คนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าจะรวยหุ้น  ต้องซื้อหุ้นตอนถูก  แล้วไปขายแพง  แต่คนที่รวยหุ้นจริงๆ  ทำตรงกันข้าม  คือซื้อหุ้นตอนแพง แล้วไปขายตอนถูก
ซื้อหุ้นตอนแพง  แล้วไปขายตอนถูก  มันน่าจะขาดทุนไม่ใช่หรือ ?
ความหมายจริงๆ ของมันไม่ใช่ราคาหุ้นอย่างที่นักลงทุนส่วนใหญ่เข้าใจ
ความถูก หรือแพงของหุ้นตรงนี้  มันเป็นความคิด  ที่ได้จากการเอาอัตราส่วนทางการเงินมาวิเคราะห์  อย่างเช่น  ค่า PE Ratio 
ยกตัวอย่างเช่น  นาย ก ซื้อตัวหนึ่งราคาหุ้นละ 5 บาท  ตอนนั้นค่า PE มันสูงมากๆ  อาจจะหลายสิบเท่า  ร้อยเท่า  หรือหาค่าไม่ได้เนื่องจากบริษัทขาดทุน  นักลงทุนส่วนใหญ่บอกแพงๆ  จะซื้อต้องรอ 2 บาทบ้าง 3 บาทบ้าง  นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนบ้าง  เวลาผ่านไปอาจจะเป็นปี  นาย ก ขายหุ้นตัวนั้นไปในราคา 40 บาท  ที่ค่า PE ไม่ถึง 10 เท่า  ตอนนี้นักลงทุนส่วนใหญ่บอกราคาหุ้นถูกมากๆ  นักวิเคราะห์แนะนำซื้อ  ให้ราคาเป้าหมายไว้  60 บาท ยังมี Upside ถึง 50% 
ที่นี้นักลงทุนที่ซื้อราคา 40 บาท  ในตอนนั้นต่างก็คิดว่าตนได้ซื้อหุ้นในราคาถูกมากๆ  PE แค่ 5-6 เท่าเอง  เวลาผ่านไป  นักลงทุนได้ขายหุ้นตัวนั้นไปที่ราคา 12 บาท  แน่นอนเขาขาดทุน  แต่ว่าที่ราคา 12 บาท  คนในตลาดกลับบอกว่าราคาหุ้นแพง  ให้ต่ำกว่า 10 บาทก็ไม่ซื้อ
ทำไมเป็นอย่างนี้ละ  ตอน 40 บาท  คนในตลาดคิดว่าราคาหุ้นถูก  พอราคาลงมาเหลือ 12 บาท  ทั้งที่ก็หุ้นตัวเดียวกัน  แต่กลับคิดว่าราคาแพงซะอย่างนั้น
นี่แหละเป็นความแตกต่างของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ  กับนักลงทุนที่ล้มเหลวครับ
พูดถึงข้อแตกต่างแล้ว  ก็เพิ่มเติมให้อีกอย่างละกันครับ  คือนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จไม่ได้เอาดัชนีตลาดหลักทรัพย์เป็นสรณะอย่างนักลงทุนส่วนใหญ่  ลองเปรียบเทียบระหว่างดัชนี  กับพอร์ตหุ้นของดร. ท่านหนึ่ง  จะเห็นว่าต่อให้ซื้อที่ดัชนีตลาดต่ำๆ แถวๆ 300 จุด  มาถึงวันนี้มันก็ขึ้นมาแค่ 400 %  แต่ผลตอบแทนของดร. ท่านนั้น  ทำได้กว่า 20,000 % ครับ																																	
  
							
วิถีเซียน - ซื้อหุ้นตอนแพงไปขายตอนถูก
ซื้อหุ้นตอนแพง แล้วไปขายตอนถูก มันน่าจะขาดทุนไม่ใช่หรือ ?
ความหมายจริงๆ ของมันไม่ใช่ราคาหุ้นอย่างที่นักลงทุนส่วนใหญ่เข้าใจ
ความถูก หรือแพงของหุ้นตรงนี้ มันเป็นความคิด ที่ได้จากการเอาอัตราส่วนทางการเงินมาวิเคราะห์ อย่างเช่น ค่า PE Ratio
ยกตัวอย่างเช่น นาย ก ซื้อตัวหนึ่งราคาหุ้นละ 5 บาท ตอนนั้นค่า PE มันสูงมากๆ อาจจะหลายสิบเท่า ร้อยเท่า หรือหาค่าไม่ได้เนื่องจากบริษัทขาดทุน นักลงทุนส่วนใหญ่บอกแพงๆ จะซื้อต้องรอ 2 บาทบ้าง 3 บาทบ้าง นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนบ้าง เวลาผ่านไปอาจจะเป็นปี นาย ก ขายหุ้นตัวนั้นไปในราคา 40 บาท ที่ค่า PE ไม่ถึง 10 เท่า ตอนนี้นักลงทุนส่วนใหญ่บอกราคาหุ้นถูกมากๆ นักวิเคราะห์แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายไว้ 60 บาท ยังมี Upside ถึง 50%
ที่นี้นักลงทุนที่ซื้อราคา 40 บาท ในตอนนั้นต่างก็คิดว่าตนได้ซื้อหุ้นในราคาถูกมากๆ PE แค่ 5-6 เท่าเอง เวลาผ่านไป นักลงทุนได้ขายหุ้นตัวนั้นไปที่ราคา 12 บาท แน่นอนเขาขาดทุน แต่ว่าที่ราคา 12 บาท คนในตลาดกลับบอกว่าราคาหุ้นแพง ให้ต่ำกว่า 10 บาทก็ไม่ซื้อ
ทำไมเป็นอย่างนี้ละ ตอน 40 บาท คนในตลาดคิดว่าราคาหุ้นถูก พอราคาลงมาเหลือ 12 บาท ทั้งที่ก็หุ้นตัวเดียวกัน แต่กลับคิดว่าราคาแพงซะอย่างนั้น
นี่แหละเป็นความแตกต่างของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ กับนักลงทุนที่ล้มเหลวครับ
พูดถึงข้อแตกต่างแล้ว ก็เพิ่มเติมให้อีกอย่างละกันครับ คือนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จไม่ได้เอาดัชนีตลาดหลักทรัพย์เป็นสรณะอย่างนักลงทุนส่วนใหญ่ ลองเปรียบเทียบระหว่างดัชนี กับพอร์ตหุ้นของดร. ท่านหนึ่ง จะเห็นว่าต่อให้ซื้อที่ดัชนีตลาดต่ำๆ แถวๆ 300 จุด มาถึงวันนี้มันก็ขึ้นมาแค่ 400 % แต่ผลตอบแทนของดร. ท่านนั้น ทำได้กว่า 20,000 % ครับ