คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
สามีใหม่นี่ส่อจะฮุบเอาหมดซิท่า
แบบนี้ต้องให้แม่ไปอำเภอทำพินัยกรรมยกที่ดิน
หรือทรัพย์อื่นที่อยากจะให้คุณ แล้วตั้งคุณเป็นผู้จัดการมรดก
เพื่อการโอนที่ดินหรือสิ่งที่คุณจะได้รับเป็นการเฉพาะก็ได้
ส่วนทรัพย์อื่นถ้าไม่ระบุไว้ในพินัยกรรมทายาทอื่นก็รับมรดกกันไปตามสิทธิที่แต่ละคนมี
ซึ่งคุณยังมีส่วนรับมรดกในทรัพย์สินพวกนั้นอยู่อีกด้วยนะ คือทรัพย์ตามพินัยกรรมก็ส่วนหนึ่ง
คนอื่นมาเอาไม่ได้ ส่วนที่ไม่ระบุมันก็เป็นมรดกไม่มีพินัยกรรมไป ก็รับกันตามปกติ
แล้วการระบุในพินัยกรรมนั้นถ้าไม่สามารถเอาโฉนดมาได้(เพราะคนเอาไปซ่อน) ก็ไปสำนักงานที่ดิน
ของตรวจหลักฐานที่ดินและถ่ายเอามาให้รับรองสำเนา แล้วเอาไประบุเลขในพินัยกรรมได้ถูกต้อง
ความจริงแม้ไม่มีเลขโฉนดมา ก็สามารถระบุโดยบอกว่ายกที่ดินแปลงที่ปลูกบ้าน หรือแปลงที่อยู่
ในหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ก็ได้ คือต้องบอกพอให้รู้ว่าเป็นแปลงไหนก็พอ ถ้ามีแปลงเดียว
ก็แค่บอกว่าที่ดินซึ่งมีอยู่แปลงเดียวยกให้แก่...
การทำพินัยกรรมถ้าจะให้ดีให้ไปยื่นคำขอให้อำเภอช่วยทำให้ เพราะเป็นหน้าที่ของเขาต้องทำตาม
ที่เราไปขอให้ช่วยเขียน เสียค่าธรรมเนียมนิดเดียวไม่ถึงร้อยบาท และป้องกันการกล่าวว่าทำปลอมด้วย
เพราะการไปทำที่อำเภอมีคำขอมีหลักฐานแน่นหนา และเขาจะเก็บตัวพินัยกรรมไว้ แต่เราจะให้ทำเป็น
สองฉบับเก็บไว้ที่เราก็ได้ พวกพินัยกรรมควรให้คนที่จะได้รับเก็บไว้เองเลย พร้อมโฉนดด้วย ก็พยายาม
หาวิธีเอาโฉนดมาเก็บไว้ให้ได้ เพราะเป็นสิทธิของแม่คุณคนอื่นไม่มีสิทธิเอาไปเก็บไว้เลย
ถ้าหายก็ไปขอใบแทนและเอามาเก็บไว้ คือวิธีการก็บอกให้คนที่เก็บไว้เอามาคืน ถ้าเขาบอกว่ามันหาย
ก็ดีเลยให้จำคำพูดของเขา และจำชื่อที่อยู่แล้วไปแจ้งความว่าหาย แล้วเอาใบแจ้งความไปประกอบคำขอยื่นคำขอใบแทน
โฉนด แต่ที่ดินเขาจะต้องให้มีพยานสองคนที่เชื่อถือได้ไปเป็นพยานว่าหายจริง (ซึ่งหลักการนี้ถ้าพูดตามจริงมันค่อนข้างน่าหัวเราะ
เพราะคนอื่นจะไปรู้ได้ไงล่ะว่ามันหาย ก็แค่บอก ๆ กัน)
