สวัสดีครับชาว pantip ผมยืมรหัสของเพื่อนมาใช้นะครับ
ผมอยากให้ทุกคนอ่านเรื่องนี้เพราะมันเป็นความรู้สึกที่ผมเจอทั้งหมด
ผมไม่รุ้ว่าทักษะการเล่าเรื่องของผมจะน่าติดตามมากใหมแต่โปรดอ่าน
(เข้าเรื่อง) เล่าเลยนะครับ ก่อนอื่นผมขอแทนแฟนเก่าว่า A แฟนใหม่ว่าB นะครับ
ผมเป็นเกย์ครับ ผมกับ B อยู่กินกันมาเป็นเวลา 9 ปีแล้วครับชีวิตของผมดำเนินมาด้วยความสุขและทุกข์มาตลอด
แต่โดยรวมก็ยังสุข แต่แล้ววันนึงชีวิตผมก็เจอกับความทุขที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เจอก็มาถึง เรื่องก็มีอยุ่ว่าช่วงที่ผมอยู่
กับ B ในปีที่4 ผมได้ย้ายบริษัททำงานใหม่ทางบริษัทมีนโยบายให้พนักงานตรวจร่างกายเพื่อรับเข้าทำงาน ผมก็ทำตาม
อย่างปกติแต่เมื่อผลตรวจมาทำให้ผมต้องช๊อก เพราะในผลการตรวจแจ้งว่าผมเป็น HIV
อ้ออย่าเพิ่งด่าผมนะครับ ผมจะบอกว่านิสัยส่วนตัวของผมเป็นคนรักเดียวใจเดียวครับ ไม่เคยนอกใจ
ไม่เคยนอกกาย เมื่อผมทราบผลตรวจผมตกใจมากแว๊บแรกคิดว่าหมอตรวจผิดหรือเปล่า ผมไม่เชื่อผลตรวจและบอก B
ว่าผลตรวจออกมาแบบนี้ ผมกับ B จึงพากันไปตรวจเลือด 3 แห่ง ตรวจด้วยกันทั้งคู่ผลปรากฏว่า3คลีนิคยืนยันว่าผมติดเชื้อ
HIV จริงๆแต่ B ไม่ติด ( B กับผมนิสัยเหมือนกันครับเรารักกันมากและไม่เคยนอกใจกัน ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถเช็คได้และ
เชื่อถือได้ 100% ) เมื่อเป็นเช่นนั้นผมเองตกใจมากเพราะรุ้แน่นอนว่าเราติดเชื้อแล้วแน่นอน แว้บแรกโลกของผมที่เคยร่าเริง
ที่เคยมีความสุขได้สุดๆ ทุกอย่างหยุดลง หยุดนิ่งสงบ ผมบอกอาการตัวเองไม่ถูกว่าเป็นอย่างไรได้แต่ถมตัวเองซ้ำๆ ซ้ำไปซ้ำมา
ว่าผมทำอะไรผิดทำไมต้องเป็นผม ผมกับ B อยุ่กินกัน4ปี ( ถึงตอนนั้นนะ ) ทำไม B จึงไม่ติดเชื้อจากเราไป
ผมไช้เวลาสืบสาวเรื่องอยุ่สักพักก็ทำให้รู้ว่าเราติดมาจาก A แฟนคนก่อนหน้า B เรากับ A อยุ่ด้วยกัน2ปี
ช่วงความที่เราเป็นคนรักเดียวใจเดียว หลังๆ A ขอมีอะไรกันโดยไม่ไส่ถุงเพราะเสียวกว่า( เค้าว่างั้น ) ผมก็ยอมผมพลาดเองครับ
ผมกับ A อยุ่ด้วยกันตลอดไม่ทำให้ผมคิด-กับเขาเลย แต่ก่อนเลิกกันมาจับได้ว่าเค้ามีคนอื่นตั้งเเต่ก่อนคบผมอีก แต่เลอกที่จะมา
อยู่กับผม และเมื่อผมแน่นอนแล้วว่าผมติดเชื้อ HIV ผมได้ปรึกษารายละเอียดทั้งหมดกับแพทย์ ผมเอาคำถามที่ผมสงสัยว่า
B อยุ่กะผม 4 ปี หากผมติดเชื้อมา 4 ปีแล้วเป็นไปได้หลอที่ B จะไม่ติด หมอเป็นไปได้เพราะ HIV จะติดกันได้3แบบ
- เพศสัมพันธ
-เข็มฉีดยา
-แม่สู่ลูก
