เมื่อผมพูดในสิ่งที่ผิด ภารกิจเซอร์ไพรส์ง้อแฟนจึงบังเกิด

ก่อนเริ่มเรื่อง ผมอยากเขียนเรื่องราวชีวิตจริง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อแบ่งปันให้ผู้อ่านไม่ว่าจะมีแฟนหรือไม่มี
ขอให้มี"สติ"ใช้ความคิดก่อนการพูดออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนรัก และ/หรือ ครอบครัว

หวังว่าเรื่องราวนี้จะทำให้บางคู่ที่ผิดใจกันอยู่ ฉุกคิด หันมาให้อภัยแก่กัน และหันหน้าเข้าหากันเพื่อแก้ปัญหา
หรือทำความเข้าใจกับความคิด/ทัศนคติของ"คนรัก"ของคุณ เพื่อท้ายสุดแล้ว คุณจะได้เข้าใจกันมากขึ้น

เพราะคำพูดเมื่อพูดออกไปแล้ว ต่อให้อภัยได้ ก็ไม่สามารถลืมได้ลงครับ...

ผมกับแฟน อยู่กันคนละประเทศครับ เรารู้จักและคบกันมาราวๆห้าเดือนแล้ว
และสี่วันก่อนที่ผมจะบินกลับไทยตามกำหนดการเดิม ก็เกิดเรื่อง...

วันนั้น เนื่องด้วยผมเริ่มมีอาการไอ จึงนอนหลับยามบ่ายหลังจากกินยา เพื่อพักผ่อน และแฟนก็ทำอะไรตามปกติ
ในตอนค่ำ ก็ไลน์คอลล์คุยกันปกติ แต่แล้ว อยู่ดีๆ ผมก็อารมณ์เสีย กับสิ่งที่เค้าพูด (ซึ่งหากฟังจนจบทั้งเรื่อง จะไม่เกิดเรื่องแบบนี้)
ทันทีหลังจากนั้น ผมมีอาการ"น๊อตหลุด" อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนตั้งแต่คบกับแฟนคนนี้

อยู่ดีๆ ผมก็เริ่มตวาดแฟน แสดงอารมณ์ฉุนเฉียว และไม่ฟังเหตุผลใดๆ อีกทั้งพูดประชดประชันแฟน
ด้วยความทิฐิและพูดแย่มาก จนแฟนร้องไห้ไม่หยุด... ผ่านไปราวๆสองชั่วโมง พอผมเริ่มสงบสติอารมณ์ลง...

มาถึงจุดนี้ ผมเชื่อว่า ผู้อ่านทุกคน คงเคยผ่านจุดนี้มาแล้ว ในการคบหาใครสักคน ไม่ว่าจะเป็นเพราะความต้องการเอาชนะ หรือทิฐิ
หรืออะไรก็แล้วแต่ ซึ่งทั้งหมดนี้ ไม่ได้มีประโยชน์ใดๆเลย และไม่ได้เป็นการแสดงความรักด้วยประการทั้งปวง

ผมนั่งทบทวนดูว่าแฟนพูดอะไรผิด จริงๆแล้ว เค้าไม่ได้พูดอะไรผิดเลย เพียงเค้าไม่พูดในสิ่งที่เราอยากได้ยิน
ก็เอามาเป็นประเด็น ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่... ความรู้สึกผิดเริ่มถาโถมเข้ามา และพบก็ได้ขอโทษคุณแฟน ซ้ำแล้วซ้ำอีก

แต่เหมือนจะสายเกินไป เค้าขอห่างผม"สักระยะ" และเค้าบอกผมตรงๆว่าสิ่งที่ผมพูดนั้น เค้าไม่คิดเลยว่า
จะออกจากปากผมได้ คนที่คอยเป็นคู่คิดเค้ามาตลอด คนๆนั้นหายไปไหน เกิดอะไรขึ้นกับผมในวันนั้น เค้าได้แต่โทษตัวเอง
และการโทษตัวเองนั่น ก็มาจากคำพูดของผมเองที่พูดไปอย่างประชดประชัน คืนนั้น ผมนอนไม่หลับ ได้แต่ด่าตัวเอง และเชื่อว่า
แฟนผมเองก็คงนอนไม่หลับเช่นกันและได้แต่โทษตัวเอง และเสียใจมากๆกับคำพูดจากปากของคนที่เค้าเรียกว่า"แฟน"

