สวัสดีครับ เจอกันอีกแล้วนะครับ ดีใจจังที่ยังมีคนหลงมาอ่าน แหะๆ
คราวนี้ผมไปเที่ยวเกาะสีชังมาเมื่อวันวิสาขบูชาที่ผ่านมาน่ะครับ เลยถ่ายรูปมาอวดกันอีกตามเคย
ครั้งนี้นอกจากรูปแล้วยังมีสาระเพิ่มขึ้นด้วยนะ ใส่รายละเอียดการท่องเที่ยวในเกาะให้ด้วย
แล้วจะช้าอยู่ทำไมล่ะครับ ไปสิ แว้นซ์ไปกับลุงสกายแลปเลยครับ

สำหรับการเดินทางมาเกาะสีชังนั้น สำหรับผมคือเดินทางมาจากบ้านด้วยรถส่วนตัวใช้เวลา 5 นาที -*-
แต่สำหรับคนอื่นผมแนะนำเริ่มจากอนุสาวรีย์ชัยแล้วกันนะครับ
โดยขึ้นรถของเมืองท่ามหานครบริเวณข้างเซเว่น บอกว่าไปเกาะสีชัง ตั๋วโดยสารราคาคนละ 100 บาท รถจะไปส่งเราที่ท่าเรือเกาะลอยเพื่อข้ามไปเกาะสีชังครับ ตั๋วเรือเที่ยวละ 50 บาทต่อคน เรือรอบแรกคือเจ็ดโมงเช้า เรือจะออกเมื่อคนเต็ม แต่ในวันธรรมดาที่คนไปเที่ยวน้อยๆเรือจะออกตามเวลาในตั๋วครับ ซึ่งผมจำไม่ได้และก็ไม่รู้ด้วยว่าเรือเที่ยวสุดท้ายคือกี่โมง
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาทีเราก็ถึง เกาะสีชัง กันแล้วครับ

เมื่อขึ้นจากเรือก็เลือกวิธีการเดินทางบนเกาะเลยครับ
ถ้ามาคนเดียวหรือสองคน รถมอเตอร์ไซค์เช่าก็สะดวกดีครับ วันละ 250 บาท
ถ้าไม่เกินหกคน ก็รถสกายแลปครับ วันละ 250 บาท พาเที่ยวสี่จุดด้วยกัน ได้แก่
ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ช่องเขาขาด พระจุฑาธุชราชฐาน และหาดถ้ำพัง
ถ้ามากับเป็นคณะใหญ่ก็เหมาสองแถวเลยครับ คันละ 500 บาท
วันนั้นผมไปกับน้องสาวอีกคน แต่เพราะแดดร้อนเลยตกลงกันว่าไม่ขี่มอเตอร์ไซค์แล้วเรียกสกายแลปกันไปน่าจะดีกว่า

ที่แรกที่ลุงสกายแลปมาส่งคือศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ให้เราได้ไปไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล
ศาลเจ้าพ่อตั้งอยู่ในถ้าบนเขา ดังนั้นบันไดจึงค่อนข้างสูงและหลายขั้นไปหน่อย ขึ้นไปถึงทำเอาขาสั่นเล็กน้อยเหมือนกัน
แต่สำหรับผู้สูงอายุและเด็กรวมถึงคนที่ขี้เกียจเดิน เขาก็มีรถรางไต่เขาไว้บริการด้วยครับ
ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ถือเป็นจุดชมวิวมุมสูงบนเกาะสีชังที่สามารถมองเห็นได้เกือบทั่วทั้งเกาะ
นักท่องเที่ยวต่างขึ้นไปถ่ายรูปกันมากมาย แต่ไม่เห็นจะมีใครถ่ายศาลเลย...ผมก็เช่นกัน
รูปก่อนหน้าผมก็ถ่ายจากบนศาลเจ้าพ่อนี่แหละครับ

หลังจากถ่ายรูปและนั่งตากลมจนหายเหนื่อยแล้วผมก็โทรตามลุงสกายแลปให้มาพาไปที่ต่อไปคือจุดชมวิวช่องเขาขาด

ตรงบริเวณนี้ก็มีจุดถ่ายรูปนิดหน่อยคือตรงทางเดินเลียบทะเลยาวๆไปนู่นแหละครับ แต่แดดร้อนซะขนาดนั้น ผมเลยขออยู่เฉยๆดีกว่า
ก้มๆเงยๆถ่ายรูปอยู่ในร่มสามสี่รูปก็นั่งพักแล้ว แหะๆ

พอนั่งกันจนตะคริวจะกินก็ย้ายที่กันดีกว่า ที่ต่อไปคือพระจุฑาธุชราชฐาน ตรงนี้มีมุมถ่ายรูปเยอะเลย ทั้งสะพานอัษฎางค์ (ที่ผมเรียกสะพานขาว) เรือนไม้ริมทะเล (ที่ผมเรียกว่าตึกเขียว) แล้วก็ทางเดินริมชายหาดด้วย ผมอยู่ตรงนี้กันนานเลย