หมอ ยกตัวอย่างว่า สมมุติ ผมติด HIV แต่แฟนไม่ติด มีอะไรกันไม่จำเป็นว่าฝ่ายที่ปกติจะติด HIV HIVไม่ได้ติดกันง่ายขนาดนั้น
ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับร่างกายด้วย และ ดวงด้วย ซึ่งผมเป็นคนร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงเหมือนชาวบ้านมาตั้งเเต่เด็กแล้วจึงสามารถ
รับเชื้อมาได้ง่าย
เมื่อผมแน่ใจและชัวแล้วว่า B ไม่ติดผมจึงขอแยกทางกับ B ผมอยากให้เค้าไปเจอคนที่มีคุณค่า และดี
มากกว่าผม คนอย่างผมมันคงไม่มีค่าอะไรอีกแล้วแต่ B ไม่ยอมครับยังยืนยันว่ายังไงก็จะอยุ่กันไปแบบนี้จนตาย ( ปัจจุบันอยุ่กันถึง9ปีครับ )
เอาละเข้าเรื่องดราม่าล่ะนะ
สิ่งที่ต้องเจอทั้งทางตรงและทางอ้อม
ผมต้องเจอพวกเน็ตไอดอล รึ หมอ รึไม่ก็คนดังๆ พูดและแชร์ในเฟสตัวเองเกี่ยวกับประเด็น HIV แต่สิ่งที่เค้าแชร์ไม่ถูกต้อง 100% เพราะ
ข้อมูลที่เรารุ้ทั่วไปนั่นมันแค่คร่าวๆ พวกเค้าเหล่านั้นมีคนติดตามเยอะ และการแชร์บางอย่างมันทำร้ายจิตใจผมมากๆ คำพูดบางอย่าง รูปบาง
รูปที่ใช้เป็นตัวอย่างการอธิบายมันทำให้ผมรุ้สึกไม่เท่าเทียมกับผู้อื่น ผมเสียใจมากมาก
เพราะคนทั่วไปคิดว่า HIV จะต้องมั่วเท่านั้นถึงจะติดมาได้
โลโก้มันเป้นอย่างนี้ หนำซ้ำบางครั้งผมออกไปทานข้าวรึอาศัยรถประจำทางจะเจอคนบางกลุ่มที่ไม่มีความรู้และเค้ามีความรังเกียจโรค HIV เค้า
พูดกันอย่างสนุกปาก ทุกครั้งทุกหนที่ผมได้ยินผมกลั้นน้ำตาไว้ครับ บางครั้งใจเรามันไม่ไหวจริงๆ แล้วก็วนกลับมาถามตัวเองซ็ำๆ
ว่าเรามีค่าอะไร ทำไมเราต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ เราทำดีมาตลอดนี่คือผลที่ได้หลอยิ่งถามน้ำตาก็ยิ่งไหล
ใช่ครับ HIV ไม่น่ากลัวเท่ามะเร็ง แต่คนที่เป็น HIV จริงๆถึงจะทราบข้อนี้ดีไม่มีใครสามารถทำสภาพจิตใจให้มันดีได้เลยครับ
และคนที่รังเกียจก็ยังมีอีกมาก
สิ่งที่ผมรู้รุ้สึกและเผชิญ
ตั้งเเต่วันแรกที่ผมรู้ว่าผมป่วยเป็นอะไร คุณเชื่อไหมจากคนที่ร้องไห้ไม่เป็นกลับร้องไห้ได้ตลอดทั้งวัน ร้องแล้วก็ร้องอีก วันแรกที่ผม
ตัดสินใจทานยา พอยาเข้าปากเราปุ๊ปไม่เกิน 2 นาที อาการมึนแบบสุดยอดของการมึนเข้ามาอยุ่ที่ตัวผมหันซ้ายหันขวานิดเดียวก็มึน มึนมากๆก็อ้วก
ดึกๆเวลานอนต้องนอนพร้อมกับอาการมึน และตัวร้อน หนำซ้ำ ฝันร้ายตลอดทุกวันฝันร้ายมากๆ กลางวันทานอะไรก็ไม่ได้ ไม่กินก็อ้วก กินก็อ้วก
ผมทรมานมากมากเกิดมาไม่เคยทรมานอะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิต
ทั้งหมดทั้งมวลนี้คือผลข้างเคียงของยา ผมต้องทนอยุ่กบอาหารเหล่านี้
