ว่าด้วยเรื่องธุรกิจขายตรง อ่านก่อนอย่าเพิ่งด่านะค่ะ แลกเปลี่ยนมุมมองกันคะ
เมื่อวานได้มีโอกาสไปฟังสัมนนาของบริษัทแห่งหนึ่ง โดยการชักชวนของรุ่นพี่ที่รู้จัก
ก็คงจะพล็อตคล้ายๆกับที่ทุกคนโดน
เริ่มจากโทรมาพูดคุยเรื่องราวสารทุกข์สุขดิบ แล้ววนกลับมาที่ว่าทำอะไรอยู่
พี่กำลังจะทำโปรเจ็คกันคุณ...............(ดาราดัง หรือ นามสกุลดัง) อยากร่วมทำด้วยกันหรือไม่
แล้วก็ลงเอยว่าเย็นนี้ว่าไหม นัดคุยธุรกิจกัน
เราก็นึกในใจตายหล่ะหว่า ชั้นก็เป็นคนไม่มีความรู้อะไรมากมาย
จะไปช่วยอะไรเค้าได้ แต่เอาลองดู เผื่อจะได้เปิดโลกใหม่ๆ จากงานเดิมๆที่ทำอยู่ ก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร
ก่อนวางสายพี่เค้าก็บอกมาว่าเป็นธุรกิจขายอาหารเสริม ได้รับการรับรองจากอเมริกา ชื่อ......................
ตามนิสัยเด็กวัยรุ่น(เหลือน้อย)ก้เลยรีบพิมค้นหาในอากู๋ทันที หลังจากวางขายว่าสิ่งที่เค้าขายมันคืออะไร
แท่น แทน แท๊น สามวิผ่านไป รู้ตัวเลย
ซวยยยยยยยยยยยยยยละ เดี๊ยนโดนหลอกไปฟังขายตรง!!!!!!!!!
เอาวะ มาถึงขนาดนี้ละ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น เท่าที่เสิชมามันก็ต้องไปให้เห็น
ของเค้าก็ว่าดี(หมายถึง ตัวผลิตภัณฑ์) ก็น่าลองไปฟังซักครั้ง ให้มันรู้ด้วยตัวเองนี่หละ
หลังจากฟังจบทั้งหมด คิดทบทวนดูแล้วพบว่า
ธุรกิจนี้ เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้แบบ passive incomeได้จริง
แต่ตัวผลิตภัณฑ์ที่ขายคือ "ความฝัน"
โดยให้คนที่เข้ามาลงทุนวาดภาพตัวเองว่า ทำงานไม่กี่ปีแล้วจะมีรายได้งามชีวิตสุขสบาย ส่งต่อไปยังลูกหลานได้
จขกท คิดว่า มันทำได้จริงคะ
แต่การที่เราจะไปได้ถึงจุดๆนั้น เราต้องพาคนที่มีความฝันแบบนั้น หรือสร้างคนให้มีความฝันแบบนั้น
นี่แหละเป็นสิ่งที่จขกทคิดได้ว่ามันค่อนข้างจะอันตราย เพราะการที่คนระดับชั้นสูงๆที่มีรายได้ที่เค้าว่ากันว่าเดือนละหลายสิบล้านจะอยู่ได้
ก็คือต้องสร้างคนระดับใหม่ๆมารองรับ
ดังนั้นเราในฐานะที่เป็นคนเข้าใหม่ก็ต้องระวังไว้ว่า สิ่งที่เค้าวาดฝันไว้ให้
ความจริงมันจำเป็นจริงหรือ ทั้งรถหรูราคาแพง การใช้จ่ายเงินแบบไม่ต้องคิด รายได้เดือนละล้านโดยไม่ต้องทำอะไร
เราต้อง ระวังกับดักภาพฝันที่เค้าต้องทำขึ้นมาเพื่อล่อให้ คนระดับเข้าใหม่เป็นแค่ฐานล่างเพื่อให้เค้ามั่นคงและมีรายได้ต่อไป
