สวัสดีค่ะ ตอนนี้ดิฉันเรียนอยู่ชั้น ม.6 พ่อแม่มีอาชีพค้าขาย . . . (กระทู้ขอคำแนะนำค่ะ)

สวัสดีค่ะ ตอนนี้ดิฉันเรียนอยู่ชั้น ม.6 (อายุ 18 ปี) พ่อแม่มีอาชีพค้าขาย, ปั้มน้ำมัน และก็รับเหมา (เอ่อ...ดิฉันจะอธิบายยังไงดีล่ะ งานรับเหมานี่ก็ ทำไร่อ้อย มีรถแบคโฮไปขุดสระ ซึ่งก็จะรับเหมาเป็นงานๆไป งานนึงก็ประมาณ 3,000-30,000 หักค่าน้ำมัน ค่าคนงาน  ค่าซ่อมบำรุง ก็จะเหลือประมาณหนึ่งหมื่น โดยงานๆนึงจะใช้เวลาในการทำ ไม่เกิน 2 วันแล้วแต่ความยากง่ายของงาน นั่นก็คือ จำนวนไร่ ลักษณะดิน สภาพอากาาศ ประมาณนี้น่ะค่ะ) ส่วนร้านค้าและก็ปั้มน้ำมันของครอบครัวดิฉันก็ไม่ได้ใหญ่ถึงระดับอำเภอ แต่ก็คาดว่าน่าจะเป็นร้านใหญ่สุดในตำบล (ครอบครัวของดิฉันอยู่ชนบทนอกตัวเมืองน่ะค่ะ หรือเรียกดีๆว่า บ้านนอกก็ได้ แฮ่ๆ)  สรุปรายได้ของครอบครัวดิฉันต่อเดือนก็ประมาณหนึ่งแสนห้าหมื่น ยังไม่คิดรายจ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายทั่วไปภายในบ้าน ค่าจ่ายผ่อน (ที่กู้ธนาคารมาเริ่มต้นงานรับเหมา 2 ล้าน) และค่าอาหารที่โรงเรียนของดิฉันกับน้องอีกสองคนค่ะ

คือดิฉันอยากจะเรียนต่อ ป.ตรี ในสาขาวิชาที่คิดว่าจะสามารถ มาสานต่อกิจการของพ่อแม่ได้น่ะค่ะ (ขอเรียกแทนว่า "กิจการ นะคะ ถึงแม้ไม่ได้เป็นร้านใหญ่โตอะไร) ซึ่งดิฉันอยากทำร้านค้าใหม่ให้น่าเข้ามาซื้อสินค้ามากกว่านี้ โดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการเช็คสินค้าและคิดเงินลูกค้า พ่อบอกว่าขณะดิฉันเรียนมหาวิทยาลัย ก็จะกู้เงินอีก 5 ล้าน มาลงทุนซื้อแบคโฮมือสองอีกซักคันสองคัน เพื่อมาทำงานรับเหมา งานจะได้เสร็จเร็วแล้วรายได้ก็จะตกอยู่ที่วันละประมาณหนึ่งหมื่นบาท ถ้าเดือนนั้นๆมีงานให้รับเหมาเยอะ (จริงๆก่อนกู้เงิน 2 ล้าน พ่อก็ได้กู้เงินมาเริ่มต้นค้าขายจริงๆนั้นคือ 1 ล้าน พอผ่อนชำระหมดแล้วจึงกู้ก้อนต่อมานั่นคือ 2 ล้านและจะกู้อีก 5 ล้าน) พ่อบอกว่าถ้าดิฉันเรียนจบ ก็ใช้หนี้ 5 ล้านนี้ หมดพอดี และก็จะกู้ต่ออีก 10 ล้าน แล้วมาทำร้านค้าใหม่ โดยให้ดิฉันเป็นผู้ดูแลควบคุมทั้งหมด

จากที่ดิฉันกล่าวมาตามข้างต้น ดิฉันอยากจะขอคำแนะนำจากท่านผู้รู้ ว่าดิฉันควรเรียนต่อปริญญาตรีในสาขาอะไรดีคะ?  ซึ่งตอนนี้ดิฉันก็สนใจ คณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาดค่ะ และดิฉันตั้งใจไว้ว่าขณะที่ดิฉันเรียน ป.ตรี ดิฉันก็จะทำงานหารายได้พิเศษ+หาประสบการณ์ กับร้านค้าสะดวกซื้อและก็ตามห้างต่างๆไปด้วยค่ะ ซึ่งดิฉันก็คิดว่าตอนที่กำลังเรียนอยู่นี้ จะไปทำงานพิเศษ เพื่อฝึกประสบการณ์และหารายได้ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ด้วยค่ะ

