สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิป วันนี้จะมาขอเล่าเรื่องของความรักที่แม้จะเลิก(นาน)แล้ว (แต่ก็)ไม่เลิกรักค่ะ เรื่องนี้เกิดตั้งแต่ตอน ม.ปลายค่ะ เราเรียน รร. เดียวกัน แม้จะอยู่คนละห้องกันแต่เราก็ได้เจอกันแทบทุกวัน ก็เป็นอย่างนี้จนผ่านมาปีกว่าค่ะ แล้ววันหนึ่งเราก็ได้มาใกล้ชิดกัน เพราะว่าเพื่อนน้ำหวานไปเป็นแฟนกับเพื่อนเค้าค่ะ ขอใช้ชื่อแทนเค้าว่า ตั้มแล้วกันนะคะ คือพอเวลาเพื่อนของเรา2คนไปเดทกัน ก็จะชวนน้ำหวานและตั้มไปด้วยแก้เขิน เรื่องของเราน่าจะเริ่มตั้งแต่ตอนนั้นค่ะ จากที่เราได้เจอกันบ่อยขึ้น เราก็เริ่มเป็นมากกว่าคนรู้จัก เป็นมากกว่าเพื่อน และเป็นแฟนกันในที่สุด ตั้มเค้าเป็นคนน่ารัก จิตใจดี เข้าใจ และแคร์น้ำหวานมาก ตั้มจะรู้ทุกอย่างว่าน้ำหวานชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เราสนิทกันเร็วมาก ไม่นานเราก็ใช้คำว่าแค่มองตาก็รู้ใจได้เลย รู้ว่าอีกฝ่ายรู้สึกยังไง ต้องการอะไร ช่วงเวลาที่คบกัน น้ำหวานมีความสุขมากๆๆๆๆ เราไปดูหนัง กินข้าว เดินเที่ยว ได้ใช้เวลาด้วยกันเยอะมาก เราคบกันมาได้ระยะหนึ่งแต่แล้ววันที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นก็มาถึง วันนั้นจำได้ขึ้นใจเลยค่ะ ว่าน้ำหวานไปเดินห้างกับเพื่อน อยู่ๆตั้มก็โทรมาหา แฟนโทรหาน้ำหวานเลยรีบรับ ปลายสายเงียบๆ บรรยากาศมันดูอึมครึมมาก น้ำหวานเลยถามตั้มไปว่า
น้ำหวาน : ตั้ม ว่าไงเอ่ย เป็นอะไรรึเปล่า
ตั้ม : เอ่อ...น้ำหวาน..คือ...
น้ำหวาน : ตั้มว่าไงมีอะไรพูดมาเลย
ตั้ม : ตั้มขอโทษ
น้ำหวาน : ขอโทษเรื่องอะไร ไม่ได้ทำไรผิดซะหน่อย
ตั้ม : ผิดสิ ตั้มทำน้ำหวานเสียใจ
น้ำหวาน : เสียใจเรื่อง???
ตั้ม : คืองี้น้ำหวาน น้ำหวานรู้ใช่ไหมว่าก่อนที่เราจะคบกัน ตั้มมีแฟนที่เพิ่งเลิกกันไป
น้ำหวาน : รู้ ทำไมหรอ (ใจเริ่มเสียแล้ว ตั้มจะพูดอะไรต่อนะ ขออย่าให้เป็นอย่างที่คิดเลย)

ตั้ม : คือตอนนั้นเค้าห่างๆออกไป ตั้มเลยคิดว่า ตั้มกับเค้าเลิกกัน ตั้มเลยเริ่มต้นใหม่ แล้วได้มาคบกับน้ำหวาน
น้ำหวาน : อื้ม..(น้ำตาคลอแล้ว เสียงก็เริ่มสั่น)
ตั้ม : คือตั้มรู้สึกว่าตั้มยังไม่ได้เลิกกับเค้า ยังไม่ได้จบกัน แล้วตอนนี้เค้ากลับมา ตั้มว่ามันไม่ถูกต้องที่จะดึงน้ำหวานเอาไว้ ตั้มขอโทษจริงๆน้ำหวาน ตั้มไม่อยากให้เป็นอย่างนี้เลย แต่เราจะยังเป็นเพื่อนกันได้ใช่ไหม
น้ำหวาน :