จากความอยาก อยากมี อยากได้ อยากเป็นให้ทัดเทียมกับคนที่อยู่ในภาพโฆษณาขายฝัน
คือรู้สึกว่าก็ไม่ได้ผิดที่จะทำธุรกิจอันนี้
แต่สิ่งที่อยากให้หยุดคิดสักนิดคือ ภาพฝันที่เค้าวางไว้นั้น จำเป็นจริงหรือ
ความสุขที่ได้มาจากทรัพย์สินนอกกายจริงหรือ
บางครั้งการได้นอนอยู่บ้านเฉยๆกับคนที่เรารัก นั่งรถเมล์บ้าง ลำบากบ้างมันก็มีความสุขของมันอยู่ในตัว
อยากจะให้คิดกันว่า สิ่งที่เค้าเอามาล่อนี่มันจำเป็นกับชีวิต ขนาดนั้น เลยหรอ
เคยคิดไหมว่าต้องไปขายฝันให้คนอื่นต่อ เพื่อทำให้ตัวเองมีรายได้ เพื่อทำให้ฝันของเราเป็นจริง
ที่จขกทไม่ตัดสินใจร่วมธุรกิจนี้ เพราะจขกท ไม่อยากเหยียบย่ำ ความฝันของคนอื่นขึ้นมาเพื่อให้ความฝันของตัวเองเป็นจริง ถึงอาจจะโดนมองว่าโง่งม เป็นคน95%ที่เป็น active income แต่ก็อยากจะบอกว่าหากเราบริหารเวลาและงานดีๆ ความสุขมันก็อยู่รอบๆตัวนี่แหละคะ^^
ปลจากเวลาฟังรวมทั้งสิ้น ห้าชั่วโมงงงงงงงงงงง ชั้นยังไม่รู้เลยว่าสรุปผลิตภัณฑ์จริงๆของมันมันดียังไง ทำไมชั้นต้องใช้ ชั้นรู้แค่ว่า เสียตังสิวันนี้ สามหมื่น เพื่อแลกกับ รายได้หลักล้านในอนาคต ที่จะสบายไปทั้งชาติ.....................ไม่ขายฝันแล้วขายอะไร
ว่าด้วยเรื่องธุรกิจขายตรง อ่านก่อนอย่าเพิ่งด่า แลกเปลี่ยนมุมมองกันคะ
เมื่อวานได้มีโอกาสไปฟังสัมนนาของบริษัทแห่งหนึ่ง โดยการชักชวนของรุ่นพี่ที่รู้จัก
ก็คงจะพล็อตคล้ายๆกับที่ทุกคนโดน
เริ่มจากโทรมาพูดคุยเรื่องราวสารทุกข์สุขดิบ แล้ววนกลับมาที่ว่าทำอะไรอยู่
พี่กำลังจะทำโปรเจ็คกันคุณ...............(ดาราดัง หรือ นามสกุลดัง) อยากร่วมทำด้วยกันหรือไม่
แล้วก็ลงเอยว่าเย็นนี้ว่าไหม นัดคุยธุรกิจกัน
เราก็นึกในใจตายหล่ะหว่า ชั้นก็เป็นคนไม่มีความรู้อะไรมากมาย
จะไปช่วยอะไรเค้าได้ แต่เอาลองดู เผื่อจะได้เปิดโลกใหม่ๆ จากงานเดิมๆที่ทำอยู่ ก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร
ก่อนวางสายพี่เค้าก็บอกมาว่าเป็นธุรกิจขายอาหารเสริม ได้รับการรับรองจากอเมริกา ชื่อ......................
ตามนิสัยเด็กวัยรุ่น(เหลือน้อย)ก้เลยรีบพิมค้นหาในอากู๋ทันที หลังจากวางขายว่าสิ่งที่เค้าขายมันคืออะไร
แท่น แทน แท๊น สามวิผ่านไป รู้ตัวเลย
ซวยยยยยยยยยยยยยยละ เดี๊ยนโดนหลอกไปฟังขายตรง!!!!!!!!!