การจัดเตรียมการเรื่องทรัพย์สินควรทำเนิ่น ๆ ก่อนตาย อย่าปล่อยไว้ เพราะลักษณะที่บอกมานั่นจะต้องมี
การแย่งมรดกกันอย่างแน่นอน คือทรัพย์สินเดิม ๆ ก่อนอยู่กับคนใหม่ที่แม่มีควรเป็นของคุณ สามีก็ไม่ควรได้ เขาควรเอาจาก
ที่ทำกินกับแม่คุณเท่านั้น พวกลูกบุญธรรมนั่นก็เป็นพวกลูกนอกไส้ ไม่จำเป็นต้องได้อะไร เลี้ยงดูมาก็ดีถมไป
แต่จะให้บ้างก็ได้ หากยังเด็กเกิน
แบบนี้ต้องให้แม่ไปอำเภอทำพินัยกรรมยกที่ดิน
หรือทรัพย์อื่นที่อยากจะให้คุณ แล้วตั้งคุณเป็นผู้จัดการมรดก
เพื่อการโอนที่ดินหรือสิ่งที่คุณจะได้รับเป็นการเฉพาะก็ได้
ส่วนทรัพย์อื่นถ้าไม่ระบุไว้ในพินัยกรรมทายาทอื่นก็รับมรดกกันไปตามสิทธิที่แต่ละคนมี
ซึ่งคุณยังมีส่วนรับมรดกในทรัพย์สินพวกนั้นอยู่อีกด้วยนะ คือทรัพย์ตามพินัยกรรมก็ส่วนหนึ่ง
คนอื่นมาเอาไม่ได้ ส่วนที่ไม่ระบุมันก็เป็นมรดกไม่มีพินัยกรรมไป ก็รับกันตามปกติ
แล้วการระบุในพินัยกรรมนั้นถ้าไม่สามารถเอาโฉนดมาได้(เพราะคนเอาไปซ่อน) ก็ไปสำนักงานที่ดิน
ของตรวจหลักฐานที่ดินและถ่ายเอามาให้รับรองสำเนา แล้วเอาไประบุเลขในพินัยกรรมได้ถูกต้อง
ความจริงแม้ไม่มีเลขโฉนดมา ก็สามารถระบุโดยบอกว่ายกที่ดินแปลงที่ปลูกบ้าน หรือแปลงที่อยู่
ในหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ก็ได้ คือต้องบอกพอให้รู้ว่าเป็นแปลงไหนก็พอ ถ้ามีแปลงเดียว
ก็แค่บอกว่าที่ดินซึ่งมีอยู่แปลงเดียวยกให้แก่...
การทำพินัยกรรมถ้าจะให้ดีให้ไปยื่นคำขอให้อำเภอช่วยทำให้ เพราะเป็นหน้าที่ของเขาต้องทำตาม
ที่เราไปขอให้ช่วยเขียน เสียค่าธรรมเนียมนิดเดียวไม่ถึงร้อยบาท และป้องกันการกล่าวว่าทำปลอมด้วย
เพราะการไปทำที่อำเภอมีคำขอมีหลักฐานแน่นหนา และเขาจะเก็บตัวพินัยกรรมไว้ แต่เราจะให้ทำเป็น
สองฉบับเก็บไว้ที่เราก็ได้ พวกพินัยกรรมควรให้คนที่จะได้รับเก็บไว้เองเลย พร้อมโฉนดด้วย ก็พยายาม
หาวิธีเอาโฉนดมาเก็บไว้ให้ได้ เพราะเป็นสิทธิของแม่คุณคนอื่นไม่มีสิทธิเอาไปเก็บไว้เลย
ถ้าหายก็ไปขอใบแทนและเอามาเก็บไว้ คือวิธีการก็บอกให้คนที่เก็บไว้เอามาคืน ถ้าเขาบอกว่ามันหาย
ก็ดีเลยให้จำคำพูดของเขา และจำชื่อที่อยู่แล้วไปแจ้งความว่าหาย แล้วเอาใบแจ้งความไปประกอบคำขอยื่นคำขอใบแทน
