ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ตำนานเบอร์ 9 เดอะตุ๊ก เพรชฆาตหน้าหยกของทีมชาติไทย
กับสถิติ 16 ปี 2524-2540
103 ประตู แฮททริค 6 ครั้ง
แชมป์คิงส์คัพ 5 สมัย แชมป์ซีเกมส์ 6 สมัย
(คิงส์คัพแต่เดิมมี 8 ทีมเป็นรายการใหญ่รายการหนึ่งของเอเชีย ทีมที่ได้เชิญมา ถือว่าเป็นทีมชาติชุดใหญ่ ส่วนซีเกมส์ใช้ผู้เล่นชุดใหญ่เล่นกระทั่งซีเกมส์ที่มาเลเซียหนหลังสุด จึงใช้ทีมอายุไม่เกิน 23ปี ถึงปัจจุบัน)
มองแบบนี้แล้ว เมื่อเห็นการทำเกมส์สร้างสรรค์ของทีมชาติไทยยุคซิโก้ แต่ไปไปมามา ปัญหากลับเป็นที่กองหน้าไม่สามารถจบสกอร์ได้ ทำให้มานึกถึงปิยะพงษ์ กองหน้าที่ดีที่สุดของไทยเรา
ปิยะพงษ์แจ้งเกิดกับการคว้าแชมป์คิงส์คัพ ปี 2524 ที่ชนะเกาหลีเหนือ สนามศุภชลาศัย 2-1 เป็นผู้ยิงทั้ง 2 ประตู โดยประตูที่มีความสุขกันทั้งประเทศคือประตูที่ยิงจุดโทษจากการทำแฮนด์บอลของผู้เล่นทีมชาติเกาหลีเหนือ ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 120 นาที เป็นจุดเริ่มต้นของเพรชฆาตหน้าหยก ณ.บัดนั้น
ในยุคปิยะพงษ์ เขาพาทีมชาติไทยโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจหลายนัด เช่น
นัดที่ชนะทีมชาติญี่ปุ่นในฟุตบอลปรีโอลิมปิคที่สนามประเทศสิงคโปร 5-2
นัดที่ชนะทีมชาติเกาหลีใต้ในรายการคัดเลือกเอเชี่ยนคัพรอบสุดท้าย ที่สนามศุภชลาศัย 2-1 (ทำเกาหลีใต้น้ำตาตก แพ้ไทยอดไปเอเชี่ยนคัพรอบสุดท้ายที่ญี่ปุ่น
นัดที่ชนะทีมชาติอินโด 7-0 และทีมชาติสิงคโปร 2-0 รายการซีเกมส์รอบรองและรอบชิง ครั้งที่ 13 ที่กรุงเทพ ตามลำดับ
นัดที่ชนะทีมชาติพม่า 4-3 ในรอบชิงชนะเลิศซีเกมส์ครั้งที่ 17 ที่สิงคโปร
จริง ๆ มีอีกหลายนัดแต่เด่น ๆ และอยู่ในความทรงจำมีดังที่ยกมานี้น่ะครับ
อีกอย่างปิยะพงษ์ ผมคิดว่ามาอยู่ในยุคร่วมสมัยที่ทีมชาติไทยมีฝีเท้ายอดเยี่ยมหลายคนทีเดียว เช่น
กองกลาง..วรวรรณ,เฉลิมวุฒิ,วิทยา,วิทูรย์,มาด๊าด
กองหลัง..นที,ณรงค์,ไพโรจน์,อำนาจ
ผู้รักษาประตู..สมปอง,วิลาศ ,นราศักดิ์
ผมว่าทีมไทยเราดูดีมากช่วงนั้น หากจัดการดี ๆ เรามีโอกาสไปฟุตบอลโลกเหมือนกันน่ะ
แต่ในช่วงนั้นสำหรับนักเตะ ปิยะพงษ์ ดูเหมือนกับว่าไม่สามารถเล่นกับวิทยา ได้ รายการที่น่าผิดหวังที่สุดคือ เอเชี่ยนเกมส์ปี 86 ที่เกาหลีใต้ ซึ่งเป็นช่วงที่กระแสฟุตบอลโลกที่เม็กซิโกจบลง พร้อมกับมาราโดนาและอาร์เจนตินาคว้าแชมป์ รายการเอเชี่ยนเกมส์นี้ทำให้แฟนฟุตบอลไทย สนใจติดตามมาก และทีมชาติไทยชุดนี้ก็เป็นอีกชุดที่ผู้เล่นดีที่สุดชุดหนึ่งเลยทีเดียว แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถผ่านรอบแรกไปได้
