ไอดีนี้เรามีไว้สักพักแล้วค่ะ แต่เลิกใช้ไปเพราะตอนนั้นล็อคอินผ่านเฟสไม่ได้ ที่เลือกใช้ไอดีนี้เพราะเรื่องที่จะเล่าแค่อยากระบายค่ะ ไม่อยากให้กระทบตัวตนในชีวิตจริงเท่าไหร่
เราเป็นคนชอบเล่นอินเตอร์เน็ต หนักไปทางเกมออนไลน์ เมื่อราว2ปีก่อนเราได้ไปโหลดเกมมือถือนึงมาเล่น แล้วก็ไปอยู่ในกิล(กลุ่มในเกม) ในนั้นก็จะมีแชทกลุ่มสำหรับคุยทั่วๆไปน่ะค่ะ
คนที่ชวนเราคุยเป็นผู้หญิงรุ่นเดียวกับเรา(จากนี้ขอเรียกว่าJ) ตอนนั้น J คบกับคนในเกมชื่อว่า F ค่ะ เป็นคนที่เราไม่ประทับใจอย่างแรง คือจากคำที่พิมพ์กับลักษณะแลดูเจ้าชู้มาก แต่ด้วยเพราะเราอยากเป็นเพื่อนกับ J หลายๆครั้งจึงต้องคุยกับ F ด้วย สักพัก F เริ่มเข้ามาคุยถึงกิจกรรมรายวันที่ทำในเกม และชวนเราร่วมกลุ่มในนั้น ซึ่งเราไม่ค่อยว่าง บางครั้งเค้าจึงอาสาเอาไอดีไปเล่นให้ เราก็คิดว่าดีซะอีกไม่เล่นก็เก็บเลเวลได้ วันนึงระหว่างที่เราเล่น F ให้เราล็อคเอาท์ออกเกมสักพัก บอกว่าจะดีลของให้ ไว้ทักไปในไลน์ค่อยล็อคอินเข้ามาใหม่...ประมาณ30นาทีถึงได้เข้าไปสรุปเค้าเติมเงินใส่ให้ไอดีเราค่ะ(ใครขอเนี่ย 😂) แล้วคือเราไม่ค่อยว่างเล่น เค้าก็จะชอบพูดประมาณว่า อุตส่าเติมให้แล้ว ทำไมไม่เล่น เราก็อึดอัดใจ บอกให้เค้าเอาไอดีไปเลยแล้วกัน เงินเค้าเราไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
หลังจากนั้นเราก็ไม่ค่อยได้เข้าไป แต่ยังคุยแชทในไลน์กลุ่มเหมือนเดิม วันนึงFทักมาในไลน์ส่วนตัวว่าเลิกกับJแล้ว แต่Jดูเหมือนจะไม่ตัดใจ ขอให้เราช่วยแสดงเป็นแฟนเค้าให้Jตัดใจ เราบอกเฮ้ย!ได้ไง J เพื่อนเรานะ แบบนี้จะJจะคิดยังไงกับเรา ก็...Fหาได้ฟังไม่ เวลาอยู่ในเกมก็ล็อคอินไอดีเราแล้วคุยอี๋อ๋อกับตัวเองซะงั้น บางทีก็โทรไลน์มา เรารับสาย แฟนเราก็ถาม เราก็เล่าให้ฟัง แฟนก็บอกมันไม่โอเคนะ จะเล่นละครก็ไม่ควรจะมายุ่งในชีวิตจริง วันนึง F โทรไลน์มาแฟนก็รับสายค่ะ จากนั้นก็ไปตกลงกันแบบลูกผู้ชายล่ะมั้ง F ก็หายเงียบไปจากชีวิตเรา รวมทั้ง J ด้วย😢 และไม่นานเรากับแฟนก็ต้องเลิกกันไป
ประเด็นคือ หนึ่งในกลุ่มที่ทำกิจกรรมในเกมร่วมด้วยตอนนี้มีอีกคนชื่อ B คนนี้เราถูกชะตานะ 5555 ด้วยอะไรหลายๆอย่างเช่นคำพูดการวางตัว ดูถูกใจเรามากกว่าก็คุยกันสนิทกว่าคนอื่นๆในกิล จนวันนึงเค้าบอกว่ามีเรื่องจะเล่าให้ฟัง B เล่าว่าตัวเองคุยกับผู้หญิงคนนึงในโลกออนไลน์มาเป็นเวลา7ปี และชอบผู้หญิงคนนี้ แต่ผู้หญิงไม่ยอมออกมาพบตัวเป็นๆ ด้วยเหตุผลว่า ในทีแรกเรียนอยู่ขอเรียนให้จบก่อน หลังเรียนจบบิกว่าทำงานกับพ่อ อยู่กับพ่อ 24ชม.