>> ดูบอลที่อังกฤษ 4 สนาม 8 นัดพรีเมียร์ลีก :: Anfield :: Old trafford :: Sramford Bridge :: Selhurst Park :: << !!!!

เขียนชื่อกระทู้ผิดแก้ไขไม่ได้อ่ะค่ะ ร้องไห้ ร้องไห้
ต้องเป็น Stamford Bridge
.
.
.
สวัสดีค่ะวันนี้เราจะมาแชร์และเล่าเรื่องราวประสบการณ์ลุยเดี่ยวดูบอลของเราให้ฟัง ไม่รู้ว่ามันไร้สาระหรือเปล่า แต่ก็ถือมาแบ่งปันประสบการณ์ดีๆนะคะ





ออกตัวก่อนเลยว่าเราเป็นแฟนบอลลิเวอร์พูล ไม่รู้ว่าแฟนลิเวอร์พูลในห้องนี้จะจำเราได้มั๊ย >< เมื่อก่อนเราเล่นห้องนี้บ่อยมากนะจำยูส "น้องหมีเท็ดดี้แบร์" คนนี้กันได้มั๊ยเพราะเราไม่ได้เข้ามาเล่นในนี้นานมากๆ หรืออาจจะมีแฟนบอลใหม่ๆเข้ามาแล้วก็คงไม่รู้จักเรา ไม่เป็นไรช่างเถอะ ><

เราเคยสิงอยู่ในห้องศุภมาช่วงนึงเม้นตอบบ่อยนะถ้าคนเล่นมานานน่าจะเคยเห็นยูสเราบ้าง ที่ไม่ได้เข้ามาเล่นห้องนี้เลยช่วงที่ผ่านมาเพราะว่าวุ่นทำเรื่องมาเรียนที่อังกฤษค่ะ แต่ตอนนี้ได้มาอยู่ที่อังกฤษแล้วเรียบร้อย อยู่มาได้เข้าเดือนที่ 5 แล้วค่ะ

เอาละเข้าเรื่องดีกว่า วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ดูบอลในสนามครั้งแรก และคนเดียวด้วย เป็นผู้หญิงที่กล้าลุยกล้าลองไปมันคนเดียวนี่แหละท่ามกลางฝรั่งตัวใหญ่ๆโตๆ แมตช์ที่เราไปดูแมตช์แรกคือฟุตบอล Capital One Cup leg2 ระหว่าง Chelsea vs Liverpool





ด้วยความที่มันเป็นบิ๊กแมทช์แถมเป็นนัดตัดสินว่าใครจะได้เข้าไปชิงเราเลยอยากไปดูมากๆ ตอนแรกหาบัตรไม่มีเลยเพราะนัดใหญ่ๆแบบนี้บัตรจะหายากมากๆแต่จนแล้วจนรอดเราก็หาบัตรมาได้ >< แต่ที่นี้บัตรเนี่ยที่ได้มาดันเป็นที่นั่งฝั่งเชลซีค่ะ(เวนและ) แต่ที่นั่งดีมากเลยอยู่โซนสแตนล่างจากพื้นสนามหญ้า ตอนแรกเราก็คิดว่าจะเอาดีมั๊ย คือมันเป็นฝั่งเชลซีและอีกอย่างมีใบเดียวที่นั่งดีอีกจะเสียโอกาสไปหรอ ถ้าเกิดลิเวอร์พูลตกรอบก็จะไม่ได้ดูแข่งถ้วยนี้แล้วนะ บลาๆๆๆคิดไปเยอะมาก สุดท้ายก็ตัดสินใจไปค่ะ



และแฟนบอลที่นี่เอาจริงเอาจังมากกับการเชียร์บอล อารมณ์ร่วมมาเต็ม เรียกว่าฮูลิแกนเลยค่ะ แล้วเราเป็นประเภทเชียร์บอลแบบออก Body Language ด้วย ท่าทางออกหมด และคนที่เราซื้อบัตรมาจากเค้าก็บอกว่านั่งฝั่งเชลซีเนี่ย ยูห้ามทำอะไรที่แสดงว่าเป็นแฟนลิเวอร์พูลเด็ดขาดนะ เพราะอาจโดนการ์ดเชิญออกไปได้เพราะกลัวว่าจะเกิดความวุ่นวายขึ้นอย่างที่บอกอารมณ์ร่วมของแฟนบอลที่นี่เยอะมากๆ