ในยุคปิยะพงษ์ ช่วงนึงเรามีโค๊ชคาร์ลอส จากบราซิลมาเป็นโค๊ชทีมชาติ แต่เส้นทางของทั้งคู่ดูขนานกัน ไม่ได้ร่วมงานกัน เมื่อปิยะพงษ์ถูกมองว่า เป็นนักเตะซุปเปอร์สตาร์แต่ไร้ซึ่งระเบียบวินัย และโค๊ชคาลอสก็ยอมเลือกทำทีมโดยไม่มีนักเตะอย่างปิยะพงษ์ในทีม
ปิยะพงษ์ มีมัวหมองเหมือนกัน ในนัดที่ทีมชาติไทยพบกับทีมชาติมาเลเซีย ในรอบรองชนะเลิศ ซีเกมส์ 14 และ 15 ที่อินโดและมาเลเซีย ตามลำดับ เมื่อต้องมาแพ้มาเลเซียด้วยสกอร์ 2-0 ทั้งสองครั้ง โดยเฉพาะครั้งที่ 15 ที่มาเลเซีย ช่วงนั้นปิยะพงษ์เล่นอยู่กับสโมสรปาหังในมาเลเซีย ปิยะพงษ์ถูกกล่าวหาว่าล้มบอลในนัดนั้น ซึ่งจากการถ่ายทอดผ่านทีวี มีผู้ตั้งข้อสังเกตุว่าปิยะพงษ์เองก็มักแสดงอาการหงุดหงิดเมื่อทำอะไรไม่ได้ดั่งใจต่อเพื่อนร่วมทีมคนอื่น ก็เลยเป็นประเด็นอยู่นาน จนสุดท้ายปิยะพงษ์ขอยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเองด้วยการไปสาบานต่อหน้าพระแก้วมรกต เรื่องจึงเบาบางลง และนี่ก็เป็นช่วงแห่งการประกาศเลิกเล่นทีมชาติครั้งแรกของปิยะพงษ์
ปิยะพงษ์ เป้นดาราเอเชีย เคยเล่นทีมดาราเอเชีย ประทะกับทีมที่นำโดยมาราโดนาร่วมทัพมาแล้ว และเป็นผู้ยิงประตูได้ด้วย อีกทั้งยังประทะกับมาราโดนา ที่มีของแถมดึงเสื้อ สร้อย เป็นที่ระลึกตามข่าวที่เค้าให้สัมภาษณ์
ปิยะพงษ์ เองได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางที่เกาหลีใต้กับทีมลัคกี้โกลด์สตาร์ และมาเลเซียกับทีมปาหัง และทหารอากาศของไทย จนทหารอากาศได้ชื่อว่า ยุคเครื่องจักรสีฟ้า เลียนแบบเครื่องจักรสีแดง ลิเวอร์พูลซะงั้น นอกจากนั้นปิยะพงษ์ยังมีโอกาสเดินสายแข่งขันในช่วงกีฬาเขต หรือกีฬาแห่งชาติ รวมกับสตาร์ฟุตบอลทีมชาติไทยคนอื่น ๆ เป็นความสุขที่คนไทยหาดูได้ในลักษณะนี้ ช่วงนั้น
การประกาศเลิกเล่นทีมชาติครั้งที่สอง เกิดจากร่างกายที่อายุเยอะขึ้น และแม้จะอายุเยอะแล้วในช่วงปลาย ไทยกับเกาหลีใต้ ดันมาอยู่กลุ่มเดียวกันเพื่อคัดบอลโลก โค๊ชเกาหลีใต้ยังกล่าวว่า กลัวปิยะพงษ์คนเดียว แม้จะวัยล่วงเลยมามากแล้วก็ตาม เป็นการการันตีว่าปิยะพงษ์เก่งแค่ไหน
ปิยะพงษ์หลังจากแขวนสตั๊ดไป ก็มีคลื่นลูกใหม่มาเปรียบเทียบเสมอ ไม่ขาดระยะ เช่น รณชัย ซิโก้ เนติพงษ์ ธีรศิลป์ อดิศักดิ์ แต่สุดท้ายก็ยังไม่สามารถมีใครที่ได้รับการยอมรับเทียบเท่าเค้าในฐานะศูนย์หน้า
โดยส่วนตัวผมคิดว่า ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน คือกองหน้าที่ดีที่สุดของไทย มีลูกไขว์ การยิงประตูที่เฉียบคม ซึ่งยังไม่มีใครมาแทนที่ได้ในปัจจุบันนี้ นี่หากว่ามียอดนักฟุตบอลในไทยลีคเราซักคนที่เกิดขึ้นมาเทียบเท่าปิยะพงษ์ ด้วยศักยภาพทีมไทยเวลานี้ ความฝันที่จะไปบอลโลกครั้งแรกน่าจะสิ้นสุดการรอคอยเสียที