และพ่อหวงมาก เราจึงถามว่าทำไมไม่วีดีโอคอล B กล่าวว่า ฝ่ายนั้นบอกว่าตนใช้โทรศัพท์กากๆ ใช้กล้องไม่ได้ ไม่เล่นโซเชี่ยวยกเว้นวอทแอพ ไม่ชอบถ่ายรูป รูปเดียวที่มีคือตอนนั้นเค้าเอาขึ้นดิสเพล และB เซพมา และส่งให้เราดู ....คือมันเป็นภาพถ่ายกับเพื่อน และมาในลัดษณะเล่นท่าทางใส่กล้อง ตรงนี้เองที่บอกว่าไม่ชอบถ่ายรูป เราบอกเอ...ดูจากท่าเค้าไม่น่าใช่นะ เพราะพี่สาวเราเป็นประเภทกลัวกล้องค่ะ เห็นใครยกกล้องหลบตาทันที ถ่ายรูปหมู่นี่ไม่เคยมองกล้อง ถ่ายติดบัตรหน้าเกร็งมาด ไม่มีอาการเล่นท่าทางแบบนี้แน่ถ้ากลัวกล้อง และที่น่าแปลกใจกว่านั้นคือหลายๆสาเหตุที่เอามาบอกปฏิเสธในการเจอหน้า ทั้งๆที่ตัวฝ่ายนั้นกล่าวว่าชอบในตัวB อยู่มาก ซึ่งเราว่ามันพิลึกเกินไป
คำแนะนำที่ให้Bไปคือ สันนิฐานของเรา 1.ผู้หญิงมีแฟนแล้ว และ 2. ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่หญิงแท้ค่ะ 😅
หลังจากนั้นต่อมเผือกของเราก็มาค่ะ ด้วยความที่ชอบBอยู่แล้ว จึงสงสัยมากกกกกก สุดท้ายแอบไปสืบเจอว่า ผู้หญิงมีแฟนอยู่แล้ว ซึ่งการหาข้อมูลของเราไม่ยากเลยค่ะ B รู้ชื่อและนามสกุลเขา(เคยส่งพัสดุให้กัน) แต่กลับหาตัวเขาไม่เจอทำให้เราคิดว่า B แกล้งโง่รึเปล่าหนอ ถ้าเราพูดไปก็ดูจะว่าเราเผือกไป เพราะงั้นเราจึงเงียบไปค่ะ ไม่บอกเรื่องที่สืบมา และหลังจากนั้นก็คุยกันประปราย ไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้เพราะBบอกว่าตัวเองทำให้มันจบไปแล้ว
จากวันที่คุยเรื่องของสาวปริศนาของBผ่านไปราวครึ่งปี จู่ๆ B ก็มาชวนเราไปเที่ยว บอกว่าที่บริษัทจัดไป ไปแค่เช้าไปเย็นกลับที่สวนสนุกแห่งหนึ่ง B ชวนเราเพราะบอกว่าบัตรฟรีเค้าเหลือ เสียดาย แต่เราเองล่ะเข้าข้างตัวเองค่าาา เค้ามีใจ เค้าชวนเราไปเที่ยว ...ซึ่งมันเป็นอะไรที่ขัดใจเรามาก เรานั่งรถไปเจอเค้าที่สวนสนุกเพราะเค้าไปกับบริษัท แต่ตอนกลับเราติดรถบริษัทกลับมาด้วย และจอดที่บริษัทค่ะ ก็ B ส่งเราขึ้นรถไฟฟ้ากลับเอง คือตอนนี้ก็คิดแล้วค่ะ ทำไมไม่ไปส่งเราว้า เพราะB เคยเล่าให้ฟังว่าจีบเด็กม.เอกชนชื่อดังและได้นั่งวินไปส่งเค้าขึ้นเครื่องบินจากหมอชิตไปดอนเมือง ราคาหลายร้อย คือดูลงทุนอะ แต่กับเราไม่แฮะ...ก็สงสัยเค้าจะไม่ได้คิดอะไรกับเราจริงๆ