วันแรกหลังจากที่ผมได้พูดจาไม่ดีออกไป... ผมไปทำงานเหมือนเป็นเพียงหุ่นยนต์ ไปทำงานและกลับบ้านปกติ
แต่ผมพอทราบจากเพื่อนสนิทแฟนว่า เค้าไปทำงาน และอยู่ดีๆเค้าก็จะน้ำตาไหล เค้าร้องไห้ทั้งวันคืน นอนไม่หลับ...
ความรู้สึกผิดยิ่งทับถมในสมองอันน้อยนิดของผม ผมทำคนที่ผมบอกว่ารัก...เสียใจ...

ผมคิดว่า "หากเราไม่ทำอะไรสักอย่าง เราต้องเสียคนดีๆคนนี้ไปแน่ๆ อย่างน้อย ขอให้ผมขอโทษเค้าต่อหน้า
และหากเค้าไม่ให้อภัยต่อคำพูดไม่ดีเหล่านั้นไปได้ อย่างน้อยผมก็ได้อธิบายให้เค้าทราบว่ามันเกิดจากอะไรและเค้าไม่ได้ผิดเลย
ผมเพียงได้แต่ขอขอบคุณสำหรับเวลาที่ดีที่มีด้วยกัน และคงได้แต่เพียงขอโอกาส"
เมื่อคิดได้ดังนั้น ผมจึงรีบล๊อกอินระบบสายการบิน ขอเลื่อนวันเดินทางกลับบ้านขึ้นมาเร็วขึ้นหนึ่งวัน เพื่อเซอร์ไพรส์แฟน
ดังนั้น เหลืออีกเพียงสองวัน ผมก็จะกลับบ้าน...

วันที่สองหลังจากที่ผมได้พูดจาไม่ดีออกไป... เช้าวันนั้น เค้าเริ่มตอบไลน์และนั่นก็ทำให้ผมเริ่มรู้สึกมีความหวัง
ทั้งนี้ เค้ายังบอกกับผมอีกว่า "เค้าไม่ได้โกรธผม และผมก็ไม่ต้องขอโทษเค้าหรอก แต่เค้าเสียใจมาก กับคำพูดที่ผมพูด
ที่ทำให้เค้าคิดว่า เค้าเป็นอย่างที่ผมพูดจริงๆผมจึงระเบิดออกมา​" ซึ่งนั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิดในใจมากๆ เค้าเป็นคนที่ใจกว้าง
และเป็นแฟนที่ดีมาก ที่ดีที่สุดที่ผู้ชายคนนึงพึงมี เค้าเป็นคนใจเย็น น่ารัก โอบอ้อมอารี และมักนึกถึงผู้อื่นก่อนตนเองเสมอ
ผมเชื่อว่าผมพบคนที่จะมาเป็นภรรยาที่ดีในอนาคต ในชีวิตแล้ว... แต่ทำยังไงล่ะ ในเมื่อผมอาจจะเสียเธอไป ด้วยปากของผมเอง...