เชียร์ให้ทีมไทย ไทยแลนด์สู้สู้ ครับ
เห็นทีมชาติไทยตอนนี้แล้ว นึกถึงตัวจบสกอร์ นึกถึงตำนานอย่างปิยะพงษ์
กับสถิติ 16 ปี 2524-2540
103 ประตู แฮททริค 6 ครั้ง
แชมป์คิงส์คัพ 5 สมัย แชมป์ซีเกมส์ 6 สมัย
(คิงส์คัพแต่เดิมมี 8 ทีมเป็นรายการใหญ่รายการหนึ่งของเอเชีย ทีมที่ได้เชิญมา ถือว่าเป็นทีมชาติชุดใหญ่ ส่วนซีเกมส์ใช้ผู้เล่นชุดใหญ่เล่นกระทั่งซีเกมส์ที่มาเลเซียหนหลังสุด จึงใช้ทีมอายุไม่เกิน 23ปี ถึงปัจจุบัน)
มองแบบนี้แล้ว เมื่อเห็นการทำเกมส์สร้างสรรค์ของทีมชาติไทยยุคซิโก้ แต่ไปไปมามา ปัญหากลับเป็นที่กองหน้าไม่สามารถจบสกอร์ได้ ทำให้มานึกถึงปิยะพงษ์ กองหน้าที่ดีที่สุดของไทยเรา
ปิยะพงษ์แจ้งเกิดกับการคว้าแชมป์คิงส์คัพ ปี 2524 ที่ชนะเกาหลีเหนือ สนามศุภชลาศัย 2-1 เป็นผู้ยิงทั้ง 2 ประตู โดยประตูที่มีความสุขกันทั้งประเทศคือประตูที่ยิงจุดโทษจากการทำแฮนด์บอลของผู้เล่นทีมชาติเกาหลีเหนือ ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 120 นาที เป็นจุดเริ่มต้นของเพรชฆาตหน้าหยก ณ.บัดนั้น
ในยุคปิยะพงษ์ เขาพาทีมชาติไทยโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจหลายนัด เช่น
นัดที่ชนะทีมชาติญี่ปุ่นในฟุตบอลปรีโอลิมปิคที่สนามประเทศสิงคโปร 5-2
นัดที่ชนะทีมชาติเกาหลีใต้ในรายการคัดเลือกเอเชี่ยนคัพรอบสุดท้าย ที่สนามศุภชลาศัย 2-1 (ทำเกาหลีใต้น้ำตาตก แพ้ไทยอดไปเอเชี่ยนคัพรอบสุดท้ายที่ญี่ปุ่น
นัดที่ชนะทีมชาติอินโด 7-0 และทีมชาติสิงคโปร 2-0 รายการซีเกมส์รอบรองและรอบชิง ครั้งที่ 13 ที่กรุงเทพ ตามลำดับ
นัดที่ชนะทีมชาติพม่า 4-3 ในรอบชิงชนะเลิศซีเกมส์ครั้งที่ 17 ที่สิงคโปร
จริง ๆ มีอีกหลายนัดแต่เด่น ๆ และอยู่ในความทรงจำมีดังที่ยกมานี้น่ะครับ
อีกอย่างปิยะพงษ์ ผมคิดว่ามาอยู่ในยุคร่วมสมัยที่ทีมชาติไทยมีฝีเท้ายอดเยี่ยมหลายคนทีเดียว เช่น
กองกลาง..วรวรรณ,เฉลิมวุฒิ,วิทยา,วิทูรย์,มาด๊าด
กองหลัง..นที,ณรงค์,ไพโรจน์,อำนาจ
ผู้รักษาประตู..สมปอง,วิลาศ ,นราศักดิ์
ผมว่าทีมไทยเราดูดีมากช่วงนั้น หากจัดการดี ๆ เรามีโอกาสไปฟุตบอลโลกเหมือนกันน่ะ
แต่ในช่วงนั้นสำหรับนักเตะ ปิยะพงษ์ ดูเหมือนกับว่าไม่สามารถเล่นกับวิทยา ได้ รายการที่น่าผิดหวังที่สุดคือ เอเชี่ยนเกมส์ปี 86 ที่เกาหลีใต้ ซึ่งเป็นช่วงที่กระแสฟุตบอลโลกที่เม็กซิโกจบลง พร้อมกับมาราโดนาและอาร์เจนตินาคว้าแชมป์ รายการเอเชี่ยนเกมส์นี้ทำให้แฟนฟุตบอลไทย สนใจติดตามมาก และทีมชาติไทยชุดนี้ก็เป็นอีกชุดที่ผู้เล่นดีที่สุดชุดหนึ่งเลยทีเดียว แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถผ่านรอบแรกไปได้