เล่ามายาวๆมันก็ควรจะจบแค่นี้ ผ่านไปเกือบ2เดือน เรามีกิจกรรมที่ม.ในตอนเช้าตรู่ ซึ่งเราเดินทางจากบ้านอันไกลโพ้นมาถึงม.ไม่ทันเวลารถออกแน่นอน ด้วยความที่ไม่สนิทกันกับเพื่อนที่ม.นัก ไม่รู้ตอนนั้นคิดยังไง ไปขอนอนบ้านผู้ชายค่า โอ๊ยคิดแล้วอยากตบตัวเอง แรดจริงๆ เราก็เห็นว่าเออ บ้านเค้าไม่ไกลจากม.เรา สะดวกดี และดูนิสัยก็ไม่น่าจะทำมิดีมิร้ายเรา แถมที่บ้านก็มีคนอยู่ด้วย ตกลงคือได้นอนที่บ้านBค่ะ - - ตี4เราก็ย่องออกจากบ้านไปม. และหลังจากนั้นก็เจอกันและกินข้าวดูหนังบ่อยขึ้น มีบ้างที่เรามานอนค้างบ้านเค้าเพราะมันสะดวกจริงๆ เราเคยขอที่บ้านอยู่กอแล้วค่ะ แต่เค้าบอกแพงจ่ายไม่ไหว ซึ่งเอาจริงๆค่ารถเดินทางอาจจะแพงกว่าค่าหอด้วยซ้ำ เราบอกที่บ้านนะคะ ว่ามานอนค้างบ้านเพื่อน เค้าก็ถามผู้หญิงหรือผู้ชาย เราบอกผู้ชาย เค้าก็เฉยๆ😂😂 คงจะชินกับการที่เราไม่อยู่บ้าน เพราะตอนมัธยมเราก็ไปค้างบ้านเพื่อนบ่อย จนบางทีไม่กลับเป็นเดือนๆ(พ่อกับแม่เราแยกทางกันค่ะ ตอนนั้นเราอยู่กับพ่อ พ่อเป็นเซลล์เดินทางบ่อยมาก บางครั้งกลับมาบ้านเดือนละ1-2วัน ไฟที่บ้านชั้น2-3ซึ่งเราเอาไว้ใช้ชีวิตประจำวันไม่ติด ไม่มีคนซ่อม เราก็มีหลอนๆบ้างเลยไม่ชอบอยู่บ้านตัวเอง)
เราวนเวียนบ้านเราและบ้านBอยู่สักระยะ และดูสิ่งที่เค้าปฏิบัติกับเราก็ไม่ต่างจากแฟน แต่B ไม่พูดอะไรเราจึงเป็นฝ่ายรุกเอง ถามไปว่า มันก็น่าจะได้เวลาอันสมควรแล้ว ควรจะคบกันมั้ย? คำตอบที่ได้คือ เค้าไม่มั่นใจ หูยยย จุกอะ อะไรวะ ไม่มั่นใจอะไรไหนบอกซิ! B บอกว่าชอบเรานะ นิสัยก็ดูเข้ากันดี แต่ไม่มั่นใจไม่อยากรีบตัดสินใจ กลัวคบละพอเลิกจะมองหน้ากันไม่ติด แหม ดิฉันนี่หน้าชาเหมือนโดนตงด้วยส้นสูง6นิ้วกลาง4แยกเลย แต่ก็เออ...ไม่เป็นไร B ก็ชอบเราใช่มั้ย งั้นเอาตามที่สบายใจ คุยแบบนี้ไปก่อนก็ได้ ไม่ต้องเป็นอะไรที่ชัดเจน
คือคืนนึงเค้าโทรมาตอน3ทุ่มบอกว่าจะนอนแล้วนะ เราก็โอเคค่ะ แล้ววันรุ่งขึ้นมีนัดกัน
B : เดี๋ยวขอเอาเงินไปเข้าธนาคารก่อนนะ
เรา : เฮ้ย เดี๋ยวนี้บริษัทจ่ายโบนัสเป็นเงินสดเหรอ(เงินเป็นปึกเลย) เราก็แซวเล่นๆ
Bเอาจริงๆปะ เมื่อคืนไปเที่ยวมา
เราเอ้า!! ไหนบอกนอน
B : เราไม่อยากให้เธอไม่สบายใจ มันไม่ใช่ที่ดีเท่าไหร่
เรา : เอ้า เราเคยว่าเธอเหรอ บอกแล้วไงเรื่องอะไรก็บอกกันดีๆเราคุยได้ แต่อย่าโกหก
B : ...
Bขอโทษเราค่ะ เราเลยถามว่า ที่เที่ยวของเค้าน่ะ เค้าไปบ่อยมั้ยทำนองว่า นี่มันใช่วิถีชีวิตเธอมั้ย ถ้าใช่คุยกันแมนๆ เรายังคุยกันได้(คือถ้าเค้าบอกว่าเที่ยวเป็นปกติเราก็จะถอยออกมาค่ะ ไม่โอเคเท่าไหร่) เค้าบอกไม่ใช่ นั่นเพื่อนเก่าชวน ถ้ามีอีกครั้งหน้าจะไปที่ที่ดีกว่านี้หรือปฏิเสธเพื่อน เราก็โอเค เชื่อ ประเด็นจบไป...