โฉนด แต่ที่ดินเขาจะต้องให้มีพยานสองคนที่เชื่อถือได้ไปเป็นพยานว่าหายจริง (ซึ่งหลักการนี้ถ้าพูดตามจริงมันค่อนข้างน่าหัวเราะ
เพราะคนอื่นจะไปรู้ได้ไงล่ะว่ามันหาย ก็แค่บอก ๆ กัน)
การจัดเตรียมการเรื่องทรัพย์สินควรทำเนิ่น ๆ ก่อนตาย อย่าปล่อยไว้ เพราะลักษณะที่บอกมานั่นจะต้องมี
การแย่งมรดกกันอย่างแน่นอน คือทรัพย์สินเดิม ๆ ก่อนอยู่กับคนใหม่ที่แม่มีควรเป็นของคุณ สามีก็ไม่ควรได้ เขาควรเอาจาก
ที่ทำกินกับแม่คุณเท่านั้น พวกลูกบุญธรรมนั่นก็เป็นพวกลูกนอกไส้ ไม่จำเป็นต้องได้อะไร เลี้ยงดูมาก็ดีถมไป
แต่จะให้บ้างก็ได้ หากยังเด็กเกิน
แสดงความคิดเห็น
คุณแม่ผมแต่งงานใหม่ แล้วสามีใหม่ต้องการให้ลูกของเขามาจัดการมรดกส่วนของคุณแม่ผม สามารถทำได้ไหมครับ ??
หลังจากนั้นคุณแม่ของผมท่านก็แต่งงานใหม่กับสามีใหม่ และเขาก็ย้ายเข้ามาอยู่บ้านของคุณแม่ผมครับ
นอกจากนี้คุณแม่ของผมท่านรับเด็กคนหนึ่งมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมครับ น้องคนนี้เป็นลูกของภรรยาเก่าของสามีใหม่ที่คลอดในเรือนจำ เขาไม่สามารถเลี้ยงลูกได้ครับแม่ผมเอ็นดู และสงสารจึงรับมาเลี้ยงดูเอง เด็กอายุห่างจากผมประมาณ 20 ปี (สามีใหม่คุณแม่ผม มีลูก 2 คนครับ คนโตอายุมากกว่าผมแต่ผมไม่เคยเจอจึงไม่มีข้อมูล ส่วนอีกคนคือน้องคนที่คลอดในเรือนจำ)
ปัจจุบันสามีใหม่คุณแม่ผม ทำการต่อเติมบ้านครับ และเขาต้องการให้ลูกชายคนโตของเขาเข้ามาดูแลมรดกในส่วนของคุณแม่ของผม ซึ่งคุณแม่ผมท่านอยากให้บ้านและที่ดินผื่นนี้ตกเป็นของผมซึ่งเป็นลูกในไส้ แต่สามีใหม่ของท่านไม่ยอมจึงไม่สามารถเอาโฉนดออกมาโอนกรรมสิทธิ์ได้
ลูกชายของสามีใหม่คุณแม่ผมมีสิทธิ์จะเข้ามาจัดการมรดกส่วนของคุณแม่ผมไหมครับ แล้วถ้าคุณแม่ผมทำพินัยกรรมผมจะมีสิทธิ์ในมรดกส่วนนี้ไหมครับจำเป็นต้องผ่านกระบวนการในชั้นศาลไหมครับ ส่วนเด็กที่คุณแม่ผมรับเลี้ยงไว้ หากสิ้นท่านไปผมจะสามารถรับดูแลต่อได้ไหม
รบกวนผู้รู้ช่วยแนะนำทีครับ
ปล.ผมไม่รู้จะแท็กห้องไหนดีเลยขอแท็ก ชายคา กับ ศาลา ประชาคมนะครับ ถ้าแท็กผิดยังไงต้องขออภัยด้วย