ต้องขอขอบคุณเพื่อนของแฟนที่คอยดูแลแฟนแนะนำ ผมจึงทำตามคำแนะนำนั้น และส่งอีเมลที่เป็นเหมือนฎีกา
ร่ายความผิดที่ทำได้ก่อไว้ และความรู้สึกของผมเมื่อผมเรียกสติและความคิดอ่านกลับมา ซึ่ง มีสามคำหลัก
ที่ผมได้คิดด้วยดีแล้ว และจะปฏิบัติตามสัญญา นั่นคือคำว่า "ขอโทษ" "ขอบคุณ" และ "ขอโอกาส"

วันที่สามหลังจากที่ผมได้พูดจาไม่ดีออกไป... ผมได้เลื่อนตั๋วมาเป็นคืนวันนี้
ในช่วงเช้าผมส่งข้อความอรุณสวัสดิ์ และขอโอกาสให้ได้คุยกับเค้า ขอโทรหาเค้าตอนหลังงานเลิก...
ซึ่งในวันนี้ เค้าเองก็เริ่มเปิดใจมากขึ้น และผมย้ำๆๆๆๆ ว่าสิ่งที่ผมพูดในวันนั้น ผมไม่ได้หมายความแบบนั้นเลย
มันเป็นเพียงคำพูดจากอารมณ์ ขาดความยั้งคิดและการพิจารณา ซึ่งเค้าตอบตกลง ที่จะรับสายผม

ผมดีใจมาก! แต่!! ผมต้องบินกลับ เครื่องออกราวๆสองทุ่มครึ่ง และเครื่องจะลงที่กทม.เวลา 22:05น.
ดังนั้น ผมจึงต้องหาทางให้แฟนไม่กระวนกระวายระหว่างที่ผมเงียบหายไป...

ตอนหกโมงเย็น ผมจึงไลน์บอกแฟนว่า ที่ทำงานมีเลี้ยงฉลองการเลื่อนตำแหน่งของผู้จัดการผม
(ซึ่งจริงอยู่ที่เค้าเพิ่งได้เลื่อนตำแหน่งและแฟนก็ทราบ แต่งานเลี้ยงนั้นจริงๆแล้วเป็นกลางเดือนมิ.ย.)
และอาจกลับบ้านไม่เกินเที่ยงคืน ซึ่งก็คือเวลาห้าทุ่มในประเทศไทย (ผมจำเป็นต้องโกหก เพื่อให้เซอร์ไพรส์สำเร็จ)
ซึ่งผมกะว่าผมจะต้องไปถึงคอนโดแฟนภายในหนึ่งชั่วโมงทันทีหลังเครื่องลง

ทันทีที่เครื่องลง ผมกึ่งเดินกึ่งวิ่งรีบไปเข้าด่านตม. และรีบหาแท็กซี่ มุ่งตรงไปคอนโดแฟน ณ เวลานั้น เวลาราวๆ 22:37น. แล้ว

เวลา 23:02น. แท็กซี่มาถึงคอนโดแฟนแล้ว ระหว่างนั้น ผมรีบเปลี่ยนซิมการ์ดเพื่อจะได้ติดต่อแฟนได้ แต่...
ตอนนั่งอยู่ในแท็กซี่ ผมกด #123# พบว่า "ยอดเงินคงเหลือของคุณคือ 0.00 บาท"  ซวยแล้ว!!

ผมเลย... ขึ้นลิฟต์ แล้วค่อยๆเดินย่องไปยืนอยู่หน้าห้องแฟน... ใช่ครับ... ผมต้องต่อWifi ของห้องเค้า
ทำให้ผมเพิ่งรู้ประตูห้องคอนโดหนามาก ผมต้องยืนเกือบจะหน้าห้องเลยจึงมีสัญญาณ (ซึ่งก็ดีเลย เสียงไม่เล็ดลอด)  
ขณะนั้นเวลา 23:07น.