ราวครึ่งเดือนต่อมา ไลน์มาตอน3ทุ่ม บอกจะนอน เราก็อีกแล้วเรอะ!! นอน3ทุ่ม มันไม่ช่ายยยยยยย เราโทรไปก็ไม่รับก็...ชัดเจนค่ะ เลยโพสติดประชดไปหน่อยๆ เค้าก็โทรมา บอกเหนื่อยๆไม่ได้นอนหรอก เราก็หงอยๆแล้วพอดีคนที่บ้านเราเดินเข้าห้องมา เราเกรงว่าทีาบ้านจะตกใจที่เราร้องไห้ จึงพูดว่า"ออกไปก่อน" เท่านั้นแหละBวางสายใส่เรา พอถามว่าเป็นอะไรก็ไม่ตอบ มาตอบเอาตอนเช้าว่า"ก็ถอยออกมาให้แล้วไง" เราก็ยิ่งงงหนักสิ อะไร(วะ)เนี่ย ผ่านไป2วัน เรามีเรียนที่ม.ตอนกลับจึงวนไปทางแถวบ้านเค้า(ปกติวันนี้เราจะค้างบ้านเค้า) แต่เค้าไม่ยอมออกมารับบอกว่าไม่พร้อมจะคุย (เวรกรรม ทำไมจู่ๆเรากลายเป็นคนผิดเนี่ย งงไม่หาย) เราบอกว่าเราไม่โอเคนา หลบหน้าแบบนี้ มีอะไรควรคุยกันนะ เค้าเลยออกมาเจอค่ะ นั่งคุยกันที่ร้านอาหาร ประเด็นมากมายถูกหยิบยกมาค่ะ ที่Bบอกว่าถอยให้แล้วคือ เค้าเข้าใจว่าที่เราบอกคนที่บ้านให้ออกไปคือให้เค้าออกไปจากชีวิตเรา😂 โอ๊ยตาย!! ประเด็นถัดมาคือ เค้ารู้สึกผิดที่คุยกับเราแบบนี้และคุยกับอีกคนอยู่ด้วย (ค่ะ หญิงสาวปริศนาของเขานั่นแหละ)
เรา : เอ่อ เธอคิดว่าเราไม่รู้เหรอว่าเธอคุยกับใคร
B : ก็ไม่รู้สิ คงรู้มั้ง
เรา : เรารู้ แต่เธอไม่อยากเล่าเราเลยไม่ถามไงแล้วทำไมถึงเอามาเป็นปัญหาได้
B : กลัวว่าถ้าทางนั้นรู้เรื่องของเรา ฝ่ายนั้นจะหายไป
เรา: (😂😂😂) เราไม่พูดเธอไม่พูดแล้วใครจะรู้
B : เราว่าเค้าต้องรู้ล่ะ เพราะตอนอยู่กับเธอเราไม่ได้คุยกับเค้าเลย
เรา: งั้นบอกเค้าสิ ถ้าชอบเธอขนาดนั้นก็มาคบเธอเลยดีมั้ย
B : เค้าบอกเค้าอยากมีอิสระ ยังไม่อยากผูกมัดใคร
เรา : แล้วเธอล่ะ ไม่นับเหตุผล เอาผิดชอบชั่วดีทิ้งไป ถามเธอว่าที่มีเราอยู่นี่มันดีมั้ย
B : พยักหน้า
เรา : งั้นเอางี้ ถ้าเค้าพร้อมจะคบเธอเมื่อไหร่ หรือเธอเองอยากจะมีใครสักคนตอนนั้นค่อยมาคุยกับเราอีกที ถึงตอนนั้นเราจะถอยโดยดี แค่ตอนนี้เธอยังมีความสุขก็พอแล้ว
B : แต่เราไม่อยากเอาเปรียบเธอ
เรา : เราโอเคที่มีเธออยู่แบบนี้มากกว่า
...คือ เราก็ยังไม่ได้บอกเค้าไปเรื่องสาวปริศนาว่ามีแฟนแล้วอะค่ะ รู้สึกเป็นวงจรอุบาทยังไงไม่รู้ B ชอบเค้า เค้าไม่รับรัก ส่วนเราชอบB B ก็ไม่รับรัก...ก็จบลงตรงที่ว่าคุยกันเหมือนเดิม แต่เรารับรู้ว่ากินน้ำใต้ศอกอยู่นะค้าา (อันที่จริงแค่พยายามปิดหูปิดตาเท่านั้นแหละ)
(เราพิมพ์ไว้ในอีกทีแล้วก็อปมาวาง คือมันต้องต่อเพราะเขียนมายาวเกินไป เอามารวมๆแล้วก็คิดนะว่าพล่ามอะไรมากมายเนี่ย!!)