ตรงนี้มีหาดแต่ลงเล่นน้ำไม่ได้นะครับ

อ๊อย ร้อนแล้ว แวะหลบร่มใต้ต้นไม้แป๊บนึงนะครับ

แล้วก็เดินต่อมาอีกนิด มาถ่ายรูปที่ถนนเลียบหาด ผมชอบตรงนี้มาก ถ้ามาเย็นๆคงสวยดี
แต่ตอนที่ไปก็สวย แดดแรง ฟ้าสวย เมฆก็น่ารัก น้ำก็ใส

ถ่ายรูปเสร็จก็แวะหาน้ำดื่มที่ตึกเขียวครับ (ไม่มีรูปที่เห็นชัดๆเลย ฮือ มีดีสุดแค่นี้อะครับ คือถ่ายจากในตึก)

เดินเล่นถ่ายรูปกันจนโทรศัพท์แบตหมดแล้วด้วยความหิว เราเลยเรียกลุงสกายแลปพาแว้นซ์ไปที่สุดท้ายกันเลยครับที่ หาดถ้ำพัง หาดเดียวในเกาะที่ให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำได้ บริเวณหาดมีร้านอาหารมากมาย เลือกนั่งกันตามสบายเลย ราคาแต่ละร้านก็พอๆกัน ผมเลือกนั่งร้านรองสุดท้ายก่อนสุดหาด จำชื่อร้านไม่ได้แล้วต้องขอโทษด้วยครับ สั่งข้าวผัดกุ้งจานกลางกับต้มยำกุ้ง น้ำเปล่าขวดใหญ่หนึ่งขวด
เช็คบิลที่ 350 บาท เยอะจนเด็กหิวสองคนกินกันไม่หมด

เดินเล่นกันสักพักก็เหนื่อย น้องเริ่มร้องจะกลับบ้านแล้ว ผลเลยให้ลุงสกายแลปไปส่งที่ท่าเรือแล้วก็ขึ้นเรือกลับฝั่ง กลับบ้านโดยสวัสดิภาพ สรุปไปถึง 11 โมง กลับ 4 โมงเย็น แป๊บเดียวเองเที่ยวทั่วเกาะเลย เย่

สรุปค่าใช้จ่าย
ค่าเรือ 2 คน ไปกลับ รวม 200 บาท
ค่ารถสกายแลป 250 บาท
ค่าอาหาร 350 บาท
ค่าดอกไม้ธูปเทียนไหว้ศาลเจ้า 2 คน 40 บาท
ดอกไม้ธูปเทียนสักการะ ร.5 บริเวณพระจุฑาธุชราชฐาน 2 คน 20 บาท
ไอติม 25 บาท
ชาเย็น 2 แก้ว 80 บาท
ข้าวเหนียวหมู 20 บาท โค้ก 20 บาท
สรุปรวมค่าใช้จ่าย 2 คน ทริปนี้หมดไป  985 บาท ครับผม

สุดท้ายก็ขอบคุณเพื่อนร่วมทริปครั้งนี้ น้องสาวกระผมเอง ทำให้ทริปนี้สนุกมาก น้องเป็นคนถึก ใช้ให้ตากแดดปีนหินทำอะไรก็ทำ รักน้องมากครับ และก็ขอบคุณทุกคนที่ผมได้เจอในวันนั้นด้วย ขอบคุณที่ทำให้เป็นวันที่ดี และขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ของผมด้วยครับ
วันนี้ลาไปก่อน บะบายครับ

ป.ล. รบกวนช่วยติชมด้วยนะครับ เต็มที่เลย ทั้งเรื่องรูป เรื่องคำบรรยาย และเรื่องข้อมูลต่างๆ เต็มที่เลยครับ
ป.ล.2 กล้องที่ใช้ถ่ายในทริปนี้คือ Minota – XG1 เลนส์ PG F1.4 ครับ ฟิล์มใช้สองตัวคือ Kodak 400 และ Kodak Gold 200 ครับผม และขออนุญาตแจ้งข่าวสารราคาฟิล์ม สอบถามจากร้าน  A&B ตรงข้ามเซนทรัลลาดพร้าว ราคาฟิล์ม Kodak ทุกรุ่นจะขึ้นอีก(ตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป)ประมาณม้วนละ 10 – 20 บาทนะครับ อย่าง Proimage ที่ผมชอบก็ขึ้นม้วนละ 15 บาท ซื้อเหมาแพ็ก 5 ม้วน
ขึ้นราคา 50 บาทครับผม จนแน่ๆงานนี้ ฮือ
ป.ล.3 ที่ไม่ตั้งเป็นกระทู้รีวิวเพราะผมคิดว่าข้อมูลผมยังไม่ละเอียดพอในระดับที่จะเป็นกระทู้รีวิวน่ะครับ จึงตั้งเป็นกระทู้พูดคุยครับ
หากมีอะไรผิดพลาดตรงไหนบอกให้แก้ได้เลยครับ