"ข้าบดินทร์" มาเรียนประวัติศาสตร์ผ่านละครกันเถอะ

ละครอิงประวัติศาสตร์ เป็นละครที่มีเสน่ห์ตามแบบฉบับของตัวเอง
เพราะนอกจากจะถ่ายทอดจินตนาการของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์และบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ในตำราเรียนในชั้นประถมและมัธยม ให้ออกมาโลดแล่นในทีวีแล้ว เอกลักษณ์ของการดูละครประวัติศาสตร์คือการถูกกระตุ้นความอยากรู้ของคนดูว่า ตัวละครที่ปรากฏในเรื่องแต่ละตัวมีตัวตนจริงหรือไม่ วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ภาษาและการแต่งกายของตัวละครเป็นแบบนั้นจริงๆใช่ไหม ก็เป็นเสน่ห์สำคัญของละครอิงประวัติศาสตร์

เพราะฉะนั้น โจทย์ยากของละครพีเรียดอิงประวัติศาสตร์ก็หนีไม่พ้น "ข้อมูลทางประวัติศาสตร์" โดยเฉพาะผู้ชมในยุคโซเชียลที่สามารถเข้าถึงความรู้ทางประวัติศาสตร์ได้ง่ายกว่าในอดีต การจะทำละครอิงประวัติศาสตร์ให้ตาสีตาสาดูแบบบันเทิงคดีอย่างเดียวคงไม่พอ เพราะหากแม้นมีละครเรื่องใดบังอาจหาญกล้ากระทำเยี่ยงนั้น ก็มิพักต้องถูกยำจากประดาชาวสยามผู้ดูละครเป็นแน่แท้

และสำหรับละครข้าบดินทร์ ที่กำลังฉายที่ช่อง ๓ ตอนนี้ก็เช่นกัน ต้องชมผู้ประพันธ์ คุณวรรณวรรธน์ ที่ถึงพร้อมด้วยข้อมูลทางประวัติศาสตร์แบบดีเยี่ยม หาใช่นั่งเทียนเขียนแบบจินตนาสำคัญกว่าความขยันหาข้อมูล เพราะนิยายเรื่องนี้ไม่ง่ายเลย ที่จะเอาบุคคลที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของนิยาย ด้วยข้อจำกัดหลากหลาย ทั้งการกระทำและความเป็นมาเป็นไปของตัวละครที่ต้องดำเนินไปตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ และผลกระทบที่อาจมีมาจากทายาทของบุคคลเหล่านั้น แต่ก็เขียนออกมาได้ดีเยียม และเมื่อนำมาทำละครโดยทีวีซีน แม้จะได้ดูไม่กี่ตอน แต่ก็ออกมาใช้ได้ทีเดียวในแง่ของความเป็นพีเรียดอิงประวัติศาสตร์ เพราะค่ายนี้มีความละเมียดละไมกับละครแนวนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วจากผลงาน ลูกทาสและขุนศึก และสำหรับข้าบดินทร์แม้บางอย่าง เช่น จารีตระหว่างขุนนาง การแต่งกาย ทรงผมบุรุษ หรือคำพูดตัวละคร อาจไม่ถูกต้องตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์มากนัก แต่องค์ประกอบส่วนอื่นก็นับว่าดีเยียมจนกลบส่วนที่บกพร่องไปได้พอสมควร


ภาพฟีตติ้งขุนนาฏยโกศล(คุณหมู ดิลก) เทียบกับภาพถ่ายขุนนางในชั้นเจ้าพระยาในสมัยรัชกาลที่ ๖
*แม้ในภาพท่านขุนนาฏยโกศลจะแต่งตัวเกินบรรดาศักดิ์ไปมากมายมหาศาล แต่ก็เข้าในว่าเป็นเพียงการใส่ฟิตติ้งเท่านั้น ชุดนี้เห็นท่านเจ้าคุณราชสุภาวดีใส่ออกศึก
ขุนนางสยามตั้งแต่ปลายกรุงศรีอยุธยาลงมา การแต่งตัวเต็มยศใหญ่จะใส่เสื้อสักหราด สวมหมวกที่เรียกว่ามาลาเส้าสูง (สำหรับเจ้านายจะประดับพระยี่ก่าหรือขนนกสีขาวบนพระมาลาด้วย) ซึ่งสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงตรัสว่า มาลาเส้าสูงคงได้แบบมาจากหมวกของคนเกาหลี (ซึ่งรับมาจากพวกมองโกลในสมัยราชวงศ์หยวนอีกที)


ภาพคุณหญิงชมเทียบกับสตรีราชสำนักเขมรที่ได้รับอิทธิพลทรงผมของราชสำนักสยามมาเต็มๆ แม้คุณหญิงชมจะไม่ได้ลงทุนตัดด้านข้างผมแบบลานบิน แต่คอสตูมก็พยายามทำให้ใกล้เคียงที่สุดแล้ว

สำหรับผมทัดหรือผมปีก ไว้ไรผมพริ้วอ่อน เป็นพระราชนิยมว่าเป็นความงามของสตรี ในสมัยรัตนโกสินทร์ก่อนเลิกนิยมตอนต้นรัชกาลที่ ๕
เจ้างามปีกดัดทรงมงกุฎกษัตริย์    เจ้างามทัดกรรเจียกผมสมพักตร์สิ้น
เจ้างามไรไม่แข็งคดหมดมลทิน    เจ้างามประทิ่นกลิ่นเกศขจายจร
(จารึกวัดพระเชตุพน พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๓)



คำถามที่มักถามกันเสมอ เรื่องทรงผมของแม่ลำดวนและคนในบ้านขุนนาฏยโกศล

ภาพแม่ลำดวนเทียบกับภาพนางรำในสมัยรัชกาลที่ ๔ และนางรำของราชสำนักเขมรรัชกาลนักองค์ราชาวดี
สตรีชาวสยาม มีเพียงนางรำที่ไว้ผมยาว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่