กินหญ้าครั้งแรก ไหนว่ามังสวิรัติดีต่อสุขภาพไง
เราเป็นคนชอบเล่นอินเตอร์เน็ต หนักไปทางเกมออนไลน์ เมื่อราว2ปีก่อนเราได้ไปโหลดเกมมือถือนึงมาเล่น แล้วก็ไปอยู่ในกิล(กลุ่มในเกม) ในนั้นก็จะมีแชทกลุ่มสำหรับคุยทั่วๆไปน่ะค่ะ
คนที่ชวนเราคุยเป็นผู้หญิงรุ่นเดียวกับเรา(จากนี้ขอเรียกว่าJ) ตอนนั้น J คบกับคนในเกมชื่อว่า F ค่ะ เป็นคนที่เราไม่ประทับใจอย่างแรง คือจากคำที่พิมพ์กับลักษณะแลดูเจ้าชู้มาก แต่ด้วยเพราะเราอยากเป็นเพื่อนกับ J หลายๆครั้งจึงต้องคุยกับ F ด้วย สักพัก F เริ่มเข้ามาคุยถึงกิจกรรมรายวันที่ทำในเกม และชวนเราร่วมกลุ่มในนั้น ซึ่งเราไม่ค่อยว่าง บางครั้งเค้าจึงอาสาเอาไอดีไปเล่นให้ เราก็คิดว่าดีซะอีกไม่เล่นก็เก็บเลเวลได้ วันนึงระหว่างที่เราเล่น F ให้เราล็อคเอาท์ออกเกมสักพัก บอกว่าจะดีลของให้ ไว้ทักไปในไลน์ค่อยล็อคอินเข้ามาใหม่...ประมาณ30นาทีถึงได้เข้าไปสรุปเค้าเติมเงินใส่ให้ไอดีเราค่ะ(ใครขอเนี่ย 😂) แล้วคือเราไม่ค่อยว่างเล่น เค้าก็จะชอบพูดประมาณว่า อุตส่าเติมให้แล้ว ทำไมไม่เล่น เราก็อึดอัดใจ บอกให้เค้าเอาไอดีไปเลยแล้วกัน เงินเค้าเราไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
หลังจากนั้นเราก็ไม่ค่อยได้เข้าไป แต่ยังคุยแชทในไลน์กลุ่มเหมือนเดิม วันนึงFทักมาในไลน์ส่วนตัวว่าเลิกกับJแล้ว แต่Jดูเหมือนจะไม่ตัดใจ ขอให้เราช่วยแสดงเป็นแฟนเค้าให้Jตัดใจ เราบอกเฮ้ย!ได้ไง J เพื่อนเรานะ แบบนี้จะJจะคิดยังไงกับเรา ก็...Fหาได้ฟังไม่ เวลาอยู่ในเกมก็ล็อคอินไอดีเราแล้วคุยอี๋อ๋อกับตัวเองซะงั้น บางทีก็โทรไลน์มา เรารับสาย แฟนเราก็ถาม เราก็เล่าให้ฟัง แฟนก็บอกมันไม่โอเคนะ จะเล่นละครก็ไม่ควรจะมายุ่งในชีวิตจริง วันนึง F โทรไลน์มาแฟนก็รับสายค่ะ จากนั้นก็ไปตกลงกันแบบลูกผู้ชายล่ะมั้ง F ก็หายเงียบไปจากชีวิตเรา รวมทั้ง J ด้วย😢 และไม่นานเรากับแฟนก็ต้องเลิกกันไป
ประเด็นคือ หนึ่งในกลุ่มที่ทำกิจกรรมในเกมร่วมด้วยตอนนี้มีอีกคนชื่อ B คนนี้เราถูกชะตานะ 5555 ด้วยอะไรหลายๆอย่างเช่นคำพูดการวางตัว ดูถูกใจเรามากกว่าก็คุยกันสนิทกว่าคนอื่นๆในกิล จนวันนึงเค้าบอกว่ามีเรื่องจะเล่าให้ฟัง B เล่าว่าตัวเองคุยกับผู้หญิงคนนึงในโลกออนไลน์มาเป็นเวลา7ปี และชอบผู้หญิงคนนี้ แต่ผู้หญิงไม่ยอมออกมาพบตัวเป็นๆ ด้วยเหตุผลว่า ในทีแรกเรียนอยู่ขอเรียนให้จบก่อน หลังเรียนจบบิกว่าทำงานกับพ่อ อยู่กับพ่อ 24ชม.