เอาวะ มาถึงขนาดนี้ละ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น เท่าที่เสิชมามันก็ต้องไปให้เห็น
ของเค้าก็ว่าดี(หมายถึง ตัวผลิตภัณฑ์) ก็น่าลองไปฟังซักครั้ง ให้มันรู้ด้วยตัวเองนี่หละ
หลังจากฟังจบทั้งหมด คิดทบทวนดูแล้วพบว่า
ธุรกิจนี้ เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้แบบ passive incomeได้จริง
แต่ตัวผลิตภัณฑ์ที่ขายคือ "ความฝัน"
โดยให้คนที่เข้ามาลงทุนวาดภาพตัวเองว่า ทำงานไม่กี่ปีแล้วจะมีรายได้งามชีวิตสุขสบาย ส่งต่อไปยังลูกหลานได้
จขกท คิดว่า มันทำได้จริงคะ
แต่การที่เราจะไปได้ถึงจุดๆนั้น เราต้องพาคนที่มีความฝันแบบนั้น หรือสร้างคนให้มีความฝันแบบนั้น
นี่แหละเป็นสิ่งที่จขกทคิดได้ว่ามันค่อนข้างจะอันตราย เพราะการที่คนระดับชั้นสูงๆที่มีรายได้ที่เค้าว่ากันว่าเดือนละหลายสิบล้านจะอยู่ได้
ก็คือต้องสร้างคนระดับใหม่ๆมารองรับ
ดังนั้นเราในฐานะที่เป็นคนเข้าใหม่ก็ต้องระวังไว้ว่า สิ่งที่เค้าวาดฝันไว้ให้
ความจริงมันจำเป็นจริงหรือ ทั้งรถหรูราคาแพง การใช้จ่ายเงินแบบไม่ต้องคิด รายได้เดือนละล้านโดยไม่ต้องทำอะไร
เราต้อง ระวังกับดักภาพฝันที่เค้าต้องทำขึ้นมาเพื่อล่อให้ คนระดับเข้าใหม่เป็นแค่ฐานล่างเพื่อให้เค้ามั่นคงและมีรายได้ต่อไป
จากความอยาก อยากมี อยากได้ อยากเป็นให้ทัดเทียมกับคนที่อยู่ในภาพโฆษณาขายฝัน
คือรู้สึกว่าก็ไม่ได้ผิดที่จะทำธุรกิจอันนี้
แต่สิ่งที่อยากให้หยุดคิดสักนิดคือ ภาพฝันที่เค้าวางไว้นั้น จำเป็นจริงหรือ
ความสุขที่ได้มาจากทรัพย์สินนอกกายจริงหรือ
บางครั้งการได้นอนอยู่บ้านเฉยๆกับคนที่เรารัก นั่งรถเมล์บ้าง ลำบากบ้างมันก็มีความสุขของมันอยู่ในตัว
อยากจะให้คิดกันว่า สิ่งที่เค้าเอามาล่อนี่มันจำเป็นกับชีวิต ขนาดนั้น เลยหรอ
เคยคิดไหมว่าต้องไปขายฝันให้คนอื่นต่อ เพื่อทำให้ตัวเองมีรายได้ เพื่อทำให้ฝันของเราเป็นจริง
ที่จขกทไม่ตัดสินใจร่วมธุรกิจนี้ เพราะจขกท ไม่อยากเหยียบย่ำ ความฝันของคนอื่นขึ้นมาเพื่อให้ความฝันของตัวเองเป็นจริง ถึงอาจจะโดนมองว่าโง่งม เป็นคน95%ที่เป็น active income แต่ก็อยากจะบอกว่าหากเราบริหารเวลาและงานดีๆ ความสุขมันก็อยู่รอบๆตัวนี่แหละคะ^^
ปลจากเวลาฟังรวมทั้งสิ้น ห้าชั่วโมงงงงงงงงงงง ชั้นยังไม่รู้เลยว่าสรุปผลิตภัณฑ์จริงๆของมันมันดียังไง ทำไมชั้นต้องใช้ ชั้นรู้แค่ว่า เสียตังสิวันนี้ สามหมื่น เพื่อแลกกับ รายได้หลักล้านในอนาคต ที่จะสบายไปทั้งชาติ.....................ไม่ขายฝันแล้วขายอะไร