รีบโทรไลน์หาแฟน (ขอเรียกเธอว่ามูมิน และผมขอแทนตัวเองว่าหมี)...
ผม: "สวัสดีนะมูมิน ขอบคุณน้าที่รับสายหมีอะ ขอโทษทีน้าที่กลับบ้านดึกเลย"
แฟน: "...เงียบ...(เสียงสะอื้น)"
ผม: "หมีขอโทษน้า ขอโทษจริงๆ... มูมินเห็นอีเมลของหมีหรือยัง"
แฟน: "เห็นแล้ว... หมีไม่ได้หมายความอย่างที่พูดจริงๆนะ? เราดีพอที่จะเป็นแฟนหมีใช่มั้ย"
ผม: "หมีไม่ได้หมายความอย่างงั้นจริงๆ มันเป็นอารมณ์ร้อนล้วนๆ หมีผิดเต็มประตู และมูมินดีพอแน่ๆ ดีมากๆครับ
ดีจนหมีดีใจที่ได้รู้จักและคบมูมินน้า หมีขอโทษจริงๆ ให้อภัยหมีน้า และหมีขอโอกาสเป็นแฟนมูมินต่อไป
หมีสัญญาจะไม่ทำให้มูมินเสียใจอีก ไม่ร้องไห้เพราะหมีอีก หากเกิดเหตุการณ์นี้อีกครั้ง หมีจะเข้าใจเลยหากมูมินจะ...
เลิกกับหมี... แต่ตอนนี้ เราขอโอกาสอีกครั้ง ให้หมีเป็นแฟนมูมินต่อนะครับ"
แฟน: "...อื้อ..."
ผม: "หมีขอบคุณจริงๆนะมูมิน อยากวิดีโอคอลล์จัง อยากเห็นหน้ามูมิน"
แฟน: "หน้าเค้าโทรมมาก ไม่เอาอะ"
ผม: "นะๆๆ ขอเห็นหน้านะ หรือ... เอางี้ มูมินไม่ต้องเปิดวิดีโอ หมีเปิดเอง"
แฟน: "...อื้อ..."
ผม: (กดเปิดวิดีโอ... และแนบคีย์การ์ดเปิดประตูเข้าห้อง)
แฟน: (ยืนอึ้งอยู่หลายวิ น้ำตาเริ่มไหลหนักขึ้น)
ผม: (เดินเข้าไปกอด) "หมีขอโทษนะครับ และขอบคุณมูมินครับที่ให้โอกาส"

เรายืนกอดกันนานเท่าไหร่ไม่รู้ รู้แต่ผมได้ทำร้ายจิตใจเธออย่างไม่น่าอภัย และผู้หญิงคนนี้ใจกว้างพอที่จะให้อภัยผม
และให้โอกาสทำหน้าที่"แฟน"ต่อ... เรานั่งคุยกันต่ออีกพักใหญ่... ซึ่งในระหว่างนี้ ผมสังเกตเห็นว่า
หน้าของเธอตอนผมเปิดประตู โทรมมาก ขอบตาบวมเป่ง(เหมือนแพนด้าเลย) แต่พอผ่านไปสัก1-2ชั่วโมง
แม้ว่าเธอจะยังมีน้ำตาเอ่อไหลอยู่ แต่หน้าเธอดูมีความสุขขึ้นมา ดูมีชีวิตชีวา และสวยขึ้นมากๆเลย

คืนนั้น ผมก็กลับไปนอนบ้านอย่างมีสุขมากๆๆอย่างบอกไม่ถูก แฟนเองก็ไม่ดูเหมือนซอมบี้แล้ว

ผมดีใจจริงๆ ดีใจมากๆ เธอกลับมาเป็นปกติแล้ว... เธอให้อภัยและให้โอกาสผมแล้ว...


ขอบคุณที่อ่านมาถึงจุดนี้ครับ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หากมีเรื่องไม่สบายใจต่อกัน ขอให้ทุกท่านมีสติ
และลองมองย้อนไปถึงเวลาดีๆ เวลาที่คุณเลือกเค้า และในวันที่คุณพูดไม่ดี หรือทำร้ายจิตใจเค้า
คุณควรแสดงให้เห็นว่า ทำไมเค้าถึงควรเลือกคุณ เช่นกันครับ...

ผมขอเอ่ยคติเตือนใจครับ ที่เป็นบทเรียนชีวิตของผมเองครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี
"คนเรามักจะเห็นคุณค่าของสิ่งใด ก็ต่อเมื่อกำลังจะสูญเสียสิ่งนั้นไปแล้ว..."
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่