สิ้นเดือนเมษา วันทำงานวันสุดท้ายก่อนหยุดยาว 5 วัน แต่วันหยุดของผมยาวกว่านั้นมาก เพราะวันนี้ผมทำงานที่นี่เป็นวันสุดท้ายแล้ว
เงินเดือนเข้าแล้วก็ ลุยยยย!!!
เริ่มนัดเจอกับเพื่อนๆที่หมอชิตใหม่ เวลาทุ่มครึ่งเนื่องจากเป็นการทำงานวันสุดท้ายก่อนจะหยุดยาว ทำให้เส้นทางไปหมอชิตใหม่คับคั่งไปด้วยรถยนต์ที่จะนำคนมาส่งยังสถานี กว่าเพื่อนๆจะมาถึงกันพร้อมก็เกือบ 2 ทุ่มครึ่งซึ่งเป็นเวลาที่รถออก การเดินทางครั้งนี้ก็ค่อนโกลาหลพอสมควร เราเดินทางด้วยรถของบุษราคัมทัวร์ราคา 550 บาท บวกค่าธรรมเนียมอีกนิดหน่อย(จองตั๋วไว้ล่วงหน้า) โดยจุดหมายปลายทางคือ ขนส่งจังหวัดหนองคาย ผมนั่งชั้นล่าง โดยรวมรถถือว่าค่อนข้างดีเลย(แหงแหละ ก็รถ วีไอพี นิ)

มีจอเล็กที่คอยให้ความบันเทิงได้ในระดับหนึ่ง มี Spoke dark TV หนังฮ่องกงเก่าๆ แต่ติดอย่างเดียวคือผมนั่งติดห้องน้ำ เหม็นฉี่มาก หลับๆตื่นๆ โผล่มากอีกทีก็สถานีขนส่งโคราช ประมาณ ตีหนึ่งกว่าๆ ก็รีบลงไปหาอะไรกิน เพราะเขาให้เวลา 20 นาที อยากบอกว่ารีบกิน รีบเข้าห้องน้ำ ผลปรากฎกว่ารถจะออกปาไป 1 ชม. เนื่องจากมีการรับผู้โดยสารกลางทาง พอดีพี่ๆทหาร ผู้รับใช้ชาติจะกลับบ้าน พอรถออกก็หลับไปอีกตื่นนึง ตื่นมาอีกที รถอยู่อุดรแล้ว เวลาประมาณ 6 โมงนิดๆ แล้วพวกเราก็ถึงปลายทางของรถคันนี้สักที “จังหวัดหนองคาย” เวลาประมาณ 7 โมงกว่าๆ

กะว่าจะนั่งรถไปเวียงจันทน์รอบ 9 โมงครึ่ง เพราะต้องรอเพื่อนที่นั่งรถตู้มาจากอุดร แต่เพื่อนก็มาถึงหลังเราไม่นาน ก็เลยรีบไปจองตั๋วรถจากหนองคายไปเวียงจันทน์ ราคา 60 บาท โดยรถที่จะไปนั้นเป็นรถทัวร์

ถือว่าโชคดีที่จองตั๋วทัน เพราะแถวๆนั้นไม่มีอะไรเลย ถ้าต้องมานั่งรออีก 2 ชม. คงเบื่อแย่เลย ได้ตั๋วแล้วก็ขึ้นรถเลย ในความโชคดีก็ยังมีความโชคร้าย เพราะพวกเราได้ตั๋วยืน สบายๆครับ แค่ 22 กม. เอง ถือว่าไม่แย่ครับ เพราะเราหาเรื่องคุยกันไปเรื่อยๆไม่ให้เบื่อ แต่คนข้างๆก็คงรำคาญเสียงพวกเราอยู่แน่ๆ ในที่สุดก็ถึงตลาดเช้า ตอนนั้นประมาณ 9 โมงครึ่ง

พอลงรถก็จะมีคนมารุม จะไปไหนกันครับ พอบอกว่าจะไปพักที่ Dream home 2 เขาคิดคนละ 50 บาท แล้วพาไปดูแผนที่ว่าอยู่ตรงไหน เกือบจะหลวมตัวไปกันแล้ว