และพ่อหวงมาก เราจึงถามว่าทำไมไม่วีดีโอคอล B กล่าวว่า ฝ่ายนั้นบอกว่าตนใช้โทรศัพท์กากๆ ใช้กล้องไม่ได้ ไม่เล่นโซเชี่ยวยกเว้นวอทแอพ ไม่ชอบถ่ายรูป รูปเดียวที่มีคือตอนนั้นเค้าเอาขึ้นดิสเพล และB เซพมา และส่งให้เราดู ....คือมันเป็นภาพถ่ายกับเพื่อน และมาในลัดษณะเล่นท่าทางใส่กล้อง ตรงนี้เองที่บอกว่าไม่ชอบถ่ายรูป เราบอกเอ...ดูจากท่าเค้าไม่น่าใช่นะ เพราะพี่สาวเราเป็นประเภทกลัวกล้องค่ะ เห็นใครยกกล้องหลบตาทันที ถ่ายรูปหมู่นี่ไม่เคยมองกล้อง ถ่ายติดบัตรหน้าเกร็งมาด ไม่มีอาการเล่นท่าทางแบบนี้แน่ถ้ากลัวกล้อง และที่น่าแปลกใจกว่านั้นคือหลายๆสาเหตุที่เอามาบอกปฏิเสธในการเจอหน้า ทั้งๆที่ตัวฝ่ายนั้นกล่าวว่าชอบในตัวB อยู่มาก ซึ่งเราว่ามันพิลึกเกินไป
คำแนะนำที่ให้Bไปคือ สันนิฐานของเรา 1.ผู้หญิงมีแฟนแล้ว และ 2. ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่หญิงแท้ค่ะ 😅
หลังจากนั้นต่อมเผือกของเราก็มาค่ะ ด้วยความที่ชอบBอยู่แล้ว จึงสงสัยมากกกกกก สุดท้ายแอบไปสืบเจอว่า ผู้หญิงมีแฟนอยู่แล้ว ซึ่งการหาข้อมูลของเราไม่ยากเลยค่ะ B รู้ชื่อและนามสกุลเขา(เคยส่งพัสดุให้กัน) แต่กลับหาตัวเขาไม่เจอทำให้เราคิดว่า B แกล้งโง่รึเปล่าหนอ ถ้าเราพูดไปก็ดูจะว่าเราเผือกไป เพราะงั้นเราจึงเงียบไปค่ะ ไม่บอกเรื่องที่สืบมา และหลังจากนั้นก็คุยกันประปราย ไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้เพราะBบอกว่าตัวเองทำให้มันจบไปแล้ว
จากวันที่คุยเรื่องของสาวปริศนาของBผ่านไปราวครึ่งปี จู่ๆ B ก็มาชวนเราไปเที่ยว บอกว่าที่บริษัทจัดไป ไปแค่เช้าไปเย็นกลับที่สวนสนุกแห่งหนึ่ง B ชวนเราเพราะบอกว่าบัตรฟรีเค้าเหลือ เสียดาย แต่เราเองล่ะเข้าข้างตัวเองค่าาา เค้ามีใจ เค้าชวนเราไปเที่ยว ...ซึ่งมันเป็นอะไรที่ขัดใจเรามาก เรานั่งรถไปเจอเค้าที่สวนสนุกเพราะเค้าไปกับบริษัท แต่ตอนกลับเราติดรถบริษัทกลับมาด้วย และจอดที่บริษัทค่ะ ก็ B ส่งเราขึ้นรถไฟฟ้ากลับเอง คือตอนนี้ก็คิดแล้วค่ะ ทำไมไม่ไปส่งเราว้า เพราะB เคยเล่าให้ฟังว่าจีบเด็กม.เอกชนชื่อดังและได้นั่งวินไปส่งเค้าขึ้นเครื่องบินจากหมอชิตไปดอนเมือง ราคาหลายร้อย คือดูลงทุนอะ แต่กับเราไม่แฮะ...ก็สงสัยเค้าจะไม่ได้คิดอะไรกับเราจริงๆ