ในยุคปิยะพงษ์ ช่วงนึงเรามีโค๊ชคาร์ลอส จากบราซิลมาเป็นโค๊ชทีมชาติ แต่เส้นทางของทั้งคู่ดูขนานกัน ไม่ได้ร่วมงานกัน เมื่อปิยะพงษ์ถูกมองว่า เป็นนักเตะซุปเปอร์สตาร์แต่ไร้ซึ่งระเบียบวินัย และโค๊ชคาลอสก็ยอมเลือกทำทีมโดยไม่มีนักเตะอย่างปิยะพงษ์ในทีม
ปิยะพงษ์ มีมัวหมองเหมือนกัน ในนัดที่ทีมชาติไทยพบกับทีมชาติมาเลเซีย ในรอบรองชนะเลิศ ซีเกมส์ 14 และ 15 ที่อินโดและมาเลเซีย ตามลำดับ เมื่อต้องมาแพ้มาเลเซียด้วยสกอร์ 2-0 ทั้งสองครั้ง โดยเฉพาะครั้งที่ 15 ที่มาเลเซีย ช่วงนั้นปิยะพงษ์เล่นอยู่กับสโมสรปาหังในมาเลเซีย ปิยะพงษ์ถูกกล่าวหาว่าล้มบอลในนัดนั้น ซึ่งจากการถ่ายทอดผ่านทีวี มีผู้ตั้งข้อสังเกตุว่าปิยะพงษ์เองก็มักแสดงอาการหงุดหงิดเมื่อทำอะไรไม่ได้ดั่งใจต่อเพื่อนร่วมทีมคนอื่น ก็เลยเป็นประเด็นอยู่นาน จนสุดท้ายปิยะพงษ์ขอยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเองด้วยการไปสาบานต่อหน้าพระแก้วมรกต เรื่องจึงเบาบางลง และนี่ก็เป็นช่วงแห่งการประกาศเลิกเล่นทีมชาติครั้งแรกของปิยะพงษ์
ปิยะพงษ์ เป้นดาราเอเชีย เคยเล่นทีมดาราเอเชีย ประทะกับทีมที่นำโดยมาราโดนาร่วมทัพมาแล้ว และเป็นผู้ยิงประตูได้ด้วย อีกทั้งยังประทะกับมาราโดนา ที่มีของแถมดึงเสื้อ สร้อย เป็นที่ระลึกตามข่าวที่เค้าให้สัมภาษณ์
ปิยะพงษ์ เองได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางที่เกาหลีใต้กับทีมลัคกี้โกลด์สตาร์ และมาเลเซียกับทีมปาหัง และทหารอากาศของไทย จนทหารอากาศได้ชื่อว่า ยุคเครื่องจักรสีฟ้า เลียนแบบเครื่องจักรสีแดง ลิเวอร์พูลซะงั้น นอกจากนั้นปิยะพงษ์ยังมีโอกาสเดินสายแข่งขันในช่วงกีฬาเขต หรือกีฬาแห่งชาติ รวมกับสตาร์ฟุตบอลทีมชาติไทยคนอื่น ๆ เป็นความสุขที่คนไทยหาดูได้ในลักษณะนี้ ช่วงนั้น
การประกาศเลิกเล่นทีมชาติครั้งที่สอง เกิดจากร่างกายที่อายุเยอะขึ้น และแม้จะอายุเยอะแล้วในช่วงปลาย ไทยกับเกาหลีใต้ ดันมาอยู่กลุ่มเดียวกันเพื่อคัดบอลโลก โค๊ชเกาหลีใต้ยังกล่าวว่า กลัวปิยะพงษ์คนเดียว แม้จะวัยล่วงเลยมามากแล้วก็ตาม เป็นการการันตีว่าปิยะพงษ์เก่งแค่ไหน
ปิยะพงษ์หลังจากแขวนสตั๊ดไป ก็มีคลื่นลูกใหม่มาเปรียบเทียบเสมอ ไม่ขาดระยะ เช่น รณชัย ซิโก้ เนติพงษ์ ธีรศิลป์ อดิศักดิ์ แต่สุดท้ายก็ยังไม่สามารถมีใครที่ได้รับการยอมรับเทียบเท่าเค้าในฐานะศูนย์หน้า
โดยส่วนตัวผมคิดว่า ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน คือกองหน้าที่ดีที่สุดของไทย มีลูกไขว์ การยิงประตูที่เฉียบคม ซึ่งยังไม่มีใครมาแทนที่ได้ในปัจจุบันนี้ นี่หากว่ามียอดนักฟุตบอลในไทยลีคเราซักคนที่เกิดขึ้นมาเทียบเท่าปิยะพงษ์ ด้วยศักยภาพทีมไทยเวลานี้ ความฝันที่จะไปบอลโลกครั้งแรกน่าจะสิ้นสุดการรอคอยเสียที
เชียร์ให้ทีมไทย ไทยแลนด์สู้สู้ ครับ