สวัสดีค่ะ....วันนี้เรามีเรื่องมาปรึกษาค่ะ
จริงๆ ถ้าเพื่อน ๆ อ่านแล้วอาจจะคิดว่ามันไม่มีอะไรเลยก็ได้ค่ะ แต่ตอนนี้เราเป็นกังวลมากๆ และไม่อยากคิดไปเองคนเดียว
เราขอเล่าเลยนะคะ......เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อปีที่แล้วสามีเราได้ย้ายงานมาทำงานอีกที่หนึ่ง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความกังวลของเรานี่ล่ะค่ะ คือเมื่อสักครึ่งปีได้ค่ะ เค้าเริ่มมีความสนิทสนมกับผู้หญิงคนนึงที่ทำงานมากซึ่งก็เป็นลูกน้องของเขานี่ล่ะค่ะ เราขอใช้ชื่อแทนเขาว่าคุณซี นะคะ และเขาสองคนก็ต้องทำงานร่วมกันตลอด สามีก็มาเล่าให้เราฟังนะคะว่าคุณซี ทำงานเก่งมาก เป็นที่ปรึกษา และที่พึ่งของเขาได้ทุกเรื่อง ตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดอะไรกับคุณซีคนนี้เลยค่ะ เพราะเราเคยเจอกับเค้าๆ ก็เป็นคนน่ารักค่ะ และที่สำคัญคือเขาก็แต่งงานแล้ว เราจึงไม่ติดใจอะไรเลย คิดดีใจแทนสามีเราซะอีกว่ามีคนเก่งมาช่วยงานจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาก
เรามาเริ่มรู้สึกแปลกๆ ก็ตรงที่ว่าเมื่อก่อนสามีกลับจากทำงานจะเล่าเม้ามอยเรื่องที่ทำงานให้เราฟังทุกเรื่อง ย้ำว่าทุกเรื่องจริง ๆ ค่ะ เพราะเค้าเป็นคนพูดได้ตลอด และบอกเราทุกเรื่อง มาตอนนี้เค้าไม่คุยให้เราฟังแล้วค่ะ ซึ่งตอนแรกเราก็คิดว่าสงสัยที่ทำงานใหม่นี่คงไม่ค่อยมีปัญหาอะไรแน่เลย เขาถึงได้ไม่ค่อยกลับมาบ่นกับเรา เราก็ดีใจซะสิคะไม่ต้องฟังเค้าบ่น คนนู้นคนนี้
แต่มันไม่เป็นอย่างนั้นค่ะ เรามาพบความจริงว่า สามีเราโทรคุยกับคุณซีทุกวัน หลังเลิกงานพอแยกย้ายกันกลับบ้านสามีก็จะโทรหาเค้า ขอย้ำเลยค่ะว่าทุกวันจริง ๆ ซึ่งตอนแรกเรายังไม่นึกสงสัยในพฤติกรรมของเขามากค่ะ เพราะปกติสามีเราเป็นคนที่ค่อนข้างมีนิสัยเฟรนด์ลี่กับทุกคนอยู่แล้ว มีเพื่อนมากมาย ทั้งผู้ชายและผู้หญิง และเขาก็เป็นคนที่ชอบพูดชอบคุยกับคนอื่นอยู่ตลอดเวลา เราก็เลยไม่ได้ติดใจอะไรกับการคุยโทรศัพท์ของเขามาก แต่นี่มันมากไปหรือเปล่าคะทุกวันเลย เจอกันที่ทำงานก็แล้วยังจะมีอะไรให้คุยกันอีกเป็นชั่วโมง และไม่ว่าจะไปไหนทำอะไรเขาก็นึกถึงคุณซีตลอดค่ะ คือเราแอบเช็คโทรศัพท์เขาอ่ะค่ะ พอเขาออกไปทำธุระอะไร หรือไปไหนโดยมีโอกาสไปคนเดียวเขาก็โทรคุยกับคุณซี มันมากไปไหมคะ รวมทั้งพวกข้อความ Line อ่ะค่ะ เราเคยเปิดเจอเค้าส่งหากัน มันไม่ได้เป็นข้อความที่บ่งบอกว่าเค้าจีบกันหวานหยดนะคะ แต่มันอ่านแล้วเข้าใจได้ว่าเค้ามีความห่วงใย หวังดี แฝงอยู่ในข้อความเหล่านั้นค่ะ ซึ่งเราไม่แน่ใจว่ามันเป็นความรู้สึกในสถานะอะไร??????