ร้องไห้เรียบร้อยแล้ว แต่ก็กัดฟันตอบตั้มไปว่า "เป็นเพื่อนหรอ เป็นได้สิ"แล้วรีบวางสาย ตอนนั้นสมองมันเบลอไปหมด มันทำอะไรไม่ถูก คิดแต่ว่านี่ทำอะไรผิดหรอ ทำไมเรื่องต้องเป็นอย่างนี้ เรากำลังมีความสุขกัน ทำไมคนนั้นต้องกลับมาด้วย น้ำหวานร้องไห้ตลอด เพื่อนก็ถามว่าเป็นอะไร เราก็ไม่พร้อมจะพูด เพื่อนเลยได้แต่กอดปลอบใจและอยู่ใกล้ๆ น้ำหวานแยกตัวกลับบ้านระหว่างทางก็ยังร้องไห้จนถึงบ้าน น้ำหวานขึ้นห้องนอนร้องไห้ต่อ เพิ่งเข้าใจคำว่าร้องไห้จนหลับเป็นยังไง วันรุ่งขึ้นไป รร. ตั้มก็มาหาหน้าตาเค้าซีดเซียว เค้าคงลำบากใจและเสียใจจริงๆอย่างที่เค้าบอก แม้น้ำหวานตาจะบวมบูดแต่ก็ไม่อยากให้คนที่เรารักรู้สึกแย่ เลยพยายามพูดให้เป็นปกติมากที่สุดและบอกว่าอย่าคิดมากนะ เรายังเป็นเพื่อนกันได้ มีอะไรก็ปรึกษาได้นะ......ถึงแม้น้ำหวานจะพูดแบบนั้นแต่เราก็ไม่ค่อยได้เจอ ไม่ได้คุยกันเหมือนเดิม จนเราเรียนจบ ม.6 ต่างก็แยกย้ายกันไป ก็ไม่ได้เจอกันเลยประมาณ 1ปี น้ำหวานก็เรียนมหาวิทยาลัย มีเพื่อนฝูงเฮฮา

จนลืมเรื่องแย่ๆในตอนนั้นไปแล้ว แต่เหมือนชะตาเล่นตลก เราได้มาบังเอิญเจอกัน ก็ดีใจเพราะไม่ได้คุยกันอีกเลย เบอร์มือถือก็เปลี่ยนไปแล้ว เราเลยมาเริ่มขอเบอร์กันใหม่ ตอนนั้นน้ำหวานยังไม่มีแฟน(ไม่รู้ว่าที่ไม่มีเพราะไม่อยากมี หรือยังคงรอตั้มอยู่กันแน่) แต่ก็แอบหวังลึกๆว่า เค้าเลิกกับคนนั้นหรือยัง ถ้าเลิกแล้วเราอาจมีโอกาสได้กลับมาคบกันใหม่ จากการเจอกันโดยบังเอิญครั้งนั้น เราก็ได้คุยกันมาเรื่อยๆ แต่ในฐานะเพื่อน คุยเรื่องเรียน เรื่องอะไรทั่วๆไป แต่ใจก็อยากถามว่ายังโสด หรือยังมีแฟนอยู่แต่ก็ไม่กล้าถาม จนวันหนึ่งตั้มโทรมาปรึกษาเรื่องแฟนว่าทะเลาะกันหนักมาก น้ำหวานก็เลยถึงบางอ้อ ว่าตั้มมีแฟนและที่สำคัญคือเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่คนที่เป็นสาเหตุให้เราเลิกกันด้วย แต่น้ำหวานก็ให้คำปรึกษาที่จริงใจไม่ใช่จะแนะนำให้เค้าเลิกกัน ระหว่างนั้นน้ำหวานก็อึดอัดนะคะ เล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนก็บอกว่าทำไมไม่พูดแบบให้เค้าเลิกกัน น้ำหวานเห็นตั้มเสียใจไม่ได้ค่ะดูเค้าจะแคร์แฟนเค้ามาก เราก็เลยต้องจำยอมรับความเสียใจไว้เอง การที่คนที่เรารัก มาปรึกษาและเราต้องแนะนำให้เค้าไปง้อ ไปซื้อของขวัญที่ผู้หญิงชอบ ช้ำค่ะ ช้ำ น้ำตาตกในภายใต้ใบหน้าที่ยิ้มแย้ม หลังจากเค้าไปทำตามที่น้ำหวานแนะนำ เค้าก็เงียบๆไปค่ะ เราไม่ค่อยได้คุยกัน นานๆจะคุยซักทีนึง จนเรียนจบมหาวิทยาลัย หลังจากเรียนจบน้ำหวานก็ได้ไปต่างประเทศค่ะ

