ฉุดกระชากกลากหางขึ้นกลางหาด
แลประหลาดลักษณามีตาหู
จะเอาไปให้พระบิดาดู
แล้วลากลู่เข้าในถ้ำด้วยกำลัง
ถึงหุบห้องร้องบอกบิตุเรศ
พระลืมเนตรเหลียวหาทั้งหน้าหลัง
เห็นลูกลากเงือกน้ำแต่ลำพัง
จากบัลลังก์มาห้ามแล้วถามไป
เมื่อกี้เห็นเล่นอยู่ในคูหา
เงือกนี้เจ้าเอามาแต่ข้างไหน
พระลูกเล่าตามจริงทุกสิ่งไป
พระตกใจจึงว่าด้วยปราณี
แม้นแม่เจ้าเขารู้ว่าแรงนัก
กลัวจะลักลอบพาบิดาหนี
จะโกรธเกรี้ยวเคี้ยวเล่นเป็นธุลี
ไม่พอที่ชีวันจะบรรไลย ฯ
* สินสมุทรกุมารชาญฉลาด
ฟังพระบาทบิตุรงค์ให้สงไสย
จึงทูลถามความจริงด้วยกริ่งใจ
เหตุไฉนจึงจะเป็นเช่นนั้น ฯ
* พระฟังคำน้ำเนตรลงพรากพราก
คิดถึงยากยามวิโยคยิ่งโศกศัลย์
แถลงเล่าลูกยาสาระพัน
จนพากันมาบรรทมที่ร่มไทร
แม่ของเจ้าเขาเป็นเชื้อผีเสื้อสมุทร
ขึ้นไปฉุดฉวยบิดาลงมาได้
จึงกำเนิดเกิดกายสายสุดใจ
จนเจ้าได้แปดปีเข้านี่แล้ว
ไปเปิดประตูคูหาถ้าเขาเห็น
ตายหรือเป็นว่าไม่ถูกเลยลูกแก้ว
แม้นสินสมุทรสุดสวาทพ่อคลาดแคล้ว
ไม่รอดแล้วบิตุรงค์ก็คงตาย ฯ
* พระโอรสรู้แจ้งไม่แคลงจิตต์
รำคาญคิดเสียใจมิใคร่หาย
ด้วยแม่กลับอัปลักษณ์เป็นยักษ์ร้าย
ก็ฟูมฟายชลนาโศกาไลย ฯ
* ฝ่ายเงือกน้ำนอนกลิ้งนิ่งสดับ
กิตติศัพท์สองแจ้งแถลงไข
รู้ภาษามนุษย์แน่ในใจ
จะกราบไว้วอนว่าให้ปราณี
ค่อนเขยื้อนเลื่อนลุกขึ้นทั้งเจ็บ
ยังมึนเหน็บน้อมประณตบทศรี
พระผ่านเกล้าเจ้าฟ้าในธาตรี
ข้าขอชีวิตไว้อย่าให้ตาย
พระราชบุตรฉุดลากลำบากเหลือ
ดังหนังเนื้อนี้จะแยกแตกสลาย
ทั้งลูกเต้าเผ่าพงศ์ก็พลัดพราย
ยังแต่กายเกือบจะดิ้นสิ้นชีวัน
พระองค์เล่าเขาก็พาเอามาไว้
เศร้าพระไทยทุกข์ตรอมเหมือนหม่อมฉัน
ขอพระองค์จงโปรดแก้โทษทัณฑ์
ช่วยผ่อนผันให้ตลอดรอดชีวา
ซึ่งปากถ้ำทำลายลงเสียหมด
ให้โอรสยกตั้งบังคูหา
ข้าเห็นอย่างนางมารจะนานมา
จะอาสาเกลี่ยทรายเสียให้ดี
หนึ่งพวกพ้องของข้าคณาญาติ
ขอรองบาทบงกชบทศรี
แม้นประสงค์สิ่งไรในนที
ที่สิ่งมีจะเอามาสารพัน ฯ
* พระฟังเงือกพูดได้ให้สงสาร
จึงว่าท่านคิดนี้ดีขยัน
รู้เจรจาสาระพัดน่าอัศจรรย์
อยู่พูดกันอีกสักหน่อยจึงค่อยไป