ช่วงเรามีธุระไปต่างจังหวัด สามีก็ขอเราออกไปเที่ยวนอกบ้านโดยไปกันเป็นกลุ่ม แต่ในกลุ่มนั้นมีคุณซี อยู่ด้วยแน่นอนค่ะ ซึ่งเราก็แอบสังเกตอีกล่ะว่าหากจะไปไหนแล้วคุณซีไม่ไปด้วย สามีจะไม่ค่อยอยากไปค่ะ และหากมีงานอะไรถ้าคุณซีไปเค้าก็จะไม่ค่อยชวนเราไปค่ะ (อันนี้เราไม่รู้จริง ๆ ว่าเราคิดมากไปเองหรือเปล่า) ล่าสุดมีคนมาบอกเราว่า เห็นสามีเรากับคุณซีไปกินข้าวด้วยกันสองคนทุกวัน มันแปลกเกินไปไหมคะ ที่คนสองคนที่แต่งงานแล้วจะสนิทกันมากขนาดนี้โดยที่ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกัน แต่เขาก็มีเวลาให้เรากับลูกเป็นปกตินะคะ ไม่ได้นัดไปแอบเจอกันหรืออะไรแบบนี้ในวันหยุด และก็ไม่ได้มีการแอบไปโทรศัพท์คุยกัน
ความรู้สึกเราตอนนี้ เราคิดว่าสามีเรายังเป็นคนดีของครอบครัวอยู่ค่ะ เขารักลูกและดีกับเราเหมือนที่เคยเป็นมา แต่เราก็กลัวว่าหากเขารู้สึกดีต่อกันต่อไปเรื่อย ๆ มันจะมีโอกาสพัฒนาไปมากกว่าคำว่า เพื่อนสนิทได้ไหม ในเมื่อตอนนี้เขายังแคร์กัน ห่วงใยกันขนาดนี้ และที่สำคัญเรารู้สึกได้นะคะว่าสามีเราเชื่อคุณซีมากไม่ว่าเธอจะพูดอะไรคิดอะไรทำอะไรมันก็ดีในสายตาของสามีเราซะทุกอย่าง คือเขาปลื้มผู้หญิงคนนี้อ่ะค่ะ ผู้หญิงคนนี้มีอิทธิพลต่อความรู้สึกของเขามากเลยทีเดียว
เราไม่อยากเป็นแบบนี้เลยค่ะ เพราะเราเองบอกตรง ๆ ว่าเรากลัวค่ะ คุณซีเป็นคนเก่ง ฉลาด เป็นคนพูดตรงๆ คุยเก่งและเป็นมิตรกับคนอื่นแบบที่สามีเราชอบ คือเป็นผู้หญิงที่เราแอบคิดว่าถ้าเขาเจอกันก่อนที่คุณซีจะแต่งงาน เขาอาจจะเลือกคุณซีก็ได้ค่ะ เพราะเราเองถ้าไม่มีเรื่องนี้เรายังรู้สึกดีเลยค่ะเวลาเราคุยกับคุณซี
เราจะทำยังไงดีคะ จะพูดตรงๆ กับสามีเราไปเลยดีไหมคะ ว่าเราไม่สบายใจที่เค้าสนิทสนมกัน ให้เลิกคุยกันได้ไหม หรือถ้าเราพูดไปจะทำให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่คะ เพราะจริง ๆ แล้วเค้าก็อาจจะไม่มีอะไรกันเลยจริง ๆ ก็ได้ อยากขอความเห็นทุกคนอ่ะค่ะว่าเราคิดมากเกินไปหรือเปล่า
ขอบคุณที่รับฟังค่ะ
คิดมากเกินไปหรือเปล่า เมื่อสามีมีเพื่อนสนิท (มาก)เป็นผู้หญิง
จริงๆ ถ้าเพื่อน ๆ อ่านแล้วอาจจะคิดว่ามันไม่มีอะไรเลยก็ได้ค่ะ แต่ตอนนี้เราเป็นกังวลมากๆ และไม่อยากคิดไปเองคนเดียว
