คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ไม่ต้องกังวลครับ หากคุณผ่อนดาวน์เดือนละ 6,500 บาทได้สม่ำเสมอตลอด 24 งวดแล้ว หากเวลากู้แล้ยอดผ่อนเท่านี้ก็มีโอกาสได้รับการอนุมัติสูง

- ธนาคารจะให้กู้ซิ้อสูงสุด 80% ของมูลค่าคอนโด ที่เหลืออีก 20% คือเงินดาวน์ซึ่งเป็นส่วนของผู้ขอกู้ ปัญหานี้จนไม่มี เพราะได้มีการผ่อนเงินดาวน์ระหว่างการก่อสร้างไว้แล้ว 24 งวด
- ข้อดีของการผ่อนดาวน์ระหว่างก่อสร้าง(ต้องเป็นโครงการที่มีชื่อเสียงเชื่อถือได้) นอกจากไม่ต้องเตรียมเงินก้อนไว้แล้ว ราคาของคอนโดตอนเปิดตัวครั้งแรกจะ กับราคาของคอนโดเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะต่างกันคือ ราคาเมื่อก่อสร้างเสร็จแล้วจะสูงกว่าอีก 10-30% และยิ่งเมื่อถึงตอนนั้นในพื้นที่มีความเจริญมากขึ้น เช่น มีรถไฟฟ้าผ่าน มีห้างสรรพสินค้า ฯลฯ ก็จะทำให้ราคาสูงขึ้น ผลคือ สามารถขอกู่ได้ในวงเงินที่สูงขึ้น โดยจ่ายส่วนที่เหลือกับโครงการเท่าสัญญาเดิม มีเงินเหลือตกแต่ง ซื้อเฟอร์นิเจอร์ หรือขอในวงเงินที่ขาดอยู่ก็จะทำให้โอกาสได้รับอนุมัติง่ายขึ้น
- เรื่องที่ธนาคารจะดูคือ วงเงินที่ให้แม้ว่าจะขอไม่ถึง 80% ของมูลค่าคอนโดก็ตาม แต่ต้องมีความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ได้ โดยในขณะยื่นเรื่องขอกู้ ผู้ขอกู้จะต้องไม่มีภาระหนี้สินรวมกันกับยอดผ่อนที่ขอกู้เกิน 40% ของรายได้(มีสลิปเงินเดือนเป็นหลักฐาน)
- ยอดผ่อนที่ต้องนำมาหักความสามารถ ยอดผ่อนสินค้า ยอดผ่อนรถยนต์ แต่สำหรับบัตรเครดิต หากเป็นการใช้จ่ายตามปกติและไม่มีการค้างชำระค่าบัตรฯ หรือมีการผ่อนสินค้าโดยใช้บัตรฯ ก็จะไม่นำมาคำนวณด้วย(ธนาคารจะทราบจากรายงานเครดิตบูโร)
ดังนั้น ต้องวางแผนคำนวณยอดวงเงินที่ขอกู้ กับยอดที่ต้องผ่อนชำระเมื่อรวมกับภาระการผ่อนอื่นๆ แล้วต้องไม่ให้เกิน 40% ของรายได้ หากคำนวณแล้วเกิน วิธีการคือ ปิดยอดหนี้อื่นก่อน, ต้องลดวงเงินมาให้อยู่ในความสามารถที่ผ่อนได้ หรือหาผู้ที่มีรายได้แน่นอนมั่นคง(พี่น้อง/คู่สมรส)มาเป็นผู้กู้ร่วมครับ
- ธนาคารจะให้กู้ซิ้อสูงสุด 80% ของมูลค่าคอนโด ที่เหลืออีก 20% คือเงินดาวน์ซึ่งเป็นส่วนของผู้ขอกู้ ปัญหานี้จนไม่มี เพราะได้มีการผ่อนเงินดาวน์ระหว่างการก่อสร้างไว้แล้ว 24 งวด
- ข้อดีของการผ่อนดาวน์ระหว่างก่อสร้าง(ต้องเป็นโครงการที่มีชื่อเสียงเชื่อถือได้) นอกจากไม่ต้องเตรียมเงินก้อนไว้แล้ว ราคาของคอนโดตอนเปิดตัวครั้งแรกจะ กับราคาของคอนโดเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะต่างกันคือ ราคาเมื่อก่อสร้างเสร็จแล้วจะสูงกว่าอีก 10-30% และยิ่งเมื่อถึงตอนนั้นในพื้นที่มีความเจริญมากขึ้น เช่น มีรถไฟฟ้าผ่าน มีห้างสรรพสินค้า ฯลฯ ก็จะทำให้ราคาสูงขึ้น ผลคือ สามารถขอกู่ได้ในวงเงินที่สูงขึ้น โดยจ่ายส่วนที่เหลือกับโครงการเท่าสัญญาเดิม มีเงินเหลือตกแต่ง ซื้อเฟอร์นิเจอร์ หรือขอในวงเงินที่ขาดอยู่ก็จะทำให้โอกาสได้รับอนุมัติง่ายขึ้น
- เรื่องที่ธนาคารจะดูคือ วงเงินที่ให้แม้ว่าจะขอไม่ถึง 80% ของมูลค่าคอนโดก็ตาม แต่ต้องมีความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ได้ โดยในขณะยื่นเรื่องขอกู้ ผู้ขอกู้จะต้องไม่มีภาระหนี้สินรวมกันกับยอดผ่อนที่ขอกู้เกิน 40% ของรายได้(มีสลิปเงินเดือนเป็นหลักฐาน)
- ยอดผ่อนที่ต้องนำมาหักความสามารถ ยอดผ่อนสินค้า ยอดผ่อนรถยนต์ แต่สำหรับบัตรเครดิต หากเป็นการใช้จ่ายตามปกติและไม่มีการค้างชำระค่าบัตรฯ หรือมีการผ่อนสินค้าโดยใช้บัตรฯ ก็จะไม่นำมาคำนวณด้วย(ธนาคารจะทราบจากรายงานเครดิตบูโร)
ดังนั้น ต้องวางแผนคำนวณยอดวงเงินที่ขอกู้ กับยอดที่ต้องผ่อนชำระเมื่อรวมกับภาระการผ่อนอื่นๆ แล้วต้องไม่ให้เกิน 40% ของรายได้ หากคำนวณแล้วเกิน วิธีการคือ ปิดยอดหนี้อื่นก่อน, ต้องลดวงเงินมาให้อยู่ในความสามารถที่ผ่อนได้ หรือหาผู้ที่มีรายได้แน่นอนมั่นคง(พี่น้อง/คู่สมรส)มาเป็นผู้กู้ร่วมครับ
แสดงความคิดเห็น
อยากซื้อคอนโด แต่มีบัตรเครดิตและผ่อนรถอยู่กลัวไม่ผ่านค่ะ