พี่แกขู่มาแบบนี้เราก็เกร็งเลย คิดว่าจะเอาดีมั๊ยเนี่ย ถ้าโดนรุมยำทีนใครจะช่วยออกมาละ แต่อีกด้านนึงก็คิดว่า เห้ย! โอกาสดีๆแบบนี้คว้าไว้สิ บิ๊กแมชท์แบบนี้น่าดูจะตาย แถมได้ลุ้นเข้าไปชิงด้วย อีกอย่างเราเป็นผู้หญิงบอกบางน่าทนุถนอม(มโนไปเอง)เกิดอะไรขึ้นเค้าคงไม่ทำอะไรเราหรอก แถมสแตมฟอร์ดบริดจ์สนามของเชลซีอยู่ไม่ไกลบ้านเราเท่าไหร่วิ่งหนีกลับบ้านก็น่าจะทัน ในเมื่อด้านความโลภมันอยากดูเยอะกว่าเลยตัดสินใจไปดูค่ะ เป็นไงเป็นกัน!!! การดูบอลครั้งแรก คนเดียวอีกต่างหากจึงได้เริ่มต้นขึ้น...



พอได้บัตรมาเรานี่นับถอยหลังให้ถึงวันแข่งจริงๆสักที เอ้อ! ราคาบัตรที่นี่เราเข้าใจผิดมาตลอดคิดว่าราคาบัตรสแตนล่างสุดติดขอบสนามจะแพงสุด แต่ไม่ใช่นะคะ สแตนกลางจะแพงที่สุด ส่วนสแตนล่างก็แพงลงมาส่วนสแตนบนจะถูกสุด ตอนแรกเราคิดว่าสแตนล่างให้เห็นนักบอลชัดๆต้องแพงสุดสิ แต่ไม่ใช่สแตนกลางจะเป็นมุมมองที่มองกว้างกว่าและก็ไม่ไกลเกินไป คนที่นี่ชอบดูบอลแบบภาพรวมค่ะ มองเห็นง่ายๆ แต่คนไทยแบบเราชอบที่จะเห็นหน้านักเตะชัดๆมากกว่า ยิ่งอย่างเราชอบมองหน้านักบอลหล่อๆได้ชัดๆนี่จะฟินมาก >.,<




นัดที่ไปดูคือนัดก่อนเข้าไปชิงถ้วยแคปปิตอลวันคัพ นัดแรกลิเวอร์พูล-เชลซีเสมอกันมาก่อนในแอนฟิลด์ที่ 1-1 นัดนี้จึงเป็นนัดตัดสิน เราเห็นว่านัดนี้มันน่าดูมากๆ คิดดูเป็นนัดก่อนชิงแถมทีมที่เจอก็เป็นทีมใหญ่เจอกันเลยตัดสินใจเข้าไปดูดีกว่าถึงแม้จะได้นั่งสแตนฝั่งเชลซีก็เถอะ เออ ลืมบอกไปเลยว่าเรานี่ติ่งนักบอลทีมตัวเองมากๆ คือชอบทุกคนจริงๆแต่จะชอบลัลลาน่ามากกว่าหน่อย จริงๆคือชอบเขาตั้งแต่ตอนอยู่เซาท์แธมตันแล้ว ประทับใจในฟอร์มการเล่นมากๆเป็นกัปตันทีมของเซ้าท์แธมตันอีก หน้าตานี่ไม่เกี่ยวเลยค่ะเป็นคนชอบนักฟุตบอลจากฝีเท้าล้วนๆ 555




และวันที่แข่งก็มาถึงวันที่ 27th January 2015 วินาทีที่ได้เข้าไปในสนามถึงแม้จะเป็นสนามของเชลซีสแตมฟอร์ดบริดจ์แต่ ณ ตอนนั้นพูดเลยว่ามันขนลุกมากๆค่ะ บรรยากาศมันต่างกับการนั่งเชียร์บอลอยู่หน้าทีวีมาก เห้ย! มันแบบสุดๆอ่ะอารมณ์ร่วมมากๆ หึกเหิมประหนึ่งพร้อมยกพวกตีกันเลย




อารมณ์ตอนนั้นคือเห็นภาพที่กองเชียร์เป็นหมื่นๆคนมีธงของแต่ละทีม เสียงร้องเพลง เสียงเชียร์มันบิ๊วเรามากๆก่อนเกมจะเริ่มเนี่ยก็จะให้นักเตะมาวอร์มก่อนลงแข่งประมานครึ่งชั่วโมง ในตอนนั้นวินาทีที่เราเห็นหน้านักเตะลิเวอร์พูลเดินออกมาจากอุโมงค์สิ่งที่พี่คนขายตั๋วเตือนอะไรมาแทบลืมไปหมดเลย เรานี่อยากจจะกรี๊ดมากๆ





