนท์ครับ) รถติดบ้างตอนช่วงจะข้ามสะพานพระราม 7 ใช้เวลาพอสมควรครับ ถึงสนามบินโดยสวัสดิภาพ พี่แท็กซี่รูปหล่อ ใจดี มิเตอร์ขึ้นประมาณเกือบๆ 200 ครับ เป็นราคาปกติที่เคยนั่งมาสนามบิน ก็จ่ายไป 200 แบบไม่เอาเงินทอนครับ
ขากลับแล้วววว.. เดินทางมาถึงสนามบินดอนเมืองอย่างปลอดภัยครับ (ถึงประมาณ 9 โมงนิดๆครับ) แต่หารู้ไม่ว่าเรื่องที่เริ่มจะไม่ปลอดภัยกำลังจะมาถึง .. เราก็มาเรียกแท็กซี่ตรงจุดเรียกตามปกติครับ ทราบกติกาเป็นอย่างดีทุกอย่าง (รู้ว่าต้องโดนชาร์จเพิ่ม 50 บาทจากราคาในมิเตอร์ครับ) ก็ได้ใบนี้มา
เราขึ้นรถไปตามปกติครับ พอออกจากสนามบินมาคุณลุงคนขับก็ถามว่า "จะไปไหนครับ" ผมคิดในใจ..อ่าว คุณลุง ในใบนั้นเค้าก็มีเขียนบอกนะ แต่ผมก็ตอบไปนะครับว่าไปบางขุนนนท์ แล้วคุณลุงก็ถามต่อว่า "จะขึ้นทางด่วนมั้ยครับ รถติดนะ" แต่ด้วยสัญชาตญาณความงกของผม ประกอบกับตรวจสอบใน Maps เบื้องต้นแล้ว คิดว่ารถคงไม่ติดมากครับ เลยตอบคุณลุงไปว่า "ไม่ขึ้นดีกว่าครับลุง" เท่านั้นแหละครับ ประหนึ่งว่าผมไปทำร้ายจิตใจคุณลุงมากมาย คุณลุงพรั่งพรูออกมาว่า "แล้วแต่นะ ผมยังไงก็ได้ แต่รถมันติดมากนะ กว่าจะถึงบางขุนนนท์คงเย็นพอดี วันนี้คงวิ่งได้เที่ยวเดียวเนี่ยแหละ ส่งคุณเสร็จผมก็ตีรถกลับบ้านเลย... โอ้โหววว คือ ตรูนี่ผิดมากเลย ตรูต้องชดใช้ ตรูทำให้คุณลุงขาดรายได้ ไม่นะ T_____T
หลังจากนั้น คุณลุงก็บอกว่า จะไปทางไหนก็บอกมานะ และตามด้วยประโยคเด็ดครับ "ถ้าค่าแท็กซี่แพงอย่ามาว่าผมละกัน" ... ผมฟังประโยคนั้นแล้วรู้สึกไม่ปลอดภัยยังไงไม่รู้สิ TT พอยิ่งระแวงก็ยิ่งมองนั่นมองนี่ไปรอบๆรถคุณลุงครับ ไปสะดุดตรงมิเตอร์แกเนี่ยแหละ สังเกตว่าเวลารถหยุดนิ่งแล้ว แต่จุดตรงฝั่งที่บอกระยะทางในมิเตอร์ยังกระพริบตลอดครับ ... เฮ้ย เหมือนเคยอ่านเจอว่า ถ้ารถจอด จุดฝั่งเวลาจะกระพริบ แต่จุดฝั่งระยะทางจะไม่กระพริบ เพราะจะกระพริบตอนวิ่งนี่หว่า เอาแล้วครับ... คิดในใจว่า โดนแน่ๆ นั่งๆไปก็ยิ่งรู้สึกว่ามิเตอร์ขึ้นเร็วมากกกกก เราก็ตัดสินใจว่านั่งไปจนถึงบ้านนั่นแหละ แล้วตอนลงให้ถ่ายรูปมิเตอร์ไว้
ถึงแล้วครับผม.. มิเตอร์ตามภาพเลยครับ
สนามบินดอนเมือง - ซ.วัฒนสุขนิเวศน์ บางขุนนนท์ 40 กว่าโล มันไม่ใช่แล้วครับ ..
ระหว่างทางที่นั่งรถคุณลุงมา ผมเปิด Maps มาตลอดครับ ตามนี้เลย
วิ่งเส้นเดียวกับใน Maps เลยครับ วิภาฯ มาวนเข้ารัชดา วงศ์สว่าง ข้ามพระราม 7 เข้าจรัญฯ แล้วเลี้ยวเข้าบางขุนนนท์ ยังไงก็ไม่ถึง 40 กิโลฯแน่นอนครับ
ข้อสังเกตเพิ่มเติมคือ 40 กว่าโล ใช้เวลาแค่ 54 นาที วิ่งใน กทม. นี่ โอกาสเป็นไปได้น้อยมาก
จำนวนเงินอาจจะไม่ได้มากมายอะไร แต่แค่รู้สึกว่า ไม่อยากให้คนอื่นโดนเอาเปรียบเหมือนที่ตัวเองโดนครับ
อันนี้ภาพโฉมหน้าคุณลุงนะครับ
ปล.ส่งเรื่องร้องเรียนไปที่ขนส่งแล้วนะครับ
สวัสดีครับ คุณลุง..