และดิฉันพอจะมีความรู้เรื่องหุ้นอยู่บ้างนะคะ คือดิฉันเริ่มสนใจเรื่องหุ้นตอน ม.5 เพราะ เรียนวิชาเศรษฐศาสตร์ เลยศึกษาและลองเล่นในเว็บ click2win ดิฉันเลยอยากจะขอคำแนะนำอีกว่า ดิฉันควรจะศึกษาเรื่องหุ้นดีๆ + เก็บออมเงินจากค่าขนมไว้ด้วย แล้วพออายุถึง 20 ปี จะเอาเงินมาลองลงทุนในหุ้นเพื่อหาทุนมาต่อยอดอีกจะดีมั๊ยคะ?

แม่พูดกับดิฉันว่าอาจจะส่งดิฉันไปเรียนที่ประเทศออสเตรเลีย ไหนๆก็จะได้ส่งเสียเรียน ป.ตรีอยู่แล้ว (และแม่ก็เห็นว่าดิฉันชอบภาษา เพราะ ซึ่งดิฉันชอบอ่านนิยายภาษาอังกฤษ, ดูหนังฟังเพลงก็สากล US/UK) และอีกอย่างนี่ก็ใกล้เข้าสู่อาเซียนแล้วด้วย ไปเรียนอยู่ที่โน่นก็จะได้ ทั้งความรู้, ภาษา และก็ประสบการณ์ชีวิต (ซึ่งค่าใช้จ่ายในการเรียนนี้ญาติที่ทำงานอยู่ต่างประเทศก็จะช่วยส่งเสียอีกแรงนึงค่ะ)

ป.ล. ดิฉันทราบค่ะว่าทุกวันนี้มีนักธุรกิจที่มีทุนทรัพย์มากมายมหาศาล ภายภาคหน้า อาจจะมาสร้างปั้มน้ำมัน ร้านค้าสะดวกซื้อ ใกล้ร้านของดิฉัน และแน่นอนว่า ร้านค้าเล็กๆหรือจะสู้แบรนด์ใหญ่ๆที่คนรู้จักกันทั้งประเทศได้ และในฐานะที่ดิฉันก็เป็นผู้บริโภคด้วย ก็ต้องเลือกไปร้านที่รับรองคุณภาพ ไปร้านที่มีการโฆษณา มีสาขาอยู่ทั่วประเทศอยู่แล้วแน่นอน ซึ่งดิฉันก็ไม่ได้หวังที่จะไปถึงระดับนั้น (ถึงจะหวังซึ่งก็คงเป็นไปไม่ได้) จึงใคร่อยากที่จะขอคำแนะนำจากทุกท่าน ว่าดิฉันควรจะเรียนต่อสาขาไหนอะไรยังไงและคิดถูกหรือไม่ประการใดค่ะ

ขอขอบพระคุณล่วงหน้าเป็นอย่างสูงสำหรับคำแนะนำของทุกท่านค่ะ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
ผมขอตอบในฐานะเจ้าของธุรกิจในตัวอำเภอนะครับ ธุรกิจไม่ใหญ่มาก เป็นธุรกิจซื้อมาขายไป แต่ก็ดำเนินมาได้ด้วยดี 30- 40ปี(เพิ่งมาแย่เอาสองสามปีนี้)
เรียนจบตรีมหาลัยรัฐ ในเมืองไทย และไปต่อโทที่ออสเตรเลียเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน

สมมติฐานคือ คุณอยากจะกลับมาทำงานที่บ้าน ขอตอบดังนี้

1 การไปเรียนต่างประเทศไม่สำคัญ เพราะหากคุณคิดจะทำที่บ้าน มันหาจุดเชื่อมได้ยาก หากคุณจะไป ต้องตั้ง mindset ไว้เลย ว่าไปเพื่อเรียนรู้ภาษา เปิดโลกทรรศน์ และเรียนรู้นิสัยของคน เมื่อกลับมาให้ไปสมัครงานที่อื่น ลองทำดูตามสาขาที่เรียนมา คุณจะมีชีวิตที่แตกต่างจากตอนนี้เลย จะไปทางไหน บอกไม่ได้แล้วแต่คุณจบอะไร และความสามารถคุณถึงไหน และเหมาะเจาะกับงานในเวลานั้นหรือไม่(ผมทำงานแบบนั้นอยู่ 2-3 ปี แล้วก้มีเหตุให้ต้องกลับมาบริหารที่บ้าน) แต่ถ้าสุดท้ายกลับมาทำกิจการ มันจะเชื่อมต่อกันได้ยากกับสิ่งที่ไปเรียนมา ทุกวันนี้ มีประโยชน์แค่นานๆ นัดเพื่อนเก่าไปกินข้าวในกรุงเทพเท่านั้นแหละ(เพราะเราอยู่ต่างจังหวัดด้วย)

2 วิชาที่เรียน ถ้าผมย้อนเวลาได้ ผมจะกลับไปเรียนบัญชี หรือไม่ก็คอมพิวเตอร์ครับ
เพราะปัญหาที่ได้พบเจอจริงคือ การวางระบบ การคุมงาน การคุมลูกน้อง และการเสียภาษี
คุณต้องรู้บัญชี เพื่อที่จะเข้าใจงบดุลของบริษัทตัวเอง และต้องทำมันเป็น และถูกต้อง เมื่อฝ่ายบัญชีมีข้อสงสัย
ยิ่งไปกว่านั้น มันยังช่วยในเรื่องการลงทุนอีกด้วย
ส่วนคอมพิวเตอร์ หากคุณจะปรับปรุงร้านให้ทันสมัย คุณควรจะดูแลได้เองเมื่อระบบเกิดปัญหา ไม่ต้องรอคนอื่นมาแก้ ทำงานให้น้อย ให้ระบบดูแลให้มาก เอาเวลาที่เหลือไปใช้ชีวิตกับลงทุน
ส่วนจะเลือกเรียนอะไร ความจริงน่าจะอยู่ที่ความชอบด้วยแหละครับ ถ้าคุณชอบ คุณจะทำมันได้ดี และทำมันได้นาน

3 การลงทุน ต้องศึกษาจริงจังตั้งแต่ตอนนี้ ต้องลงเงินจริงด้วย
แต่เป็นเงินที่ไม่กระทบคุณ เมื่อมันหายไปทั้งก้อน
ย้ำว่าเมื่อมันหายไปทั้งก้อน คุณจะไม่เสียดายมัน
และคุณต้องมีแบบนี้ ประมาณ 4-5 ก้อน
เพื่อที่จะได้เรียนรู้วิธีที่อาจจะผิดทั้ง 4-5 วิธีนั้นด้วยตนเอง
แต่ถ้าคุณหัวไว คุณอาจจะลงทุนแล้วกำไรเลยตั้งแต่ก้อนแรก นั่นก็เป็นโชคดีของคุณ
ถ้าได้แบบนั้น ก็ยิ่งดี ยิ่งต่อยอดมันได้เร็ว

หากคุณมีทรัพย์สินเป็นเงินสดแล้ว คุณคงไม่อยากให้มันน้อยลง
การลงทุนที่ถูกต้อง คือสิ่งที่จะรักษาความมั่งคั่งนั้นไว้กับตัวคุณและครอบครัวได้นานๆ
ธุรกิจมีหน้าที่ปั๊มรายได้
แต่การรักษาความมั่งคั่งอาศัยการลงทุน
ผมอาจจะโชคดีที่ไม่มีพี่น้อง พ่อแม่ไม่มีหนี้สินเหลือตกทอดมาถึงผม
แต่หลังบริหารร้านมาเกือบ 20 ปี ผมทำให้สินทรัพย์ทั้งหมดโตขึ้นประมาณ 3 เท่า(บางคนอาจจะทำได้มากกว่านี้ แต่ผมพอใจแล้ว)
ผมมีลูก 2 คน ยังเด็กอยู่มาก ตัวผมเองยังตั้งใจจะสอนเขาเรื่องการลงทุนเมื่อเขาเริ่มต้นเข้าม.ต้น
การลงทุนและการบริหารเงิน สำคัญไม่น้อยกว่าการหาเงิน ยิ่งเรียนรู้เร็ว ยิ่งดีครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่