ขอเรียกตัวเองว่าพี่ละกันนะ (อันนี้พี่ยืมล็อคอินเพื่อนมาอีกทีนะ)
สองสามวันก่อนพี่ไปเยี่ยมน้องที่โรงเรียนที่พี่จบมา พี่ก็ได้พูดคุยกับน้อง ม.ปลาย หลายคน โดยรวมๆแล้วพี่รู้สึกว่าส่วนใหญ่แล้วน้องๆยังไม่มีความมั่นใจหรือแน่ใจเลยว่าตัวเองจะสอบเข้าคณะอะไร จะเข้าที่ไหน หรือแม้กระทั่งอยากจะทำอาชีพอะไร... คือน้องยังไม่มีจุดหมายในชีวิตเลยนั่นแหละ สอบได้ไรก็เข้าอันนั้นตามมีตามเกิดไป...
ส่วนบางคนก็ได้ตั้งเป้าไว้แล้วว่าอยากเป็นหมอ วิศวกร อยากเข้านิติ บัญชี ซึ่งอันนี้ถือว่าดีแล้วที่น้องได้ตั้งเป้ากันไว้ แต่หลายคนก็เริ่มท้ออย่างออกหน้ากับการที่ต้องอ่านหนังสือ และเรียนพิเศษอย่างหนัก บางคนทั้งอาทิตย์ไม่มีวันว่างเลย วันธรรมดาเรียนเสร็จต้องไปเรียนพิเศษต่อ เสาอาทิตย์ก็ยังไม่เว้น กลับถึงบ้านสองสามทุ่มทุกวัน แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปตลายเครียด?
บางคนยิ่งแย่ใหญ่เลยคือ พยายามสุดๆแล้ว อ่านนังสือวันนึงหลายชั่วโมง เรียนพิเศษไม่พัก แต่พอมาเจอโจทย์มาเจอข้อสอบ... เฮ้ย!!! ลืมว่ะ... ข้อนี้มันตอบอะไรวะเนี่ย? คุ้นๆลางๆว่าโจทย์แนวๆนี้เราเคยทำได้ แต่ทำไมตอนนี้มันทำไม่ได้แล้ววะ? สรุปคือเราพยายามแทบตายแต่สุดท้ายเรากลับคว้าน้ำเหลว... ท้อไหมละ?
ที่พี่จะพูดคือ
1.ก่อนอื่นเลยน้องต้องหาเป้าหมายให้เจอก่อน อยากเป็นอะไร อยากเข้าที่ไหน คณะอะไร น้องต้องกำหนดให้ได้ ไม่ว่าจะวิธียังไงก็ตาม ส่วนตัวพี่ตอนแรกพี่ก็ไม่มีเป้าหมายหรอก ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะไปทำอะไรกิน จนวันนึงเกิดฝันเฟื่องว่าอยากเป็นวิศวกร ตอนนั้นมันเหมือนมีอะไรดลใจให้อ่านนังสือเลยนะ แบบว่าเราอยากจะเป็นให้ได้ๆๆๆ แล้วมันก็อ่านเองเฉยเลยทั้งๆที่ปกติพี่ไม่มองด้วยซ้ำ คือตอนที่พี่ยังเคว้างคว้างไร้จุดหมายนี่การเรียนพี่แย่มาก โดนอาจารย์ด่าตลอด สอบก็ตก 555555 แต่พอพี่มีเป้าหมายแล้ว พี่เหมือนมีพลังจริงๆนะ อ่านหนังสือนี่ไม่เหนื่อยเลยจริงๆ แถมรู้เรื่องด้วย...เออมันก็แปลกดีนะ
