นับถือคริสต์แต่อยากทำตัวเหมือนชาวพุทธ(บางคน)

คือแรกเริ่มเดิมทีผมเคยไปคริสตจักรตอนเด็กๆเมื่อหลายปีก่อนน่ะครับ ตามพ่อแม่ไป พ่อแม่ก็ตามอา(น้องสาวแท้ๆของพ่อ)ไปอีกทีนึง เพราะว่าแต่ก่อนบ้านอยู่ใกล้กัน ซึ่งผมรู้นะครับว่าพ่อแม่ไม่ได้นับถือคริสต์แบบจริงๆจังอะไร แต่ย่าผมน่ะครับแต่ก่อนนับถือพุทธแล้วมีเหตุผมอะไรก็ไม่รู้แหละท่านก็เปลี่ยนมานับถือคริสต์ พ่อผมก็เลยเออ ออไป ส่วนอาผมนับถือมาก่อนย่าแล้ว คราวนี้เมื่อประมาณสามสี่ปีก่อนอาผมมีปัญหาต้องย้ายบ้านทำให้เราสองครอบครัวไม่ค่อยได้ใกล้ชิดกัน เท่าที่ผมรู้อาผมยังไปที่คริสจักรตากปกติ แต่พอไม่มีอา พ่อผมก็เลิกไปซะเฉยๆ ผมก็เลยไม่ได้ไปคริสตจักรไปด้วย ผ่านมาสองปี ผมรู้สึกว่าตัวเองเริ่มเป็นผู้ใหญ่ เริ่มสนใจเรื่องศาสนา คือผมก็อธิฐานถึงพระเจ้าเหมือนที่คนในคริสตจักรสอนมาตองนเด็ก แบบนานๆทีขอนู่นขอนี้อะไรไร้สาระไปเรื่อย จนประมาณสองเดือนที่แล้ว พ่อกับแม่ก็เริ่มไปคริสตจักรเพราะว่าได้คุยกับอาแล้วเหมือนมีธุระที่ต้องให้คนในคริสตจักรทางนี้จัดการให้ ซึ่งอาผมย้ายไปอยู่อเมริกาเมื่อประมาณกลางปีที่แล้ว ผมก็ไม่รูว่าเขามีธุระอะไรกันเพราะไม่ได้ไปด้วย แล้วจังหวะพอดีกับที่แถวๆวิทลัย(ผมเรียน ปวช ตอนนี้ปีสอง)ที่ผมเรียนมีคริสตจักรมาเปิดใหม่ แล้ววันนั้นผมเลิกเรียนแล้วเห็นคริสตจักรเปิด เลยเดินเข้าไปถาม ได้คุยกันกับคนที่นั่นผมก็สบายใจ เลยคิดว่าอยากไปร่วมนมัสการด้วยในวันอาทิตย์ แต่ว่าอาทิตย์นั้นผมก็ไม่ได้ไป จนเดือนที่แล้วตาผมเสีย แม่กับผมเลยต้องกลับต่างจังหวัดเพื่อไปจัดการงานศพแล้วเรื่องไปคริสตจักรก็เลยไม่ได้ไปจนงานเสร็จแม่ก็กลับมากรุงเทพและไม่ได้ไปคริสตจักร แต่แล้วอาทิตย์นึงแม่ตื่นมาแล้วแม่ก็บอกจะไปคริสตจักร เพราะว่าเมื่อคืนแม่ฝัน วันอาทิตย์นั้นผมก็เลยไปเป็นเพื่อนแม่ส่วนพ่อต้องทำงาน ไปถึงที่นั่นทุกคนก็ดูเป็นมิตรดีเริ่มแรกๆก็มีการร้องเพลงนมัสการ ร้องไปสักพักเพลงก็เริ่มช้าจนถึงช่วงทุกคนเริ่มพูดพึมพัมๆเบาๆเหมือนอธิฐานเพลงก็มีแต่ดนตรีคลอเบาๆ จากนั้นเสียงพึมพัมก็เริ่มดัง จนสุดท้ายเหมือนทุกคนแแข่งกันพูด แต่แม่ผมไม่ได้เป็นแบบนั้นนะครับ ตอนนั้นแหละครับที่เริ่มรู้สึกว่ามันแปลกๆ บอกตรงๆคือผมกลัวนิดๆเลยล่ะครับ ที่มากไปกว่านั้นผู้หญิงที่นั่งข้างๆผมอ่ะครับ(นั่งติดกันเลยนะครับ)เธอมากับลูกครับ ลูกประมาณเล็กกว่าอนุบาลอ่ะครับ เธอเริ่มพึมพัมดังขึ้นเรื่อยๆจนในเธอพูดรัวแล้วก็เร็วมากๆฟังไม่รู่เรื่อง แล้วตัวก็สั่นแบบว่าสั่นจริงๆ สั่นมากอ่ะครับ ร้องไห้น้ำตาไหลนองหน้า ลูกชายเธอก็นั่งดูอยู่เฉยๆข้างแม่นั่นแหละครับ แต่ว่าผมกลัวครับ ตอนนั้นรู้สึกไม่ปกติมากๆ ผมขเยิบเก้าอี้ออกมาห่างๆเลยครับ จนมีคนมาปลอบเธอ ถึงจะเริ่มสงบมาบ้าง เวลาผ่านไปพอสมควรทุคนเริ่มสงบ พอก็ทุคนสงบดีเงียบกันก็เป็นการอ่านพระคัมภีร์ อ่านไปสัพักผมก็เลยเดินออกมาแล้วไปหาอะไรกินรอแม่ จนแม่ออกมาแล้วก็พาแม่กลับบ้าน
คือ ตามความคิดผม ผมอยากไปที่คริสตจักรหรือไปโบสถ์ทุกอาทิตย์อยู่นะครับ แต่ว่าผมก็ไปอยากเจออะไรแบบนี้ทุกอาทิตย์อ่ะครับ แบบว่าตอนเด็กๆที่เคยที่อื่นน่ะครับมันไม่เคยเจออะไรแบบนี้ คงเพราะตอนนั้นผมเป็นเด็กเลยไม่เคยเห็นอะไรที่ผู้ใหญ่เขาทำกัน เวลานมัสการผมก็จะไปเล่นกับเด็กรุ่นๆเดียวกันอ่ะครับตอนนั้น อยากถามว่าที่คริสตจักรอื่นนี่มีอะไรแบบนี้เหมือนกันหมดเลยหรือเปล่าครับ หรือว่านี่เป็รอะไรที่ปกติมากๆแต่ผมไม่ชินเอง คือ พอเจอเหตุการณ์แบบวันนั้นทำให้ผมไม่ค่อยอยากไปคริสตจักรเลยล่ะครับ มันรู้สึกแปลกๆ ที่ผมอยากทำคือแบบ เหมือนชาวพุทธบางคนที่ไม่ได้ไปวัด ไหว้พระทุกวันพระ แบบที่ไปทำบุญเวลาเจอเรื่องไม่สบายใจได้หรือเปล่าครับ มันจะผิดมากไหมหรับคนที่เป็นคริสต์
อีกคำถามคือ ผมอยู่ปทุมธานี แถวๆลำลูกกา มีใครพอจะรู้จักโบสถ์คาทอลิกใกล้ๆไหมครับ ไม่จำเป็นต้องใกล้มากก็ได้