เป็นเวลา 2เดือน หลังจาก2เดือนก็ไม่ได้หายไปเลยนะ แต่ร่างกายมันปรับตัวได้ปรับได้แค่ทำให้อาการมันเบาลง และค่อยๆจางลง ทุกครั้งที่ถึงเวลากิน
ยาผมร้องไห้ทุกวันเลยครับยืนถือยาและน้ำตาไหล เพราะเราต้องเจอกับความทรมานอีกแล้ว ต้องพยายามรักษาร่างกายและกินของดีๆเพื่อไม่ไห้ตัวเอง
ป่วยไม่สบาย เพราะอะไรรุ้ไหมครับ เพราะเวลาที่ผมไม่สบายจะเป็นหนัก และ เป็นนานกว่าคนทั่วไป หลายครั้งที่กินเข้าไปปุ๊ป อ้วกออกปั๊ปเป็นเวลาติดกัน
2อาทิต หาหมอยังไงก็ไม่หาย
คิดจะฆ่าตัวตายซ้ำแล้วซ้ำเล่า จิตตก ร้องไห้ ทรมานมากๆใครไม่เจอกับตัวไม่มีทางรุ้เลยว่ามันต้องเจอกับอะไร ณ ตอนนี้ผ่านมา 9ปีแล้ว
ผมเองก็สามารถเหมือนคนปกติทั่วไปครับ แต่สภาพจิตใจฟื้นฟูเต็มที่แล้วก็ไม่หาย ดวงผมไม่ดีคับ เจอคนที่เค้าพูดเสียๆหายๆตลอดเวลาแต่จะทำไงได้ครับ
นอกจากร้องไห้และอยู่ให้ได้เพราะนี่คือความจริงง
*** สุดท้ายนี้ทุกอย่างเป็นเรื่องจริง 100% ครับ
*** ผมไม่รุ้และเดาไม่ออกว่าคนมาอ่านแล้วผมจะถูกด่าอีกไหม
*** ที่ผมเล่าแค่10% ก่อนจะเขียนนึกออกมากมายแต่ผมเขียนจริงๆ ตื้อไปหมดครับร้องไห้ด้วย
*** และหากผมใช้คำพูดไม่ดีหรือการใช้คำพูดหรืออักษรผิด ผมขออภัยด้วยครับ
( อ้อ B กับผมก็มีไรกันปกตินะครับแต่ใช้ถุงยางอนามัย และ เราต้องสะอาดรอบคอบมากขึ้นทุกๆครั้ง )
มุมเล็กๆของผู้ป่วย HIV
ผมอยากให้ทุกคนอ่านเรื่องนี้เพราะมันเป็นความรู้สึกที่ผมเจอทั้งหมด
ผมไม่รุ้ว่าทักษะการเล่าเรื่องของผมจะน่าติดตามมากใหมแต่โปรดอ่าน
(เข้าเรื่อง) เล่าเลยนะครับ ก่อนอื่นผมขอแทนแฟนเก่าว่า A แฟนใหม่ว่าB นะครับ
ผมเป็นเกย์ครับ ผมกับ B อยู่กินกันมาเป็นเวลา 9 ปีแล้วครับชีวิตของผมดำเนินมาด้วยความสุขและทุกข์มาตลอด
แต่โดยรวมก็ยังสุข แต่แล้ววันนึงชีวิตผมก็เจอกับความทุขที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เจอก็มาถึง เรื่องก็มีอยุ่ว่าช่วงที่ผมอยู่
กับ B ในปีที่4 ผมได้ย้ายบริษัททำงานใหม่ทางบริษัทมีนโยบายให้พนักงานตรวจร่างกายเพื่อรับเข้าทำงาน ผมก็ทำตาม
อย่างปกติแต่เมื่อผลตรวจมาทำให้ผมต้องช๊อก เพราะในผลการตรวจแจ้งว่าผมเป็น HIV
อ้ออย่าเพิ่งด่าผมนะครับ ผมจะบอกว่านิสัยส่วนตัวของผมเป็นคนรักเดียวใจเดียวครับ ไม่เคยนอกใจ
ไม่เคยนอกกาย เมื่อผมทราบผลตรวจผมตกใจมากแว๊บแรกคิดว่าหมอตรวจผิดหรือเปล่า ผมไม่เชื่อผลตรวจและบอก B
ว่าผลตรวจออกมาแบบนี้ ผมกับ B จึงพากันไปตรวจเลือด 3 แห่ง ตรวจด้วยกันทั้งคู่ผลปรากฏว่า3คลีนิคยืนยันว่าผมติดเชื้อ
HIV จริงๆแต่ B ไม่ติด ( B กับผมนิสัยเหมือนกันครับเรารักกันมากและไม่เคยนอกใจกัน ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถเช็คได้และ