2.น้องมีเป้าหมายแล้ว อ่านหนังสือแล้ว ฟิตแล้ว แต่พอมาถึงจุดนึง... มันดันท้อขึ้นมาอะ มันเยอะยะไปหมด แบบว่านี่ก็อ่านมาสิบรอบแล้วนะ ทำไมเรายังจำไม่ได้ยังทำไม่ได้สักที เอออันนี้พี่ก็เป็นเหมือนกันนะ สำหรับพี่ พี่ว่ามันขึ้นอยู่กับว่าเราอดทนกับมันได้แค่ไหนอะ ตอนพี่อ่านชีวะ ไอเล่มหน้าปกน้ำเงินๆมีตัวเต่าทองอะ พี่ว่าน้องน่าจะรู้จักกัน พี่อ่านมันหลายรอบมากๆนะ เวลาพี่อ่าน มสมติพี่อ่านบทนึง พี่จะสรุปออกมาใส่ A4 หรือกระดาษไรก็ได้ที่ไม่มีเส้นอะ (พี่ชอบกระดาษไม่มีเส้น 55555) แล้วพี่ก็ท่องสรุปนั้นแหละ แล้วก็เขียนลงในแผ่นใหม่ แบบเอาให้เหมือนเดิม ช่วงนั้นพี่ซื้อกระดาษมาเป็นลังเลย เยอะมากๆ แต่ด้วยวิธีนี้แหละที่ทำให้พี่จำมันทั้งเล่มได้!!!! ไม่รู้จะไปสอบโอลิมปิกที่ไหน 555555555 ขอให้ใช้วิธีบบพี่เป็นวิธีสุดท้ายนะ ของคนอื่นน่าจะมีดีกว่านี้
3.น้องต้องหาเวลาพักบ้างนะ ตอนพี่อ่านพี่ไม่เคยกำหนดเวลาตัวเองเลยว่าวันนี้ต้องอ่านกี่ชั่วโมง บางวันพี่อ่านได้หลายชั่วโมงแต่ไม่ใช่ยาว10ชั่วโมงไม่มีพักนะ แต่บางวันพี่กลับอ่านไม่ถึงชั่วโมง!!!! ...เพราะพี่ขี้เกียจไง55555 คนเรามันก็ต้องพักบ้างเนาะ ของธรรมดา คือถ้าพี่รู้สึกเหนื่อยรู้สึกล้าพี่ก็หยุดอะ คือพักก่อน เดี๋ยวมีอารมณ์เดี๋ยวค่อยต่อใหม่
4.ที่เรียนพิเศษ? พี่ไม่มีที่ไหนแนะนำหรอก เพราะส่วนตัวพี่ก็ไม่ได้เรียน55555 ก็บอกแล้วไงว่าพี่ขี้เกียจ แต่พี่ว่าเรียนที่ไหนมันก็เหมือนกันหมดแหละนะมันอยู่ที่ตัวน้องเองมากกว่าแหละ
5.บางครั้งเป้าหมายมันก็สามารถเปลี่ยนได้นะ อย่างของพี่ ตอนแรกพี่อยากเป็นวิศวกร แต่ไปๆมาๆมันกลับไม่ใช่ทางเฉย!!!! 5555555 ช่วงนั้นพี่ไปเข้าค่ายๆนึงเกี่ยวกับฟิสิกส์นี่แหละ แล้วสุดท้ายพี่เริ่มรู้สึกว่ามันไม่ใช่ทางสะแล้ว ตอนนั้นพี่อยู่ ม.5 พี่ก็เลยรีบเบนเข็มมาอีกทางเลย
น่าจะเพียงพอแล้วมั้งกับการเริ่มต้น เพราะต่อจากนี้มันก็อยู่ที่ตัวน้องเองแหละว่าจะอดทนไปให้ถึงฝั่งฝันไหม?