สักพักเราก็รู้สึกว่าข้างๆเริ่มเหล่ๆเราและว่าอินี่เป็นกบฎหรือเปล่าทำไมดูสนใจนักเตะลิเวอร์พูลมากกว่านักเตะเชลซี เราก็เหลือบไปมองคนข้างๆนิดนึง ฉีดยิ้มสยามเป็นมิตรไปให้แล้วก็เนียนๆเรียกออสก้าไป ประหนึ่งว่านี่ฉันติ่งออสก้ามา10ปีนะ ทั้งๆที่ออสก้าอยู่ไหนในสนามว่ะตอนนั้น 5555555 คือจังหวะนั้นนึกไรไม่ออกเอาออสก้าไว้ก่อนค่ะ -.,-







เท่านั้นยังไม่จบนะคะมันยังไม่สาแกใจเรา ตอนนักเตะวอร์มลัลลาน่าค่ะ ฮีร้ายมากเหมือนรู้ว่าติ่งมาดู เดินมาซ้อมข้างหน้าเราเลย แล้วยืนวอร์มอยู่อย่างนั้นไม่ไปไหนด้วย เขาก็วอร์มร่างกายของเขาไปส่วนเราน่ะหรอโอ้ยยยจะเป็นลมค่ะ  สุดๆเลย  :3







ระหว่างที่ดูแมตช์นี้เราอยากจะบอกว่าบรรยากาศในสนามกับดูผ่านลิงค์ออนไลน์ที่เราเคยดูมันแตกต่างกันมากอย่างที่บอกเสียงเชียร์มันบิ๊วอารมณ์เราได้มากจริงๆ ตอนจังหวะที่เราอิวาโนวิชโหม่งให้เชลซีขึ้นนำนี่เราน้ำตาไหลเลยค่ะ แบบร้องไห้เลยคือนัดนั้นลิเวอร์พูลเล่นดีจริงๆ อิวาโนวิชมาโหม่งประตูชัยให้เชลซีขึ้นนำตอนที่ต่อเวลาพิเศษไปอีก 30 นาทีหลังจากในเกม 90 นาทีเสมอกัน 0-0 คนรอบตัวเขาเฮฮากันคนข้างๆก็คว้าเราเข้าไปกอดดีใจด้วย เฮกันเป็นกลุ่มๆเค้าเห็นเราร้องไห้ก็นึกว่าซาบซึ้งที่เชลซีขึ้นนำ เออ เอาที่พี่สบายใจเลยค่ะ










พอจบเกมเชลซีเอาชนะไป 1-0 ผ่านเข้ารอบไปนัดชิงแคปปิตอลวันคัพ วันนั้นเรายิ่งกว่านางเอกเอ็มวีอีกค่ะ เดินออกมาจากในสนามท่ามกลางเสียงยินดีโห่ร้องไชโยของแฟนบอลเชลซีที่ดีใจที่ทีมรักผ่านเข้าไปชิง แต่เราเดินหงอยๆมึนๆสวนทางกับพวกแฟนบอล แฟนบอลบางกลุ่มเวลาทีมชนะก็จะเฮฮามั่วไปหมดคนไหนรู้จักไม่รู้จักก็ลากมากอดคอเฮฮาไปด้วยกันเราก็โดนลากไปเฮฮาแต่ได้แต่ฝืนยิ้มๆไป วันนั้นคือเจ็บมากเลยนะก่อนเกมเรากำลังมั่นใจในฟอร์มทีมเราคิดว่ามีสิทธิ์ที่จะชนะด้วย(พี่ไปเอาความมั่นใจผิดๆแบบนี้มากจากที่ไหนคะ 5555) สักพักเราก็ฝืนตัวออกมาจากกลุ่มเดินเหงาๆไปขึ้นรถไฟใต้ดินสถานี Fulham Broadway (เป็นสถานีที่ใกล้สนามเชลซีที่สุดค่ะถ้าจะมาสแตมฟอร์ดบริดจ์มาลงสถานีนี้นะคะ) พอกลับห้อง นอนไม่หลับเลยค่ะ เป็นการดูบอลนัดแรกที่เจ็บปวดเอามากๆ แต่มันก็ได้ประสบการณ์ที่คุ้มค่ามากๆนะ รู้สึกว่าตัวเองมีสัญชาติญานการเอาตัวรอดที่ดีมากๆอยู่นะเนียนได้ไปเรื่อย 5555



หัวใจหัวใจหัวใจหัวใจหัวใจหัวใจ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่