ต้องขอเล่านิดนึงว่า คือตัวเราเองเริ่มเป็นครั้งแรกตั้งแต่อายุ 2 ขวบ
รักษารพ.รามาธิบดีมาตลอด และมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เป็นหนักมากต้องพาส่งรพ.ที่ใกล้ที่สุด ตอนนั้นเองถึงได้เข้า รพ.บํารุงราษฎร์ ซึ่งอยู่ใกล้บ้านที่สุด
ในตอนนั้นเองเราจำได้ไม่ลืม อาจารย์หมอที่รพ.บํารุงราษฎร์ ได้ขอให้เราเป็นเคสคนไข้ที่หมอเองไม่เคยเจอมาก่อน เพื่อศึกษาในสิ่งที่เราเป็นอยู่ในตอนนั้น
ด้วยความที่เงินไม่ค่อยจะมี และค่ารักษาพยาบาลในรพ.บํารุงราษฎร์ ค่อนข้างที่จะแพงมากพอสมควร หมอที่รักษาเราในตอนนั้น เค้าจึงแนะนำแม่และยาย
ว่าจะเขียนชื่อยาให้ แล้วลองไปซื้อที่ร้านยาข้างนอกดู อาจจะถูกกว่าในรพ. แน่ ๆ ซึ่งในครั้งแรกเลยทางรพ.จ่ายยาให้ ยาแรง ยานอก ยาดี กินแล้วดีขึ้น
แต่ก็ต้องกินต่อไป ครั้งที่สองหมอเลยแนะนำให้ซื้อข้างนอกเอาค่ะ
หลังจากที่ผลตรวจเลือดและสิ่งต่าง ๆ ออกมาพบว่า หมอบอกว่าเราติด 1 ใน 100 ที่จะเป็นแบบนี้ และการรักษาที่ดีที่สุดคือการกินยาไปตลอดชีวิต
เพราะมันไม่มีวันหายแล้ว ไม่เข้าใจว่า มันมีหรือที่ว่า ระยะสุดท้ายของภูมิแพ้ที่เป็นอยู่ หมอไม่แนะนำให้ยาโดยการฉีด แต่แนะนำแค่ว่าให้ทานยาไปเรื่อย ๆ
จนช่วงประมาณ ป.5 ได้รับคำแนะนำจากคุณหมอที่รพ.รามาธิบดี ให้มารักษาต่อที่ รพ.พระมงกุฎ ที่อาคารพัชรกิติยาภา
ช่วงนั้นเท่าที่จำความได้ยาของเรามากขึ้นเรื่อย ๆ จาก 7 ชนิด เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนมากสุดเท่าที่กินคือ 15 เม็ด ต่อครั้ง
ตอนป.5 พอย้ายมารพ.พระมงกุฎ หมอให้ทำเทสโดยการตรวจปัสสาวะ อุจจาระ และตรวจเลือดโดยการใช้เลือดตรงข้อพับแขนสองข้าง ใช้สลิงดูดเลือด
2 หลอด และเอาเลือดตรงป้ายนิ้วทุกนิ้ว 10 นิ้ว และเทสตรงหลังด้วย 19 จุด โดยที่พยาบาลจะเขียน 1-19 ไว้ตรงหลัง และเหมือนจะหยดเชื้อมั่ง
ตามตัวเลขที่เขียน และใช้เข็มสะกิดให้เลือดออก ทั้ง 19 ครั้ง
โดยที่ผลที่ออกมาคือ เราแพ้ทั้งหมด 8 อย่าง มี มด,แมลงสาป,เกสรดอกไม้,ไร้ฝุ่น,ขนสัตว์,อาหารทะเล,อากาศที่เปลี่ยนแปลง(แสงแดด),นมวัว
ในตอนนั้นนะค่ะ แต่ตอนนี้ไม่รู้มีอะไรเพิ่มเติมมาอีกไหม จริง ๆ รายละเอียดมีเยอะกว่านี้อีกนะ แต่พอก่อนดีกว่า
อยากให้กำลังใจคนที่เพิ่งเริ่มเป็นนะค่ะ ถึงจะทรมานมากแค่ไหน ขอให้คิดอย่างเดียวว่า มันต้องหาย และเราต้องดีขึ้นแค่นั้น
ปัจจุบันนี้อาการของเรายังไม่หายนะค่ะ ยังเป็นอยู่ และมีอาการผลร่วงมากขึ้นด้วย และมีผื่นขึ้นตรงหน้าเป็นรูปผีเสื้อด้วย ปวดข้อบ่อย เลยไม่รู้ว่าปัจจุบันนี้
เราเป็นโรคอื่นหรือเปล่า หมอยังคงเฝ้าดูอาการเราตลอด และอาจจะใช้ชีวิตอยู่ยากหน่อยในช่วงนี้เพราะอากาศร้อนมากจริง ๆ
แต่ไงก็ขอให้วันนึงผ่านไปด้วยดีค่ะ เราคิดแค่นี้
อยากถามว่าจากคนที่เป็น ภูมิแพ้ผิวหนังเรื้อรัง จะกลายเป็น SLE ได้เหรอค่ะ ?