เชื่อถือได้ 100% ) เมื่อเป็นเช่นนั้นผมเองตกใจมากเพราะรุ้แน่นอนว่าเราติดเชื้อแล้วแน่นอน แว้บแรกโลกของผมที่เคยร่าเริง
ที่เคยมีความสุขได้สุดๆ ทุกอย่างหยุดลง หยุดนิ่งสงบ ผมบอกอาการตัวเองไม่ถูกว่าเป็นอย่างไรได้แต่ถมตัวเองซ้ำๆ ซ้ำไปซ้ำมา
ว่าผมทำอะไรผิดทำไมต้องเป็นผม ผมกับ B อยุ่กินกัน4ปี ( ถึงตอนนั้นนะ ) ทำไม B จึงไม่ติดเชื้อจากเราไป
ผมไช้เวลาสืบสาวเรื่องอยุ่สักพักก็ทำให้รู้ว่าเราติดมาจาก A แฟนคนก่อนหน้า B เรากับ A อยุ่ด้วยกัน2ปี
ช่วงความที่เราเป็นคนรักเดียวใจเดียว หลังๆ A ขอมีอะไรกันโดยไม่ไส่ถุงเพราะเสียวกว่า( เค้าว่างั้น ) ผมก็ยอมผมพลาดเองครับ
ผมกับ A อยุ่ด้วยกันตลอดไม่ทำให้ผมคิด-กับเขาเลย แต่ก่อนเลิกกันมาจับได้ว่าเค้ามีคนอื่นตั้งเเต่ก่อนคบผมอีก แต่เลอกที่จะมา
อยู่กับผม และเมื่อผมแน่นอนแล้วว่าผมติดเชื้อ HIV ผมได้ปรึกษารายละเอียดทั้งหมดกับแพทย์ ผมเอาคำถามที่ผมสงสัยว่า
B อยุ่กะผม 4 ปี หากผมติดเชื้อมา 4 ปีแล้วเป็นไปได้หลอที่ B จะไม่ติด หมอเป็นไปได้เพราะ HIV จะติดกันได้3แบบ
- เพศสัมพันธ
-เข็มฉีดยา
-แม่สู่ลูก
หมอ ยกตัวอย่างว่า สมมุติ ผมติด HIV แต่แฟนไม่ติด มีอะไรกันไม่จำเป็นว่าฝ่ายที่ปกติจะติด HIV HIVไม่ได้ติดกันง่ายขนาดนั้น
ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับร่างกายด้วย และ ดวงด้วย ซึ่งผมเป็นคนร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงเหมือนชาวบ้านมาตั้งเเต่เด็กแล้วจึงสามารถ
รับเชื้อมาได้ง่าย
เมื่อผมแน่ใจและชัวแล้วว่า B ไม่ติดผมจึงขอแยกทางกับ B ผมอยากให้เค้าไปเจอคนที่มีคุณค่า และดี
มากกว่าผม คนอย่างผมมันคงไม่มีค่าอะไรอีกแล้วแต่ B ไม่ยอมครับยังยืนยันว่ายังไงก็จะอยุ่กันไปแบบนี้จนตาย ( ปัจจุบันอยุ่กันถึง9ปีครับ )
เอาละเข้าเรื่องดราม่าล่ะนะ
สิ่งที่ต้องเจอทั้งทางตรงและทางอ้อม
ผมต้องเจอพวกเน็ตไอดอล รึ หมอ รึไม่ก็คนดังๆ พูดและแชร์ในเฟสตัวเองเกี่ยวกับประเด็น HIV แต่สิ่งที่เค้าแชร์ไม่ถูกต้อง 100% เพราะ
ข้อมูลที่เรารุ้ทั่วไปนั่นมันแค่คร่าวๆ พวกเค้าเหล่านั้นมีคนติดตามเยอะ และการแชร์บางอย่างมันทำร้ายจิตใจผมมากๆ คำพูดบางอย่าง รูปบาง
รูปที่ใช้เป็นตัวอย่างการอธิบายมันทำให้ผมรุ้สึกไม่เท่าเทียมกับผู้อื่น ผมเสียใจมากมาก เพราะคนทั่วไปคิดว่า HIV จะต้องมั่วเท่านั้นถึงจะติดมาได้
โลโก้มันเป้นอย่างนี้ หนำซ้ำบางครั้งผมออกไปทานข้าวรึอาศัยรถประจำทางจะเจอคนบางกลุ่มที่ไม่มีความรู้และเค้ามีความรังเกียจโรค HIV เค้า