ตัดสินใจเดินออกมาหารถรอบๆตลาดเช้า รวมถึงสำรวจพื้นที่ว่าเราอยู่ตรงไหนกัน และลุงคนเสื้อฟ้าก็บอกว่าไปไหนก็ได้ คิดคนละ 20 บาท โหหหหห!! ออกมานิดเดียวราคาต่างกันเกินครึ่ง ตัดสินใจให้ลุงพาไปเลย รถของลุงเป็นสองแถวเล็ก นั่งได้พอดี 8 คน

แต่ประเด็นคือลุงไปไม่ถูก ต้องโทรไปถามทางที่พัก แต่ลุงก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดี ลุงแกพาไปเหมือนรู้ทางแล้ว มีขับฝ่าไฟแดงบ้าง แล้วก็ไปจอดในซอยๆนึง แกคิดว่าใกล้นี้แหละ แต่พวกผมยังไม่เห็นวี่แววของที่พักเลย ลุงแกลงไปถามคนแถวนั้น และสุดท้ายก็ได้คำตอบว่าเรามาถูกที่แล้วก็จ่ายไปคนละ 20 บาท 8 คนทั้งหมด 160 บาท แล้วก็ว่าจ้างลุงแกต่อ โดยให้พาไปกินข้าว แล้วก็เที่ยวเวียงจันทน์ แกคิดคนละ 160 บาทครับ

ถึงที่พักยังไม่ทันดูห้อง ก็วางกระเป๋าไว้ล็อบบี้ แล้วก็ลุยกันต่อเลยยยยย

เริ่มด้วยการไปกินเฝอแซ่บ หรือ ก๋วยเตี๋ยวน้ำใสแบบบ้านเราเลยครับ แต่ที่นี่เครื่องเคียงดูจะเยอะกว่าก๋วยเตี๋ยวที่ไทย ราคาก็ตกที่ถ้วยละ 80 บาท สำหรับอาหารมื้อแรกในลาว รสชาติอยู่ที่การปรุงของแต่ละคนเลยครับ

สถานที่เที่ยวที่แรกคือประตูชัย ผู้คนที่มาเที่ยวไม่เยอะมาก ในประตูชัย เราสามารถเดินขึ้นไปได้ถึงชั้น 7 ชั้นที่เหมาะกับการชมวิว จะเป็นชั้น 6 สามารถเดินดูได้รอบทิศทาง อยากจะบอกว่าถนนที่นี่ตรงมากลองดูครับ

ระหว่างเดินขึ้นประตูชัย จะเห็นป้ายแบบนี้

งงมาก ใครมันจะมาซนเขียนอะไรบนกำแพงวะ? ระหว่างเดินขึ้นมานี่แทบไม่มีใครเขียนอะไรเลยครับ

แต่พอขึ้นไปชั้น 7 เท่านั้นแหละ รู้เลย เต็มไปด้วย รอยดินสอ ปากกา ที่คนขึ้นมาเขียนบอกรักกัน เต็มกำแพงเลยครับ เข้าใจเลยว่าทำไมต้องมีป้ายนี้นึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่คนไปเพื่อคล้องแม่กุญแจกันเลยครับ อารมณ์นั้นแต่ดิบกว่าหน่อย
หลังจากนั้นก็เดินทางไปพระธาตุหลวง ซึ่งมีสีทองอร่าม เห็นแต่ไกลเลย ซึ่งเวลาที่ไปคือตอนเที่ยงตรง ประตูปิดเข้าไปใกล้ๆไม่ได้ครับ