ก็ไปใช้ชีวิตคนเดียว มีปัญหาอะไรก็ต้องแก้ไขเอง ทำให้น้ำหวานเข้มแข็งขึ้นมาก กลับมาน้ำหวานก็สมัครงานจนได้ทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง ก็ใช้ชีวิตตามปกติค่ะ มีครอบครัว ญาติพี่น้อง และเพื่อนๆค่ะ (แฟนยังไม่มีตามเคย เพื่อนๆต่างคาดว่าน้ำหวานจะเสียดุลให้ฝรั่งตาน้ำข้าว แต่ก็กลับมาไทยแบบปกติค่ะ ไม่ได้สอยฝรั่งกลับมาด้วย555) ช่วงนี้แหละค่ะที่เรื่องมันพีคสุดๆ...อยู่มาวันนึงตั้มโทรมาหาค่ะ(น้ำหวานยังใช้เบอร์เดิม เบอร์ที่เค้ามีค่ะ) น้ำหวานดีใจมากที่ตั้มโทรมา เค้าก็ชวนเราคุยปกติมาก เป็นห่วงเป็นใย ไม่สบายอย่าลืมกินยา พักผ่อนมากๆ เป็นห่วง คำพวกนี้มาจากเค้าหมดค่ะ เค้ามาทำดีแบบนี้ืทำให้มีความหวังขึ้นมาใหม่อีก

เราเริ่มคุยกันบ่อยขึ้นๆ จนกระทั่งวันนึงตั้มโทรมา รู้สึกว่าวันนี้ตั้มอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เลยถามไปว่า"น้ำเสียงดูมีความสุข ถูกหวยรึไง" ปลายทางตอบกลับมาว่า "อื้ม^^มีความสุขมาก แฟนตั้มท้องอะ ตั้มกำลังจะเป็นพ่อคนแล้วนะ น้ำหวานกำลังจะมีหลานนะ ดีใจไหม"




จังหวะนั้นเรียกได้ว่าอึ้งค่ะ ทำอะไรไม่ถูกเหมือนถูกตบหน้าแรงๆเลย ช็อคมากกับคำที่ได้ยิน แต่ก็พยายามเปล่งเสียงให้ลอดออกมาจากลำคอ พูดแสดงความยินดีไป...ช้ำซ้ำๆซากๆค่ะ เจ็บแล้วเจ็บอีก ยังไม่เข็ด ยังจะมีความหวังลมๆแล้งๆมาตลอดระยะเวลาหลายปี พอเรื่องเป็นแบบนี้เค้ามีครอบครัวที่สมบูรณ์แล้ว เลยบอกตัวเองว่าต้องพอค่ะ พอได้แล้ว หัวใจไม่สามารถรับความเสียใจได้อีกแล้ว กลับมาอยู่ในโลกแห่งความจริงได้แล้ว...จนปัจจุบันถ้าไม่เอ่ยถึงตั้มก็สบายดี แต่พอนึกถึงเมื่อไหร่มันก็ยังคงเจ็บแปล๊บๆที่หัวใจค่ะ ขอบคุณนะคะที่อ่านมาจนจบ
ปล.ลูกตั้มน่ารักมากค่ะ ตั้มคอยส่งรูปมาให้ดูเรื่อยๆ
เลิก(นาน)แล้ว (แต่ก็)ไม่เลิกรัก
น้ำหวาน : ตั้ม ว่าไงเอ่ย เป็นอะไรรึเปล่า
ตั้ม : เอ่อ...น้ำหวาน..คือ...
น้ำหวาน : ตั้มว่าไงมีอะไรพูดมาเลย
ตั้ม : ตั้มขอโทษ
น้ำหวาน : ขอโทษเรื่องอะไร ไม่ได้ทำไรผิดซะหน่อย
ตั้ม : ผิดสิ ตั้มทำน้ำหวานเสียใจ
น้ำหวาน : เสียใจเรื่อง???
ตั้ม : คืองี้น้ำหวาน น้ำหวานรู้ใช่ไหมว่าก่อนที่เราจะคบกัน ตั้มมีแฟนที่เพิ่งเลิกกันไป
น้ำหวาน : รู้ ทำไมหรอ (ใจเริ่มเสียแล้ว ตั้มจะพูดอะไรต่อนะ ขออย่าให้เป็นอย่างที่คิดเลย)
ตั้ม : คือตอนนั้นเค้าห่างๆออกไป ตั้มเลยคิดว่า ตั้มกับเค้าเลิกกัน ตั้มเลยเริ่มต้นใหม่ แล้วได้มาคบกับน้ำหวาน
น้ำหวาน : อื้ม..(น้ำตาคลอแล้ว เสียงก็เริ่มสั่น)
ตั้ม : คือตั้มรู้สึกว่าตั้มยังไม่ได้เลิกกับเค้า ยังไม่ได้จบกัน แล้วตอนนี้เค้ากลับมา ตั้มว่ามันไม่ถูกต้องที่จะดึงน้ำหวานเอาไว้ ตั้มขอโทษจริงๆน้ำหวาน ตั้มไม่อยากให้เป็นอย่างนี้เลย แต่เราจะยังเป็นเพื่อนกันได้ใช่ไหม
น้ำหวาน :
ปล.ลูกตั้มน่ารักมากค่ะ ตั้มคอยส่งรูปมาให้ดูเรื่อยๆ