อยากทราบว่า เราสามารถตามตัวคนจากบัตรเอทีเอ็มได้มั้ยคะ?

เราโดนมิจฉาชีพหลองเอาเงินไปค่ะ
เคยเห็นในข่าว แต่ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเอง กว่าจะรู้ตัวก็เสียรู้มันซะแล้ว..
โดยมิจฉาชีพกลุ่มนี้คาดว่าน่าจะทำงานกันเป็นแกงค์ต้มตุ๋นค่ะ!!!

เรื่องมันมีอยู่ว่า
เราเรียนอยู่ต่างประเทศ แล้ววันนึงเราก็ไปซื้อของแถวๆมหา'ลัยตามปกติ ระหว่างทางกลับก็มีผู้ชายคนนึงเดินเข้ามาทักเรา บอกว่าเขาก็เป็นชาวต่างชาติ(เป็นประเทศไกล้ๆประเทศที่เราอยู่ ใช้ภาษาไกล้เคียงกันแต่เป็นคนละสำเนียง) เรียกไอ้ผู้ชายคนนี้ว่านายติ่งละกันนะคะ(สมมติๆ) ละก็บอกว่าเขามาเยี่ยมเพื่อน แต่หาเพื่อนไม่เจอ ฟังคนแถวนี้พูดก็ไม่รู้เรื่อง อยากให้เราช่วยคุยให้หน่อย พร้อมกับถามทางเราว่าควรจะไปรอเพื่อนตรงไหน เพราะเขาไม่รู้ที่ทาง ขนาดเราบอกเขาไปแล้วว่าเราก็ไม่ใช่คนในพื้นที่ แต่เขาก็บอกว่าเราน่าจะอยู่นี่มานาน น่าจะพอรู้ที่ทางบ้าง เราเลยช่วยเขาค่ะ เราพอเขาไปรอที่จุดที่เป็นที่สังเกตที่สุดของบริเวณนั้น แล้วเขาก็โทรหาเพื่อนเขา ให้เราคุยให้ เพื่อนเขาก็บอกเราว่า ขอให้เราอยู่ตรงนั้นก่อน เดี๋ยวจะให้คนมารับ ระหว่างรอนายติ่งก็ชวนเราคุยค่ะ นายติ่งจะบอกว่าตัวเองเป็นคนมีเงิน ทำธุรกิจโน่นนี่นั่น ไปเที่ยวอยู่บ่อยๆ พร้อมกับชวนเราไปเที่ยวที่เมืองที่นายติ่งอยู่แล้วให้เบอร์เราไว้ ละก็ถามเราประมาณว่า พื้นฐานทางการเงินที่บ้านเป็นยังไง พ่อแม่ทำงานอารัย เงินเดือนเท่าไหร่ เศรษฐกิจประเทศเราเปนไง โน่นนี่นั่น เราไม่ได้เอะใจเพราะเขาบอกเขาทำธุรกิจ น่าจะชอบคุยเรื่องเงินนั่นแหละค่ะ แต่เราก็ตอบไปเท่าที่รู้