ถ้ากระทู้ผมทำให้บางท่านอ่านแล้วรู้สึกไม่ดีก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ แล้วก็ขอบคุณท่านที่กรุณาตอบกระทู้ผมด้วยนะครับอมยิ้ม17
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
น้องเติบโตในครอบครัวที่เป็นคริสเตียน (นิกายโปรแตสต์แตนต์) น้องเคยอยู่ในคริสตจักรที่รู้สึกว่าสงบ น่ารัก เรียบร้อย

ตอนหลังน้องมาเจอคริสตจักรที่รู้สึกมันประหลาด ไม่ถูกจริตกับน้อง คริสตจักรที่น้องเจอพูดภาษแปลกๆใช่มั้ย ทำอากัปกิริยาแปลกๆน่ากลัวใช่มั้ย ร่ำไห้ครวญคราง หรือร้องเพลงนมัสการแบบเร้าใจใช่มั้ย นั่นแสดงว่าน้องได้โบสถ์ที่อยู่ในกลุ่มความเชื่อแบบเพนเทคอสต์ หรือคาริสเมติกแล้วแหละ ซึ่งความเชื่อลักษณะนี้มันก็ไม่ผิดนะ แต่เป็นความเชื่อเน้นด้านการเคลื่อนไหวพระวิญญาณที่แสดงออกด้วยอาการแปลก

น้องอาจจะเติบโตมาจากคริสตจักรในกลุ่มเพรสไบทีเรียน (สังกัดสภาฯ) ที่เน้นพิธีแบบสงบเสงี่ยม เรียบร้อย อธิษฐานในใจ หรือร้องเพลงที่จังหวะช้าๆ

นั่นแสดงว่า น้องต้องการหาคริสตจักรที่เป็นเพรสไบทีเรียนแล้วแหละ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่