ส่วนตัวพี่จบจากโรงเรียนธรรมดาๆ ไม่ใช่โรงเรียน top100 ของประเทศ พี่ว่าพี่อาศัยความอดทน + พยายาม + ตั้งใจ ก็เลยผ่านมาได้ ส่วนเรื่องดวงพี่อยากให้น้องเก็บไว้ท้ายสุด ไม่อยากให้พึ่งมาก
ใครจะเพิ่มเติมอะไรก็เม้นข้างล่างไปละกันนะ 5 ข้ออาจจะไม่พอก็ได้ 555555
-บันทึกไม่ลับของไอเจ็ด
อยากฝากถึงน้องๆหลายคนที่กำลังท้อ กับการเข้ามหาลัย
สองสามวันก่อนพี่ไปเยี่ยมน้องที่โรงเรียนที่พี่จบมา พี่ก็ได้พูดคุยกับน้อง ม.ปลาย หลายคน โดยรวมๆแล้วพี่รู้สึกว่าส่วนใหญ่แล้วน้องๆยังไม่มีความมั่นใจหรือแน่ใจเลยว่าตัวเองจะสอบเข้าคณะอะไร จะเข้าที่ไหน หรือแม้กระทั่งอยากจะทำอาชีพอะไร... คือน้องยังไม่มีจุดหมายในชีวิตเลยนั่นแหละ สอบได้ไรก็เข้าอันนั้นตามมีตามเกิดไป...
ส่วนบางคนก็ได้ตั้งเป้าไว้แล้วว่าอยากเป็นหมอ วิศวกร อยากเข้านิติ บัญชี ซึ่งอันนี้ถือว่าดีแล้วที่น้องได้ตั้งเป้ากันไว้ แต่หลายคนก็เริ่มท้ออย่างออกหน้ากับการที่ต้องอ่านหนังสือ และเรียนพิเศษอย่างหนัก บางคนทั้งอาทิตย์ไม่มีวันว่างเลย วันธรรมดาเรียนเสร็จต้องไปเรียนพิเศษต่อ เสาอาทิตย์ก็ยังไม่เว้น กลับถึงบ้านสองสามทุ่มทุกวัน แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปตลายเครียด?
บางคนยิ่งแย่ใหญ่เลยคือ พยายามสุดๆแล้ว อ่านนังสือวันนึงหลายชั่วโมง เรียนพิเศษไม่พัก แต่พอมาเจอโจทย์มาเจอข้อสอบ... เฮ้ย!!! ลืมว่ะ... ข้อนี้มันตอบอะไรวะเนี่ย? คุ้นๆลางๆว่าโจทย์แนวๆนี้เราเคยทำได้ แต่ทำไมตอนนี้มันทำไม่ได้แล้ววะ? สรุปคือเราพยายามแทบตายแต่สุดท้ายเรากลับคว้าน้ำเหลว... ท้อไหมละ?
ที่พี่จะพูดคือ
1.ก่อนอื่นเลยน้องต้องหาเป้าหมายให้เจอก่อน อยากเป็นอะไร อยากเข้าที่ไหน คณะอะไร น้องต้องกำหนดให้ได้ ไม่ว่าจะวิธียังไงก็ตาม ส่วนตัวพี่ตอนแรกพี่ก็ไม่มีเป้าหมายหรอก ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะไปทำอะไรกิน จนวันนึงเกิดฝันเฟื่องว่าอยากเป็นวิศวกร ตอนนั้นมันเหมือนมีอะไรดลใจให้อ่านนังสือเลยนะ แบบว่าเราอยากจะเป็นให้ได้ๆๆๆ แล้วมันก็อ่านเองเฉยเลยทั้งๆที่ปกติพี่ไม่มองด้วยซ้ำ คือตอนที่พี่ยังเคว้างคว้างไร้จุดหมายนี่การเรียนพี่แย่มาก โดนอาจารย์ด่าตลอด สอบก็ตก 555555 แต่พอพี่มีเป้าหมายแล้ว พี่เหมือนมีพลังจริงๆนะ อ่านหนังสือนี่ไม่เหนื่อยเลยจริงๆ แถมรู้เรื่องด้วย...เออมันก็แปลกดีนะ