เราขอเล่าเลยนะคะ......เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อปีที่แล้วสามีเราได้ย้ายงานมาทำงานอีกที่หนึ่ง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความกังวลของเรานี่ล่ะค่ะ คือเมื่อสักครึ่งปีได้ค่ะ เค้าเริ่มมีความสนิทสนมกับผู้หญิงคนนึงที่ทำงานมากซึ่งก็เป็นลูกน้องของเขานี่ล่ะค่ะ เราขอใช้ชื่อแทนเขาว่าคุณซี นะคะ และเขาสองคนก็ต้องทำงานร่วมกันตลอด สามีก็มาเล่าให้เราฟังนะคะว่าคุณซี ทำงานเก่งมาก เป็นที่ปรึกษา และที่พึ่งของเขาได้ทุกเรื่อง ตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดอะไรกับคุณซีคนนี้เลยค่ะ เพราะเราเคยเจอกับเค้าๆ ก็เป็นคนน่ารักค่ะ และที่สำคัญคือเขาก็แต่งงานแล้ว เราจึงไม่ติดใจอะไรเลย คิดดีใจแทนสามีเราซะอีกว่ามีคนเก่งมาช่วยงานจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาก
เรามาเริ่มรู้สึกแปลกๆ ก็ตรงที่ว่าเมื่อก่อนสามีกลับจากทำงานจะเล่าเม้ามอยเรื่องที่ทำงานให้เราฟังทุกเรื่อง ย้ำว่าทุกเรื่องจริง ๆ ค่ะ เพราะเค้าเป็นคนพูดได้ตลอด และบอกเราทุกเรื่อง มาตอนนี้เค้าไม่คุยให้เราฟังแล้วค่ะ ซึ่งตอนแรกเราก็คิดว่าสงสัยที่ทำงานใหม่นี่คงไม่ค่อยมีปัญหาอะไรแน่เลย เขาถึงได้ไม่ค่อยกลับมาบ่นกับเรา เราก็ดีใจซะสิคะไม่ต้องฟังเค้าบ่น คนนู้นคนนี้
แต่มันไม่เป็นอย่างนั้นค่ะ เรามาพบความจริงว่า สามีเราโทรคุยกับคุณซีทุกวัน หลังเลิกงานพอแยกย้ายกันกลับบ้านสามีก็จะโทรหาเค้า ขอย้ำเลยค่ะว่าทุกวันจริง ๆ ซึ่งตอนแรกเรายังไม่นึกสงสัยในพฤติกรรมของเขามากค่ะ เพราะปกติสามีเราเป็นคนที่ค่อนข้างมีนิสัยเฟรนด์ลี่กับทุกคนอยู่แล้ว มีเพื่อนมากมาย ทั้งผู้ชายและผู้หญิง และเขาก็เป็นคนที่ชอบพูดชอบคุยกับคนอื่นอยู่ตลอดเวลา เราก็เลยไม่ได้ติดใจอะไรกับการคุยโทรศัพท์ของเขามาก แต่นี่มันมากไปหรือเปล่าคะทุกวันเลย เจอกันที่ทำงานก็แล้วยังจะมีอะไรให้คุยกันอีกเป็นชั่วโมง และไม่ว่าจะไปไหนทำอะไรเขาก็นึกถึงคุณซีตลอดค่ะ คือเราแอบเช็คโทรศัพท์เขาอ่ะค่ะ พอเขาออกไปทำธุระอะไร หรือไปไหนโดยมีโอกาสไปคนเดียวเขาก็โทรคุยกับคุณซี มันมากไปไหมคะ รวมทั้งพวกข้อความ Line อ่ะค่ะ เราเคยเปิดเจอเค้าส่งหากัน มันไม่ได้เป็นข้อความที่บ่งบอกว่าเค้าจีบกันหวานหยดนะคะ แต่มันอ่านแล้วเข้าใจได้ว่าเค้ามีความห่วงใย หวังดี แฝงอยู่ในข้อความเหล่านั้นค่ะ ซึ่งเราไม่แน่ใจว่ามันเป็นความรู้สึกในสถานะอะไร??????
