รีวิว ภาพยนตร์ San Andreas ในระบบ 4DX ที่เมเจอร์รัชโยธิน
ผ่านมาหลายวันแล้ว เพิ่งมีจังหวะมาเขียนรีวิว



เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับแผ่นดินจะทรุดตัว และแยกออกจากกัน ให้อารมณ์แบบฟ้า(ไม่)ถล่ม แผ่นดินทลาย คล้ายๆหนังเรื่อง 2012 (วันสิ้นโลก) ที่ออกฉายเมื่อปี 2009 ที่เป็นกระแสดังมากในปีนั้น
เนื้อเรื่องก็เข้าอีหรอบเดิมครับ ครอบครัวมีปัญหา คุณพ่อลูกหนึ่ง พยายามทำงานเพื่อสังคม ภรรยามีสามีใหม่ แต่สามีใหม่คงรักและเป็นห่วงลูกสาวไม่เท่ากับพ่อแท้ๆของเด็ก
จับพลัดจับผลูต้องเอาชีวิตรอดให้ได้จากสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ
จนท้ายที่สุด สามีภรรยากลับมาคุยกันและคืนดีกันในที่สุด โดยต้องไปช่วยลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนให้อยู่รอดปลอดภัยให้ได้ เนื่องจากคุณพ่อเป็นถึงหัวหน้าทีมค้นหาและกู้ภัย จึงรู้วิธีที่จะเอาตัวรอดในสถานการณ์ต่างๆได้
เนื้อเรื่องเอาไว้เท่านี้ก่อน เพราะคิดว่าหลายคนน่าจะดูมาแล้ว เดี๋ยวจะกลายเป็นสปอยล์ไป อิอิ

กลับมาเรื่องระบบ 4DX กันดีกว่า
ล่าสุดที่ผมได้ดูระบบนี้ที่สาขารัชโยธินคือเรื่อง Fast 7 ซึ่งพูดได้เลยว่า "ระบบไม่สมบูรณ์"
ระบบยิงลมฟิ้วๆข้างหูเสียครับ ขาดฟิลลิ่งมากๆตอนนั้น
แต่ว่าตอนนี้ได้ทำการแก้ไขแล้ว (ดีมากครับ ทีมเทคนิคของสาขาฯ)
ครั้งนี้จัดหนักจัดเต็มครับ แผ่นดินไหวสะเทือนแรงมากๆ ป๊อปคอร์นแทบจะกระเด็นออกหมดกล่อง ดีว่าผมมือกาว 555+
มิติโยกซ้ายขวาทำได้ดี รู้สึกอินไปกับหนังหลายฉากแอ็คชั่นมากๆ
ทั้งลมและน้ำ เรียกได้ว่าจัดเต็มกว่า เพราะมีฉากน้ำท่วม น้ำกระเด็นค่อนข้างบ่อยกว่าหนังเรื่องอื่นๆ ทำให้ระบบยิงน้ำ ฟุ่ด!! ออกมาใส่หน้าได้แบบสมราคาคุยของระบบนี้จริงๆ (เปียกเลยครับ ถ้าพูดตรงๆ ต้องถอดแว่นสามมิติออกมาเช็ดอยู่หลายครั้ง เพราะน้ำเปียกที่เลนส์แบบเต็มๆตา)
กลิ่นทะเล กลิ่นภูเขามาตามฉากครับ เหมือนล่องเรืออยู่ในทะเลแอตแลนติคทีเดียว
ฉากระเบิด ก็มีไฟแว้บๆมาให้เหวอเล่นๆ อินกันไปครับ

จุดด้อยเห็นจะเป็นระบบเสียง เพราะ
1. ให้มิติได้ไม่เต็มที่ เพราะไม่ใช่ระบบ ATMOS
2. เสียงกระหึ่มแบบไม่สุด เพราะไม่ใช่ระบบ IMAX
ซึ่งตรงสองจุดนี้ ผมเข้าใจและยอมรับมันว่า เป็นข้อจำกัดของระบบการฉายภาพยนตร์
แต่แค่อดคิดเบาๆไม่ได้ เวลาฉากแผ่นดินไหวแรงๆ ถ้าเป็น IMAX นี่เราคงสั่นสะท้านไปทั้งอกแล้ว ด้วยพลังเสียงของ subwoofer และลำโพงทั้งหมด ขนาด 12,000 วัตต์

