เรื่องเล่าประสบการณ์ลี้ลับ...อยู่มาได้ตั้งหลายปี...ห้องนี้มีคนผูกคอตาย

ขอเกริ่นก่อนเล่าเรื่องนะคะ ต้องขอออกตัวก่อนค่ะว่า กระทู้นี้เป็นเรื่องแต่งค่ะ มีความจริงผสมอยู่บ้าง แล้วก็ตีไข่ใส่สีให้ดูเว่อร์ๆค่ะ
ใครจะลองเดาว่าอันไหนจริงไม่จริงก็ได้นะคะ ไม่ห้ามเลยค่ะ
สำหรับผู้อ่านไม่ควรขี่หรือปั่นจักรยานขณะอ่านนะคะ อันตรายค่ะ เดี๋ยวโดนรถสอยไปได้ค่ะ แต่ถ้าปั่นในฟิตเนสไม่ว่ากันค่ะ


เรื่องที่เราจะเล่าเป็นประสบการณ์เจอเรื่องลี้ลับในบ้านหลังหนึ่งที่เราอาศัยอยู่ช่วงประถมถึงมัธยมค่ะ
ต้องขอเล่ารายละเอียดคร่าวๆก่อนนะคะ บ้านหลังนี้เป็นบ้านในปั๊มน้ำมันปั๊มใหญ่ที่คนขับรถจากจังหวัดหนึ่งในภาคเหนือเข้ากรุงเทพต้องผ่านทุกคนค่ะ
ถ้าใครขับวนไปห้องน้ำผ่านลานหลังที่ถ่ายน้ำมันเครื่องของปั๊ม จะเห็นบ้านสองชั้นหลังคาสีแดงหม่นๆหลังนี้ค่ะ

ครอบครัวของเราซื้อปั๊มมาแล้วได้บ้านเป็นของแถม ก่อนหน้าที่จะมีใครมาอยู่บ้านหลังนี้ปิดร้างไว้ราว 5 ปีขึ้นไป
แต่เคยได้ยินจากคนแถวนั้นเห็นบอกว่า 8 ปี ก็ไม่รู้ว่ามันนานแค่ไหนกันแน่ ตอนนั้นก็ไม่เคยจะสนใจ
พอไม่มีคนอยู่บ้านก็กลายเป็นที่มั่วสุมของเด็กแถวนั้นบ้าง เป็นที่นอนให้พวกสุนัขจรจัดที่มีคนเอามาทิ้งในปั๊มบ้าง

บ้านหลังนั้นมี 2 ชั้นค่ะ แปลนของบ้านจะเหมือนกันทั้ง 2 ชั้นคือข้างบนมี 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ
ห้องน้ำจะอยู่มุมบ้านและมีประตูเปิดหาห้องนอนทั้ง 2 ห้องค่ะ แต่ชั้นล่างจะยังมีบริเวณที่เป็นห้องโถงอยู่
ข้างบนขึ้นบันไดก็เจอห้องนอนเลย มีที่โผล่ออกมาให้เดินได้แค่นิดเดียว
ข้างล่างเป็นที่นอนของพนักงานบัญชีในปั๊ม ผู้จัดการปั๊ม คนขับรถน้ำมัน อะไรทำนองนี้ค่ะ ส่วนข้างบนห้องใหญ่พ่อกับแม่เราอยู่ ห้องเล็กเป็นห้องของเรา
ด้วยความที่มันเข้าออกกันได้ตลอด ประตูล่างของบ้านเลยไม่มีการล็อก แต่ล็อกแน่นหน้าก็คือห้องใครห้องมัน

เราย้ายเข้ามาอยู่บ้านนี้ได้ตอน 10 ขวบ แต่แม่เข้ามาอยู่ก่อนแล้วประมาณ 3-4 เดือน (ก่อนหน้านั้นเราอยู่รร.ประจำค่ะ)
แม่ก็พยายามปรับปรุงดูแลบ้านให้คนพอจะอยู่ได้ แต่มันก็ยังมีปัญหาพวกหลังคารั่วน้ำหยัด อะไรแบบนี้อยู่ดี เพราะว่ามันเก่ามากแล้ว
ช่วงปีแรกที่เราอยู่เรานอนกับพี่พนังงานบัญชีอีกคนหนึ่งค่ะ เหมือนมานอนเป็นเพื่อนอะไรอย่างนั้น จนพี่เขามีแฟนไป

ตัวเราเองเริ่มมีปัญหากับการนอน...เราถูกปลุกให้ตื่นตอนช่วงตี 3 ตี 4 ทุกวัน บางทีก็นึกว่าแม่มาปลุก
เคยถึงขั้นลุกไปอาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียนแล้วเดินไปหาพ่อให้พ่อไปส่งที่โรงเรียน
บางวันก็รีบมาก เหมือนว่ามันสายแล้ว แต่จริงๆแล้วมันยังไม่เช้าเลย ยังไม่ตีห้าด้วยซ้ำ
เป็นบ่อยเข้าเป็นปีๆ พ่อแม่ก็หาสาเหตุไม่ได้ ตัวเราเองก็ไม่มั่นใจว่าตื่นขึ้นมาเพราะอะไร แล้วมันก็ดูผิดวิสัยเด็กอายุ 10-11 ขวบที่จะตื่นมากลางดึกด้วยค่ะ
จนกลายเป็นว่าเราต้องใส่นาฬิกาข้อมือนอนทุกคืน พอตื่นมาแล้วจะต้องมองนาฬิกาก่อนว่ากี่โมงแล้ว ค่อยนอนต่อ หรือไม่ก็ไปนอนกับพ่อแม่

ตอนนั้นเรายังเด็กจัด อาจจะยังไม่ค่อยรับรู้อะไร แล้วยิ่งไม่รับรู้อะไรไปกันใหญ่ เมื่อน้าสาวย้ายเข้ามาอยู่แล้วนอนห้องเดียวกับเรา
ขอเรียกว่าน้าชมพูแล้วกันนะคะ น้าชมพูเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ สูงไม่ถึง 150 แต่เป็นคนจิตแข็ง จนเราเชื่อว่าผีก็ทำอะไรน้าชมพูไม่ได้
ถ้าใครอยากฟังเรื่องน้าชมพูเดี๋ยวเราจะเล่าให้ฟังเพิ่มค่ะ เรานอนอยู่กับน้าชมพูตั้งแต่อยู่บ้านยายสมัยเรียนอนุบาล จนย้ายมาบ้านใหม่แล้วอยู่ยันจบม.5
เขาเคยเจอเรื่องหลอนๆแล้วเล่าให้ฟัง.. ตัวเราที่ฟังก็ได้แต่อึ้งว่า ทำไปได้ยังไง๊???

พอน้าชมพูย้ายมาอยู่ด้วย อาการนอนๆไปแล้วตื่นกลางดึกของเราก็ลดน้อยลง
แต่กลายเป็นว่าผู้อยู่อาศัยเก่าที่มองไม่เห็นไปป้วนเปี้ยนกับคนที่อยู่ชั้นล่างแทน.....
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่