ช่วงเรามีธุระไปต่างจังหวัด สามีก็ขอเราออกไปเที่ยวนอกบ้านโดยไปกันเป็นกลุ่ม แต่ในกลุ่มนั้นมีคุณซี อยู่ด้วยแน่นอนค่ะ ซึ่งเราก็แอบสังเกตอีกล่ะว่าหากจะไปไหนแล้วคุณซีไม่ไปด้วย สามีจะไม่ค่อยอยากไปค่ะ และหากมีงานอะไรถ้าคุณซีไปเค้าก็จะไม่ค่อยชวนเราไปค่ะ (อันนี้เราไม่รู้จริง ๆ ว่าเราคิดมากไปเองหรือเปล่า) ล่าสุดมีคนมาบอกเราว่า เห็นสามีเรากับคุณซีไปกินข้าวด้วยกันสองคนทุกวัน มันแปลกเกินไปไหมคะ ที่คนสองคนที่แต่งงานแล้วจะสนิทกันมากขนาดนี้โดยที่ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกัน แต่เขาก็มีเวลาให้เรากับลูกเป็นปกตินะคะ ไม่ได้นัดไปแอบเจอกันหรืออะไรแบบนี้ในวันหยุด และก็ไม่ได้มีการแอบไปโทรศัพท์คุยกัน
ความรู้สึกเราตอนนี้ เราคิดว่าสามีเรายังเป็นคนดีของครอบครัวอยู่ค่ะ เขารักลูกและดีกับเราเหมือนที่เคยเป็นมา แต่เราก็กลัวว่าหากเขารู้สึกดีต่อกันต่อไปเรื่อย ๆ มันจะมีโอกาสพัฒนาไปมากกว่าคำว่า เพื่อนสนิทได้ไหม ในเมื่อตอนนี้เขายังแคร์กัน ห่วงใยกันขนาดนี้ และที่สำคัญเรารู้สึกได้นะคะว่าสามีเราเชื่อคุณซีมากไม่ว่าเธอจะพูดอะไรคิดอะไรทำอะไรมันก็ดีในสายตาของสามีเราซะทุกอย่าง คือเขาปลื้มผู้หญิงคนนี้อ่ะค่ะ ผู้หญิงคนนี้มีอิทธิพลต่อความรู้สึกของเขามากเลยทีเดียว
เราไม่อยากเป็นแบบนี้เลยค่ะ เพราะเราเองบอกตรง ๆ ว่าเรากลัวค่ะ คุณซีเป็นคนเก่ง ฉลาด เป็นคนพูดตรงๆ คุยเก่งและเป็นมิตรกับคนอื่นแบบที่สามีเราชอบ คือเป็นผู้หญิงที่เราแอบคิดว่าถ้าเขาเจอกันก่อนที่คุณซีจะแต่งงาน เขาอาจจะเลือกคุณซีก็ได้ค่ะ เพราะเราเองถ้าไม่มีเรื่องนี้เรายังรู้สึกดีเลยค่ะเวลาเราคุยกับคุณซี
เราจะทำยังไงดีคะ จะพูดตรงๆ กับสามีเราไปเลยดีไหมคะ ว่าเราไม่สบายใจที่เค้าสนิทสนมกัน ให้เลิกคุยกันได้ไหม หรือถ้าเราพูดไปจะทำให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่คะ เพราะจริง ๆ แล้วเค้าก็อาจจะไม่มีอะไรกันเลยจริง ๆ ก็ได้ อยากขอความเห็นทุกคนอ่ะค่ะว่าเราคิดมากเกินไปหรือเปล่า
ขอบคุณที่รับฟังค่ะ