และได้ทราบว่าโดยรอบมีวัดอยู่หลายวัดเหมือนกัน แต่ไม่ได้เข้าไปในโบสถ์เลยครับหลักจากออกจากวัด ก็เดินไปร้านมือถือเพื่อซื้อซิมมาใช้เลย internet ก็คนยุคนี้มันขาดสัญญาณไม่ได้จริงๆนี่นา ถ้าขาดไปก็เหมือนขาดออกซิเจน แต่พอซื้อมาในราคาประมาณ 1 ร้อยกว่าบาท กลับใช้ไม่ได้ ผมลองเอามาใช้กับ HTC ของผมก็ใช้ไม่ได้ ลุงคนขับรถก็พาไปถนนที่มีร้านมือถือใหญ่ๆ เขาก็ทำให้ไม่ได้ เอาละ! โดนหลอกละ เสียตังฟรีแน่ ลุงเลยพาไปตลาดเช้า ลุงบอกที่ตลาดเช้าน่าจะคุยรู้เรื่อง ผมก็เอา HTC ของผมให้เขาทำ เขาก็ทำไม่ได้ บอกให้ผมโทรไปสักเบอร์หนึ่ง เพื่อเปิดสัญญาณ ก็ทำตามแล้วแต่ไม่ได้ เพื่อนผมเลยซื้อซิมอีกอันจากร้าน กลับใช้ได้ โดยส่วนตัวผมคิดว่า คนที่ร้านเขาน่าจะคุ้นกับการแก้ค่า APN ใน iPhone มากกวว่า Android ผมเลยถอดซิมคืนเพื่อน เพื่อให้เอาไปใส่ใน iPhone เขาก็ทำได้ครับ แต่คิดค่าแก้ APN นิดหน่อย 20 หรือ 40 บาท ผมไม่มั่นใจครับ
พอได้ซิมแล้วก็ลุยกันต่อที่วัดสีเมือง หรือในไทยน่าจะเรียกว่า วัดหลักเมือง ซึ่งวัดนี้เป็นวัดที่คนเวียงจันทน์ให้ความเคารพนับถือกันมานาน เหมือนเป็นวัดเก่าแก่ พวกผมก็ได้เข้าไปสักการะหลักเมือง และเดินออกมา ผมก็ได้ถามเพื่อนว่าหลักเมืองมีอะไรอยู่ ซึ่งคนลาวที่อยู่แถวนั้นก็เดินมาได้ยิน และได้บอกว่าในหลักเมืองนั้นมีศพของผู้หญิงคนที่อยู่ในรูป แล้วพอผมหันไปดูก็เป็นร้านขายรูปพร้อมกรอบของสิ่งศักดิ์สิทธ์ต่างๆ แต่ผมไม่กล้าเดินเข้าไปดูใกล้ๆ แอบกลัว
หลังจากนั้นก็ได้เดินทางไปจองตั๋วเพื่อไปวังเวียง โดยแจ้งที่พักกับเขา แล้วก็จ่ายตังเลยครับ เขาจะมารับเราตอนเช้าตรงที่ที่เราพักเลยครับ จองเสร็จก็กลับที่พัก พักผ่อนกันตามสบายครับ รออะไรล่ะ เบยลาวอย่างถูก ซัดกันแต่บ่ายเลยละกัน จิบไปเล่นพูลไป ยัน 5 โมงเย็น เริ่มเซกันแล้วครับ เซไฮกับฝรั่งนะครับ คุยไปเรื่อยเปื่อย จนท้องเริ่มร้อง ก็ตัดสินใจไปเดินริมโขงกัน เดินไปประมาณ 6-7 ร้อยเมตรจากที่พัก ก็เริ่มเห็นริมโขง เห็นตลาดนัด

เดินตลาดนัดกันสักหน่อยละกัน ก็คล้ายตลาดนัดตามเมืองท่องเที่ยวบ้านเราแหละครับ มีกระเป๋า ของกิน เสื้อเวียงจันทน์ เคสมือถือ ราคาก็ไม่ต่างจากบ้านเราเท่าไร ไม่คิดอะไรมากก็ซื้อได้ครับ พอเดินไปสักพักก็หิวกันแล้ว ร้านที่เราเลือกชื่อ เรือนจำปา มั้ง ถ้าผมจำไม่ผิด

เมนูและรสชาติอาหารไม่ได้ต่างจากบ้านเราเท่าไรครับ เรื่องอาหารก็กินกันสบายๆ โดนกันไปคนละ 2 ร้อยกว่าบาท อิ่มครับ อิ่มแล้วก็กลับ เดินไปถึงที่พักก็เมากันต่อ มีฝรั่งอยู่โต๊ะข้างๆ นั่งกันเยอะมาก และมีกับแกล้มที่ผมชอบอยู่อย่างหนึ่งคือ เฟรนช์ฟรายด์ชีส เด็ดจริงครับ บอกเลยว่าติดใจราคาน่าจะอยู่ที่ 80 บาท ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ

วันแรกก็เป็นการเที่ยวเวียงจันทน์แบบ ชิลๆไม่ได้วางแผนอะไรมากครับ เน้นเมามากกว่า แต่ได้พักที่นี่ถือว่าดีครับ ห้องกว้างขวาง นอนสบายมาก มีห้องน้ำในตัวด้วย ค่าห้องคืนแรก ตกคนละ 375 บาท คุ้มครับ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ติดตามการท่องเที่ยงของพวกเราได้ที่
https://www.facebook.com/worthwanla
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
[CR] |Worth วัน ลา| #3 เที่ยวเวียงจันทน์ - วังเวียงอย่างกะเศรษฐี ด้วยเงินเดือนก้อนสุดท้าย
เงินเดือนเข้าแล้วก็ ลุยยยย!!!
เริ่มนัดเจอกับเพื่อนๆที่หมอชิตใหม่ เวลาทุ่มครึ่งเนื่องจากเป็นการทำงานวันสุดท้ายก่อนจะหยุดยาว ทำให้เส้นทางไปหมอชิตใหม่คับคั่งไปด้วยรถยนต์ที่จะนำคนมาส่งยังสถานี กว่าเพื่อนๆจะมาถึงกันพร้อมก็เกือบ 2 ทุ่มครึ่งซึ่งเป็นเวลาที่รถออก การเดินทางครั้งนี้ก็ค่อนโกลาหลพอสมควร เราเดินทางด้วยรถของบุษราคัมทัวร์ราคา 550 บาท บวกค่าธรรมเนียมอีกนิดหน่อย(จองตั๋วไว้ล่วงหน้า) โดยจุดหมายปลายทางคือ ขนส่งจังหวัดหนองคาย ผมนั่งชั้นล่าง โดยรวมรถถือว่าค่อนข้างดีเลย(แหงแหละ ก็รถ วีไอพี นิ)
มีจอเล็กที่คอยให้ความบันเทิงได้ในระดับหนึ่ง มี Spoke dark TV หนังฮ่องกงเก่าๆ แต่ติดอย่างเดียวคือผมนั่งติดห้องน้ำ เหม็นฉี่มาก หลับๆตื่นๆ โผล่มากอีกทีก็สถานีขนส่งโคราช ประมาณ ตีหนึ่งกว่าๆ ก็รีบลงไปหาอะไรกิน เพราะเขาให้เวลา 20 นาที อยากบอกว่ารีบกิน รีบเข้าห้องน้ำ ผลปรากฎกว่ารถจะออกปาไป 1 ชม. เนื่องจากมีการรับผู้โดยสารกลางทาง พอดีพี่ๆทหาร ผู้รับใช้ชาติจะกลับบ้าน พอรถออกก็หลับไปอีกตื่นนึง ตื่นมาอีกที รถอยู่อุดรแล้ว เวลาประมาณ 6 โมงนิดๆ แล้วพวกเราก็ถึงปลายทางของรถคันนี้สักที “จังหวัดหนองคาย” เวลาประมาณ 7 โมงกว่าๆ
กะว่าจะนั่งรถไปเวียงจันทน์รอบ 9 โมงครึ่ง เพราะต้องรอเพื่อนที่นั่งรถตู้มาจากอุดร แต่เพื่อนก็มาถึงหลังเราไม่นาน ก็เลยรีบไปจองตั๋วรถจากหนองคายไปเวียงจันทน์ ราคา 60 บาท โดยรถที่จะไปนั้นเป็นรถทัวร์
ถือว่าโชคดีที่จองตั๋วทัน เพราะแถวๆนั้นไม่มีอะไรเลย ถ้าต้องมานั่งรออีก 2 ชม. คงเบื่อแย่เลย ได้ตั๋วแล้วก็ขึ้นรถเลย ในความโชคดีก็ยังมีความโชคร้าย เพราะพวกเราได้ตั๋วยืน สบายๆครับ แค่ 22 กม. เอง ถือว่าไม่แย่ครับ เพราะเราหาเรื่องคุยกันไปเรื่อยๆไม่ให้เบื่อ แต่คนข้างๆก็คงรำคาญเสียงพวกเราอยู่แน่ๆ ในที่สุดก็ถึงตลาดเช้า ตอนนั้นประมาณ 9 โมงครึ่ง
พอลงรถก็จะมีคนมารุม จะไปไหนกันครับ พอบอกว่าจะไปพักที่ Dream home 2 เขาคิดคนละ 50 บาท แล้วพาไปดูแผนที่ว่าอยู่ตรงไหน เกือบจะหลวมตัวไปกันแล้ว
