ทริปนี้ เราจัดเที่ยวกัน สามวัน สองคืน โดยวันแรก เราเลือกไปปั่นที่ อุทยานไทยประจัน และตั้งใจจะเซอร์เวย์เส้นทางใหม่ ปั่นรอบอ่างแม่ประจัน โดยมีแผนค้างคืนกันที่อุทยานน้ำตกกวางโจว วันที่สอง เป็นวันที่ปั่นกันเยอะหน่อย โดยพวกเราตั้งใจปั่นจากน้ำพุร้อนหนองหญ้าปล้อง ไป น้ำตกแม่กระดังลา และวันสุดท้าย เราตื่นกันแต่เช้าเพื่อไปแช่น้ำร้อน ที่น้ำพุร้อน หนองหญ้าปล้องและเหมือนเช่นเคยก่อนกลับก็จะสำรวจเส้นทาง ใหม่ ๆ เพื่อเตรียมมาเยือนอีกครั้งในทริป ต่อไป เส้นทางสำรวจครั้งนี้คือ หมู่บ้านโป่งลึก  ซึ่งเป็นหมู่บ้านของต้นน้ำเพชรบุรี

          อาทิตย์แรกของเดือนเมษา เป็นวันหยุดยาว บางแก้วไบค์ ตัวน้อย ๆ น้องปิ่นกับพี่ป่าน อยากไปเที่ยวเล่นน้ำ เข้าป่าเพื่อหลบร้อน เราก็เลยจัดทริปเล็ก ๆ ในครอบครัวโดยไม่ลืมชวนเพื่อนคู่หู กลุ่มเดิม พี่แซน พี่ออย และ น้องเอิรน์ไปด้วย
ทริปนี้ เราวางแผนไปกัน สามวัน 2 คืน เป้าหมายของวันแรกคืออุทยานแห่งชาติไทยประจัน จังหวัดราชบุรี เราออกดินทาง 6 โมงเช้า ใช้เวลา ประมาณ 2 ชั่วโมงเศษ ในการเดินทางระยะทาง 156 กิโลเมตร เราก็ถึงที่จอดรถ อุทยานแห่งชาติไทยประจัน ที่จอดรถสะดวกปลอดภัย รวมทั้งมีห้องน้ำบริการด้วยค่ะ โดยทริปนี้เราตั้งใจจะไปปิคนิคกันกลางป่าค่ะ เราจึงจัดแจงเตรียมอาหาร สำหรับมือกลางวัน มาด้วยคะ ทริปนี้ต้องขอขอบคุณคุณหนุ่มบ้านป้าย สำหรับ บริการ รถกระบะ 4WD เป็นรถเซอร์วิส ของเราในทริปนี้  อีกทั้งคนที่ขาดไม่ได้เป็นอย่างยิ่ง คือ ไก่ คนขับรถเซอร์วิสมือเทพ ประจำคณะ ของเราค่ะ
          อุทยานไทยประจัน เส้นทาง ความยากระดับสอง เหมาะกับนักปั่นที่เคยปั่นเข้าป่ามาบ้าง รู้จักทรงตัวบนหินลอย ความสวยงาม หากไปหน้าฝน หรือหน้าหนาว ทุกสถานทีทความสวยงามระดับ 4 แต่หากเป็นหน้าร้อน ความสวยงามระดับ 2++ ระยะทางรวมไปกลับ 14 กิโลค่ะ ทริปนี้  ใช้เวลาเข้าออก ประมาณ 2 ชั่วโมง ไม่รวมนั่งพักทานอาหารกลางวันนะคะ ติดตามชมภาพ เส้นทางในป่าได้เลยค่ะ
          ปั่นออกจากอุทยานมา เราเลี้ยวขวา มาเล็กน้อยเจอด่านตรวจ จากนั้น ก็จะเห็นทางแยก ขึ้น เริ่นไปยังเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เริ่มต้น ก็ขึ้นเนินยาวแล้วค่ะ พอพ้นเนิน ก็หายเหนื่อยค่ะ จุดชมวิวเป็นอ่างเก็บน้ำ บรรยากาศ สวยงาม ตามภาพเลยค่ะ