ราคาตั๋วครั้งนี้ คนละ 300 บาท สองคนก็ 600 บาทถ้วนครับ
ใช้ M-Gen สีขาวลดราคาทั้งสองใบครับ
ถือว่าคุ้มกับค่าตั๋วครับ ระบบจัดเต็มขนาดนี้

สุดท้ายนี้ขอนอกเรื่องแปป
ผมโฟกัสไปที่ตัวนักแสดงนิดหนึ่งนะครับ
ไม่ใช่ลูกสาวพระเอกนะ มีคนโฟกัสหน่มน้มเธอเยอะแล้ว 5555+
ผมขอโฟกัสมาที่ที่ไม่มีใครพูดถึง หรือสนใจกันเลยคือ
ดเวนย์ จอห์นสัน (เดอะร็อค) และ คาร์ล่า กูจิโน คู่พระ-นางเรื่องนี้
ทั้งสองคน เคยเป็นคู่พระ-นางด้วยกันมาก่อนหน้านี้แล้ว ในภาพยนตร์เรื่อง Race to Witch Mountain (ผจญภัยฝ่าหุบเขามรณะ) ที่ออกฉายในปี 2009


เป็นภาพยนตร์จากค่ายดิสนีย์ เป็นหนังที่ดี และสนุกครับ เนื้อหาดี เหมาะกับเด็กๆด้วยครับ ใครไม่เคยดู ให้รีบไปหามาดูซะ ผมรับประกันความสนุกได้

คือผมจะพูดว่า การที่คู่พระ-นางคู่เดิม จะได้กลับมาแสดงหนังด้วยกัน โดยเป็นคู่พระ-นางกันเหมือนเดิม ผมว่าโอกาสมีน้อยนะครับ (ไม่นับแบรด พิตต์ และแองเจลิน่า โจลี่ นะครับ สองคนนี้เขาใช้พลังพิสวาสซึ่งกันและกัน 555+) เพราะส่วนมากจะเปลี่ยนคู่แสดงไปตลอด เผลอๆไม่ได้มาเล่นด้วยกันอีกเลย
แต่สองคนนี้ มีโอกาสที่โคจรมาเจอกันได้อีก เพราะคาแร็กเตอร์ให้กระมัง แต่ไม่เป็นไร ก็แสดงได้สมบทบาทดี

และอีกคนที่อยากจะขอพูดถึงคือ Ioan Gruffudd (อ่านว่า โจอัน กริฟฟิด) ผู้รับบท แดเนี่ยล ริดดิค ผู้มั่งคั่ง และเห็นแก่ตัว


บทบาทเห็นแก่ตัวแบบนี้ เขาแสดงได้ดีมากๆจนผมอิน อยากจะกระโดดไปถีบยอดอกเขาเลยทีเดียว
ใครเคยดู Sanctum (ดิ่ง ท้า ตาย) ที่ออกฉายเมื่อปี 2010 คงจะจำเขาได้ กับบทบาทของ คาร์ล นักลงทุนผู้ร่ำรวย และเห็นแก่ตัว

แต่เขาไม่ได้มีแต่บทร้ายๆนะ บทดีๆก็มี ใครเคยดูไททานิคที่ออกฉายเมื่อปี 1997 ก็คงนึกหน้าเขาออก กะบทบาทของ เจ้าหน้าที่โลว์ ผู้คุมเรือบดที่นางมอลลี่ บราวน์ และ รูธ(แม่ของโรส) นั่งรอการช่วยเหลือได้

สุดท้ายนี้ สำหรับแฟนๆระบบ 4DX ไม่ควรพลาดครับ รีบไปดู ก่อนหนังจะหมดโปรแกรมฉายครับ
จูแรสสิคเวิลด์กำลังมานะครับ เดี๋ยวอดดูซาน แอนเดรสระบบ 4DX ละแย่เลย