ตัดสินใจเดินออกมาหารถรอบๆตลาดเช้า รวมถึงสำรวจพื้นที่ว่าเราอยู่ตรงไหนกัน และลุงคนเสื้อฟ้าก็บอกว่าไปไหนก็ได้ คิดคนละ 20 บาท โหหหหห!! ออกมานิดเดียวราคาต่างกันเกินครึ่ง ตัดสินใจให้ลุงพาไปเลย รถของลุงเป็นสองแถวเล็ก นั่งได้พอดี 8 คน
แต่ประเด็นคือลุงไปไม่ถูก ต้องโทรไปถามทางที่พัก แต่ลุงก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดี ลุงแกพาไปเหมือนรู้ทางแล้ว มีขับฝ่าไฟแดงบ้าง แล้วก็ไปจอดในซอยๆนึง แกคิดว่าใกล้นี้แหละ แต่พวกผมยังไม่เห็นวี่แววของที่พักเลย ลุงแกลงไปถามคนแถวนั้น และสุดท้ายก็ได้คำตอบว่าเรามาถูกที่แล้วก็จ่ายไปคนละ 20 บาท 8 คนทั้งหมด 160 บาท แล้วก็ว่าจ้างลุงแกต่อ โดยให้พาไปกินข้าว แล้วก็เที่ยวเวียงจันทน์ แกคิดคนละ 160 บาทครับ
ถึงที่พักยังไม่ทันดูห้อง ก็วางกระเป๋าไว้ล็อบบี้ แล้วก็ลุยกันต่อเลยยยยย
เริ่มด้วยการไปกินเฝอแซ่บ หรือ ก๋วยเตี๋ยวน้ำใสแบบบ้านเราเลยครับ แต่ที่นี่เครื่องเคียงดูจะเยอะกว่าก๋วยเตี๋ยวที่ไทย ราคาก็ตกที่ถ้วยละ 80 บาท สำหรับอาหารมื้อแรกในลาว รสชาติอยู่ที่การปรุงของแต่ละคนเลยครับ
สถานที่เที่ยวที่แรกคือประตูชัย ผู้คนที่มาเที่ยวไม่เยอะมาก ในประตูชัย เราสามารถเดินขึ้นไปได้ถึงชั้น 7 ชั้นที่เหมาะกับการชมวิว จะเป็นชั้น 6 สามารถเดินดูได้รอบทิศทาง อยากจะบอกว่าถนนที่นี่ตรงมากลองดูครับ
ระหว่างเดินขึ้นประตูชัย จะเห็นป้ายแบบนี้
งงมาก ใครมันจะมาซนเขียนอะไรบนกำแพงวะ? ระหว่างเดินขึ้นมานี่แทบไม่มีใครเขียนอะไรเลยครับ
แต่พอขึ้นไปชั้น 7 เท่านั้นแหละ รู้เลย เต็มไปด้วย รอยดินสอ ปากกา ที่คนขึ้นมาเขียนบอกรักกัน เต็มกำแพงเลยครับ เข้าใจเลยว่าทำไมต้องมีป้ายนี้นึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่คนไปเพื่อคล้องแม่กุญแจกันเลยครับ อารมณ์นั้นแต่ดิบกว่าหน่อย
หลังจากนั้นก็เดินทางไปพระธาตุหลวง ซึ่งมีสีทองอร่าม เห็นแต่ไกลเลย ซึ่งเวลาที่ไปคือตอนเที่ยงตรง ประตูปิดเข้าไปใกล้ๆไม่ได้ครับ
และได้ทราบว่าโดยรอบมีวัดอยู่หลายวัดเหมือนกัน แต่ไม่ได้เข้าไปในโบสถ์เลยครับหลักจากออกจากวัด ก็เดินไปร้านมือถือเพื่อซื้อซิมมาใช้เลย internet ก็คนยุคนี้มันขาดสัญญาณไม่ได้จริงๆนี่นา ถ้าขาดไปก็เหมือนขาดออกซิเจน แต่พอซื้อมาในราคาประมาณ 1 ร้อยกว่าบาท กลับใช้ไม่ได้ ผมลองเอามาใช้กับ HTC ของผมก็ใช้ไม่ได้ ลุงคนขับรถก็พาไปถนนที่มีร้านมือถือใหญ่ๆ เขาก็ทำให้ไม่ได้ เอาละ! โดนหลอกละ เสียตังฟรีแน่ ลุงเลยพาไปตลาดเช้า ลุงบอกที่ตลาดเช้าน่าจะคุยรู้เรื่อง ผมก็เอา HTC ของผมให้เขาทำ เขาก็ทำไม่ได้ บอกให้ผมโทรไปสักเบอร์หนึ่ง เพื่อเปิดสัญญาณ ก็ทำตามแล้วแต่ไม่ได้ เพื่อนผมเลยซื้อซิมอีกอันจากร้าน กลับใช้ได้ โดยส่วนตัวผมคิดว่า คนที่ร้านเขาน่าจะคุ้นกับการแก้ค่า APN ใน iPhone มากกวว่า Android ผมเลยถอดซิมคืนเพื่อน เพื่อให้เอาไปใส่ใน iPhone เขาก็ทำได้ครับ แต่คิดค่าแก้ APN นิดหน่อย 20 หรือ 40 บาท ผมไม่มั่นใจครับ