รอไปซักพัก นายติ่งก็รับโทรศัพท์ละบอกว่า เพื่อนของเพื่อนมารับไม่ได้ นายติ่งได้จองโรงแรมไว้แล้วที่เมืองไกล้ๆ แต่มีปัญหาคือบัตรเอทีเอ็มกดเงินไม่ได้ เขาก็เอาบัตรเขาออกมาให้ดูค่ะ แล้วก็ถามเราว่าของเรากดเงินได้มั้ย เราบอกของเรากดได้ปกติ ไม่มีปัญหา นายติ่งก็เลยบอกว่า งั้นเดี๋ยวเขาจะให้เพื่อนเขาโอนเงินเข้าบัญชีเรา แล้วให้เราช่วยกดเงินให้เขาหน่อย เพราะเขาจะต้องเอาไปจ่ายค่าโรงแรมที่จองไว้ ด้วยความที่เราซื่อ เราก็เลยตอบตกลงจะช่วย นายติ่งก็จัดการติดต่อกับเพื่อน ส่งเลขบัญชีเราไป(ในบัญชีนั้นไม่มีเงินเยอะหรอกค่ะ มีไม่พอกดด้วยซ้ำ) ซักพักเพื่อนนายติ่งก็โทรกลับมาบอกว่าโอนเสร็จแล้ว แต่บัญชีเป็นของคนละธนาคาร ต้องรอ 24 ชั่วโมงเงินถึงจะเข้า เราเคยโอนเงินข้ามธนาคาร เรื่องนี้เราเลยไม่ได้สงสัยค่ะ ตายติ่งก็แสดงละครต่อ บอกว่า ทำยังไงดี คืนนี้ต้องใช้เงินด้วย แล้วถามเราว่า เรามีเงินในบัญชีอื่นอีกมั้ย เรามีบัญชีของไทยที่มีอยู่ไม่กี่พันบาทชัญชีนึง แล้วก็บัญชีที่พ่อแม่ใช้ส่งเงินมาให้อีกบัญชีนึงซึ่งตอนนั้นมีเงินอยู่ในบัญชีแค่พันกว่าบาท(เราบอกเขาไปแค่นั้น จริงๆมีบัญชีเงินเก็บอีกบัญชีนึงแต่เราจะไม่ยอมแตะเงินในบัญชีนั้นเด็ดขาด ไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม) นายติ่งก็พูดว่า ไหนๆเพื่อนเขาก็โอนเงินมาแล้ว จะรอจนถึงพรุ่งนี้ก็ไม่ได้ อีกอย่างเราเป็นผู้หญิง จะพาผู้ชายไปค้างที่หอก็ดูไม่ดี เขาเลยขอให้เราถอนเงินจากบัญชีเท่าที่มีให้เขาก่อน เพื่อที่เขาจะสามารถเอาไปจ่ายค่าโรงแรมได้ในคืนนั้น เราเลยยอมกดให้ วันนั้นเรากดออกมาประมาณ 3,000 บาท และเอาเงินที่เรามีติดตัวให้ไปอีก 500 (ประมาณเป็นเงินไทย) นายติ่งก็บอกว่า เดี๋ยวตอนเช้าเขาจะติดต่อมาทางโทรศัพท์ที่ได้แลกเบอร์กันไว้แล้วก่อนหน้านี้ เพื่อให้เราไปกดตังค์ที่เพื่อนเขาโอนมาให้ เราเลยบอกเขาว่า เราขอบัตรเก็บไว้เพื่อเป็นหลักประกันหน่อย ว่าเขาจะไม่ชิ่งหนีไป เขาก็พูดว่าคนเราเวลาจะช่วยเพื่อนมนุษย์น่ะ ความไว้ใจเป็นสิ่งสำคัญ แต่เราไม่ยอม เราบอกว่า เราไว้ใจขนาดให้เงินไปขนาดนี้ เราก็อยากมีหลักประกันว่าเขาจะไม่หนีและไม่หลอกเรา จะแลกบัตรกันเลยก็ได้ เขาเลยให้บัตรเอทีเอ็มของธนาคารต่างประเทศมาหนึ่งใบ แต่ไม่ได้ขอบัตรอะไรเราไว้ จากนั้นเราก็แยกกันกลับค่ะ

เราก็มีความรู้สึกแปลกๆนะ คือปกติถ้าเราช่วยเหลือคนอื่น เราจะรู้สึกโปร่ง แต่คืนนั้นพอเราเดินแยกออกมาแล้ว เรารู้สึกว่าจิตใจเราหนักอึ้งเลย พอกลับมาถึงห้องเราก็กังวลมาก เพราะฐานะทางบ้านเราก็ไม่ได้ดี แต่เราถูกเลี้ยงมาให้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์เท่าที่เราช่วยได้ คืนนั้นเรานอนไม่หลับค่ะ
เรารู้แล้วล่ะว่าเราน่ะโดนหลอกเข้าเต็มๆ แต่ตอนเช้ามาเราก็ยังรอโทรศัพท์จากนายติ่งอยู่ รอจนเย็นก็เงียบ เราปรึกษาเรื่องนี้กับทางครอบครัว ทางบ้านบอกว่า เรื่องเงินน่ะช่างมันเถอะ เราหาใหม่ได้(ทั้งที่เรารู้ว่าพ่อแม่ลำบากแค่ไหนกว่าจะได้เงินมาส่งให้เราเรียนเราใช้) เก็บประสบการณ์นี้ไว้เป็นบทเรียน อย่าเชื่อคนง่ายอีก เวลาไปไหนมาไหนให้ระวังตัว อย่าไว้ใจคนแปลกหน้า

เรามีหลักฐานแค่บัตรเอทีเอ็มใบนี้ แล้วก็เบอร์โทรของคนๆนี้ซึ่งบางครั้งต่อไม่ติด บางครั้งไม่รับสาย
ประเด็นที่เราอยากตามหาตัวมิจฉาชีพรายนี้หรือกลุ่มนี้ ไม่ใช่เพราะเราอยากได้เงินคืนหรืออะไร แต่เราไม่อยากให้คนพวกนี้ลอยนวลไปได้ ไม่อยากให้คนกลุ่มนี้ได้มีโอกาสไปหลอกคนอื่นอีกค่ะ
ละก็ขอให้เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจผู้อ่านทุกคน อยากให้ทุกคนระวังตัว จะหาความจริงใจจากคนสมัยนี้มันยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรอีกค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่