มองเห็นพวกหนูไหมคะ ป๊า ถ่ายจากฝั่งกระโน้นไกล ลิบ ๆ




พ้นอ่างเก็บน้ำไปเส้นทางร่มรื่น มาก ๆ พื้นถนน ลูกรัง ปูพรมด้วยใบไผ่ สองข้างทาง มีต้นไผ่เป็น รั้วกั้นขอบถนน ตลอดสองข้าง ทาง ยาว ๆ





ป่าไผ่ร่มรื่น ลดความร้อนจากภายนอกลงไปได้มาก ยิ่งปั่น ยิ่ง เย็น  พลังงานลมที่สร้างจากสองขาของเราเอง



ธารน้ำ นี้ มีหินก้อนใหญ่ขวางอยู่ จะปั่นยาว ตรงกลางน้ำลึก เกิน ครึ่งล้อ ไม่สามารถปั่นผ่านไปได้ เข็น ค่ะ พ้นน้ำมา ก็ปั่นขึ้นเนินเลยค่ะ




ฝายน้ำ หน้าแล้ง เลยเป็น นี้ ถ้าเป็นหน้าน้ำ คงสวยน่าดู เอาไว้ไปใหม่ หน้าฝนจะเก็บภาพสวยงามมาฝากนะคะ


ยังคงปั่นขึ้นเนินกันต่อไป

แล้ว ก็เจอธารน้ำ ที่ 3 ผู้ใหญ่ปั่น เด็กเข็น เพราะน้ำลึกเกิน ครึ่งล้ออีกเหมือนเคย


แล้ว ก็เจอธารน้ำ ที่ 3 ผู้ใหญ่ปั่น เด็กเข็น เพราะน้ำลึกเกิน ครึ่งล้ออีกเหมือนเคย


เราปั่นเข้ามาจนเห็นป้าย ห้วย   4 โตรกลีลา  .ให้ตรงเข้าไปต่อ


จากตรงนี้ ป่าเริ่มทึบขึ้น ใบไผ่เต็มพื้น ไม่เห็นพื้นถนน กลางเป็นพรมใบไผ่ กันเลยทีเดียวค่ะ





ป้ายโตรกลีลา เหมืองเก่า

          แสดงว่า ยังมีทางให้ไปต่อได้ เราไปกันต่อ เด็ก ๆ เริ่มหิว ตรงนี้เรามากันได้ประมาณ 6 กิโล เลย ให้เด็ก ๆ ปั่นย้อนออกไป เพื่อไปนั่งทานข้าวตรง ใกล้ ๆ ธารน้ำ  ส่วนผู้ใหญ่ปั่นเข้าไปสำรวจจนสุดทาง ยิ่งปั่นยิ่ง ร่ม ยิ่งปั่นยิ่งชัน ไปจน ไม่มีถนน เพราะถูกป่าไผ่ บดบังจนมิด ก็เลยตัดสินใจปั่นย้อนออกมาสบทบเด็ก ๆ รวม ๆ ที่อุทยานไทยประจัน ปั่นเข้าไปจนสุด น่าจะได้ประมาณ 9 กิโลค่ะ แต่เด็ก ๆ ปั่นเข้ากันนประมาณแค่ 6 กิโล ก็หมดแรง เพราะโดยภาพรวม ขึ้นเนินซะเยอะ ค่ะ

ภาพบรรยากาศขากลับ เป็นทางลงทีนี้ ปั่นออกกันสนุก สนานเลยค่ะ



แป๊บเดียว ถึงอ่างน้ำแล้ว






      เรา จบทริปปั่นของวันนี้ เท่านี้ค่ะ แต่ทริปเที่ยวยังไม่จบนะคะ ก่อนจะมุ่งหน้าสู่ที่พัก อุทยานแห่งชาติกวางโจ เราไม่ยอมเสียเวลาเปล่า เราทำการสำรวจเส้นทาง อ่างเก็บน้ำไทยประจัน เพื่อเก็บไว้หนาวนี้ ได้กลับมาปั่นเที่ยวอีกครั้ง