2.น้องมีเป้าหมายแล้ว อ่านหนังสือแล้ว ฟิตแล้ว แต่พอมาถึงจุดนึง... มันดันท้อขึ้นมาอะ มันเยอะยะไปหมด แบบว่านี่ก็อ่านมาสิบรอบแล้วนะ ทำไมเรายังจำไม่ได้ยังทำไม่ได้สักที เอออันนี้พี่ก็เป็นเหมือนกันนะ สำหรับพี่ พี่ว่ามันขึ้นอยู่กับว่าเราอดทนกับมันได้แค่ไหนอะ ตอนพี่อ่านชีวะ ไอเล่มหน้าปกน้ำเงินๆมีตัวเต่าทองอะ พี่ว่าน้องน่าจะรู้จักกัน พี่อ่านมันหลายรอบมากๆนะ เวลาพี่อ่าน มสมติพี่อ่านบทนึง พี่จะสรุปออกมาใส่ A4 หรือกระดาษไรก็ได้ที่ไม่มีเส้นอะ (พี่ชอบกระดาษไม่มีเส้น 55555) แล้วพี่ก็ท่องสรุปนั้นแหละ แล้วก็เขียนลงในแผ่นใหม่ แบบเอาให้เหมือนเดิม ช่วงนั้นพี่ซื้อกระดาษมาเป็นลังเลย เยอะมากๆ แต่ด้วยวิธีนี้แหละที่ทำให้พี่จำมันทั้งเล่มได้!!!! ไม่รู้จะไปสอบโอลิมปิกที่ไหน 555555555 ขอให้ใช้วิธีบบพี่เป็นวิธีสุดท้ายนะ ของคนอื่นน่าจะมีดีกว่านี้
3.น้องต้องหาเวลาพักบ้างนะ ตอนพี่อ่านพี่ไม่เคยกำหนดเวลาตัวเองเลยว่าวันนี้ต้องอ่านกี่ชั่วโมง บางวันพี่อ่านได้หลายชั่วโมงแต่ไม่ใช่ยาว10ชั่วโมงไม่มีพักนะ แต่บางวันพี่กลับอ่านไม่ถึงชั่วโมง!!!! ...เพราะพี่ขี้เกียจไง55555 คนเรามันก็ต้องพักบ้างเนาะ ของธรรมดา คือถ้าพี่รู้สึกเหนื่อยรู้สึกล้าพี่ก็หยุดอะ คือพักก่อน เดี๋ยวมีอารมณ์เดี๋ยวค่อยต่อใหม่
4.ที่เรียนพิเศษ? พี่ไม่มีที่ไหนแนะนำหรอก เพราะส่วนตัวพี่ก็ไม่ได้เรียน55555 ก็บอกแล้วไงว่าพี่ขี้เกียจ แต่พี่ว่าเรียนที่ไหนมันก็เหมือนกันหมดแหละนะมันอยู่ที่ตัวน้องเองมากกว่าแหละ
5.บางครั้งเป้าหมายมันก็สามารถเปลี่ยนได้นะ อย่างของพี่ ตอนแรกพี่อยากเป็นวิศวกร แต่ไปๆมาๆมันกลับไม่ใช่ทางเฉย!!!! 5555555 ช่วงนั้นพี่ไปเข้าค่ายๆนึงเกี่ยวกับฟิสิกส์นี่แหละ แล้วสุดท้ายพี่เริ่มรู้สึกว่ามันไม่ใช่ทางสะแล้ว ตอนนั้นพี่อยู่ ม.5 พี่ก็เลยรีบเบนเข็มมาอีกทางเลย
น่าจะเพียงพอแล้วมั้งกับการเริ่มต้น เพราะต่อจากนี้มันก็อยู่ที่ตัวน้องเองแหละว่าจะอดทนไปให้ถึงฝั่งฝันไหม?
ส่วนตัวพี่จบจากโรงเรียนธรรมดาๆ ไม่ใช่โรงเรียน top100 ของประเทศ พี่ว่าพี่อาศัยความอดทน + พยายาม + ตั้งใจ ก็เลยผ่านมาได้ ส่วนเรื่องดวงพี่อยากให้น้องเก็บไว้ท้ายสุด ไม่อยากให้พึ่งมาก
ใครจะเพิ่มเติมอะไรก็เม้นข้างล่างไปละกันนะ 5 ข้ออาจจะไม่พอก็ได้ 555555
-บันทึกไม่ลับของไอเจ็ด