ช่วยแปลให้หน่อยนะค่ะ^^
แลประหลาดลักษณามีตาหู
จะเอาไปให้พระบิดาดู
แล้วลากลู่เข้าในถ้ำด้วยกำลัง
ถึงหุบห้องร้องบอกบิตุเรศ
พระลืมเนตรเหลียวหาทั้งหน้าหลัง
เห็นลูกลากเงือกน้ำแต่ลำพัง
จากบัลลังก์มาห้ามแล้วถามไป
เมื่อกี้เห็นเล่นอยู่ในคูหา
เงือกนี้เจ้าเอามาแต่ข้างไหน
พระลูกเล่าตามจริงทุกสิ่งไป
พระตกใจจึงว่าด้วยปราณี
แม้นแม่เจ้าเขารู้ว่าแรงนัก
กลัวจะลักลอบพาบิดาหนี
จะโกรธเกรี้ยวเคี้ยวเล่นเป็นธุลี
ไม่พอที่ชีวันจะบรรไลย ฯ
* สินสมุทรกุมารชาญฉลาด
ฟังพระบาทบิตุรงค์ให้สงไสย
จึงทูลถามความจริงด้วยกริ่งใจ
เหตุไฉนจึงจะเป็นเช่นนั้น ฯ
* พระฟังคำน้ำเนตรลงพรากพราก
คิดถึงยากยามวิโยคยิ่งโศกศัลย์
แถลงเล่าลูกยาสาระพัน
จนพากันมาบรรทมที่ร่มไทร
แม่ของเจ้าเขาเป็นเชื้อผีเสื้อสมุทร
ขึ้นไปฉุดฉวยบิดาลงมาได้
จึงกำเนิดเกิดกายสายสุดใจ
จนเจ้าได้แปดปีเข้านี่แล้ว
ไปเปิดประตูคูหาถ้าเขาเห็น
ตายหรือเป็นว่าไม่ถูกเลยลูกแก้ว
แม้นสินสมุทรสุดสวาทพ่อคลาดแคล้ว
ไม่รอดแล้วบิตุรงค์ก็คงตาย ฯ
* พระโอรสรู้แจ้งไม่แคลงจิตต์
รำคาญคิดเสียใจมิใคร่หาย
ด้วยแม่กลับอัปลักษณ์เป็นยักษ์ร้าย
ก็ฟูมฟายชลนาโศกาไลย ฯ
* ฝ่ายเงือกน้ำนอนกลิ้งนิ่งสดับ
กิตติศัพท์สองแจ้งแถลงไข
รู้ภาษามนุษย์แน่ในใจ
จะกราบไว้วอนว่าให้ปราณี
ค่อนเขยื้อนเลื่อนลุกขึ้นทั้งเจ็บ
ยังมึนเหน็บน้อมประณตบทศรี
พระผ่านเกล้าเจ้าฟ้าในธาตรี
ข้าขอชีวิตไว้อย่าให้ตาย
พระราชบุตรฉุดลากลำบากเหลือ
ดังหนังเนื้อนี้จะแยกแตกสลาย
ทั้งลูกเต้าเผ่าพงศ์ก็พลัดพราย
ยังแต่กายเกือบจะดิ้นสิ้นชีวัน
พระองค์เล่าเขาก็พาเอามาไว้
เศร้าพระไทยทุกข์ตรอมเหมือนหม่อมฉัน
ขอพระองค์จงโปรดแก้โทษทัณฑ์
ช่วยผ่อนผันให้ตลอดรอดชีวา
ซึ่งปากถ้ำทำลายลงเสียหมด
ให้โอรสยกตั้งบังคูหา
ข้าเห็นอย่างนางมารจะนานมา
จะอาสาเกลี่ยทรายเสียให้ดี
หนึ่งพวกพ้องของข้าคณาญาติ
ขอรองบาทบงกชบทศรี
แม้นประสงค์สิ่งไรในนที
ที่สิ่งมีจะเอามาสารพัน ฯ
* พระฟังเงือกพูดได้ให้สงสาร
จึงว่าท่านคิดนี้ดีขยัน
รู้เจรจาสาระพัดน่าอัศจรรย์
อยู่พูดกันอีกสักหน่อยจึงค่อยไป