พอได้ซิมแล้วก็ลุยกันต่อที่วัดสีเมือง หรือในไทยน่าจะเรียกว่า วัดหลักเมือง ซึ่งวัดนี้เป็นวัดที่คนเวียงจันทน์ให้ความเคารพนับถือกันมานาน เหมือนเป็นวัดเก่าแก่ พวกผมก็ได้เข้าไปสักการะหลักเมือง และเดินออกมา ผมก็ได้ถามเพื่อนว่าหลักเมืองมีอะไรอยู่ ซึ่งคนลาวที่อยู่แถวนั้นก็เดินมาได้ยิน และได้บอกว่าในหลักเมืองนั้นมีศพของผู้หญิงคนที่อยู่ในรูป แล้วพอผมหันไปดูก็เป็นร้านขายรูปพร้อมกรอบของสิ่งศักดิ์สิทธ์ต่างๆ แต่ผมไม่กล้าเดินเข้าไปดูใกล้ๆ แอบกลัว
หลังจากนั้นก็ได้เดินทางไปจองตั๋วเพื่อไปวังเวียง โดยแจ้งที่พักกับเขา แล้วก็จ่ายตังเลยครับ เขาจะมารับเราตอนเช้าตรงที่ที่เราพักเลยครับ จองเสร็จก็กลับที่พัก พักผ่อนกันตามสบายครับ รออะไรล่ะ เบยลาวอย่างถูก ซัดกันแต่บ่ายเลยละกัน จิบไปเล่นพูลไป ยัน 5 โมงเย็น เริ่มเซกันแล้วครับ เซไฮกับฝรั่งนะครับ คุยไปเรื่อยเปื่อย จนท้องเริ่มร้อง ก็ตัดสินใจไปเดินริมโขงกัน เดินไปประมาณ 6-7 ร้อยเมตรจากที่พัก ก็เริ่มเห็นริมโขง เห็นตลาดนัด
เดินตลาดนัดกันสักหน่อยละกัน ก็คล้ายตลาดนัดตามเมืองท่องเที่ยวบ้านเราแหละครับ มีกระเป๋า ของกิน เสื้อเวียงจันทน์ เคสมือถือ ราคาก็ไม่ต่างจากบ้านเราเท่าไร ไม่คิดอะไรมากก็ซื้อได้ครับ พอเดินไปสักพักก็หิวกันแล้ว ร้านที่เราเลือกชื่อ เรือนจำปา มั้ง ถ้าผมจำไม่ผิด
เมนูและรสชาติอาหารไม่ได้ต่างจากบ้านเราเท่าไรครับ เรื่องอาหารก็กินกันสบายๆ โดนกันไปคนละ 2 ร้อยกว่าบาท อิ่มครับ อิ่มแล้วก็กลับ เดินไปถึงที่พักก็เมากันต่อ มีฝรั่งอยู่โต๊ะข้างๆ นั่งกันเยอะมาก และมีกับแกล้มที่ผมชอบอยู่อย่างหนึ่งคือ เฟรนช์ฟรายด์ชีส เด็ดจริงครับ บอกเลยว่าติดใจราคาน่าจะอยู่ที่ 80 บาท ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ
วันแรกก็เป็นการเที่ยวเวียงจันทน์แบบ ชิลๆไม่ได้วางแผนอะไรมากครับ เน้นเมามากกว่า แต่ได้พักที่นี่ถือว่าดีครับ ห้องกว้างขวาง นอนสบายมาก มีห้องน้ำในตัวด้วย ค่าห้องคืนแรก ตกคนละ 375 บาท คุ้มครับ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ติดตามการท่องเที่ยงของพวกเราได้ที่ https://www.facebook.com/worthwanla
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------