ทางออกที่ว่ามีดังนี้
            1.ขอให้ เจ๊ติ๋ม หยุดพูด หยุดคุยโว ว่ามีความร่ำรวยเป็นเกราะ แทงไม่เข้า ยิงไม่ทะลุ จนกระทั่งโต้ตอบอำนาจรัฐอย่าง กสทช. หรือแม้แต่ใช้ร่างทรงอย่าง แจ๊คเกอลีน ออกมาวิจารณ์เชิงลบแก่ ทีวีดิจิตอล เพราะไม่เป็นผลดี แท้จริงแล้ว สภาพกายของไทยทีวีตอนนี้ อ่อนยวบ เหมือนฟองน้ำหมดอายุบุโซฟา เมล็ดถั่วเขียวตกใส่ก็ทรุดแล้ว

             ดูอย่างช่อง 3 ที่บ่ายเบี่ยงอำนาจ กสทช. ไม่ยอมเปลี่ยนผ่านระบบเมื่อแรก ยังต้องสยบให้กรรมการ กสทช. แล้ว เจ๊ติ๋ม มีเงินเท่ากับเจ้าสัวประวิทย์ มีมือมีไม้เท่ากับเจ้าสัวหรือไม่ ถ้ามีก็จงสู้ต่อไปเถิด


             2.ให้เร่งขอความเป็นธรรมแก่ศาลปกครอง ขอคุ้มครองชั่วคราว กรณี กสทช. จะยึดเงินประกัน

             อาจจะได้รับความเมตตา หรือเพิกเฉยก็สุดจะเดา แต่กระนั้นก็ถือเป็นการซื้อเวลาได้ระยะหนึ่ง


             3.ประนีประนอมกับ กสทช. อย่าลืมว่า กสทช. ไม่ใช่คู่กรณีกับ เจ๋ติ๋ม การหารือเพื่อแก้ปัญหา และเป็นทางออกของทีวีดิจิตอลรายอื่นๆ ย่อมเป็นที่ต้องการของ กสทช. อยู่แล้ว แต่เมื่อเจ๊ติ๋มหือ ก็ต้องโดนอำนาจรัฐกำราบเป็นของธรรมดา


             4.รอเวลา อันนี้เพื่อสู่การเปลี่ยนถ่ายจากรัฐบาล คสช. ไปเป็นรัฐบาลในระบบเลือกตั้ง ซึ่งสามารถพลิกเกมได้ด้วยผลประโยชน์กับนักการเมืองบางคน บางพรรค แต่กระนั้นก็ไม่ควรมองข้าม หน่วยงานตรวจสอบจากภาครัฐและเอกชน


             5.ยอมรับสภาพ ถือเป็นวิบากกรรมของชีวิต ซึ่งมีทั้งยามขึ้นและยามลง เป็นสัจธรรมที่ว่า ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า เหนือเมฆก็ยังมีเมฆ เป็นอุทาหรณ์ในการนำพาธุรกิจสู่ความสำเร็จต่อไป เร่งหามิตร ละลายศัตรูโดยเร็ว ปล่อยไว้นานย่อมไม่เป็นผลดี แก่ธุรกิจในอนาคต

            โชคดีนะจิ๋ม เอ๊ย ติ๋ม


อ้างอิง ต้นฉบับ
http://www.sbt.co.th/DetailColumnHotNews.php?id=MTIyODA=