เกริ่นก่อนนะคะ คนที่ติดเงินคนนี้เดิมเป็นเจ้าของห้องพักที่เราเช่าเค้าอยู่ และปัจจุบันเราก็ซื้อห้องพักห้องนี้ต่อจากเค้าเรียบร้อยแล้ว
เงิน 3,000 ที่เค้าติดเราอยู่ คือค่ามัดจำห้องที่เราจ่ายให้เค้าตอนเราเข้ามาอยู่ในเดือนแรก จ่ายไปทั้งหมด 6,000 บาท
พอวันโอนห้อง เค้าให้คืนมาครึ่งเดียว ยังค้างอยู่ 3,000 บาท บอกว่าวันนี้เงินไม่พอ เด๋วที่เหลือค่อยว่ากัน ซึ่งเราก็ไม่ซีเรียสค่ะ จะคืนเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะถือว่าเช่าห้องเค้าอยู่มาก็เกือบ 2 ปี ถือเป็นคนรู้จักกันอยู่
ผ่านมาประมาณ 2 เดือน วันนี้เค้าติดต่อมา เหมือนประมาณว่าเค้ามีสินค้า(เครื่องใช้ไฟฟ้า) อยู่ประมาณ 20-30 เครื่องได้ฟรีมาจากไหนไม่รู้ (ไม่อยากถามรายละเอียดมาก) อยากจะให้เราเอาไปขาย (เค้าเห็นเราขายของทางเน็ตอยู่ค่ะ)
เค้าเกริ่นๆ ประมาณว่าจะให้เอาของของเค้าไปขายราคาเท่าไหร่ก็ได้ แต่ให้หักจากเงินที่ยังค้างอยู่ 3,000 ไป
ซึ่งเรามองว่าไม่แฟร์อ่ะ เพราะค่ามัดจำห้องเราก็จ่ายให้เค้าเป็นเงินสด และค่าเช่าห้องตลอด 2 ปี ไม่เคยค้าง ไม่เคยจ่ายช้าแม้แต่วันเดียว
เลยอยากให้ช่วยคิดคำปฏิเสธทีค่ะ ว่าจะปฏิเสธเค้ายังไงดี ว่าเราต้องการเงินสด ไม่อยากได้ของของเค้า
ปล.
คนคนนี้เป็นชายมีอายุ ประมาณ 57-58 ปี นิสัยหัวแข็ง เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ ถ้าความคิดเห็นคนอื่นต่างจากที่ตัวเองคิด ก็จะมองว่าผิดหมดค่ะ
ช่วยรับมือกับมนุษย์ลุงคนนี้ด้วยค่ะ
ปฏิเสธยังไงดี คนติดเงิน 3,000 จะใช้หนี้ด้วยการเปลี่ยนเป็นของ
เงิน 3,000 ที่เค้าติดเราอยู่ คือค่ามัดจำห้องที่เราจ่ายให้เค้าตอนเราเข้ามาอยู่ในเดือนแรก จ่ายไปทั้งหมด 6,000 บาท
พอวันโอนห้อง เค้าให้คืนมาครึ่งเดียว ยังค้างอยู่ 3,000 บาท บอกว่าวันนี้เงินไม่พอ เด๋วที่เหลือค่อยว่ากัน ซึ่งเราก็ไม่ซีเรียสค่ะ จะคืนเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะถือว่าเช่าห้องเค้าอยู่มาก็เกือบ 2 ปี ถือเป็นคนรู้จักกันอยู่
ผ่านมาประมาณ 2 เดือน วันนี้เค้าติดต่อมา เหมือนประมาณว่าเค้ามีสินค้า(เครื่องใช้ไฟฟ้า) อยู่ประมาณ 20-30 เครื่องได้ฟรีมาจากไหนไม่รู้ (ไม่อยากถามรายละเอียดมาก) อยากจะให้เราเอาไปขาย (เค้าเห็นเราขายของทางเน็ตอยู่ค่ะ)
เค้าเกริ่นๆ ประมาณว่าจะให้เอาของของเค้าไปขายราคาเท่าไหร่ก็ได้ แต่ให้หักจากเงินที่ยังค้างอยู่ 3,000 ไป
ซึ่งเรามองว่าไม่แฟร์อ่ะ เพราะค่ามัดจำห้องเราก็จ่ายให้เค้าเป็นเงินสด และค่าเช่าห้องตลอด 2 ปี ไม่เคยค้าง ไม่เคยจ่ายช้าแม้แต่วันเดียว
เลยอยากให้ช่วยคิดคำปฏิเสธทีค่ะ ว่าจะปฏิเสธเค้ายังไงดี ว่าเราต้องการเงินสด ไม่อยากได้ของของเค้า
ปล.
คนคนนี้เป็นชายมีอายุ ประมาณ 57-58 ปี นิสัยหัวแข็ง เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ ถ้าความคิดเห็นคนอื่นต่างจากที่ตัวเองคิด ก็จะมองว่าผิดหมดค่ะ
ช่วยรับมือกับมนุษย์ลุงคนนี้ด้วยค่ะ