รักษารพ.รามาธิบดีมาตลอด และมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เป็นหนักมากต้องพาส่งรพ.ที่ใกล้ที่สุด ตอนนั้นเองถึงได้เข้า รพ.บํารุงราษฎร์ ซึ่งอยู่ใกล้บ้านที่สุด
ในตอนนั้นเองเราจำได้ไม่ลืม อาจารย์หมอที่รพ.บํารุงราษฎร์ ได้ขอให้เราเป็นเคสคนไข้ที่หมอเองไม่เคยเจอมาก่อน เพื่อศึกษาในสิ่งที่เราเป็นอยู่ในตอนนั้น
ด้วยความที่เงินไม่ค่อยจะมี และค่ารักษาพยาบาลในรพ.บํารุงราษฎร์ ค่อนข้างที่จะแพงมากพอสมควร หมอที่รักษาเราในตอนนั้น เค้าจึงแนะนำแม่และยาย
ว่าจะเขียนชื่อยาให้ แล้วลองไปซื้อที่ร้านยาข้างนอกดู อาจจะถูกกว่าในรพ. แน่ ๆ ซึ่งในครั้งแรกเลยทางรพ.จ่ายยาให้ ยาแรง ยานอก ยาดี กินแล้วดีขึ้น
แต่ก็ต้องกินต่อไป ครั้งที่สองหมอเลยแนะนำให้ซื้อข้างนอกเอาค่ะ
หลังจากที่ผลตรวจเลือดและสิ่งต่าง ๆ ออกมาพบว่า หมอบอกว่าเราติด 1 ใน 100 ที่จะเป็นแบบนี้ และการรักษาที่ดีที่สุดคือการกินยาไปตลอดชีวิต
เพราะมันไม่มีวันหายแล้ว ไม่เข้าใจว่า มันมีหรือที่ว่า ระยะสุดท้ายของภูมิแพ้ที่เป็นอยู่ หมอไม่แนะนำให้ยาโดยการฉีด แต่แนะนำแค่ว่าให้ทานยาไปเรื่อย ๆ
จนช่วงประมาณ ป.5 ได้รับคำแนะนำจากคุณหมอที่รพ.รามาธิบดี ให้มารักษาต่อที่ รพ.พระมงกุฎ ที่อาคารพัชรกิติยาภา
ช่วงนั้นเท่าที่จำความได้ยาของเรามากขึ้นเรื่อย ๆ จาก 7 ชนิด เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนมากสุดเท่าที่กินคือ 15 เม็ด ต่อครั้ง
ตอนป.5 พอย้ายมารพ.พระมงกุฎ หมอให้ทำเทสโดยการตรวจปัสสาวะ อุจจาระ และตรวจเลือดโดยการใช้เลือดตรงข้อพับแขนสองข้าง ใช้สลิงดูดเลือด
2 หลอด และเอาเลือดตรงป้ายนิ้วทุกนิ้ว 10 นิ้ว และเทสตรงหลังด้วย 19 จุด โดยที่พยาบาลจะเขียน 1-19 ไว้ตรงหลัง และเหมือนจะหยดเชื้อมั่ง
ตามตัวเลขที่เขียน และใช้เข็มสะกิดให้เลือดออก ทั้ง 19 ครั้ง
โดยที่ผลที่ออกมาคือ เราแพ้ทั้งหมด 8 อย่าง มี มด,แมลงสาป,เกสรดอกไม้,ไร้ฝุ่น,ขนสัตว์,อาหารทะเล,อากาศที่เปลี่ยนแปลง(แสงแดด),นมวัว
ในตอนนั้นนะค่ะ แต่ตอนนี้ไม่รู้มีอะไรเพิ่มเติมมาอีกไหม จริง ๆ รายละเอียดมีเยอะกว่านี้อีกนะ แต่พอก่อนดีกว่า
อยากให้กำลังใจคนที่เพิ่งเริ่มเป็นนะค่ะ ถึงจะทรมานมากแค่ไหน ขอให้คิดอย่างเดียวว่า มันต้องหาย และเราต้องดีขึ้นแค่นั้น
ปัจจุบันนี้อาการของเรายังไม่หายนะค่ะ ยังเป็นอยู่ และมีอาการผลร่วงมากขึ้นด้วย และมีผื่นขึ้นตรงหน้าเป็นรูปผีเสื้อด้วย ปวดข้อบ่อย เลยไม่รู้ว่าปัจจุบันนี้
เราเป็นโรคอื่นหรือเปล่า หมอยังคงเฝ้าดูอาการเราตลอด และอาจจะใช้ชีวิตอยู่ยากหน่อยในช่วงนี้เพราะอากาศร้อนมากจริง ๆ
แต่ไงก็ขอให้วันนึงผ่านไปด้วยดีค่ะ เราคิดแค่นี้