เล่ามายาวๆมันก็ควรจะจบแค่นี้ ผ่านไปเกือบ2เดือน เรามีกิจกรรมที่ม.ในตอนเช้าตรู่ ซึ่งเราเดินทางจากบ้านอันไกลโพ้นมาถึงม.ไม่ทันเวลารถออกแน่นอน ด้วยความที่ไม่สนิทกันกับเพื่อนที่ม.นัก ไม่รู้ตอนนั้นคิดยังไง ไปขอนอนบ้านผู้ชายค่า โอ๊ยคิดแล้วอยากตบตัวเอง แรดจริงๆ เราก็เห็นว่าเออ บ้านเค้าไม่ไกลจากม.เรา สะดวกดี และดูนิสัยก็ไม่น่าจะทำมิดีมิร้ายเรา แถมที่บ้านก็มีคนอยู่ด้วย ตกลงคือได้นอนที่บ้านBค่ะ - - ตี4เราก็ย่องออกจากบ้านไปม. และหลังจากนั้นก็เจอกันและกินข้าวดูหนังบ่อยขึ้น มีบ้างที่เรามานอนค้างบ้านเค้าเพราะมันสะดวกจริงๆ เราเคยขอที่บ้านอยู่กอแล้วค่ะ แต่เค้าบอกแพงจ่ายไม่ไหว ซึ่งเอาจริงๆค่ารถเดินทางอาจจะแพงกว่าค่าหอด้วยซ้ำ เราบอกที่บ้านนะคะ ว่ามานอนค้างบ้านเพื่อน เค้าก็ถามผู้หญิงหรือผู้ชาย เราบอกผู้ชาย เค้าก็เฉยๆ😂😂 คงจะชินกับการที่เราไม่อยู่บ้าน เพราะตอนมัธยมเราก็ไปค้างบ้านเพื่อนบ่อย จนบางทีไม่กลับเป็นเดือนๆ(พ่อกับแม่เราแยกทางกันค่ะ ตอนนั้นเราอยู่กับพ่อ พ่อเป็นเซลล์เดินทางบ่อยมาก บางครั้งกลับมาบ้านเดือนละ1-2วัน ไฟที่บ้านชั้น2-3ซึ่งเราเอาไว้ใช้ชีวิตประจำวันไม่ติด ไม่มีคนซ่อม เราก็มีหลอนๆบ้างเลยไม่ชอบอยู่บ้านตัวเอง)
เราวนเวียนบ้านเราและบ้านBอยู่สักระยะ และดูสิ่งที่เค้าปฏิบัติกับเราก็ไม่ต่างจากแฟน แต่B ไม่พูดอะไรเราจึงเป็นฝ่ายรุกเอง ถามไปว่า มันก็น่าจะได้เวลาอันสมควรแล้ว ควรจะคบกันมั้ย? คำตอบที่ได้คือ เค้าไม่มั่นใจ หูยยย จุกอะ อะไรวะ ไม่มั่นใจอะไรไหนบอกซิ! B บอกว่าชอบเรานะ นิสัยก็ดูเข้ากันดี แต่ไม่มั่นใจไม่อยากรีบตัดสินใจ กลัวคบละพอเลิกจะมองหน้ากันไม่ติด แหม ดิฉันนี่หน้าชาเหมือนโดนตงด้วยส้นสูง6นิ้วกลาง4แยกเลย แต่ก็เออ...ไม่เป็นไร B ก็ชอบเราใช่มั้ย งั้นเอาตามที่สบายใจ คุยแบบนี้ไปก่อนก็ได้ ไม่ต้องเป็นอะไรที่ชัดเจน
คือคืนนึงเค้าโทรมาตอน3ทุ่มบอกว่าจะนอนแล้วนะ เราก็โอเคค่ะ แล้ววันรุ่งขึ้นมีนัดกัน
B : เดี๋ยวขอเอาเงินไปเข้าธนาคารก่อนนะ
เรา : เฮ้ย เดี๋ยวนี้บริษัทจ่ายโบนัสเป็นเงินสดเหรอ(เงินเป็นปึกเลย) เราก็แซวเล่นๆ
Bเอาจริงๆปะ เมื่อคืนไปเที่ยวมา
เราเอ้า!! ไหนบอกนอน
B : เราไม่อยากให้เธอไม่สบายใจ มันไม่ใช่ที่ดีเท่าไหร่
เรา : เอ้า เราเคยว่าเธอเหรอ บอกแล้วไงเรื่องอะไรก็บอกกันดีๆเราคุยได้ แต่อย่าโกหก
B : ...
Bขอโทษเราค่ะ เราเลยถามว่า ที่เที่ยวของเค้าน่ะ เค้าไปบ่อยมั้ยทำนองว่า นี่มันใช่วิถีชีวิตเธอมั้ย ถ้าใช่คุยกันแมนๆ เรายังคุยกันได้(คือถ้าเค้าบอกว่าเที่ยวเป็นปกติเราก็จะถอยออกมาค่ะ ไม่โอเคเท่าไหร่) เค้าบอกไม่ใช่ นั่นเพื่อนเก่าชวน ถ้ามีอีกครั้งหน้าจะไปที่ที่ดีกว่านี้หรือปฏิเสธเพื่อน เราก็โอเค เชื่อ ประเด็นจบไป...