พูดกันอย่างสนุกปาก ทุกครั้งทุกหนที่ผมได้ยินผมกลั้นน้ำตาไว้ครับ บางครั้งใจเรามันไม่ไหวจริงๆ แล้วก็วนกลับมาถามตัวเองซ็ำๆ
ว่าเรามีค่าอะไร ทำไมเราต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ เราทำดีมาตลอดนี่คือผลที่ได้หลอยิ่งถามน้ำตาก็ยิ่งไหล
ใช่ครับ HIV ไม่น่ากลัวเท่ามะเร็ง แต่คนที่เป็น HIV จริงๆถึงจะทราบข้อนี้ดีไม่มีใครสามารถทำสภาพจิตใจให้มันดีได้เลยครับ
และคนที่รังเกียจก็ยังมีอีกมาก
สิ่งที่ผมรู้รุ้สึกและเผชิญ
ตั้งเเต่วันแรกที่ผมรู้ว่าผมป่วยเป็นอะไร คุณเชื่อไหมจากคนที่ร้องไห้ไม่เป็นกลับร้องไห้ได้ตลอดทั้งวัน ร้องแล้วก็ร้องอีก วันแรกที่ผม
ตัดสินใจทานยา พอยาเข้าปากเราปุ๊ปไม่เกิน 2 นาที อาการมึนแบบสุดยอดของการมึนเข้ามาอยุ่ที่ตัวผมหันซ้ายหันขวานิดเดียวก็มึน มึนมากๆก็อ้วก
ดึกๆเวลานอนต้องนอนพร้อมกับอาการมึน และตัวร้อน หนำซ้ำ ฝันร้ายตลอดทุกวันฝันร้ายมากๆ กลางวันทานอะไรก็ไม่ได้ ไม่กินก็อ้วก กินก็อ้วก
ผมทรมานมากมากเกิดมาไม่เคยทรมานอะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิต ทั้งหมดทั้งมวลนี้คือผลข้างเคียงของยา ผมต้องทนอยุ่กบอาหารเหล่านี้
เป็นเวลา 2เดือน หลังจาก2เดือนก็ไม่ได้หายไปเลยนะ แต่ร่างกายมันปรับตัวได้ปรับได้แค่ทำให้อาการมันเบาลง และค่อยๆจางลง ทุกครั้งที่ถึงเวลากิน
ยาผมร้องไห้ทุกวันเลยครับยืนถือยาและน้ำตาไหล เพราะเราต้องเจอกับความทรมานอีกแล้ว ต้องพยายามรักษาร่างกายและกินของดีๆเพื่อไม่ไห้ตัวเอง
ป่วยไม่สบาย เพราะอะไรรุ้ไหมครับ เพราะเวลาที่ผมไม่สบายจะเป็นหนัก และ เป็นนานกว่าคนทั่วไป หลายครั้งที่กินเข้าไปปุ๊ป อ้วกออกปั๊ปเป็นเวลาติดกัน
2อาทิต หาหมอยังไงก็ไม่หาย
คิดจะฆ่าตัวตายซ้ำแล้วซ้ำเล่า จิตตก ร้องไห้ ทรมานมากๆใครไม่เจอกับตัวไม่มีทางรุ้เลยว่ามันต้องเจอกับอะไร ณ ตอนนี้ผ่านมา 9ปีแล้ว
ผมเองก็สามารถเหมือนคนปกติทั่วไปครับ แต่สภาพจิตใจฟื้นฟูเต็มที่แล้วก็ไม่หาย ดวงผมไม่ดีคับ เจอคนที่เค้าพูดเสียๆหายๆตลอดเวลาแต่จะทำไงได้ครับ
นอกจากร้องไห้และอยู่ให้ได้เพราะนี่คือความจริงง
*** สุดท้ายนี้ทุกอย่างเป็นเรื่องจริง 100% ครับ
*** ผมไม่รุ้และเดาไม่ออกว่าคนมาอ่านแล้วผมจะถูกด่าอีกไหม
*** ที่ผมเล่าแค่10% ก่อนจะเขียนนึกออกมากมายแต่ผมเขียนจริงๆ ตื้อไปหมดครับร้องไห้ด้วย
*** และหากผมใช้คำพูดไม่ดีหรือการใช้คำพูดหรืออักษรผิด ผมขออภัยด้วยครับ
( อ้อ B กับผมก็มีไรกันปกตินะครับแต่ใช้ถุงยางอนามัย และ เราต้องสะอาดรอบคอบมากขึ้นทุกๆครั้ง )