ราวครึ่งเดือนต่อมา ไลน์มาตอน3ทุ่ม บอกจะนอน เราก็อีกแล้วเรอะ!! นอน3ทุ่ม มันไม่ช่ายยยยยยย เราโทรไปก็ไม่รับก็...ชัดเจนค่ะ เลยโพสติดประชดไปหน่อยๆ เค้าก็โทรมา บอกเหนื่อยๆไม่ได้นอนหรอก เราก็หงอยๆแล้วพอดีคนที่บ้านเราเดินเข้าห้องมา เราเกรงว่าทีาบ้านจะตกใจที่เราร้องไห้ จึงพูดว่า"ออกไปก่อน" เท่านั้นแหละBวางสายใส่เรา พอถามว่าเป็นอะไรก็ไม่ตอบ มาตอบเอาตอนเช้าว่า"ก็ถอยออกมาให้แล้วไง" เราก็ยิ่งงงหนักสิ อะไร(วะ)เนี่ย ผ่านไป2วัน เรามีเรียนที่ม.ตอนกลับจึงวนไปทางแถวบ้านเค้า(ปกติวันนี้เราจะค้างบ้านเค้า) แต่เค้าไม่ยอมออกมารับบอกว่าไม่พร้อมจะคุย (เวรกรรม ทำไมจู่ๆเรากลายเป็นคนผิดเนี่ย งงไม่หาย) เราบอกว่าเราไม่โอเคนา หลบหน้าแบบนี้ มีอะไรควรคุยกันนะ เค้าเลยออกมาเจอค่ะ นั่งคุยกันที่ร้านอาหาร ประเด็นมากมายถูกหยิบยกมาค่ะ ที่Bบอกว่าถอยให้แล้วคือ เค้าเข้าใจว่าที่เราบอกคนที่บ้านให้ออกไปคือให้เค้าออกไปจากชีวิตเรา😂 โอ๊ยตาย!! ประเด็นถัดมาคือ เค้ารู้สึกผิดที่คุยกับเราแบบนี้และคุยกับอีกคนอยู่ด้วย (ค่ะ หญิงสาวปริศนาของเขานั่นแหละ)
เรา : เอ่อ เธอคิดว่าเราไม่รู้เหรอว่าเธอคุยกับใคร
B : ก็ไม่รู้สิ คงรู้มั้ง
เรา : เรารู้ แต่เธอไม่อยากเล่าเราเลยไม่ถามไงแล้วทำไมถึงเอามาเป็นปัญหาได้
B : กลัวว่าถ้าทางนั้นรู้เรื่องของเรา ฝ่ายนั้นจะหายไป
เรา: (😂😂😂) เราไม่พูดเธอไม่พูดแล้วใครจะรู้
B : เราว่าเค้าต้องรู้ล่ะ เพราะตอนอยู่กับเธอเราไม่ได้คุยกับเค้าเลย
เรา: งั้นบอกเค้าสิ ถ้าชอบเธอขนาดนั้นก็มาคบเธอเลยดีมั้ย
B : เค้าบอกเค้าอยากมีอิสระ ยังไม่อยากผูกมัดใคร
เรา : แล้วเธอล่ะ ไม่นับเหตุผล เอาผิดชอบชั่วดีทิ้งไป ถามเธอว่าที่มีเราอยู่นี่มันดีมั้ย
B : พยักหน้า
เรา : งั้นเอางี้ ถ้าเค้าพร้อมจะคบเธอเมื่อไหร่ หรือเธอเองอยากจะมีใครสักคนตอนนั้นค่อยมาคุยกับเราอีกที ถึงตอนนั้นเราจะถอยโดยดี แค่ตอนนี้เธอยังมีความสุขก็พอแล้ว
B : แต่เราไม่อยากเอาเปรียบเธอ
เรา : เราโอเคที่มีเธออยู่แบบนี้มากกว่า
...คือ เราก็ยังไม่ได้บอกเค้าไปเรื่องสาวปริศนาว่ามีแฟนแล้วอะค่ะ รู้สึกเป็นวงจรอุบาทยังไงไม่รู้ B ชอบเค้า เค้าไม่รับรัก ส่วนเราชอบB B ก็ไม่รับรัก...ก็จบลงตรงที่ว่าคุยกันเหมือนเดิม แต่เรารับรู้ว่ากินน้ำใต้ศอกอยู่นะค้าา (อันที่จริงแค่พยายามปิดหูปิดตาเท่านั้นแหละ)
(เราพิมพ์ไว้ในอีกทีแล้วก็อปมาวาง คือมันต้องต่อเพราะเขียนมายาวเกินไป เอามารวมๆแล้วก็คิดนะว่าพล่ามอะไรมากมายเนี่ย!!)